ยิ่งเอาอัตตา อนัตตาไปใส่ก็ยิ่งมั่ว
ก็ถ้าพระอรหันต์แม้กระทั่งขันธ์ 5 ก็ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่น แล้วนิพพานจะของใคร เพราะแม้ตัวของผู้เคยยึดก็ไม่ได้ยึดถือว่าเป็นตัวตนแล้ว นิพพานจะของใคร ของเวทนา? ของสัญญา? สังขาร รูป หรือวิญญาณ?
ดังนี้แล้วจะว่านิพพานเป็นอัตตาได้อย่างไร
ส่วนอีกกรณี อนึ่งผู้ถึงนิพพานมีอยู่ นิพพานเป็นของผู้ไม่ยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ 5
ผู้ไม่มีความยึดมั่นถือมั่นแล้ว นิพพานแหละเป็นของผู้นั้น ผู้ที่ไม่ยึดนิพพานแหละถึงนิพพาน ดังนี้จะว่านิพพานเป็นอนัตตาได้อย่างไร
เอาอัตตา เอาอนัตตาไปใส่ก็ยิ่งวุ่น นิพพานก็เป็นนิพพาน ไม่ต้องเอาอะไรไปใส่
ผู้ถึงนิพพานแล้วยังมีใครมีผู้ใดมาพิจารณาอัตตาและอนัตตาอีก ถ้ายังมีใครมีผู้ใดมาพิจารณา ก็แสดงว่ายังไม่ถึงพระนิพพาน ถึงที่สุดแห่งกองทุกข์แล้ว ถึงฝั่งแล้ว อริยมรรคที่ใช้เป็นเรือข้ามฝั่ง เมื่อถึงฝั่งแล้วก็ไม่ต้องใช้เรือแล้ว เป็นอิสระอย่างแท้จริง
เชิญศึกษาเพิ่มเติม จากเว็บหลวงตามหาบัวตามลิงค์ครับ
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1299&CatID=2
นิพพานคือนิพพานเอาอัตตาเอาอนัตตาไปใส่ก็ยิ่งวุ่น
ก็ถ้าพระอรหันต์แม้กระทั่งขันธ์ 5 ก็ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่น แล้วนิพพานจะของใคร เพราะแม้ตัวของผู้เคยยึดก็ไม่ได้ยึดถือว่าเป็นตัวตนแล้ว นิพพานจะของใคร ของเวทนา? ของสัญญา? สังขาร รูป หรือวิญญาณ?
ดังนี้แล้วจะว่านิพพานเป็นอัตตาได้อย่างไร
ส่วนอีกกรณี อนึ่งผู้ถึงนิพพานมีอยู่ นิพพานเป็นของผู้ไม่ยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ 5
ผู้ไม่มีความยึดมั่นถือมั่นแล้ว นิพพานแหละเป็นของผู้นั้น ผู้ที่ไม่ยึดนิพพานแหละถึงนิพพาน ดังนี้จะว่านิพพานเป็นอนัตตาได้อย่างไร
เอาอัตตา เอาอนัตตาไปใส่ก็ยิ่งวุ่น นิพพานก็เป็นนิพพาน ไม่ต้องเอาอะไรไปใส่
ผู้ถึงนิพพานแล้วยังมีใครมีผู้ใดมาพิจารณาอัตตาและอนัตตาอีก ถ้ายังมีใครมีผู้ใดมาพิจารณา ก็แสดงว่ายังไม่ถึงพระนิพพาน ถึงที่สุดแห่งกองทุกข์แล้ว ถึงฝั่งแล้ว อริยมรรคที่ใช้เป็นเรือข้ามฝั่ง เมื่อถึงฝั่งแล้วก็ไม่ต้องใช้เรือแล้ว เป็นอิสระอย่างแท้จริง
เชิญศึกษาเพิ่มเติม จากเว็บหลวงตามหาบัวตามลิงค์ครับ
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1299&CatID=2