รถตู้กำลังจอดอยู่หน้าคลีนิคในชุมชนเล็กๆแห่งหนึ่ง ดาวยังคงนั่งนิ่งอยู่บนรถก่อนที่ภูจะสะกิดให้เธอลงไป
"นี่จะนั่งอยู่ทำไม ลงไปได้แล้ว" ภูไล่
"แล้วนายมาที่ไหนเนี้ย" ดาวมองออกไปนอกรถอย่างแปลกใจ ก่อนที่จะเดินลงไป ดาวแหงนมองไปที่ป้ายของคลีนิค
"ลูกเจี๊ยบคลีนิคและเวชกรรม" ดาวอ่านชื่อเงียบ ในขณะที่ภูเดินมาจากข้างหลัง แล้วสะกิดจนดาวสะดุ้ง ทำให้เธอค้อนใส่ภูไปทีนึง
"ยืนบื้ออยู่ทำไม เข้าไปได้แล้ว"
"แต่นี่ คลีนิคยังไม่เปิดเลยนะ" ดาวชี้ไปที่ป้ายหน้าร้านที่บอกว่าเปิด 9.30 น. ในขณะที่ตอนนี้เพิ่งจะแปดโมงเช้าเอง
"แล้วฉันบอกเธอเมื่อไหร่ว่าจะพามาหาหมอ" ว่าแล้วภูก็ลากแขนดาวเข้าไปในคลีนิค คลีนิคเป็นห้องแถวเล็กคูหาเดียว ข้างในมีเคาเตอร์จ่ายยา และม้านั่ง3ที่ ส่วนข้างๆก็มีเก้าอี้พลาสติกซ่อนกันอยู่ตั้งหนึ่ง
"สวัสดีครับป้า พี่เจี๊ยบตื่นหรือยังครับ" ภูกล่าวทักผู้หยิงวัยกลางคนที่กำลังปัดกวาดคลีนิคอยู่ ทำให้ดาวต้องสวัสดีตาม
"สวัสดีจ้าภู ป้าก็ไม่รู้นะว่าเจ้าเจี๊ยบมันตื่นรึยัง ว่าแต่ได้นัดกันไว้ก่อนรึเปล่า" ป้าคนนี้คือป้ากุ๊กเป็นแม่ของพี่เจี๊ยบ ซึ่งเป็นหมอเจ้าของคลีนิคนี้
"เมื่อคืนโทรคุยกันแล้วครับ แต่ไม่รู้ว่าพี่แกจะลืมหรือเปล่า"
"นั่นสิ เมื่อคืนก็กลับมาดึกซะด้วย งั้นเดี๋ยวป้าจะลองไปดูให้นะ" ไม่ทันขาดคำ หมอเจี๊ยบ ที่ยังใส่ชุดนอนลายคิดตี้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง สวมแว่นหนาเตอะ เดินหาวออกมาจากข้างหลังคลีนิค
"ไงภู มาแต่เช้าเชียวนะ" พูดเสร็จพี่เจี๊ยบก็หาวอีกหนึ่งที ซึ่งทำให้ดาวยิ่งสงสัยว่าทำไมภูต้องพาเธอมาหา หมอที่ดูท่าทางเอ๋อๆคนนี้ด้วย
"หวัดดีพี่เจี๊ยบ ดาวคนที่เมื่อคืนผมเล่าให้ฟังไง" หมอเจี๊ยบพยักหน้าแบบมึนๆเหมือนคนไม่สร่างดี คงเป็นเพราะภูโทรไปหาหมอเจี๊ยบตอนที่เธอกำลังเมากลับบ้านพอดี และดูท่าทางเธอก็คงมีเวลานอนไม่ถึง5ชั่วโมงด้วยซ้ำ
"ดาวเดี๋ยวเธอก็ไปคุยกับพี่เจี๊ยบนะ ป้าครับผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ" ภูพูดจบก็ยกมือไหว้แม่ของหมอเจี๊ยบจากนั้นก็เดินออกไป ทิ้งไว้ให้ดาวยืนมองอย่างงงๆ ซึ่งในใจของเธอก็คงผุดคำด่าออกมาอย่างพรั่งพรูเหมือนกัน
"เดี๋ยวเธอก็ตามพี่มาในห้องตรวจเลยละกันนะ" หมอเจี๊ยบพูดจากนั้นก็เดินไปคล้าชุดกาวด์ มาใส่ทับชุดนอนลายคิตตี้ของเธอ ซึ่งดาวก็เดินตามเธอเข้าไปอย่างงงๆ
ในห้องตรวจ ด้วยความที่นั่งใกล้กันมากเหมือนหมอกับคนไข้ ทำให้ดาวได้มองดู "สารรูป"ของหมอเจี๊ยบอย่างละเอียด ผมที่ดูกระเซิง(เพราะเพิ่งตื่นนอน) แว่นตาวงกลมขนาดใหญ่ ชุดนอนที่ใส่ไม่เรียบร้อย และยังรัดติ้วจนหน้าอกแทบจะทะลักออกมา จนทำให้ดาวเผลอกลืนน้ำลายโดยเมื่อรู้ตัว แต่พอย้อนกลับมาดูตัวเอง มันก็ทำให้ดาวได้แต่ถอนหายใจ เพราะเนินดินเตี้ยๆ มันก็สู่เทือกเขาไม่ได้อยู่แล้ว
"เมื่อคืนตอนภูโทรมา พี่ก็มึนๆนิดหน่อย ก็เลยอยากฟังจากปากเธอมากกว่าน่ะ" ดาวได้แต่ตอบด้วยคำว่า "คะ"เพียงคำเดียว คือเธออยากถามด้วยความแน่ใจว่าหมอเจี๊ยบอยากฟังเรื่องอะไรกันแน่
"ก็เรื่องเมื่อคืนไง ที่เธอโดนผีอำน่ะ คงจะกลัวมากล่ะสิถ้า" หมอเจี๊ยบยิงคำถามจี้ใจดำดาว โดยเฉพาะคำว่ากลัว คำที่ยังคาใจเธอจนมาถึงเดี๋ยวนี้ ดาวเล่าเหตุการณืที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้หมอเจี๊ยบฟังทั้งหมด หมอเจี๊ยบฟังอย่างตั้งใจด้วยท่าทางมึนๆ บางครั้งก็พยักหน้า บางครั้งก้หาว จนดาวชักไม่แน่ใจว่าคนๆนี้เป็นหมอจริงๆรึเปล่า
"มิน่าล่ะตาภูถึงสนใจเธอ" คำพูดนี้ของหมอเจี๊ยบทำให้ดาวหน้าแดงโดยไม่รู้ตัว
"นี่พี่จะเล่าอะไรให้ฟัง ว่าแต่ภูพูดถึงเรื่องผู้มีสัมผัสวิญญาณให้ฟังแล้วใช่มั้ย" ดาวพยักหน้า
"พี่น่ะเป็นผู้มีสัมผัสวิญญาณเหมือนกัน แต่ต่างจากของเธอนะ ของเธอคืนการสื่อสารวิญยาณในสภาวะฝัน แต่ของพี่ คือการรับรู้ตัวตนและความรู้สึกเมื่ออยู่คนเดียว" คราวนี้ดาวมีสีหน้าที่ให้ความสนใจมากขึ้น
"ยังไงเหรอคะ หนูไม่เข้าใจ" ดาวถาม แต่หมอเจี๊ยบก็แอบหัวเราะเบาๆด้วยความเอ็นดู
"ก็นะ ในอาณาเขตที่มีวิญญาณ ถ้าพี่อยู่คนเดียว พี่จะรับรู้ถึงตัวตนและอารมณ์ ความรู้สึก ของภูติผี วิญญาณเหล่านั้น แม้จะมองไม่เห็น ไม่ได้ยิน แต่พี่ก็รู้สึกได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ภูก็มาขอให้พี่ช่วย แต่มันก็มีข้อจำกัดนะ พี่ได้แค่รู้ว่ามีเค้า แต่สื่อสารกับเค้าไม่ได้เหมือนกับเธอ" คำพูดของหมอเจี๊ยบ ทำให้ดาวตะลึง บางทีก็คงเพราะเธอเจอคนที่เข้าใจเรื่องที่อธิบายได้ยาก ถึงแม้ว่าเค้าจะเป็นหมอ(ที่ตอนนี้ดูยังไงก็ไม่เหมือนหมอ)ก็ตาม
"ที่ว่าอาณาเขตคืออะไรเหรอคะ อย่างเรื่องบ้านของพี่แก้ม ที่หนูไปตรวจสอบ ตานั่นก็พูดถึงอาณาเขตเหมือนกัน"
"อาณาเขต คือขอบเขตที่วิญญาณนั้นยึดติดอยู่ อาจจะเป็นสถานที่ คน หรือสิ่งของก้ได้ หากวิญญาณมีความยึดติดอยู่ เค้าจะไม่ไปจากอาณาเขตของตัวเอง และสำหรับพี่ หากพี่อยู่คนเดียว ในห้อง ในบ้าน หรือสถานที่ไหนที่มีวิญญาณอยู่พี่ถึงจะสัมผัสได้ นี่ๆพี่มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง"
ดาวทำหน้าสนใจ จากนั้นหมอเจี๊ยบก็เริ่มเล่า
"ตอนปีหนึ่งที่พี่เข้าเรียนหมอ ตอนรับน้องพี่ถูกรุ่นพี่ขังในห้องดับจิตคนเดียวชั่วโมงนึง พี่ก็รู้นะว่าหมอจะกลัวไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นศพ หรือแม้แต่ผี เพราะเราทำงานกับความเป็นความตาย พี่อยู่ในห้องคนเดียว ประตูที่พี่สามารถออกไปได้ทุกเมื่อ แต่มันก็หมายถึงว่าเราเอาชนะความกลัวไม่ได้ และแน่นอนพี่ไม่ได้อยู่คนเดียว พี่รู้ถึงตัวตนของวิญญาณที่ยังติดอยู่กับร่างในห้องดับจิตมากมาย และความรู้สึกเหล่านั้น มีทั้งความเสียใจ ความห่วงหา ความผิดหวัง ความเศร้า ความโกรธ ความเกลียด ความอาฆาต ทุกอย่างที่เป็นอารมณ์ของเค้าเหล่านั้น มันประดังเข้ามาในความรู้สึกพี่ มันทำให้พี่กลัว พี่กลัวจนไม่กล้าที่จะหลับตา เพราะพี่กลัวว่าถ้าพี่หลับตาพี่จะเห็นเค้าเหล่านั้นก็ได้ แต่พี่ก้ผ่านมันมาได้ จนตอนที่พี่จบมาพี่เลือกที่จะเรียนนิติเวช" หมอเจี๊ยบเล่าด้วยสายตาที่เป็นประกายแห่งความภาคภูมิใจ จนดาวสังเกตได้
"แล้วหมอเจี๊ยบผ่านมันมาได้ยังไงเหรอคะ" พอดาวถามหมอเจี๊ยบก้หลุดขำ
"ไม่ต้องเรียกหมอก้ได้ เรียกพี่น่ะดีแล้ว ก็คือพี่มีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าความกลัวน่ะสิ ถ้าพี่ผ่านความกลัวนี้ไปได้ ความฝันที่จะเป้นหมอของพี่นั้นจะรออยู่ แล้วก็นะบางอารมณ์ความรู้สึกของวิญญาณ บางคนก็มีความคับแค้นใจ ถึงแม้เค้าจะตายแล้ว แต่เค้าก็ยังต้องการความยุติธรรม เพราะอย่างนี้พี่ถึงเรียนนิติเวช เพราะพี่จะได้ช่วยเหลือคนตาย ส่วนเวลาว่างเสาร์อาทิตย์ พี่ก็มาเปิดคลีนิครักษาคนเป็นไง"
คำพูดของหมอเจี๊ยบทำให้ดาวรู้สึกฉุกคิดขึ้นมาได้ ชะตากรรมที่น่าสงสารของโหน่ง ความกังวลของพี่แก้ม บางทีเพราะดวงวิญญาณในบ้านนั้น หากเธอยังคงกลัว ความตั้งใจในการช่วยเหลือก็จะถูกละเลย แต่ถ้าเธอเอาชนะมันไปได้ ทุกอย่างก็จะคลี่คลาย
..................................................
ก่อนที่คลีนิคจะเปิด แก้มลาหมอเจี๊ยบกับแม่กลับ เมื่อภูมารับ เธอก็ได้แต่นั่งเงียบตลอดทาง วึ่งภูก็รู้ว่าการที่เธอมาคุยกับหมอเจี๊ยบนั้นทำให้เธอคิดได้แน่ๆ เมื่อภูมาส่งแก้มที่บ้าน พร้อมกับนัดแนะแผนการ กับทุกคน แก้มก็นอนเอาแรงจนประมาณบ่ายทุกคนกลับมารวมตัวที่บ้านพี่แก้มอีกครั้ง ทั้งภู ดาว พ่อของดาว พี่แก้มและลุงดาบ และแผนการณืที่ว่านั้นก็คือดาวจะต้องนอนที่บ้านพี่แก้มคนเดียว ส่วนทุกคนจะรอดูสถานการณ์ในรถตู้ที่มีจอมอนิเตอร์ ที่ถ่ายภาพในบ้าน ซึ่งแผนการณืก็คือ ดาวจะต้องติดต่อ "วิญญาณ" ที่เคยห้ามวิญญาณอื่นมาทำร้ายเธอ เพื่อสอบถามเรื่องราวทั้งหมด ก่อนที่จะแก้ไขต่อไป
ธูปหนึ่งดอกถูกดาวจุดขึ้น ในช่วงหัวค่ำ ดาวนั่งยองๆบริเวณหน้าประตูเข้าบ้านพนมมืออธิฐานเพื่อที่จะสื่อถึงวิญยาณที่เคยช่วยเหลือเธอ
(หากวิญญาณที่ช่วยฉันเมื่อคืนได้รับรู้ คืนนี้ช่วยมาเข้าฝันฉัน ฉันอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด เพื่อที่จะช่วยเหลือทุกๆคน) จากนั้นดาวก็ค่อยๆปักธูปลงบนรอยแตกของพื้นจากนั้นเธอจึงเดินเข้าบ้านไป คนเดียว!
..........................................................
คำผิดทักมาได้ครับจะแก้เรื่อยๆถ้ามีคนอ่านจะมาต่อให้
ตอน1-1
http://ppantip.com/topic/34830541
ตอน1-2
http://ppantip.com/topic/34839276
ตอน1-3
http://ppantip.com/topic/34847169
ตอน1-4
http://ppantip.com/topic/34854680
ตอน1-5
http://ppantip.com/topic/34858760
ตอน1-6
http://ppantip.com/topic/34870989
ตอน1-7
http://ppantip.com/topic/34891549
ตอนต่อไปจะเป็นตอนจบของไฟล์นี้แล้วนะครับ ไม่รู้ว่าจะยาวแค่ไหน แต่ผมจะพยายามให้จบในตอนแต่ไปแน่นอน และหากมีคนยังติดตามอยู่ ไฟล์ต่อไปผมกับตอนยาว "พิธีกรรมสยองขวัญ" ครับ
ตอนต่อไปครับ
http://ppantip.com/topic/34961881
GHost Detective File 1-8 (ลองแต่งครั้งแรกครับ ติชมได้นะครับ)
"นี่จะนั่งอยู่ทำไม ลงไปได้แล้ว" ภูไล่
"แล้วนายมาที่ไหนเนี้ย" ดาวมองออกไปนอกรถอย่างแปลกใจ ก่อนที่จะเดินลงไป ดาวแหงนมองไปที่ป้ายของคลีนิค
"ลูกเจี๊ยบคลีนิคและเวชกรรม" ดาวอ่านชื่อเงียบ ในขณะที่ภูเดินมาจากข้างหลัง แล้วสะกิดจนดาวสะดุ้ง ทำให้เธอค้อนใส่ภูไปทีนึง
"ยืนบื้ออยู่ทำไม เข้าไปได้แล้ว"
"แต่นี่ คลีนิคยังไม่เปิดเลยนะ" ดาวชี้ไปที่ป้ายหน้าร้านที่บอกว่าเปิด 9.30 น. ในขณะที่ตอนนี้เพิ่งจะแปดโมงเช้าเอง
"แล้วฉันบอกเธอเมื่อไหร่ว่าจะพามาหาหมอ" ว่าแล้วภูก็ลากแขนดาวเข้าไปในคลีนิค คลีนิคเป็นห้องแถวเล็กคูหาเดียว ข้างในมีเคาเตอร์จ่ายยา และม้านั่ง3ที่ ส่วนข้างๆก็มีเก้าอี้พลาสติกซ่อนกันอยู่ตั้งหนึ่ง
"สวัสดีครับป้า พี่เจี๊ยบตื่นหรือยังครับ" ภูกล่าวทักผู้หยิงวัยกลางคนที่กำลังปัดกวาดคลีนิคอยู่ ทำให้ดาวต้องสวัสดีตาม
"สวัสดีจ้าภู ป้าก็ไม่รู้นะว่าเจ้าเจี๊ยบมันตื่นรึยัง ว่าแต่ได้นัดกันไว้ก่อนรึเปล่า" ป้าคนนี้คือป้ากุ๊กเป็นแม่ของพี่เจี๊ยบ ซึ่งเป็นหมอเจ้าของคลีนิคนี้
"เมื่อคืนโทรคุยกันแล้วครับ แต่ไม่รู้ว่าพี่แกจะลืมหรือเปล่า"
"นั่นสิ เมื่อคืนก็กลับมาดึกซะด้วย งั้นเดี๋ยวป้าจะลองไปดูให้นะ" ไม่ทันขาดคำ หมอเจี๊ยบ ที่ยังใส่ชุดนอนลายคิดตี้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง สวมแว่นหนาเตอะ เดินหาวออกมาจากข้างหลังคลีนิค
"ไงภู มาแต่เช้าเชียวนะ" พูดเสร็จพี่เจี๊ยบก็หาวอีกหนึ่งที ซึ่งทำให้ดาวยิ่งสงสัยว่าทำไมภูต้องพาเธอมาหา หมอที่ดูท่าทางเอ๋อๆคนนี้ด้วย
"หวัดดีพี่เจี๊ยบ ดาวคนที่เมื่อคืนผมเล่าให้ฟังไง" หมอเจี๊ยบพยักหน้าแบบมึนๆเหมือนคนไม่สร่างดี คงเป็นเพราะภูโทรไปหาหมอเจี๊ยบตอนที่เธอกำลังเมากลับบ้านพอดี และดูท่าทางเธอก็คงมีเวลานอนไม่ถึง5ชั่วโมงด้วยซ้ำ
"ดาวเดี๋ยวเธอก็ไปคุยกับพี่เจี๊ยบนะ ป้าครับผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ" ภูพูดจบก็ยกมือไหว้แม่ของหมอเจี๊ยบจากนั้นก็เดินออกไป ทิ้งไว้ให้ดาวยืนมองอย่างงงๆ ซึ่งในใจของเธอก็คงผุดคำด่าออกมาอย่างพรั่งพรูเหมือนกัน
"เดี๋ยวเธอก็ตามพี่มาในห้องตรวจเลยละกันนะ" หมอเจี๊ยบพูดจากนั้นก็เดินไปคล้าชุดกาวด์ มาใส่ทับชุดนอนลายคิตตี้ของเธอ ซึ่งดาวก็เดินตามเธอเข้าไปอย่างงงๆ
ในห้องตรวจ ด้วยความที่นั่งใกล้กันมากเหมือนหมอกับคนไข้ ทำให้ดาวได้มองดู "สารรูป"ของหมอเจี๊ยบอย่างละเอียด ผมที่ดูกระเซิง(เพราะเพิ่งตื่นนอน) แว่นตาวงกลมขนาดใหญ่ ชุดนอนที่ใส่ไม่เรียบร้อย และยังรัดติ้วจนหน้าอกแทบจะทะลักออกมา จนทำให้ดาวเผลอกลืนน้ำลายโดยเมื่อรู้ตัว แต่พอย้อนกลับมาดูตัวเอง มันก็ทำให้ดาวได้แต่ถอนหายใจ เพราะเนินดินเตี้ยๆ มันก็สู่เทือกเขาไม่ได้อยู่แล้ว
"เมื่อคืนตอนภูโทรมา พี่ก็มึนๆนิดหน่อย ก็เลยอยากฟังจากปากเธอมากกว่าน่ะ" ดาวได้แต่ตอบด้วยคำว่า "คะ"เพียงคำเดียว คือเธออยากถามด้วยความแน่ใจว่าหมอเจี๊ยบอยากฟังเรื่องอะไรกันแน่
"ก็เรื่องเมื่อคืนไง ที่เธอโดนผีอำน่ะ คงจะกลัวมากล่ะสิถ้า" หมอเจี๊ยบยิงคำถามจี้ใจดำดาว โดยเฉพาะคำว่ากลัว คำที่ยังคาใจเธอจนมาถึงเดี๋ยวนี้ ดาวเล่าเหตุการณืที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้หมอเจี๊ยบฟังทั้งหมด หมอเจี๊ยบฟังอย่างตั้งใจด้วยท่าทางมึนๆ บางครั้งก็พยักหน้า บางครั้งก้หาว จนดาวชักไม่แน่ใจว่าคนๆนี้เป็นหมอจริงๆรึเปล่า
"มิน่าล่ะตาภูถึงสนใจเธอ" คำพูดนี้ของหมอเจี๊ยบทำให้ดาวหน้าแดงโดยไม่รู้ตัว
"นี่พี่จะเล่าอะไรให้ฟัง ว่าแต่ภูพูดถึงเรื่องผู้มีสัมผัสวิญญาณให้ฟังแล้วใช่มั้ย" ดาวพยักหน้า
"พี่น่ะเป็นผู้มีสัมผัสวิญญาณเหมือนกัน แต่ต่างจากของเธอนะ ของเธอคืนการสื่อสารวิญยาณในสภาวะฝัน แต่ของพี่ คือการรับรู้ตัวตนและความรู้สึกเมื่ออยู่คนเดียว" คราวนี้ดาวมีสีหน้าที่ให้ความสนใจมากขึ้น
"ยังไงเหรอคะ หนูไม่เข้าใจ" ดาวถาม แต่หมอเจี๊ยบก็แอบหัวเราะเบาๆด้วยความเอ็นดู
"ก็นะ ในอาณาเขตที่มีวิญญาณ ถ้าพี่อยู่คนเดียว พี่จะรับรู้ถึงตัวตนและอารมณ์ ความรู้สึก ของภูติผี วิญญาณเหล่านั้น แม้จะมองไม่เห็น ไม่ได้ยิน แต่พี่ก็รู้สึกได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ภูก็มาขอให้พี่ช่วย แต่มันก็มีข้อจำกัดนะ พี่ได้แค่รู้ว่ามีเค้า แต่สื่อสารกับเค้าไม่ได้เหมือนกับเธอ" คำพูดของหมอเจี๊ยบ ทำให้ดาวตะลึง บางทีก็คงเพราะเธอเจอคนที่เข้าใจเรื่องที่อธิบายได้ยาก ถึงแม้ว่าเค้าจะเป็นหมอ(ที่ตอนนี้ดูยังไงก็ไม่เหมือนหมอ)ก็ตาม
"ที่ว่าอาณาเขตคืออะไรเหรอคะ อย่างเรื่องบ้านของพี่แก้ม ที่หนูไปตรวจสอบ ตานั่นก็พูดถึงอาณาเขตเหมือนกัน"
"อาณาเขต คือขอบเขตที่วิญญาณนั้นยึดติดอยู่ อาจจะเป็นสถานที่ คน หรือสิ่งของก้ได้ หากวิญญาณมีความยึดติดอยู่ เค้าจะไม่ไปจากอาณาเขตของตัวเอง และสำหรับพี่ หากพี่อยู่คนเดียว ในห้อง ในบ้าน หรือสถานที่ไหนที่มีวิญญาณอยู่พี่ถึงจะสัมผัสได้ นี่ๆพี่มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง"
ดาวทำหน้าสนใจ จากนั้นหมอเจี๊ยบก็เริ่มเล่า
"ตอนปีหนึ่งที่พี่เข้าเรียนหมอ ตอนรับน้องพี่ถูกรุ่นพี่ขังในห้องดับจิตคนเดียวชั่วโมงนึง พี่ก็รู้นะว่าหมอจะกลัวไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นศพ หรือแม้แต่ผี เพราะเราทำงานกับความเป็นความตาย พี่อยู่ในห้องคนเดียว ประตูที่พี่สามารถออกไปได้ทุกเมื่อ แต่มันก็หมายถึงว่าเราเอาชนะความกลัวไม่ได้ และแน่นอนพี่ไม่ได้อยู่คนเดียว พี่รู้ถึงตัวตนของวิญญาณที่ยังติดอยู่กับร่างในห้องดับจิตมากมาย และความรู้สึกเหล่านั้น มีทั้งความเสียใจ ความห่วงหา ความผิดหวัง ความเศร้า ความโกรธ ความเกลียด ความอาฆาต ทุกอย่างที่เป็นอารมณ์ของเค้าเหล่านั้น มันประดังเข้ามาในความรู้สึกพี่ มันทำให้พี่กลัว พี่กลัวจนไม่กล้าที่จะหลับตา เพราะพี่กลัวว่าถ้าพี่หลับตาพี่จะเห็นเค้าเหล่านั้นก็ได้ แต่พี่ก้ผ่านมันมาได้ จนตอนที่พี่จบมาพี่เลือกที่จะเรียนนิติเวช" หมอเจี๊ยบเล่าด้วยสายตาที่เป็นประกายแห่งความภาคภูมิใจ จนดาวสังเกตได้
"แล้วหมอเจี๊ยบผ่านมันมาได้ยังไงเหรอคะ" พอดาวถามหมอเจี๊ยบก้หลุดขำ
"ไม่ต้องเรียกหมอก้ได้ เรียกพี่น่ะดีแล้ว ก็คือพี่มีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าความกลัวน่ะสิ ถ้าพี่ผ่านความกลัวนี้ไปได้ ความฝันที่จะเป้นหมอของพี่นั้นจะรออยู่ แล้วก็นะบางอารมณ์ความรู้สึกของวิญญาณ บางคนก็มีความคับแค้นใจ ถึงแม้เค้าจะตายแล้ว แต่เค้าก็ยังต้องการความยุติธรรม เพราะอย่างนี้พี่ถึงเรียนนิติเวช เพราะพี่จะได้ช่วยเหลือคนตาย ส่วนเวลาว่างเสาร์อาทิตย์ พี่ก็มาเปิดคลีนิครักษาคนเป็นไง"
คำพูดของหมอเจี๊ยบทำให้ดาวรู้สึกฉุกคิดขึ้นมาได้ ชะตากรรมที่น่าสงสารของโหน่ง ความกังวลของพี่แก้ม บางทีเพราะดวงวิญญาณในบ้านนั้น หากเธอยังคงกลัว ความตั้งใจในการช่วยเหลือก็จะถูกละเลย แต่ถ้าเธอเอาชนะมันไปได้ ทุกอย่างก็จะคลี่คลาย
..................................................
ก่อนที่คลีนิคจะเปิด แก้มลาหมอเจี๊ยบกับแม่กลับ เมื่อภูมารับ เธอก็ได้แต่นั่งเงียบตลอดทาง วึ่งภูก็รู้ว่าการที่เธอมาคุยกับหมอเจี๊ยบนั้นทำให้เธอคิดได้แน่ๆ เมื่อภูมาส่งแก้มที่บ้าน พร้อมกับนัดแนะแผนการ กับทุกคน แก้มก็นอนเอาแรงจนประมาณบ่ายทุกคนกลับมารวมตัวที่บ้านพี่แก้มอีกครั้ง ทั้งภู ดาว พ่อของดาว พี่แก้มและลุงดาบ และแผนการณืที่ว่านั้นก็คือดาวจะต้องนอนที่บ้านพี่แก้มคนเดียว ส่วนทุกคนจะรอดูสถานการณ์ในรถตู้ที่มีจอมอนิเตอร์ ที่ถ่ายภาพในบ้าน ซึ่งแผนการณืก็คือ ดาวจะต้องติดต่อ "วิญญาณ" ที่เคยห้ามวิญญาณอื่นมาทำร้ายเธอ เพื่อสอบถามเรื่องราวทั้งหมด ก่อนที่จะแก้ไขต่อไป
ธูปหนึ่งดอกถูกดาวจุดขึ้น ในช่วงหัวค่ำ ดาวนั่งยองๆบริเวณหน้าประตูเข้าบ้านพนมมืออธิฐานเพื่อที่จะสื่อถึงวิญยาณที่เคยช่วยเหลือเธอ
(หากวิญญาณที่ช่วยฉันเมื่อคืนได้รับรู้ คืนนี้ช่วยมาเข้าฝันฉัน ฉันอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด เพื่อที่จะช่วยเหลือทุกๆคน) จากนั้นดาวก็ค่อยๆปักธูปลงบนรอยแตกของพื้นจากนั้นเธอจึงเดินเข้าบ้านไป คนเดียว!
..........................................................
คำผิดทักมาได้ครับจะแก้เรื่อยๆถ้ามีคนอ่านจะมาต่อให้
ตอน1-1 http://ppantip.com/topic/34830541
ตอน1-2 http://ppantip.com/topic/34839276
ตอน1-3 http://ppantip.com/topic/34847169
ตอน1-4 http://ppantip.com/topic/34854680
ตอน1-5 http://ppantip.com/topic/34858760
ตอน1-6 http://ppantip.com/topic/34870989
ตอน1-7 http://ppantip.com/topic/34891549
ตอนต่อไปจะเป็นตอนจบของไฟล์นี้แล้วนะครับ ไม่รู้ว่าจะยาวแค่ไหน แต่ผมจะพยายามให้จบในตอนแต่ไปแน่นอน และหากมีคนยังติดตามอยู่ ไฟล์ต่อไปผมกับตอนยาว "พิธีกรรมสยองขวัญ" ครับ
ตอนต่อไปครับ http://ppantip.com/topic/34961881