26.3.59 ผมมาขอย้ายค่ายมือถือ 2 เลขหมายจาก True ไป My ครั้งที่ 2 ณ ศูนย์บริการ True สาขา Future Park รังสิต
โดยครั้งแรกในวันที่ 22.3.59
True ตุกติก ดังนี้..
1.อ้างชื่อไม่ตรง ทั้งที่ได้ลงทะเบียนที่ 7-ELEVEn เมื่อปี 2558 และในวันที่ 22.3.59 พนักงานน่าจะดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย
2.อ้างค้างชำระ ทั้งที่ชำระไปแล้วในวันที่ 22.3.59
ผมพยายามให้รองผู้จัดการเซ็นต์รับหนังสือ เพื่อเป็นหลักฐาน แต่..รองฯ ไม่ยอมเซ็นต์..
ตอนนี้รองฯกำลังไปปรึกษากับผู้จัดการสาขา
สงสัยวันนี้จะมีเรื่อง..
ตำรวจท้องที่เตรียมตัวได้เลย..
++++++++++++++++++++++
เวลา 1829
ผมได้เดินทางกลับบ้านแล้ว จึงขอเล่าเรื่องในโพสต์นี้ เพื่อให้แฟนคลับติดตามความคืบหน้าได้สะดวก ดังนี้..
ก่อนหน้านี้ผมโวยรองฯไปว่า "คุณทำให้ผมมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่ม คุณจะรับผิดชอบยังไง ?"
รองฯ นิ่ง...ไร้คำตอบ..
หลังจากรออยู่พักใหญ่...
รองผู้จัดการกลับมาพบผมพร้อมกับข้อความชี้แจงบนหนังสือของผมทั้ง 2 หมายเลข
รองฯ บอกผมว่าพนักงานแจ้งว่าผมแจ้งย้ายออกเพียง 1 หมายเลข (ของพ่อ) ส่วนอีกหมายเลข (ของป้า) นั้น.ผมไม่ได้แจ้งย้ายออกแต่อย่างใด..
ลูกค้าในศูนย์บริการ TRUE สังเกตเห็นควันกำลังพุ่งออกจากหูผม..
ผมบอกไปว่า "หากพนักงานของคุณพูดอย่างนั้น ก็หมายความว่ากำลังใส่ความว่าผมโกหก.."
"มันอยู่ที่ไหน ไปตามมันมาพบผมหน่อยซิ"
"พนักงานกำลังกินข้าวอยู่ค่ะ" รองฯ ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา..
"ผมรอได้..หากผมไม่ได้พบกับพนักงานของคุณที่ใส่ร้ายว่าผมโกหก ผมจะไม่กลับ" ผมคำรามใส่รองฯ ด้วยความโกรธ...
รองฯหายไปพักใหญ่..
ผู้จัดการและพนักงานต้นเหตุ เดินออกมาจากประตูด้านหลังพร้อมกัน..
"ผมแจ้งย้ายออก 2 หมายเลข ติดขัดทั้ง 2 หมายเลขเลย..หมายความว่าไง อธิบายหน่อยซิ" ผมตวาดใส่ผจก. พร้อมกับจ้องมองไปที่หน้าเจี๋ยมเจี้ยมของพนักงานต้นเหตุ..
"เบอร์ป้าผมก็ชำระแล้ว แต่ทางระบบบอกว่ายังมีค้างชำระ ทำให้ผมย้ายออกไม่ได้ มันหมายความว่าไง" ผมยิงคำถาม ผจก เป็นชุด..
"คืออย่างนี้ครับ บิลตัดวันที่ 18 มีนา แต่คุณมาพบเรา 22 มีนา ระบบของเรายังไม่แจ้ง ทำให้เราไม่รู้ครับ" ผจก.พยายามอธิบาย..
"อ้าว..ในเมื่อพนักงานยังไม่รู้ แล้วผมเป็นลูกค้าจะรู้ได้ยังไง" ผมตอบเสียงขุ่น..
พลางนึกไปว่า..เออ..หากระบบเป็นอย่างนี้ ลูกค้าที่มาย้ายออก แล้วเข้าเงื่อนไขเดียวกับผม คือ 4 วันหลังตัดบิล จะไม่สามารถย้ายออกได้เลย..
"ระบบคุณมันห่วยไง" ผมสบถออกไป ควันออกหูมากยิ่งขึ้น...
แล้วเลขหมายของพ่อผม ก็ได้ไปลงทะเบียนผ่าน 7-ELEVEn ไปเมื่อปีที่แล้ว ทำไมระบบคุณจึงยังไม่แก้ไขให้ถูกต้อง..
เอาล่ะถึงมันจะไม่ถูกต้อง แต่ผมมาพบคุณเพื่อย้ายออกในวันที่ 22 มีนา ทำไมคุณจึงไม่แก้ไขให้เรียบร้อย ทำให้ผมต้องเสียเวลามาย้ายอีกเป็นครั้งที่ 2"
ทันใดนั้น..พนักงานหญิงสวมแว่นคนหนึ่งเดินผ่านผมพอดี..ผมจำได้แล้ว...
"อ้าว..น้องคนนี้จำผมได้รึป่าว...ผมมาขอย้ายออก แล้วน้องบอกให้ผมไปทำหนังสือมอบอำนาจมา" ผมนึกขึ้นได้..จริงแล้ววันนี้เป็นครั้งที่ 3 ตะหากเล่า..
เนื่องจากครั้งแรกผมเตรียมใบมรณะบัตรของแม่ตา เพื่อเดินเรื่องขอย้ายออกจาก True ไป My เนื่องจาก My มิได้เก็บค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาหมายเลขผู้เสียชีวิต..
ผจก.ไม่มีคำตอบ สำหรับคำถามนี้..
"ระบบคุณมันห่วยไง" ผมตวาดลั่นศูนย์บริหาร TRUE
"เบอร์พ่อผมเป็นเบอร์เติมเงิน และมีเงินเหลือ 800+ คุณจะคืนเงินให้ผมได้ยังไง ?" ผมถามเสียงดัง และต้องการคำตอบ
"เราจะรอให้การย้ายสำเร็จก่อน แล้วจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่คุณให้มาครับ" ผจก.ตอบด้วยเสียงสุภาพ
"อืมมม..มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว.." ผมเริ่มเย็นลงเล็กน้อย..
"แล้วผมต้องเดินทางมาเพื่อขอคืนเงินอีกมั้ย ?"
"ไม่ต้องครับ"
"แล้วจะรู้ได้ไง คุณมีเบอร์โทรมั้ย"
ผจก.รีบให้พนักงานต้นเหตุ เขียนเบอร์โทรติดต่อ เพื่อดำเนินการให้ TRUE โอนเงินส่วนที่เหลือในเบอร์เติมเงินเข้าบัญชีธนาคาร..
"เอาล่ะคลี่คลายไปหลายเปลาะแล้ว..ทีนี้พนักงานของคุณยังไม่ยอมรับอีกว่า ผมมายื่นเอกสารขอย้ายออก 2 หมายเลข" ผมจ้องหน้าพนักงานต้นเหตุ..
"ผมขอโทษครับ" พนักงานก้มหน้า น้ำเสียงไม่เต็มใจนัก
"คุณผจก. หากพนักงานของคุณยังไม่ยอมรับ การขอโทษไม่มีความหมายหรอก" ผมตวาดใส่ผจก.อีกครั้ง..
ผจก.กระซิบกระซาบ คล้ายจะให้พนักงานต้นเหตุยอมๆไป จะได้จบๆ..
"ผมผิดพลาดเองครับ" พนักงานก้มหน้านิ่ง..
"อืมมม..." ผมจ้องหน้าพนักงานต้นเหตุ และผจก....เขม็ง...
(เริ่มเย็นลง)
"คุณรู้มั้ยว่าทำไมผมจึงให้ รองฯ เซ็นต์ในหนังสือผม"
"เพราะนี้คือตัวอย่างไง..พนักงานของคุณอ้างไม่ได้รับหนังสือ และผมก็ไม่มีหลักฐาน"
"พวกคุณมันเอาตัวรอด..ระบบของคุณมันเอาเปรียบลูกค้า"
ผมสบถเป็นชุด...
"ผมจะนำหนังสือนี้ร้องต่อ กสทช." ผมพูดไปด้วยมองหน้า ผจก.ไปด้วย..
ข้อสังเกต..
มีข้อร้องเรียนมากมายใน Social Network เกี่ยวกับกระบวนการย้ายค่าย ..ค่ายมือถือฉวยโอกาสฉกเงินที่เหลือในเบอร์เติมเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยอ้างว่า "ต้องใช้เงินให้หมดก่อน หากใช้ไม่หมดเงินจะหายไปด้วย"
ผมเริ่มสงสัยว่าค่ายมือถือ ทำบัญชีอย่างไร กับเงินประเภทนี้..มีการเสียภาษีหรือไม่ ?
การดึงเรื่อง สร้างอุปสรรค ปัญหา นานาประการให้กับลูกค้านั้น ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าเป็นผู้รับภาระ นั้นไม่น่าจะถูกต้อง..
กสทช.ควรเข้ามาดูแลปัญหานี้อย่างเร่งด่วน..
และผมจะเข้ายื่นหนังสือต่อ กสทช ในเรื่องดังกล่าวนี้ ในเวลา 1000 วันพุธที่ 30 มีนาคม 2559 นี้...
หมายเหตุ : My แบบเติมเงิน มีโปร โทรในเครือข่ายฟรี 24 ชั่วโมง และเน็ต 215 บาทที่ความเร็ว 512 Kbps (ดู Youtube ได้) ผมเลือกใช้ระบบเติมเงินเนื่องจากได้เงินคืน 3% ในขณะที่เบอร์รายเดือนเสียเงิน 5-10 บาท
และสุดท้าย..ผมไม่ได้แสดงตัวต่อพนักงานทรู..เนื่องจากไม่ต้องการอวดเบ่ง ไม่ต้องการรับการบริการที่แตกต่างจากลูกค้าทั่วไป..
ปัญหาการย้ายออกจาก True
โดยครั้งแรกในวันที่ 22.3.59
True ตุกติก ดังนี้..
1.อ้างชื่อไม่ตรง ทั้งที่ได้ลงทะเบียนที่ 7-ELEVEn เมื่อปี 2558 และในวันที่ 22.3.59 พนักงานน่าจะดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย
2.อ้างค้างชำระ ทั้งที่ชำระไปแล้วในวันที่ 22.3.59
ผมพยายามให้รองผู้จัดการเซ็นต์รับหนังสือ เพื่อเป็นหลักฐาน แต่..รองฯ ไม่ยอมเซ็นต์..
ตอนนี้รองฯกำลังไปปรึกษากับผู้จัดการสาขา
สงสัยวันนี้จะมีเรื่อง..
ตำรวจท้องที่เตรียมตัวได้เลย..
++++++++++++++++++++++
เวลา 1829
ผมได้เดินทางกลับบ้านแล้ว จึงขอเล่าเรื่องในโพสต์นี้ เพื่อให้แฟนคลับติดตามความคืบหน้าได้สะดวก ดังนี้..
ก่อนหน้านี้ผมโวยรองฯไปว่า "คุณทำให้ผมมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่ม คุณจะรับผิดชอบยังไง ?"
รองฯ นิ่ง...ไร้คำตอบ..
หลังจากรออยู่พักใหญ่...
รองผู้จัดการกลับมาพบผมพร้อมกับข้อความชี้แจงบนหนังสือของผมทั้ง 2 หมายเลข
รองฯ บอกผมว่าพนักงานแจ้งว่าผมแจ้งย้ายออกเพียง 1 หมายเลข (ของพ่อ) ส่วนอีกหมายเลข (ของป้า) นั้น.ผมไม่ได้แจ้งย้ายออกแต่อย่างใด..
ลูกค้าในศูนย์บริการ TRUE สังเกตเห็นควันกำลังพุ่งออกจากหูผม..
ผมบอกไปว่า "หากพนักงานของคุณพูดอย่างนั้น ก็หมายความว่ากำลังใส่ความว่าผมโกหก.."
"มันอยู่ที่ไหน ไปตามมันมาพบผมหน่อยซิ"
"พนักงานกำลังกินข้าวอยู่ค่ะ" รองฯ ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา..
"ผมรอได้..หากผมไม่ได้พบกับพนักงานของคุณที่ใส่ร้ายว่าผมโกหก ผมจะไม่กลับ" ผมคำรามใส่รองฯ ด้วยความโกรธ...
รองฯหายไปพักใหญ่..
ผู้จัดการและพนักงานต้นเหตุ เดินออกมาจากประตูด้านหลังพร้อมกัน..
"ผมแจ้งย้ายออก 2 หมายเลข ติดขัดทั้ง 2 หมายเลขเลย..หมายความว่าไง อธิบายหน่อยซิ" ผมตวาดใส่ผจก. พร้อมกับจ้องมองไปที่หน้าเจี๋ยมเจี้ยมของพนักงานต้นเหตุ..
"เบอร์ป้าผมก็ชำระแล้ว แต่ทางระบบบอกว่ายังมีค้างชำระ ทำให้ผมย้ายออกไม่ได้ มันหมายความว่าไง" ผมยิงคำถาม ผจก เป็นชุด..
"คืออย่างนี้ครับ บิลตัดวันที่ 18 มีนา แต่คุณมาพบเรา 22 มีนา ระบบของเรายังไม่แจ้ง ทำให้เราไม่รู้ครับ" ผจก.พยายามอธิบาย..
"อ้าว..ในเมื่อพนักงานยังไม่รู้ แล้วผมเป็นลูกค้าจะรู้ได้ยังไง" ผมตอบเสียงขุ่น..
พลางนึกไปว่า..เออ..หากระบบเป็นอย่างนี้ ลูกค้าที่มาย้ายออก แล้วเข้าเงื่อนไขเดียวกับผม คือ 4 วันหลังตัดบิล จะไม่สามารถย้ายออกได้เลย..
"ระบบคุณมันห่วยไง" ผมสบถออกไป ควันออกหูมากยิ่งขึ้น...
แล้วเลขหมายของพ่อผม ก็ได้ไปลงทะเบียนผ่าน 7-ELEVEn ไปเมื่อปีที่แล้ว ทำไมระบบคุณจึงยังไม่แก้ไขให้ถูกต้อง..
เอาล่ะถึงมันจะไม่ถูกต้อง แต่ผมมาพบคุณเพื่อย้ายออกในวันที่ 22 มีนา ทำไมคุณจึงไม่แก้ไขให้เรียบร้อย ทำให้ผมต้องเสียเวลามาย้ายอีกเป็นครั้งที่ 2"
ทันใดนั้น..พนักงานหญิงสวมแว่นคนหนึ่งเดินผ่านผมพอดี..ผมจำได้แล้ว...
"อ้าว..น้องคนนี้จำผมได้รึป่าว...ผมมาขอย้ายออก แล้วน้องบอกให้ผมไปทำหนังสือมอบอำนาจมา" ผมนึกขึ้นได้..จริงแล้ววันนี้เป็นครั้งที่ 3 ตะหากเล่า..
เนื่องจากครั้งแรกผมเตรียมใบมรณะบัตรของแม่ตา เพื่อเดินเรื่องขอย้ายออกจาก True ไป My เนื่องจาก My มิได้เก็บค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาหมายเลขผู้เสียชีวิต..
ผจก.ไม่มีคำตอบ สำหรับคำถามนี้..
"ระบบคุณมันห่วยไง" ผมตวาดลั่นศูนย์บริหาร TRUE
"เบอร์พ่อผมเป็นเบอร์เติมเงิน และมีเงินเหลือ 800+ คุณจะคืนเงินให้ผมได้ยังไง ?" ผมถามเสียงดัง และต้องการคำตอบ
"เราจะรอให้การย้ายสำเร็จก่อน แล้วจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่คุณให้มาครับ" ผจก.ตอบด้วยเสียงสุภาพ
"อืมมม..มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว.." ผมเริ่มเย็นลงเล็กน้อย..
"แล้วผมต้องเดินทางมาเพื่อขอคืนเงินอีกมั้ย ?"
"ไม่ต้องครับ"
"แล้วจะรู้ได้ไง คุณมีเบอร์โทรมั้ย"
ผจก.รีบให้พนักงานต้นเหตุ เขียนเบอร์โทรติดต่อ เพื่อดำเนินการให้ TRUE โอนเงินส่วนที่เหลือในเบอร์เติมเงินเข้าบัญชีธนาคาร..
"เอาล่ะคลี่คลายไปหลายเปลาะแล้ว..ทีนี้พนักงานของคุณยังไม่ยอมรับอีกว่า ผมมายื่นเอกสารขอย้ายออก 2 หมายเลข" ผมจ้องหน้าพนักงานต้นเหตุ..
"ผมขอโทษครับ" พนักงานก้มหน้า น้ำเสียงไม่เต็มใจนัก
"คุณผจก. หากพนักงานของคุณยังไม่ยอมรับ การขอโทษไม่มีความหมายหรอก" ผมตวาดใส่ผจก.อีกครั้ง..
ผจก.กระซิบกระซาบ คล้ายจะให้พนักงานต้นเหตุยอมๆไป จะได้จบๆ..
"ผมผิดพลาดเองครับ" พนักงานก้มหน้านิ่ง..
"อืมมม..." ผมจ้องหน้าพนักงานต้นเหตุ และผจก....เขม็ง...
(เริ่มเย็นลง)
"คุณรู้มั้ยว่าทำไมผมจึงให้ รองฯ เซ็นต์ในหนังสือผม"
"เพราะนี้คือตัวอย่างไง..พนักงานของคุณอ้างไม่ได้รับหนังสือ และผมก็ไม่มีหลักฐาน"
"พวกคุณมันเอาตัวรอด..ระบบของคุณมันเอาเปรียบลูกค้า"
ผมสบถเป็นชุด...
"ผมจะนำหนังสือนี้ร้องต่อ กสทช." ผมพูดไปด้วยมองหน้า ผจก.ไปด้วย..
ข้อสังเกต..
มีข้อร้องเรียนมากมายใน Social Network เกี่ยวกับกระบวนการย้ายค่าย ..ค่ายมือถือฉวยโอกาสฉกเงินที่เหลือในเบอร์เติมเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยอ้างว่า "ต้องใช้เงินให้หมดก่อน หากใช้ไม่หมดเงินจะหายไปด้วย"
ผมเริ่มสงสัยว่าค่ายมือถือ ทำบัญชีอย่างไร กับเงินประเภทนี้..มีการเสียภาษีหรือไม่ ?
การดึงเรื่อง สร้างอุปสรรค ปัญหา นานาประการให้กับลูกค้านั้น ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าเป็นผู้รับภาระ นั้นไม่น่าจะถูกต้อง..
กสทช.ควรเข้ามาดูแลปัญหานี้อย่างเร่งด่วน..
และผมจะเข้ายื่นหนังสือต่อ กสทช ในเรื่องดังกล่าวนี้ ในเวลา 1000 วันพุธที่ 30 มีนาคม 2559 นี้...
หมายเหตุ : My แบบเติมเงิน มีโปร โทรในเครือข่ายฟรี 24 ชั่วโมง และเน็ต 215 บาทที่ความเร็ว 512 Kbps (ดู Youtube ได้) ผมเลือกใช้ระบบเติมเงินเนื่องจากได้เงินคืน 3% ในขณะที่เบอร์รายเดือนเสียเงิน 5-10 บาท
และสุดท้าย..ผมไม่ได้แสดงตัวต่อพนักงานทรู..เนื่องจากไม่ต้องการอวดเบ่ง ไม่ต้องการรับการบริการที่แตกต่างจากลูกค้าทั่วไป..