*** เรื่องสั้นชุดนี้ เป็นนิยายที่ผู้เขียน สมมุติเหตุการณ์ บุคคล และสถานที่ ขึ้นมาตามจินตนาการเท่านั้น
ผู้เขียนแต่งเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลใดๆทั้งสิ้น โปรดอ่านอย่างใช้วิจารณญาณ ขอบคุณค่ะ ***
บทแรก :
http://ppantip.com/topic/34974023
สาวใหญ่หยุดเดินตรงระเบียงไม้ด้านหน้า และหันมาดุนหลังสาวิตรีให้เดินเข้าไปในห้องที่ทำพิธี หญิงสาวรู้สึกถึงอาการสั่นสะเทิ้มเบาๆ
ที่กำลังเกิดขึ้น เธอกำลังทำอะไร ? เพื่อใคร? เธอคิดถูกแล้วหรือที่พาตัวเองมา ณ ที่แห่งนี้ มือเย็นเฉียบกำขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
เธอกลัว เธอกำลังกลัว !!
วูบหนึ่งใบหน้าของใครคนหนึ่งปรากฏขึ้นในมโน ดวงตาหวานโศกดวงนั้น ส่งสายตามาที่เธออย่างฉายประกาย เหมือนจะมีกำลังใจขึ้นมา..
เธอสลัดความกลัวทิ้งไปอย่างง่ายดาย และก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปในห้องพิธี อย่างช้าๆ กลิ่นกำยานตลบอบอวล สายตากวาดไปมา
เหมือนจะบันทึกทุกๆอย่างไว้ในความทรงจำ
โต๊ะหมู่บูชาเก้าชั้น ชุดใหญ่ ตั้งอยู่กลางห้อง มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นประธาน ลำดับขั้นลงมา ก็เป็นเศียรพ่อแก่ กุมารทอง
รูปปั้นพญานาค พญาครุฑ และรูปปั้นเทพที่เธอ ไม่รู้จัก วางเรียงลงมาอีกสองสมองค์ ดอกไม้พวงมาลัย หมากพูลลูกประคำมีครบถ้วน
ตามแบบฉบับของพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ของคนเล่นของทั้งหลาย สาวิตรีมองหัวกะโหลกเหลืองหม่นแตกลายงาที่มีเทียนปักอยู่ด้านบน
อย่างไม่วางตา น้ำตาเทียนไหลย้อยลงมาเหมือนลาวาของภูเขาไฟ ทุกสิ่งที่นี่ เรียกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อยๆได้เลย
บนพื้นเรือนชายหนุ่มวัยกลางคนไม่อ้วนไม่ผอม นุ่งขาวห่มขาว ผมมวยยาว หน้าผากแต้มจุดแดง นั่งเคี้ยวหมากหยับหยับ
มองหน้าหล่อนอย่างพิเคราะห์ รอยสักพาดเลื้อยไหลตามแขนของพ่อหมอไปทั่วทั้งสองแขน มันลามไปถึงนิ้วมือทุกๆมือ
ทั่วทั้งคอมีแต่อักขระเป็นภาษาขอมเต็มจนไม่เห็นที่ว่างของผิวหนัง นี่ยังดีที่บนใบหน้ายังเปลือยเปล่าบ้าง ไม่งั้นเธอคงหลอนไปกว่านี้
พื้นไม้ที่ยกระดับเฉพาะที่นั่ง ปูด้วยพรมลายเสือ ที่มีหัวเสือนอนนิ่งเหมือนบริวารผู้อารักขา ทำให้พ่อหมอดูมีสง่าน่าเกรงขามมากขึ้น
อ่างน้ำมนต์ข้างหน้า ดูเหมือนจะทำให้ความศรัทธาเพิ่มพูนขึ้นอย่างง่ายดาย
สาวิตรียืนเก้ๆกังๆ เหมือนทำอะไรไม่ถูก ฉับพลัน เสียงสำทับของชายบนเรือนก็ดังขึ้น
” นั่งลงกราบพ่อหมอซะสิคุณ ยืนนิ่งอยู่ได้ คุณยุ ไม่ได้บอก เธอเหรอ ว่าเจอพอหมอแล้วต้องทำยังไง”
สาวใหญ่ร่างอวบ รีบดึงให้สาวิตรีนั่งลง พร้อมกับกระซิบกระซาบให้หล่อนเข้าใจ
“ ไหว้ท่านสิคะ เรามาขอให้ท่านช่วย เราต้องกราบท่านก่อนค่ะ น้องสา เดี๋ยวท่านถามอะไร เราก็ตอบตามความเป็นจริง “
หล่อนใช้มือสะกิดข้อศอกหญิงสาวเบาๆ หญิงสาวจึงนั่งลงและทำตามอย่างเร็วรี่
“ ไหว้พระเถอะ แม่คุณ เจริญๆนะ “ อาจารย์ ส่งเสียงรับไหว้ให้แก่หล่อน และหันไปถาม สาวใหญ่อย่างคนคุ้นเคย
“
เป็นไงล่ะคุณยุ หายไปนานเลยนะ พ่อคิดว่าคุณยุจะลืมตำหนักนี้ซะแล้ว เป็นไงสบายดีมั๊ย “
หมอทำเสน่ห์ ทักทายลูกศิษย์เก่าอย่างคุ้นเคย ปากที่แดงไปด้วยน้ำหมากถูกซับด้วยปลายผ้าเช็ดหน้าเบาๆ
“ สบายดีเจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ แต่พอดีวันนี้พาน้องสาวมาน่ะค่ะ “เธอกำลังร้อนใจ” หญิงอวบตอบออกไป
หมอทำเสน่ห์หันมาเอ่ยกับหญิงสาว
“
มีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจมาหรือ ถึงได้มาหาอาจารย์ถึงที่นี่ ดูจากสีหน้าแววตาแล้ว หนูท่าทางจะทุกข์มากเลยนะ
เดี๋ยวอาจารย์จะนั่งทางในดูว่า หนูทุกข์ร้อนเรื่องอะไร และอาจารย์จะช่วยทางไหนได้บ้าง “
พูดจบ ก็หลับตานั่งประสานมือและบริกรรมคาถาขมุบขมิบ สาวิตรีนั่งมองอริยบทนี้อย่างไม่วางตา
สักครู่ใหญ่ๆ ก็ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ กระโถนถูกส่งมาให้บ้วนน้ำหมากลงไป แล้วพ่อหมอก็ทำนายตามฌาน ที่ได้เข้าเมื่อสักครู่
“ หนูกำลังกลุ้มใจเรื่องแฟนใช่มั๊ย แฟนหนูกำลังไปมีผู้หญิงคนใหม่ และกำลังจะทิ้งหนูไป “
สาวิตรีตะลึงเงียบกับคำทักทายที่หมอทำเสน่ห์พูดออกมา หล่อนกำลังคิด นี่คือคำทำนายที่เป็นธรรมเนียมหรือป่าว?
ก่อนที่เธอจะตอบอะไรเสียงสอดของพียุ ก็ทะลุขึ้นกลางปล้อง
” โหย ท่านอาจารย์ตาทิพย์เหลือเกินค่ะ เห็นมั๊ยน้องสา พี่บอกแล้วว่าท่านเก่งจริงๆ แบบนี้น้องสาต้องให้อาจารย์ช่วย
แล้วล่ะค่ะ อาจารย์สมภพ ท่านเก่งจริงๆ ท่านช่วยได้แน่ “ ยุวดี ออกหน้ารับประกันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู
หญิงสาวกำลังลังเลว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี แต่ดูเหมือน เจ้าอาศรมจะมองทะลุไปถึงก้นบึ้งของจิตใจ
แน่หล่ะ คนที่มาหาหมอทำเสน่ห์ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องทำเสน่ห์แน่นอน ของแบบนี้เหมือนผีมาถึงโลงแล้ว ที่เหลือก็แค่ตอกฝาโลงอย่างเดียว
"หนูต้องอาบน้ำมนต์ ต้องลงนะ ทั้งตัว ต้องให้อาจารย์ทำพิธีเรียกขวัญของสามีกลับมา สามีหนูตอนนี้หลงผู้หญิงคนนั้นมาก
ขืนช้าหรือปล่อยไว้นานกว่านี้ หนูจะต้องเสียสามีหนูไปแน่ อีกอย่างทางโน้นก็น่าจะทำเสน่ห์ ให้กับสามีหนูนั่นแหล่ะ"
!!! เสน่ห์ เสน่ห์อีกแล้ว นี่ทางออกของผู้หญิงที่ถูกทิ้ง ต้องทำเสน่ห์อย่างเดียวหรือ ? ความรุ่มร้อนระอุพุ่งพล่านอยู่ในใจของสาวิตรี
จนรู้สึกอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ แต่หล่อนกลับเฉยอย่างประหลาด และ ความคิดที่ตั้งใจแต่แรกก็ถูกถ่ายเทออกมา
“ แล้วหนูต้องทำยังคะ อาจารย์ หนูเองก็กลุ้มใจเป็นที่สุด ไม่รู้จะหาทางออกยังไงแล้ว”
น้ำตาไหลหยดลงมาเป็นทาง .... เหมือนปลาฮุบเหยื่อ ......
หมอทำเสน่ห์ มีหรือจะปล่อยโอกาสนี้ไป เพียงแต่ทุกอย่างต้องใช้ แรงขับเคลื่อนของความต้องการ และ แรงสนับสนุน
ในเมื่อมีความต้องการ การตอบสนองย่อมเป็นทางออก
หมอสมภพหันไปมอง หน้าผู้ช่วยพร้อมพยักหน้าเป็นเชิง ส่งต่อ ชายผู้ช่วย ถือกระดาษ ที่มีรายละเอียดอยู่ด้านในให้หล่อน
พร้อมกับพพูดว่า
“ หากคุณต้องการให้ พ่อหมอช่วย ก็ต้องเตรียมการมาดังนี้ครับ “
หญิงสาวรับกระดาษมา สายตากรอกลงไปอ่านข้อความทันที
สิ่งที่ต้องทำ ....1 ต้องมาอาบน้ำมนต์ 7 วัน พร้อมของใช้ ของสามี 1 ชิ้น เพื่อมาทำพิธีเรียกขวัญ
เวลาที่อาบ ต้องเป็นตะวันตกดิน
2 เมื่ออาบน้ำมนต์ครบ 7 วัน ต้องมาลงนะ ทั้งตัว เพื่อให้สามีรักและหลง พิธีนี้ก็ต้องทำหลังตะวันตกดินเหมือนกัน
3 ค่าใช้จ่าย คือเงินสด 30000- 50000 ต่อครั้งในการทำพิธี
..............
หล่อนพับกระดาษลงและเมื่อเงยหน้ามอง ก็เห็นหน้าคนทำพิธี จ้องมาอย่างตาไม่กระพริบ ความรู้สึกพลุ่งพล่านเริ่มปะทุอีกครั้ง
แล้วเสียงของคนพามาก็ดังขึ้น
“ ก็ทำแค่นี้แหล่ะค่ะคุณน้อง ใครๆก็ทำแบบนี้ทั้งนั้นนะ ได้ผลมาก็หลายรายสามี กลับมาทันทีเลยค่ะ “
สาวิตรีหันขวับกลับมายังต้นเสียง หล่อนอยากจะทำในสิ่งที่หล่อนเก็บไว้ในใจมานานเหลือเกิน
ใช่ ! เราต้องทำได้ เราต้องทำ เพื่อความรักที่มีต่อกันเพื่อคนๆหนึ่งที่จากไป จะได้รับรู้และเป็นสุข โอกาสมาถึงแล้ว
อุตส่าห์ดั้นด้นมาถึงที่นี่ จะถอยหลังไม่ได้แล้ว !!!
" งั้นตกลงค่ะ อาจารย์นัดวันเวลา มาได้เลย "
สิ้นเสียงของลูกค้า...หมอทำเสน่ห์ จึงหันไปพูดกับ ผู้ช่วย
" เดี๋ยวนัดเป็นอาทิตย์หน้าเลยนะ สุพจน วันอังคารก็ได้ " หนูคนนี้จะได้สามีคืนเร็วๆ
ยุวดีระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งอกที่ทุกอย่างเรียบร้อย.......
..............โปรดติดตามตอนต่อไป...........
คุยกันสักติดส์...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สวัสดีเพื่อนนักอ่านทุกท่านค่ะ มาตามสัญญา สำหรับเรื่องสั้น " เหยื่อ "
ก่อนอื่นสารภาพก่อนเลย ว่าการเขียนเรื่องสั้น ที่คิดไปเขียนไปนี่ยากฝุดๆ เพราะถ้าหากเขียนให้จบ ใน word น่าจะง่ายกว่า
ในการตรวจทาน และแก้ไข แต่เพราะเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ผู้เขียนเลยต้องใช้วิธีคิดไปเขียนไป ดังนั้น หากเนื้อเรื่องจะเวิ่นเว้อ
หรือลากยาวไปติดส์ ก็คงต้องขออภัยมาณ ที่นี้ด้วยค่ะ เพราะเรื่องสั้นที่ดีควรจะตีกรอบให้สั้นๆในตอน ซึ่งสำหรับตัวเองยากมาก
และ ด้วยความไม่ต่อเนื่องในการเขียนและ ความคิดแบบอยากสื่อออกมาให้ละเอียด เรื่องสั้นเรื่องนี้ ก็จะกลายเป็นนิยายไปซะ
ตอนนี้ถึงรู้เลยว่า คนเขียนเรื่องสั้นเก่งๆระดับเทพ นี่ ต้องฟันฝ่าอะไรเยอะ และทำให้ผู้เขียนรู้สึกทึ่งละนับถือนักเขียนอย่างมาก
เพราะนอกจากเวลาแล้ว ใจรักก็เป็นอีกแรงบันดาลใจให้เขียนงานออกมา ขอแสดงความคารวะนักเขียนทุกท่านเลยค่ะ
เช่นเคย ขอขอบคุณเพื่อนนักอ่าน ทุกท่านที่ทั้งปรากฎอักษร และไม่ปรากฎอักษร
ขอบคุณ เพื่อนๆพี่ๆ มิตรสหายที่เป็นทั้งแรงใจและกำลังใจตลอดมา
ขอบคุณโอกาสและความคิด และคำสัญญา ที่ทำให้ต้องลุกขึ้นมาเขียนให้จบ
ขอบคุณทุกคำชี้แนะ ติติง ผู้เขียนยินดีน้อมรับจากใจจริงค่ะ ...
เรื่องสั้น : เหยื่อ ( บทสอง )
*** เรื่องสั้นชุดนี้ เป็นนิยายที่ผู้เขียน สมมุติเหตุการณ์ บุคคล และสถานที่ ขึ้นมาตามจินตนาการเท่านั้น
ผู้เขียนแต่งเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลใดๆทั้งสิ้น โปรดอ่านอย่างใช้วิจารณญาณ ขอบคุณค่ะ ***
บทแรก : http://ppantip.com/topic/34974023
สาวใหญ่หยุดเดินตรงระเบียงไม้ด้านหน้า และหันมาดุนหลังสาวิตรีให้เดินเข้าไปในห้องที่ทำพิธี หญิงสาวรู้สึกถึงอาการสั่นสะเทิ้มเบาๆ
ที่กำลังเกิดขึ้น เธอกำลังทำอะไร ? เพื่อใคร? เธอคิดถูกแล้วหรือที่พาตัวเองมา ณ ที่แห่งนี้ มือเย็นเฉียบกำขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
เธอกลัว เธอกำลังกลัว !!
วูบหนึ่งใบหน้าของใครคนหนึ่งปรากฏขึ้นในมโน ดวงตาหวานโศกดวงนั้น ส่งสายตามาที่เธออย่างฉายประกาย เหมือนจะมีกำลังใจขึ้นมา..
เธอสลัดความกลัวทิ้งไปอย่างง่ายดาย และก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปในห้องพิธี อย่างช้าๆ กลิ่นกำยานตลบอบอวล สายตากวาดไปมา
เหมือนจะบันทึกทุกๆอย่างไว้ในความทรงจำ
โต๊ะหมู่บูชาเก้าชั้น ชุดใหญ่ ตั้งอยู่กลางห้อง มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นประธาน ลำดับขั้นลงมา ก็เป็นเศียรพ่อแก่ กุมารทอง
รูปปั้นพญานาค พญาครุฑ และรูปปั้นเทพที่เธอ ไม่รู้จัก วางเรียงลงมาอีกสองสมองค์ ดอกไม้พวงมาลัย หมากพูลลูกประคำมีครบถ้วน
ตามแบบฉบับของพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ของคนเล่นของทั้งหลาย สาวิตรีมองหัวกะโหลกเหลืองหม่นแตกลายงาที่มีเทียนปักอยู่ด้านบน
อย่างไม่วางตา น้ำตาเทียนไหลย้อยลงมาเหมือนลาวาของภูเขาไฟ ทุกสิ่งที่นี่ เรียกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อยๆได้เลย
บนพื้นเรือนชายหนุ่มวัยกลางคนไม่อ้วนไม่ผอม นุ่งขาวห่มขาว ผมมวยยาว หน้าผากแต้มจุดแดง นั่งเคี้ยวหมากหยับหยับ
มองหน้าหล่อนอย่างพิเคราะห์ รอยสักพาดเลื้อยไหลตามแขนของพ่อหมอไปทั่วทั้งสองแขน มันลามไปถึงนิ้วมือทุกๆมือ
ทั่วทั้งคอมีแต่อักขระเป็นภาษาขอมเต็มจนไม่เห็นที่ว่างของผิวหนัง นี่ยังดีที่บนใบหน้ายังเปลือยเปล่าบ้าง ไม่งั้นเธอคงหลอนไปกว่านี้
พื้นไม้ที่ยกระดับเฉพาะที่นั่ง ปูด้วยพรมลายเสือ ที่มีหัวเสือนอนนิ่งเหมือนบริวารผู้อารักขา ทำให้พ่อหมอดูมีสง่าน่าเกรงขามมากขึ้น
อ่างน้ำมนต์ข้างหน้า ดูเหมือนจะทำให้ความศรัทธาเพิ่มพูนขึ้นอย่างง่ายดาย
สาวิตรียืนเก้ๆกังๆ เหมือนทำอะไรไม่ถูก ฉับพลัน เสียงสำทับของชายบนเรือนก็ดังขึ้น
” นั่งลงกราบพ่อหมอซะสิคุณ ยืนนิ่งอยู่ได้ คุณยุ ไม่ได้บอก เธอเหรอ ว่าเจอพอหมอแล้วต้องทำยังไง”
สาวใหญ่ร่างอวบ รีบดึงให้สาวิตรีนั่งลง พร้อมกับกระซิบกระซาบให้หล่อนเข้าใจ
“ ไหว้ท่านสิคะ เรามาขอให้ท่านช่วย เราต้องกราบท่านก่อนค่ะ น้องสา เดี๋ยวท่านถามอะไร เราก็ตอบตามความเป็นจริง “
หล่อนใช้มือสะกิดข้อศอกหญิงสาวเบาๆ หญิงสาวจึงนั่งลงและทำตามอย่างเร็วรี่
“ ไหว้พระเถอะ แม่คุณ เจริญๆนะ “ อาจารย์ ส่งเสียงรับไหว้ให้แก่หล่อน และหันไปถาม สาวใหญ่อย่างคนคุ้นเคย
“ เป็นไงล่ะคุณยุ หายไปนานเลยนะ พ่อคิดว่าคุณยุจะลืมตำหนักนี้ซะแล้ว เป็นไงสบายดีมั๊ย “
หมอทำเสน่ห์ ทักทายลูกศิษย์เก่าอย่างคุ้นเคย ปากที่แดงไปด้วยน้ำหมากถูกซับด้วยปลายผ้าเช็ดหน้าเบาๆ
“ สบายดีเจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ แต่พอดีวันนี้พาน้องสาวมาน่ะค่ะ “เธอกำลังร้อนใจ” หญิงอวบตอบออกไป
หมอทำเสน่ห์หันมาเอ่ยกับหญิงสาว
“ มีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจมาหรือ ถึงได้มาหาอาจารย์ถึงที่นี่ ดูจากสีหน้าแววตาแล้ว หนูท่าทางจะทุกข์มากเลยนะ
เดี๋ยวอาจารย์จะนั่งทางในดูว่า หนูทุกข์ร้อนเรื่องอะไร และอาจารย์จะช่วยทางไหนได้บ้าง “
พูดจบ ก็หลับตานั่งประสานมือและบริกรรมคาถาขมุบขมิบ สาวิตรีนั่งมองอริยบทนี้อย่างไม่วางตา
สักครู่ใหญ่ๆ ก็ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ กระโถนถูกส่งมาให้บ้วนน้ำหมากลงไป แล้วพ่อหมอก็ทำนายตามฌาน ที่ได้เข้าเมื่อสักครู่
“ หนูกำลังกลุ้มใจเรื่องแฟนใช่มั๊ย แฟนหนูกำลังไปมีผู้หญิงคนใหม่ และกำลังจะทิ้งหนูไป “
สาวิตรีตะลึงเงียบกับคำทักทายที่หมอทำเสน่ห์พูดออกมา หล่อนกำลังคิด นี่คือคำทำนายที่เป็นธรรมเนียมหรือป่าว?
ก่อนที่เธอจะตอบอะไรเสียงสอดของพียุ ก็ทะลุขึ้นกลางปล้อง
” โหย ท่านอาจารย์ตาทิพย์เหลือเกินค่ะ เห็นมั๊ยน้องสา พี่บอกแล้วว่าท่านเก่งจริงๆ แบบนี้น้องสาต้องให้อาจารย์ช่วย
แล้วล่ะค่ะ อาจารย์สมภพ ท่านเก่งจริงๆ ท่านช่วยได้แน่ “ ยุวดี ออกหน้ารับประกันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู
หญิงสาวกำลังลังเลว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี แต่ดูเหมือน เจ้าอาศรมจะมองทะลุไปถึงก้นบึ้งของจิตใจ
แน่หล่ะ คนที่มาหาหมอทำเสน่ห์ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องทำเสน่ห์แน่นอน ของแบบนี้เหมือนผีมาถึงโลงแล้ว ที่เหลือก็แค่ตอกฝาโลงอย่างเดียว
"หนูต้องอาบน้ำมนต์ ต้องลงนะ ทั้งตัว ต้องให้อาจารย์ทำพิธีเรียกขวัญของสามีกลับมา สามีหนูตอนนี้หลงผู้หญิงคนนั้นมาก
ขืนช้าหรือปล่อยไว้นานกว่านี้ หนูจะต้องเสียสามีหนูไปแน่ อีกอย่างทางโน้นก็น่าจะทำเสน่ห์ ให้กับสามีหนูนั่นแหล่ะ"
!!! เสน่ห์ เสน่ห์อีกแล้ว นี่ทางออกของผู้หญิงที่ถูกทิ้ง ต้องทำเสน่ห์อย่างเดียวหรือ ? ความรุ่มร้อนระอุพุ่งพล่านอยู่ในใจของสาวิตรี
จนรู้สึกอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ แต่หล่อนกลับเฉยอย่างประหลาด และ ความคิดที่ตั้งใจแต่แรกก็ถูกถ่ายเทออกมา
“ แล้วหนูต้องทำยังคะ อาจารย์ หนูเองก็กลุ้มใจเป็นที่สุด ไม่รู้จะหาทางออกยังไงแล้ว”
น้ำตาไหลหยดลงมาเป็นทาง .... เหมือนปลาฮุบเหยื่อ ......
หมอทำเสน่ห์ มีหรือจะปล่อยโอกาสนี้ไป เพียงแต่ทุกอย่างต้องใช้ แรงขับเคลื่อนของความต้องการ และ แรงสนับสนุน
ในเมื่อมีความต้องการ การตอบสนองย่อมเป็นทางออก
หมอสมภพหันไปมอง หน้าผู้ช่วยพร้อมพยักหน้าเป็นเชิง ส่งต่อ ชายผู้ช่วย ถือกระดาษ ที่มีรายละเอียดอยู่ด้านในให้หล่อน
พร้อมกับพพูดว่า “ หากคุณต้องการให้ พ่อหมอช่วย ก็ต้องเตรียมการมาดังนี้ครับ “
หญิงสาวรับกระดาษมา สายตากรอกลงไปอ่านข้อความทันที
สิ่งที่ต้องทำ ....1 ต้องมาอาบน้ำมนต์ 7 วัน พร้อมของใช้ ของสามี 1 ชิ้น เพื่อมาทำพิธีเรียกขวัญ
เวลาที่อาบ ต้องเป็นตะวันตกดิน
2 เมื่ออาบน้ำมนต์ครบ 7 วัน ต้องมาลงนะ ทั้งตัว เพื่อให้สามีรักและหลง พิธีนี้ก็ต้องทำหลังตะวันตกดินเหมือนกัน
3 ค่าใช้จ่าย คือเงินสด 30000- 50000 ต่อครั้งในการทำพิธี
..............
หล่อนพับกระดาษลงและเมื่อเงยหน้ามอง ก็เห็นหน้าคนทำพิธี จ้องมาอย่างตาไม่กระพริบ ความรู้สึกพลุ่งพล่านเริ่มปะทุอีกครั้ง
แล้วเสียงของคนพามาก็ดังขึ้น
“ ก็ทำแค่นี้แหล่ะค่ะคุณน้อง ใครๆก็ทำแบบนี้ทั้งนั้นนะ ได้ผลมาก็หลายรายสามี กลับมาทันทีเลยค่ะ “
สาวิตรีหันขวับกลับมายังต้นเสียง หล่อนอยากจะทำในสิ่งที่หล่อนเก็บไว้ในใจมานานเหลือเกิน
ใช่ ! เราต้องทำได้ เราต้องทำ เพื่อความรักที่มีต่อกันเพื่อคนๆหนึ่งที่จากไป จะได้รับรู้และเป็นสุข โอกาสมาถึงแล้ว
อุตส่าห์ดั้นด้นมาถึงที่นี่ จะถอยหลังไม่ได้แล้ว !!!
" งั้นตกลงค่ะ อาจารย์นัดวันเวลา มาได้เลย "
สิ้นเสียงของลูกค้า...หมอทำเสน่ห์ จึงหันไปพูดกับ ผู้ช่วย
" เดี๋ยวนัดเป็นอาทิตย์หน้าเลยนะ สุพจน วันอังคารก็ได้ " หนูคนนี้จะได้สามีคืนเร็วๆ
ยุวดีระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งอกที่ทุกอย่างเรียบร้อย.......
คุยกันสักติดส์...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้