จากประสบการณ์ ตรง เมื่อ  23 / 3 / 2559 (2016)

จากเหตุการณ์ที่ส่งลูกสาวไป WAT ที่อเมริกา ระหว่างที่ค้นกระทู้ดูตั๋วเครื่องบินเล่นๆ
26,000 ไปกลับ เชียงใหม่-เมกา (ไม่ต้องไปกทม) เริ่ด..ถูกกว่าโทรศัพท์เครื่องหนึ่งอีก
ไม่รู้เค้าจะให้ลาอะป่าว แต่จะไป.. กดจอง จ่ายเรียบร้อย... (เสร่อเห่อ)
แล้วก็มานั่งอ่านกระทู้ พันทิพย์ (อ้าวโง่ นิซื้อแพง) ??? แต่จ่ายผ่านบัตรเครดิตไปแล้วช่างมัน
(ขอวีซ่าโคดยาก)... อ้าว อ้าว. อ้าว...ปัญหาเกิด
ยิ่งอ่าน กระทู้ สารพัดปัญหายิ่งหลอนนน สุด แต่ก็ พยายามเตรียมตัวตามที่น้องๆ มาเล่าให้ฟัง
ขอบคุณเจ้าของกระทู้ในพันทิพ มากมาย (เพราะอ่านเยอะมาก)

มาถึงเรื่องของตัวเอง..   ลูกสาวโทรมา สัมภาษณ์ เด็กเวิร์ค 23 บ่ายนะแม่..เอาวะ ไปมันพร้อมกันนิแหละ
หลังจากงม ลงทะเบียน ใน DS-160 ถูกๆ ผิดๆ (กว่าจะทำครบหมด) บอกเลยว่า เกือบอาทิตย์ 55555

พอลง DS -160 เสร็จ ทำไงต่อ โทรหา (น้อง บริษัท CLICK ) ที่ดูแลลูกสาว (มีอะไร พี่โทรหาตลอด)  555
เสมือนไป 2 คน จ่ายคนเดียวเริ่ด 555  แต่อิแม่ ไปเที่ยว ลูกไปทำงาน ชีวิต ดี๊ดี

น้องบอกพี่ต้องไปซื้อ PIN ที่กรุงศรี แล้วมานัดสัมภาษณ์  ... ป้าไปนั่งงง อีก 2 อาทิตย์ PIN คืออะไรคะ
โธ่ ก็คือ ไปจ่ายค่า วีซ่า ล่าสุดราคา 5920 บาทค่ะ ณ.เวลานี้ B1/B2 เป็นกล้วยหอมจอมซนกันละทีนี้
อ้อ ก่อนจะ จ่ายค่าวีซ่า ก็ต้องไปทำนัดสัมภาษณ์ก่อน เขาถึงจะออกสลิปมาให้นะคะ แล้วพอเราไปจ่าย เงินที่กรุงศรี
เราต้องมาคอนเฟริ์ม วันเวลานัดสัมภาษณ์ อีกครั้ง คะ ของพี่เป็นวีซ่า B1/B2 คะ

สำหรับ วีซ่า J1 (ของลูกสาวจำราคาไม่ได้) ฝากให้น้อง บริษัท CLICK ไปนานละ ดีมากเลย เตรียมให้ทุกอย่าง (เคสของลูกสาว)
คุณแม่ไม่ต้องเตรียมอะไรเลย.. น้องก็ใส่ชุดนักศึกษา เห็นนั่ง เตรียมบทสัมภาษณ์ ภาษาอังกฤษของตัวเองไว้ในหัวเขานั่นแหละ
ปล่อยเขาละกัน

แต่  พี่ต้องเตรียมตัวเอง. ยิ่งอ่านกระทู้ ไม่ผ่าน ไม่ได้ ไม่รอด ขนาดวีซ่า เวิร์ค แอน ทราเวล ยังรีเจค แม่เจ้า โหดไรเบอร์นี้
ซวยละ ... พี่เพิ่งเสนอหน้าจองโรงแรม (จ่ายค่าโรงแรมเรียบร้อย) สไตลคนโรคจิต กลัวไม่มีที่นอน จองตั๋วบรอดเวย์ นิวยอร์คพาส
เสมือนว่ากุจะบินพรุ่งนี้...เอ๊ ทำไมทุกคนถึง ไม่ได้วีซ่า แม่เจ้า.... ตายละ....

กลัวจริงจังจน ไปนั่งบ่นกับลูก ..(โดนลูกบ่น) ก็อย่าอ่านเซะ เลิกไปอ่าน

นะ..บั่นทอนจิตใจ .. พอเอาเข้าจริงๆ ถึงวันนัดสัมภาษณ์ พี่ นัด 10.30 น. น้อง นัด 13.00น. ไปนั่งตื่นเต้นต่อในสถานกงศุล ติดกับเจดีย์ขาว
เดินไป ขอวีซ่าด้วยกันค่ะ
อันดับแรก เอาใบนัด (ซึ่งต้องปริ้นท์มาจากเวป) พร้อมพาสปอร์ต เอายื่นให้ เจ้าหน้าที่ตรวจเช็คก่อนจะเปิดประตูให้เราเข้าไป (ตอนแรกนึกว่าใบจ่ายตังค์
                โดนเจ้าหน้าที่บ่นอีก) ลางไม่ดีละ
อันดับสอง เจ้าหน้าที่เปิดประตู ให้เอาโทรศัพท์(ปิดเครื่อง) บัตรประชาชนตัวจริง ใส่ซองฝากไว้เลยคะ ที่ป้อมปราการด้านหน้าสุด เอาเอกสารที่เตรียมมา
               ใส่ ถาด แล้วก็เอาเข้าเครื่องสแกน แล้วก็หอบไปแต่เอกสารคะ ไปหาโต๊ะต่อไป
อันดับสาม เดินเจี๋ยมเจี๊ยม เข้าไปโต๊ะ น้องหน้าใสใจดี ช่วยตรวจเอกสารและแจกบัตรคิว แล้วไปนั่งรอคะ

ภายในห้องนั่งรอ... เชียงใหม่ ไม่มีแอร์นะคะ มีพัดลม 6 ตัว.. และ นั่งรับลมระอุ กระไอแดดที่แผดเผา มาจากสวนด้านข้าง.... รอต่อไปคะ
มีน้ำ ดื่มบริการ (ตัวเอง) มีห้องน้ำเล็กๆ แต่สะอาดแยกชายหญิง ค่ะ เดินหลงๆ หาเองก็เจอค่ะ แคบประมาณ คอนโด 35 ตรม. 2 ห้องค่ะ พอรับได้
แต่..ตัว..น่าจะมีแอร์นะตัว..

    รอสักพักคิวจะ เรียก (กระโดดแหลกราญ เพราะ บางครั้งที่เขาเรียกคนอื่นก่อนเพราะเอกสารของคุณไม่ถูกต้อง , ผิดต้องแก้ไข เขาเรียกให้ไปแก้ไขเอกสารก่อนเช่นพี่.. เอ๊ะมารอแป๊บเดียวเรียกเราละ ไวจัง... คือ ป้าๆ ไปเปลี่ยนรูปมานะ รูปป้าใช้ไม่ได้ ......เอิ่ม...
พี่ต้องวิ่ง 4x100 ไป ถ่ายรูปข้างๆ สถานฑูตมาใหม่ จิ๊บๆ 100 เดียวคะ ราคา ไม่โหดเหมือนกทม. แต่ ภาพที่ออกมา .......เหนือคำบรรยาย
ในขณะที่ น้องลูกครึ่งหน้าหล่อมาก แจ้งให้ ป้าไปถ่ายรูปมาใหม่ เขาก็สัมภาษณ์เรา เบื้องต้น ป้าก็บอกไปเลยว่า จองตั๋วแล้วโรงแรมแล้ว
"พี่จะรีบจองทำไม จะได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย" อ้าวววว น้องหน้าหล่อทำไมพูดงี้ กับอิเจ๊ละ
...ลางร้ายที่สองมาเลย.... ตบปากนะคะ

แต่ก็แปลก ให้เราพิมพ์ลายนิ้วมือทั้งสี่ นิ้วโป้งทั้งสอง แล้วไล่เราให้ไปถ่ายรูปมาใหม่....

พอได้ภาพถ่าย แล้วก็เอาไปให้น้องคนสวย หน้าโต๊ะตรวจเอกสาร เจ้าหน้าที่ด้านหน้า จำหน้าอิป้าแม่นมาก พี่เขามาตะกี้.. ยังไม่ทันได้บอกอะไรใครเลย
ทำไมน่ารักอย่างงี้ (คือ ทุกคนจำฉันได้ใช่ไหม)  เริ่ด

นั่งรอไปอีก เกือบ ชั่วโมง.. เพราะมีคนมาสัมภาษณ์เยอะ ทั้งไปเที่ยว.. ไปงานแต่ง (คือมนุษย์สัมพันธ์ดีรู้จักเขาไปหมด)
ต้องมีบัตรเชิญ นะ น้องมีไหมไม่มีเนี้ยไม่ได้  พี่ ไปกับทัวร์ ยังไงพี่ก็สบายยค่ะเตรียมเอกสารเงินฝาก (เห็นบางคนมียันทะเบียนสมรส)
ต้องเอามาด้วยเหรอ..ลืมอะซวยละ กรี๊ดๆๆๆ (บ่นในใจ) ป้าที่หิ้วกระเป๋าเอกสาร ใส่สูทเต็มยศ ผ่านแต่ ป้าที่แต่งตัว สวยเป็นพิเศษ
สองคน ไปกับบริษัททัวร์ ไม่ผ่าน??? แม๊นนนนน งง ไม่เข้าใจ ใจตุ่มๆ ต่อมๆ
แล้ว เครื่อง เรียก ก็ปี๊ดดด คิวป้านิ? ใจหายแว่บบ สองรายเพิ่งโดนรีเจค ไม่ผ่านวีซ่าทั้งสองคนเลย

เอาวะ เรา ไปยังไงก็กลับ ไม่ไปทำงานโน้นแน่นอน บริสุทธิใจสุดฤทธิ์ ยังไงก็ ผ่าน (หลอกตัวเองก็ช่างคิดงี้ไว้ก่อน)
ปกติเขาสัมภาษณ์ ภาษาอังกฤษ กันใช่ไหมคะ พอดี ช่องสามที่เรียกคิวไป ทักเรามาก่อนว่า.. สวัสดีครับ ฝรั่งผมทอง ..
พี่ก็ยกมือไหว้ สวัสดีคะ เสร็จฉันละ
ทีนี้ตลอดการสัมภาษณ์ ภาษาไทย ONLY ค่ะ 55555 เจ้าหน้าที่ท่านก็พยายามดึงเราไปภาษาอังกฤษ เราก็ พูดไทยคำฝรั่งคำ
สบายละทีนี้  ขอเอกสารไม่เยอะ เพราะเราเตรียมาไปเยอะ เขาขอดูแค่สเตจเม้นท์ ถามว่าเคยไปที่ไหนมาบ้าง
ก็สิงคโปร มาเลเซีย ฮ่องกง มาเก๊า.. รอด... (ดีว่าถ่ายเอกสาร พาสปอร์ตเล่มเก่าไปด้วย) ขอบคุณพันทิพย์

ไม่ยอมขอดูตารางการเที่ยวเลยอุตส่าห์ทำไป.. ใบลาด้วย ไปขอเจ้านายเซ็นต์ให้... แหม๊ คนสัมภาษณ์ ปกติจะเป็นท่านฑูตใช่ไหมคะ?
ไม่แน่ใจแต่ โสด และหล่อมาก ที่รู้เพราะไอ้ความมนุษย์สัมพันธ์ดีเกินไปของพี่นี่แหละ  5555 คงไม่อดตายถ้าไปหลงอยู่ในนิวยอร์ก

ปกติ ทุกคนจะบอกว่า เชียงใหม่ผ่านยากมาก รีเจคเยอะมาก (จริงคะ) แต่ สำคัญที่สุดคือ แสดงให้เขาเห็นว่าฉันจะไปเที่ยวว นะคะ
แล้วก็จะรีบกลับคะ ฉันอยู่ไทยฉันหาเงินได้เยอะกว่า ไปอยู่บ้านคุณ แค่นี้ เขาก็จะผ่านวีซ่าให้ เพราะความซื่อตรงของเรา
อย่าเกรง กังวลมากไป ตอบคำถามให้ได้ พี่คิดว่าที่เขาโหดเพราะ
1. กลัวคุณจะเป็นโรบินฮูด
2. กลัวว่าเราจะไปแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไม่ได้ เช่นหลงทาง เอกสารหายก็จะทำอะไรไม่เป็นเลย
        สองข้อนี้คะหลักๆ เขาก็ไม่กล้าให้เราไปบ้านเขา หรอกคะ เขาแค่อยากให้เราเอาตัวรอดได้ ภาษาพอได้ไหมเกิดหลงกับทัวร์จะทำยังไง
ถ้าคุณตอบไม่ได้ ไปกับทัวร์ ก็รีเจคหมดคะ ผ่านยากจริงๆ คงหลายเหตุผลของ ทาง ประเทศเขาด้วยคะ

ขอให้ทุกคนที่ จะไปฝ่าฟันอุปสรรค์ เตรียมตัวให้พร้อมและผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ