เรื่องสั้น : เหยื่อ ( บทสอง )

กระทู้สนทนา



*** เรื่องสั้นชุดนี้ เป็นนิยายที่ผู้เขียน สมมุติเหตุการณ์ บุคคล และสถานที่ ขึ้นมาตามจินตนาการเท่านั้น
ผู้เขียนแต่งเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลใดๆทั้งสิ้น โปรดอ่านอย่างใช้วิจารณญาณ ขอบคุณค่ะ ***




บทแรก :  http://ppantip.com/topic/34974023

สาวใหญ่หยุดเดินตรงระเบียงไม้ด้านหน้า และหันมาดุนหลังสาวิตรีให้เดินเข้าไปในห้องที่ทำพิธี หญิงสาวรู้สึกถึงอาการสั่นสะเทิ้มเบาๆ
ที่กำลังเกิดขึ้น เธอกำลังทำอะไร ? เพื่อใคร?  เธอคิดถูกแล้วหรือที่พาตัวเองมา  ณ ที่แห่งนี้ มือเย็นเฉียบกำขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

       เธอกลัว เธอกำลังกลัว !!

วูบหนึ่งใบหน้าของใครคนหนึ่งปรากฏขึ้นในมโน ดวงตาหวานโศกดวงนั้น ส่งสายตามาที่เธออย่างฉายประกาย เหมือนจะมีกำลังใจขึ้นมา..
เธอสลัดความกลัวทิ้งไปอย่างง่ายดาย  และก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปในห้องพิธี อย่างช้าๆ กลิ่นกำยานตลบอบอวล สายตากวาดไปมา
เหมือนจะบันทึกทุกๆอย่างไว้ในความทรงจำ


โต๊ะหมู่บูชาเก้าชั้น ชุดใหญ่  ตั้งอยู่กลางห้อง มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นประธาน ลำดับขั้นลงมา ก็เป็นเศียรพ่อแก่ กุมารทอง
รูปปั้นพญานาค  พญาครุฑ และรูปปั้นเทพที่เธอ ไม่รู้จัก วางเรียงลงมาอีกสองสมองค์ ดอกไม้พวงมาลัย หมากพูลลูกประคำมีครบถ้วน
ตามแบบฉบับของพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ของคนเล่นของทั้งหลาย สาวิตรีมองหัวกะโหลกเหลืองหม่นแตกลายงาที่มีเทียนปักอยู่ด้านบน
อย่างไม่วางตา   น้ำตาเทียนไหลย้อยลงมาเหมือนลาวาของภูเขาไฟ ทุกสิ่งที่นี่  เรียกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อยๆได้เลย


บนพื้นเรือนชายหนุ่มวัยกลางคนไม่อ้วนไม่ผอม นุ่งขาวห่มขาว ผมมวยยาว หน้าผากแต้มจุดแดง นั่งเคี้ยวหมากหยับหยับ
มองหน้าหล่อนอย่างพิเคราะห์ รอยสักพาดเลื้อยไหลตามแขนของพ่อหมอไปทั่วทั้งสองแขน มันลามไปถึงนิ้วมือทุกๆมือ
ทั่วทั้งคอมีแต่อักขระเป็นภาษาขอมเต็มจนไม่เห็นที่ว่างของผิวหนัง นี่ยังดีที่บนใบหน้ายังเปลือยเปล่าบ้าง ไม่งั้นเธอคงหลอนไปกว่านี้


พื้นไม้ที่ยกระดับเฉพาะที่นั่ง ปูด้วยพรมลายเสือ ที่มีหัวเสือนอนนิ่งเหมือนบริวารผู้อารักขา   ทำให้พ่อหมอดูมีสง่าน่าเกรงขามมากขึ้น
อ่างน้ำมนต์ข้างหน้า ดูเหมือนจะทำให้ความศรัทธาเพิ่มพูนขึ้นอย่างง่ายดาย


สาวิตรียืนเก้ๆกังๆ เหมือนทำอะไรไม่ถูก ฉับพลัน เสียงสำทับของชายบนเรือนก็ดังขึ้น

”  นั่งลงกราบพ่อหมอซะสิคุณ ยืนนิ่งอยู่ได้ คุณยุ ไม่ได้บอก เธอเหรอ ว่าเจอพอหมอแล้วต้องทำยังไง”


สาวใหญ่ร่างอวบ รีบดึงให้สาวิตรีนั่งลง พร้อมกับกระซิบกระซาบให้หล่อนเข้าใจ

“ ไหว้ท่านสิคะ เรามาขอให้ท่านช่วย เราต้องกราบท่านก่อนค่ะ น้องสา เดี๋ยวท่านถามอะไร เราก็ตอบตามความเป็นจริง “

หล่อนใช้มือสะกิดข้อศอกหญิงสาวเบาๆ หญิงสาวจึงนั่งลงและทำตามอย่างเร็วรี่

“ ไหว้พระเถอะ แม่คุณ เจริญๆนะ “ อาจารย์ ส่งเสียงรับไหว้ให้แก่หล่อน และหันไปถาม สาวใหญ่อย่างคนคุ้นเคย

เป็นไงล่ะคุณยุ หายไปนานเลยนะ พ่อคิดว่าคุณยุจะลืมตำหนักนี้ซะแล้ว เป็นไงสบายดีมั๊ย “  

หมอทำเสน่ห์  ทักทายลูกศิษย์เก่าอย่างคุ้นเคย ปากที่แดงไปด้วยน้ำหมากถูกซับด้วยปลายผ้าเช็ดหน้าเบาๆ

“ สบายดีเจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ แต่พอดีวันนี้พาน้องสาวมาน่ะค่ะ  “เธอกำลังร้อนใจ” หญิงอวบตอบออกไป

  หมอทำเสน่ห์หันมาเอ่ยกับหญิงสาว

มีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจมาหรือ ถึงได้มาหาอาจารย์ถึงที่นี่  ดูจากสีหน้าแววตาแล้ว หนูท่าทางจะทุกข์มากเลยนะ
เดี๋ยวอาจารย์จะนั่งทางในดูว่า หนูทุกข์ร้อนเรื่องอะไร และอาจารย์จะช่วยทางไหนได้บ้าง “


พูดจบ ก็หลับตานั่งประสานมือและบริกรรมคาถาขมุบขมิบ  สาวิตรีนั่งมองอริยบทนี้อย่างไม่วางตา


สักครู่ใหญ่ๆ ก็ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ กระโถนถูกส่งมาให้บ้วนน้ำหมากลงไป แล้วพ่อหมอก็ทำนายตามฌาน ที่ได้เข้าเมื่อสักครู่

  “ หนูกำลังกลุ้มใจเรื่องแฟนใช่มั๊ย แฟนหนูกำลังไปมีผู้หญิงคนใหม่ และกำลังจะทิ้งหนูไป “

สาวิตรีตะลึงเงียบกับคำทักทายที่หมอทำเสน่ห์พูดออกมา หล่อนกำลังคิด นี่คือคำทำนายที่เป็นธรรมเนียมหรือป่าว?
ก่อนที่เธอจะตอบอะไรเสียงสอดของพียุ ก็ทะลุขึ้นกลางปล้อง

”  โหย ท่านอาจารย์ตาทิพย์เหลือเกินค่ะ เห็นมั๊ยน้องสา พี่บอกแล้วว่าท่านเก่งจริงๆ  แบบนี้น้องสาต้องให้อาจารย์ช่วย
แล้วล่ะค่ะ อาจารย์สมภพ ท่านเก่งจริงๆ ท่านช่วยได้แน่ “
ยุวดี ออกหน้ารับประกันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

หญิงสาวกำลังลังเลว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี แต่ดูเหมือน เจ้าอาศรมจะมองทะลุไปถึงก้นบึ้งของจิตใจ

แน่หล่ะ คนที่มาหาหมอทำเสน่ห์ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องทำเสน่ห์แน่นอน ของแบบนี้เหมือนผีมาถึงโลงแล้ว ที่เหลือก็แค่ตอกฝาโลงอย่างเดียว

"หนูต้องอาบน้ำมนต์ ต้องลงนะ ทั้งตัว  ต้องให้อาจารย์ทำพิธีเรียกขวัญของสามีกลับมา สามีหนูตอนนี้หลงผู้หญิงคนนั้นมาก
ขืนช้าหรือปล่อยไว้นานกว่านี้ หนูจะต้องเสียสามีหนูไปแน่ อีกอย่างทางโน้นก็น่าจะทำเสน่ห์ ให้กับสามีหนูนั่นแหล่ะ"


!!! เสน่ห์ เสน่ห์อีกแล้ว นี่ทางออกของผู้หญิงที่ถูกทิ้ง ต้องทำเสน่ห์อย่างเดียวหรือ ?  ความรุ่มร้อนระอุพุ่งพล่านอยู่ในใจของสาวิตรี
จนรู้สึกอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ  แต่หล่อนกลับเฉยอย่างประหลาด และ ความคิดที่ตั้งใจแต่แรกก็ถูกถ่ายเทออกมา

“ แล้วหนูต้องทำยังคะ อาจารย์  หนูเองก็กลุ้มใจเป็นที่สุด ไม่รู้จะหาทางออกยังไงแล้ว”

น้ำตาไหลหยดลงมาเป็นทาง ....  เหมือนปลาฮุบเหยื่อ ......

หมอทำเสน่ห์ มีหรือจะปล่อยโอกาสนี้ไป เพียงแต่ทุกอย่างต้องใช้ แรงขับเคลื่อนของความต้องการ และ แรงสนับสนุน
ในเมื่อมีความต้องการ การตอบสนองย่อมเป็นทางออก

หมอสมภพหันไปมอง หน้าผู้ช่วยพร้อมพยักหน้าเป็นเชิง ส่งต่อ ชายผู้ช่วย ถือกระดาษ ที่มีรายละเอียดอยู่ด้านในให้หล่อน
พร้อมกับพพูดว่า “ หากคุณต้องการให้ พ่อหมอช่วย ก็ต้องเตรียมการมาดังนี้ครับ “

หญิงสาวรับกระดาษมา สายตากรอกลงไปอ่านข้อความทันที


สิ่งที่ต้องทำ ....1 ต้องมาอาบน้ำมนต์ 7 วัน พร้อมของใช้ ของสามี 1 ชิ้น เพื่อมาทำพิธีเรียกขวัญ
เวลาที่อาบ ต้องเป็นตะวันตกดิน

2  เมื่ออาบน้ำมนต์ครบ 7 วัน ต้องมาลงนะ ทั้งตัว เพื่อให้สามีรักและหลง พิธีนี้ก็ต้องทำหลังตะวันตกดินเหมือนกัน


3 ค่าใช้จ่าย คือเงินสด 30000- 50000 ต่อครั้งในการทำพิธี

..............

หล่อนพับกระดาษลงและเมื่อเงยหน้ามอง ก็เห็นหน้าคนทำพิธี จ้องมาอย่างตาไม่กระพริบ ความรู้สึกพลุ่งพล่านเริ่มปะทุอีกครั้ง
แล้วเสียงของคนพามาก็ดังขึ้น

“ ก็ทำแค่นี้แหล่ะค่ะคุณน้อง ใครๆก็ทำแบบนี้ทั้งนั้นนะ ได้ผลมาก็หลายรายสามี กลับมาทันทีเลยค่ะ “

สาวิตรีหันขวับกลับมายังต้นเสียง หล่อนอยากจะทำในสิ่งที่หล่อนเก็บไว้ในใจมานานเหลือเกิน

ใช่ ! เราต้องทำได้ เราต้องทำ เพื่อความรักที่มีต่อกันเพื่อคนๆหนึ่งที่จากไป จะได้รับรู้และเป็นสุข โอกาสมาถึงแล้ว
อุตส่าห์ดั้นด้นมาถึงที่นี่ จะถอยหลังไม่ได้แล้ว !!!


" งั้นตกลงค่ะ  อาจารย์นัดวันเวลา มาได้เลย "


สิ้นเสียงของลูกค้า...หมอทำเสน่ห์ จึงหันไปพูดกับ ผู้ช่วย

"  เดี๋ยวนัดเป็นอาทิตย์หน้าเลยนะ สุพจน วันอังคารก็ได้ " หนูคนนี้จะได้สามีคืนเร็วๆ


ยุวดีระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งอกที่ทุกอย่างเรียบร้อย.......


..............โปรดติดตามตอนต่อไป...........




คุยกันสักติดส์...

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่