หลายคนชมละครแล้ว คงจะพากันไม่ชอบไรวินท์กันไปหมดแล้ว แต่ผมยังเป็นคนหนึ่งที่ยังเข้าใจไรวินท์ สงสัยผมคงต้องไปนั่งหัวเราะคิกคักกับคุณพ่อแรมและคุณพี่วินซะแล้วกระมัง คงจะเข้าท่ากว่ามาเขียนอะไรให้คนด่า แค่อยากขออนุญาตมองในมุมที่แตกต่างบ้างเท่านั้น
สีนวลไม่ใช่ผู้หญิงหรือคนที่น่ารำคาญหรอก แต่ถ้ามองจากในมุมของคุณพี่ไรวินท์ ผมก็เข้าใจนะว่าทำไมคุณพี่เขาถึงรำคาญคุณสีนวล ทั้งที่จริงๆแล้วคุณสีนวลก็ไม่ได้ทำอะไรผิดและเป็นคนที่นิสัยดีคนหนึ่ง
ไรวินท์ ทำหน้าที่ของสามีได้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่การเป็นสามีของไรวินท์ก็ไม่ได้แย่ขนาดที่เขากำลังโดนด่าอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองจากที่มาที่ไปของความสัมพันธ์ เพราะสีนวลอยู่กับไรวินท์นั้น ก็อยู่ในฐานะของคุณนาย ซึ่งสมกับความสามารถที่ไรวินท์สามารถเอื้อให้แก่ภรรยาได้ หาใช่อยู่แบบทาสไม่ เรียกว่าไรวินท์ก็มีนิสัยที่แฟร์และไม่ใช่คนขี้งก รับเขามาเป็นภรรยาแล้วก็ต้องเลี้ยงเขาให้สมแก่ฐานะ ที่ใช้คำว่าเลี้ยง เพราะค่านิยมในสมัยก่อน ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายหาเลี้ยงผู้หญิง
ไรวินท์ให้อิสระกับมีนวลมาก ผมว่าสีนวลมีหน้าที่จริงๆแค่เตรียมอาหารและทำความสะอาดเครื่องแต่งกายให้คุณไรวินท์เท่านั้นแหละ แถมมีคนรับใช้ช่วยทำให้อีกต่างหาก ที่เหลือ เช่น เตรียมน้ำดื่มให้สามีตอนกลับบ้านหรือว่ามาส่งไรวินท์ที่หน้าบ้านทุกเช้า ผมว่าไรวินท์ไม่เคยร้องขอให้ทำ แถมทำท่าบ่งบอกว่าไม่ต้องการอีก แต่สีนวลยังคงทำ เพราะรักสามี
ไรวินท์ไม่เคยไปยุ่มย่ามชีวิตของสีนวลหรือเรื่องส่วนตัวของสีนวล เรียกว่ามีพื้นที่ระหว่างกัน ไม่มาวุ่นวายหรือกำหนดชีวิตกัน สีนวลอยากทำอะไรก็ทำได้ สามีไม่มาคอยควบคุม
แบบนี้เขาเลี้ยงภรรยาไม่ดีตรงไหน Happy เวอร์
แต่สิ่งที่สีนวลอยากได้เพิ่ม มันเป็นอะไรที่จริงๆแล้วควรจะรู้อยู่แก่ใจอะว่า ไม่ควรไปอยากได้มาก
แต่สีนวลรับไม่ได้ไงที่จะให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ เพราะว่าเขารักไรวินท์ พอรักก็เลยอยากได้อะไรบางอย่างเพิ่มที่ไรวินท์ไม่เคยมอบให้ แต่ไรวินท์ก็มอบให้ไม่ได้ เพราะว่าเขาไม่ได้รักสีนวล
ถึงแม้สีนวลจะเป็นคนดี แต่ผมก็เข้าใจไรวินท์นะว่าทำไมเขาถึงรำคาญ คุณนึกออกไหมว่าถ้ามีใครมาอะไรกับคุณมากๆ มาคอยเจ๊าะแจ๊ะ มาคอยวุ่นวายกับชีวิต มาคอยยุ่งว่าคุณจะกลับตอนไหนจะกินอะไรจะทำอะไร ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนที่เราชอบหรือรัก มันจะน่ารำคาญขนาดไหน แค่ยอมแต่งงานด้วย ก็เรียกว่ายอมมากแล้ว เธอได้โปรดอย่ามาวุ่นวายกันให้มากไปกว่านี้ แล้วถ้ายิ่งใครเป็นคนที่รักอิสระหรือมีโลกส่วนตัวสูงนะ ความอดทนมันจะยิ่งไม่เหลือ
สีนวลไม่ได้เป็นลูกน้องหรือเลขาฯ แต่เป็นเมีย ต้องนอนแม้กระทั่งเตียงเดียวกัน คือสำหรับคนที่ไม่ได้ชอบหรือรักกัน ความรู้สึกมันไม่ใช่นะ ที่อยู่ๆเขาสามารถเข้ามาใกล้เราได้มากขนาดนี้ เข้ามายุ่มย่ามกับชีวิตของเราโดยไม่ได้ขอได้มากขนาดนี้ ทั้งที่เขาเป็นแค่คนอื่นที่พึ่งจะเข้ามาในชีวิตของเราเองนะ ที่ไรวินท์พูดไม่ดีกับสีนวล ถ้าไม่ใช่เพราะหมดความอดทน ก็คงเพราะอยากให้สีนวลได้รู้ตัวสักทีว่า หยุดการกระทำได้แล้ว เขาต้องการต่างคนต่างอยู่กับเธอ ปล่อยให้เขาอยู่อย่างที่ไม่เห็นว่ามีเธออยู่เถอะ เรื่องแยกห้องนอนก็ใช่ บางทีมันอาจจะกระอักกระอวนจนจะรับไม่ไหวแล้ว ต้องขอแยกห้องเพื่อพักหายใจด่วน
แต่สีนวลเขาคิดอีกแบบ ความทุกข์ทั้งหมดเนี่ย สีนวลเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง เป็นคนเลือกหนทางของตัวเอง แล้วก็ปล่อยวางไม่เป็นเอง เธอถึงต้องกลายเป็นผีมืด คนอย่างสีนวล ถึงแม้จะเป็นคนดีแต่กิเลสตัณหาของเธอมีมาก ความรักของเธอเธอให้กำเนิดมันขึ้นมาด้วยตัวเธอเองคนเดียว ไม่ได้บ่มเพาะมาร่วมกันกับฝ่ายชาย ซึ่งตรงนี้ผิด concept อยู่แล้ว ไม่พอนะ เธอยังยอมแต่งงานกับไรวินท์ที่เกิดจากการคลุมถุงชน ทั้งที่รู้ว่าผู้ชายไม่เคยมีท่าทีว่าชอบตัวเองอีกต่างหาก คนเราอะเขาขอแต่งงานกันจากเหตุผลล้านแปด ไม่ใช่ว่าใครมาขอแต่งงานหมายถึงเขารักเรา เขาอาจจะแต่งงานเพราะเศรษฐกิจ เพราะอะไรอีกหลายอย่าง ซึ่งกรณีของไรวินท์ ขอแต่งงานเพราะความกตัญญู
ถ้าสีนวลรักตัวเอง ก็ต้องขอดูใจกันหรือดูอะไรให้แน่ชัดก่อน แต่ถ้าคิดจะเลือกอะไรอย่างผิวเผินก็ต้องรับผลที่อาจจะไม่น่าพิสมัยที่ตามมาให้ได้สิ ไม่ใช่คนที่แอบชอบเขามาขอก็แต่งงานเลย แล้วพออะไรไม่เป็นอย่างที่หวังก็มาเสียใจหนัก แล้วคิดไม่ตก ยอมรับไม่ได้ อย่างนี้เขาเรียกว่าไม่คิดจะให้ทางออกแก่ใครเลย แม้กระทั่งตนเอง เรียกว่ามีแต่ความอยากได้ ยกกิเลสตัณหาเป็นใหญ่ อยู่เหนืออย่างอื่น ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้แอบชอบมาขอแต่งงานจะแต่งงานด้วยง่ายๆแบบนี้ไหม
คนเราแค่แอบชอบก็คงลุ่มพอแล้ว นี่ยังเลือกจะไปเป็นเมียเขาอีก เพราะความอยากได้ผู้ชายคนนี้จัด แล้วทีนี้ไม่ยิ่งลุ่มกว่าเดิมเหรอ เพราะสถานะเปลี่ยนมาขนาดนี้ ความอยากเป็นเจ้าของ ความอยากได้อะไรที่กำลังอยากได้อยู่น่ะ มันก็มาอย่างเต็มที่สิครับ แล้วพอไม่ได้ มันก็เจ็บมากใช่ไหม แล้วต้องโทษใครอะ โทษสามีเหรอ จริงๆก็น่าจะโทษความอยากของตัวเองด้วยเหมือนกัน ไรวินท์ใจร้ายกับตัวเองแต่ตัวเองก็น่าจะรู้อยู่แล้วไหมว่าไม่ได้รักกันมาตั้งแต่แรก แล้วเขาให้อะไรกับตัวตั้งมากขนาดนี้ ยังไม่ถือว่าดีอีกหรือ เพราะถ้าจะว่ากันตรงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะความกตัญญูของไรวินท์ ความรักของสีนวลไม่มีทางสมหวังมาได้ขนาดนี้
แต่เพราะความที่สีนวลรักไรวินท์มาก ซึ่งมันไม่ผิดหรอกแต่มันก็ไม่ถูกที่จะเรียกร้องความรักจากอีกฝ่ายทั้งที่ไม่เคยรักกัน ผมก็ไม่ได้ชอบความเจ้าชู้ของไรวินท์นะ คบผู้หญิงพร้อมกันหลายคน ในลักษณะสับรางรถไฟ อันนี้เลวจริง แล้วก็ไม่ได้เห็นดีกับความใจร้ายของไรวินท์ที่มีต่อสีนวล แต่เลือกที่จะเข้าใจมากกว่า เพราะคนเราแตกต่างกัน แต่ในกรณีของสีนวลมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ผมว่ามันไม่ใช่อะ คือผมคิดว่าสีนวลก็เอาแต่ใจของตัวเองเหมือนกัน อาจจะคิดว่าเจ๋งอยู่ในที เพราะได้เป็นเมียตบแต่งแล้ว คุณพี่ก็ควรให้อะไรบางอย่างเพิ่มที่ตัวเองอยากได้ ที่ทำดีอยู่ทุกวันก็อยากให้สามีรัก ซึ่งคงยาก
ไม่เห็นด้วยอย่าว่ากันครับ
ข้อคิดจากเรื่องนี้คงจะเป็น การใช้ชีวิตอย่างมีสติ
มองในมุมที่แตกต่าง ไรวินท์ เจ้าบ้าน เจ้าเรือน
สีนวลไม่ใช่ผู้หญิงหรือคนที่น่ารำคาญหรอก แต่ถ้ามองจากในมุมของคุณพี่ไรวินท์ ผมก็เข้าใจนะว่าทำไมคุณพี่เขาถึงรำคาญคุณสีนวล ทั้งที่จริงๆแล้วคุณสีนวลก็ไม่ได้ทำอะไรผิดและเป็นคนที่นิสัยดีคนหนึ่ง
ไรวินท์ ทำหน้าที่ของสามีได้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่การเป็นสามีของไรวินท์ก็ไม่ได้แย่ขนาดที่เขากำลังโดนด่าอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองจากที่มาที่ไปของความสัมพันธ์ เพราะสีนวลอยู่กับไรวินท์นั้น ก็อยู่ในฐานะของคุณนาย ซึ่งสมกับความสามารถที่ไรวินท์สามารถเอื้อให้แก่ภรรยาได้ หาใช่อยู่แบบทาสไม่ เรียกว่าไรวินท์ก็มีนิสัยที่แฟร์และไม่ใช่คนขี้งก รับเขามาเป็นภรรยาแล้วก็ต้องเลี้ยงเขาให้สมแก่ฐานะ ที่ใช้คำว่าเลี้ยง เพราะค่านิยมในสมัยก่อน ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายหาเลี้ยงผู้หญิง
ไรวินท์ให้อิสระกับมีนวลมาก ผมว่าสีนวลมีหน้าที่จริงๆแค่เตรียมอาหารและทำความสะอาดเครื่องแต่งกายให้คุณไรวินท์เท่านั้นแหละ แถมมีคนรับใช้ช่วยทำให้อีกต่างหาก ที่เหลือ เช่น เตรียมน้ำดื่มให้สามีตอนกลับบ้านหรือว่ามาส่งไรวินท์ที่หน้าบ้านทุกเช้า ผมว่าไรวินท์ไม่เคยร้องขอให้ทำ แถมทำท่าบ่งบอกว่าไม่ต้องการอีก แต่สีนวลยังคงทำ เพราะรักสามี
ไรวินท์ไม่เคยไปยุ่มย่ามชีวิตของสีนวลหรือเรื่องส่วนตัวของสีนวล เรียกว่ามีพื้นที่ระหว่างกัน ไม่มาวุ่นวายหรือกำหนดชีวิตกัน สีนวลอยากทำอะไรก็ทำได้ สามีไม่มาคอยควบคุม
แบบนี้เขาเลี้ยงภรรยาไม่ดีตรงไหน Happy เวอร์
แต่สิ่งที่สีนวลอยากได้เพิ่ม มันเป็นอะไรที่จริงๆแล้วควรจะรู้อยู่แก่ใจอะว่า ไม่ควรไปอยากได้มาก
แต่สีนวลรับไม่ได้ไงที่จะให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ เพราะว่าเขารักไรวินท์ พอรักก็เลยอยากได้อะไรบางอย่างเพิ่มที่ไรวินท์ไม่เคยมอบให้ แต่ไรวินท์ก็มอบให้ไม่ได้ เพราะว่าเขาไม่ได้รักสีนวล
ถึงแม้สีนวลจะเป็นคนดี แต่ผมก็เข้าใจไรวินท์นะว่าทำไมเขาถึงรำคาญ คุณนึกออกไหมว่าถ้ามีใครมาอะไรกับคุณมากๆ มาคอยเจ๊าะแจ๊ะ มาคอยวุ่นวายกับชีวิต มาคอยยุ่งว่าคุณจะกลับตอนไหนจะกินอะไรจะทำอะไร ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนที่เราชอบหรือรัก มันจะน่ารำคาญขนาดไหน แค่ยอมแต่งงานด้วย ก็เรียกว่ายอมมากแล้ว เธอได้โปรดอย่ามาวุ่นวายกันให้มากไปกว่านี้ แล้วถ้ายิ่งใครเป็นคนที่รักอิสระหรือมีโลกส่วนตัวสูงนะ ความอดทนมันจะยิ่งไม่เหลือ
สีนวลไม่ได้เป็นลูกน้องหรือเลขาฯ แต่เป็นเมีย ต้องนอนแม้กระทั่งเตียงเดียวกัน คือสำหรับคนที่ไม่ได้ชอบหรือรักกัน ความรู้สึกมันไม่ใช่นะ ที่อยู่ๆเขาสามารถเข้ามาใกล้เราได้มากขนาดนี้ เข้ามายุ่มย่ามกับชีวิตของเราโดยไม่ได้ขอได้มากขนาดนี้ ทั้งที่เขาเป็นแค่คนอื่นที่พึ่งจะเข้ามาในชีวิตของเราเองนะ ที่ไรวินท์พูดไม่ดีกับสีนวล ถ้าไม่ใช่เพราะหมดความอดทน ก็คงเพราะอยากให้สีนวลได้รู้ตัวสักทีว่า หยุดการกระทำได้แล้ว เขาต้องการต่างคนต่างอยู่กับเธอ ปล่อยให้เขาอยู่อย่างที่ไม่เห็นว่ามีเธออยู่เถอะ เรื่องแยกห้องนอนก็ใช่ บางทีมันอาจจะกระอักกระอวนจนจะรับไม่ไหวแล้ว ต้องขอแยกห้องเพื่อพักหายใจด่วน
แต่สีนวลเขาคิดอีกแบบ ความทุกข์ทั้งหมดเนี่ย สีนวลเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง เป็นคนเลือกหนทางของตัวเอง แล้วก็ปล่อยวางไม่เป็นเอง เธอถึงต้องกลายเป็นผีมืด คนอย่างสีนวล ถึงแม้จะเป็นคนดีแต่กิเลสตัณหาของเธอมีมาก ความรักของเธอเธอให้กำเนิดมันขึ้นมาด้วยตัวเธอเองคนเดียว ไม่ได้บ่มเพาะมาร่วมกันกับฝ่ายชาย ซึ่งตรงนี้ผิด concept อยู่แล้ว ไม่พอนะ เธอยังยอมแต่งงานกับไรวินท์ที่เกิดจากการคลุมถุงชน ทั้งที่รู้ว่าผู้ชายไม่เคยมีท่าทีว่าชอบตัวเองอีกต่างหาก คนเราอะเขาขอแต่งงานกันจากเหตุผลล้านแปด ไม่ใช่ว่าใครมาขอแต่งงานหมายถึงเขารักเรา เขาอาจจะแต่งงานเพราะเศรษฐกิจ เพราะอะไรอีกหลายอย่าง ซึ่งกรณีของไรวินท์ ขอแต่งงานเพราะความกตัญญู
ถ้าสีนวลรักตัวเอง ก็ต้องขอดูใจกันหรือดูอะไรให้แน่ชัดก่อน แต่ถ้าคิดจะเลือกอะไรอย่างผิวเผินก็ต้องรับผลที่อาจจะไม่น่าพิสมัยที่ตามมาให้ได้สิ ไม่ใช่คนที่แอบชอบเขามาขอก็แต่งงานเลย แล้วพออะไรไม่เป็นอย่างที่หวังก็มาเสียใจหนัก แล้วคิดไม่ตก ยอมรับไม่ได้ อย่างนี้เขาเรียกว่าไม่คิดจะให้ทางออกแก่ใครเลย แม้กระทั่งตนเอง เรียกว่ามีแต่ความอยากได้ ยกกิเลสตัณหาเป็นใหญ่ อยู่เหนืออย่างอื่น ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้แอบชอบมาขอแต่งงานจะแต่งงานด้วยง่ายๆแบบนี้ไหม
คนเราแค่แอบชอบก็คงลุ่มพอแล้ว นี่ยังเลือกจะไปเป็นเมียเขาอีก เพราะความอยากได้ผู้ชายคนนี้จัด แล้วทีนี้ไม่ยิ่งลุ่มกว่าเดิมเหรอ เพราะสถานะเปลี่ยนมาขนาดนี้ ความอยากเป็นเจ้าของ ความอยากได้อะไรที่กำลังอยากได้อยู่น่ะ มันก็มาอย่างเต็มที่สิครับ แล้วพอไม่ได้ มันก็เจ็บมากใช่ไหม แล้วต้องโทษใครอะ โทษสามีเหรอ จริงๆก็น่าจะโทษความอยากของตัวเองด้วยเหมือนกัน ไรวินท์ใจร้ายกับตัวเองแต่ตัวเองก็น่าจะรู้อยู่แล้วไหมว่าไม่ได้รักกันมาตั้งแต่แรก แล้วเขาให้อะไรกับตัวตั้งมากขนาดนี้ ยังไม่ถือว่าดีอีกหรือ เพราะถ้าจะว่ากันตรงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะความกตัญญูของไรวินท์ ความรักของสีนวลไม่มีทางสมหวังมาได้ขนาดนี้
แต่เพราะความที่สีนวลรักไรวินท์มาก ซึ่งมันไม่ผิดหรอกแต่มันก็ไม่ถูกที่จะเรียกร้องความรักจากอีกฝ่ายทั้งที่ไม่เคยรักกัน ผมก็ไม่ได้ชอบความเจ้าชู้ของไรวินท์นะ คบผู้หญิงพร้อมกันหลายคน ในลักษณะสับรางรถไฟ อันนี้เลวจริง แล้วก็ไม่ได้เห็นดีกับความใจร้ายของไรวินท์ที่มีต่อสีนวล แต่เลือกที่จะเข้าใจมากกว่า เพราะคนเราแตกต่างกัน แต่ในกรณีของสีนวลมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ผมว่ามันไม่ใช่อะ คือผมคิดว่าสีนวลก็เอาแต่ใจของตัวเองเหมือนกัน อาจจะคิดว่าเจ๋งอยู่ในที เพราะได้เป็นเมียตบแต่งแล้ว คุณพี่ก็ควรให้อะไรบางอย่างเพิ่มที่ตัวเองอยากได้ ที่ทำดีอยู่ทุกวันก็อยากให้สามีรัก ซึ่งคงยาก
ไม่เห็นด้วยอย่าว่ากันครับ
ข้อคิดจากเรื่องนี้คงจะเป็น การใช้ชีวิตอย่างมีสติ