"ในปี 2567 วารี มีลูก 1 คนชื่อมิน และได้แต่งงานกับสามีที่เป็นตำรวจ ตอนหลัง วารีพยายามจะหนีสามีตัวเองที่ทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด แต่พามิน ลูกสาวหนีไปด้วย โดยเป้าหมายคือ บ้านเก่าที่แม่ของวารีได้ทิ้งเอาไว้ แม่ของวารีก็คือ พนิดา นั่นเอง วารีและมินได้เข้าบ้านและเจอเหตุการ์ณประหลาด ๆ ในบ้าน มินได้เจอผีผู้หญิงตาแดง ๆ และได้หายตัวไปอย่างปริศนา วารีตกใจที่ลูกสาวหายไป เธอจึงประกาศให้ตำรวจช่วยตามหา แต่ก็ไม่พบ คืนนึงเธอได้เจอเรื่องแปลกประหลาดเมื่อได้ยินเสียงเด็กนับ 1-20 ในบ้านตัวเอง เธอตามเสียงนั้น ก่อนหลุดไปอีกมิติหนึ่ง
ด้านปี 2535 พนิดา เป็นวิศวกร ทำอาชีพเกี่ยวกับดูแลการไฟฟ้าของเขื่อน ณ จังหวัดพังงา เธอเป็นเสาหลักของบ้านที่หาเงินดูแลครอบครัว เธอมีสามีและลูกสาวที่น่ารักคนหนึ่ง ด้วยความที่เธอต้องทำงานคนเดียว ทำให้เกิดปัญหากับสามีอยู่บ่อยครั้ง เธอมักละเลยการดูแลลูกสาวตัวเองอยู่เสมอ ๆ จนกระทั่งวันนึงครอบครัวของเธอได้ไปเที่ยวและเดินทางไปยังทะเล ก่อนมีปากมีเสียง พนิดาลงออกจากรถ ก่อนจะหันกลับไปพบเห็น รถสิบล้อชนรถสามีที่มีลูกสาวตัวเองเสียชีวิต
พนิดาเสียใจมากที่ตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวตัวเองเสียชีวิต เธอได้กลับไปยังโรงงานเพื่อทำหน้าที่วิศวะ และใช้เครื่องมือปั่นไฟฟ้า แต่พบเจอเมฆประหลาดที่จู่ ๆ ก็มีรองเท้าส้นสูงที่ข้อส้นหักไว้ตกลงมา วันเวลาผ่านไป พนิดาเสียใจจนไม่สามารถอยู่ต่อได้ เธอจึงตั้งใจจะไปกระโดดที่เขื่อน ระหว่างที่จะฆ่าตัวตาย รองเท้าส้นสูงของเธอดันหักและตกลงไปข้างล่างที่จู่ๆ ก็มีเมฆประหลาดๆเกิดขึ้นมา เธอจึงประติดประต่อกัน จึงเข้าใจว่า เมฆนั้นเกิดจากเครื่องมือที่เธอใช้งานในโรงงาน พนิดาจึงนำเครื่องมือเหล่านั้นมาติดตั้งที่บ้านตัวเอง และทดลองในห้องใต้ดินลึกลับ เพื่อหวังว่า ครอบครัวเธอจะกลับมาในวันที่เกิดเหตุการ์ณ
เธอทดลองหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่ง จู่ ๆ ก็มีร่างเด็กตกลงมาในห้องทดลอง เด็กคนนั้นคือ มิน ลูกสาวของวารี พนิดารู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้มาก จึงรับเลี้ยงเด็กคนนี้ และบอกทุกคนให้เข้าใจว่า มิน คือลูกสาวของตัวเอง ต่อมา วารีได้หลุดมาในมิติเดียวกันกับมิน ได้เจอกับพนิดาในห้องลึกลับ และเรียกว่า แม่ พนิดาตกใจมากและคิดว่าเป็นผู้หญิงฟั่นเฟือน ก่อนจะขัดขวางทุกทางไม่ให้ วารี เจอกับมิน สุดท้ายพนิดาได้ฆ่าวารีตกชั้น 2 ตาย ก่อนจะหนีออกจากบ้านหลังนั้นไปพร้อมกับมินที่ความทรงจำได้หายไป จากการตกใจที่มีการตายภายในบ้าน
ผ่านไป 30 ปี พนิดาเลี้ยงดูมินจนเติบโต และพบว่า มินก็คือ วารี คนที่เธอได้ฆ่าเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ทำให้เธอรู้ว่า คนที่มาหาเธอเมื่อ 30 ปีก่อน ก็คือ มิน คนเดียวกับที่เธอเลี้ยงตอนนี้ ก่อนจบด้วยวลีเท่ ๆ ว่า
..
อย่ากลับบ้าน
"
เปิดความเข้าใจ ซีรีส์ 'อย่ากลับบ้าน' ซีรีส์ดังที่สุดของประเทศไทย ณ 2024
ด้านปี 2535 พนิดา เป็นวิศวกร ทำอาชีพเกี่ยวกับดูแลการไฟฟ้าของเขื่อน ณ จังหวัดพังงา เธอเป็นเสาหลักของบ้านที่หาเงินดูแลครอบครัว เธอมีสามีและลูกสาวที่น่ารักคนหนึ่ง ด้วยความที่เธอต้องทำงานคนเดียว ทำให้เกิดปัญหากับสามีอยู่บ่อยครั้ง เธอมักละเลยการดูแลลูกสาวตัวเองอยู่เสมอ ๆ จนกระทั่งวันนึงครอบครัวของเธอได้ไปเที่ยวและเดินทางไปยังทะเล ก่อนมีปากมีเสียง พนิดาลงออกจากรถ ก่อนจะหันกลับไปพบเห็น รถสิบล้อชนรถสามีที่มีลูกสาวตัวเองเสียชีวิต
พนิดาเสียใจมากที่ตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวตัวเองเสียชีวิต เธอได้กลับไปยังโรงงานเพื่อทำหน้าที่วิศวะ และใช้เครื่องมือปั่นไฟฟ้า แต่พบเจอเมฆประหลาดที่จู่ ๆ ก็มีรองเท้าส้นสูงที่ข้อส้นหักไว้ตกลงมา วันเวลาผ่านไป พนิดาเสียใจจนไม่สามารถอยู่ต่อได้ เธอจึงตั้งใจจะไปกระโดดที่เขื่อน ระหว่างที่จะฆ่าตัวตาย รองเท้าส้นสูงของเธอดันหักและตกลงไปข้างล่างที่จู่ๆ ก็มีเมฆประหลาดๆเกิดขึ้นมา เธอจึงประติดประต่อกัน จึงเข้าใจว่า เมฆนั้นเกิดจากเครื่องมือที่เธอใช้งานในโรงงาน พนิดาจึงนำเครื่องมือเหล่านั้นมาติดตั้งที่บ้านตัวเอง และทดลองในห้องใต้ดินลึกลับ เพื่อหวังว่า ครอบครัวเธอจะกลับมาในวันที่เกิดเหตุการ์ณ
เธอทดลองหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่ง จู่ ๆ ก็มีร่างเด็กตกลงมาในห้องทดลอง เด็กคนนั้นคือ มิน ลูกสาวของวารี พนิดารู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้มาก จึงรับเลี้ยงเด็กคนนี้ และบอกทุกคนให้เข้าใจว่า มิน คือลูกสาวของตัวเอง ต่อมา วารีได้หลุดมาในมิติเดียวกันกับมิน ได้เจอกับพนิดาในห้องลึกลับ และเรียกว่า แม่ พนิดาตกใจมากและคิดว่าเป็นผู้หญิงฟั่นเฟือน ก่อนจะขัดขวางทุกทางไม่ให้ วารี เจอกับมิน สุดท้ายพนิดาได้ฆ่าวารีตกชั้น 2 ตาย ก่อนจะหนีออกจากบ้านหลังนั้นไปพร้อมกับมินที่ความทรงจำได้หายไป จากการตกใจที่มีการตายภายในบ้าน
ผ่านไป 30 ปี พนิดาเลี้ยงดูมินจนเติบโต และพบว่า มินก็คือ วารี คนที่เธอได้ฆ่าเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ทำให้เธอรู้ว่า คนที่มาหาเธอเมื่อ 30 ปีก่อน ก็คือ มิน คนเดียวกับที่เธอเลี้ยงตอนนี้ ก่อนจบด้วยวลีเท่ ๆ ว่า
..
อย่ากลับบ้าน
"