
- ดูจบเกิดอยากกินขนมปังแต่ละหน้าที่ตัว 2 สามีภรรยาลงมือทำอย่างพิถีพิถันขึ้นมาทันที ถึงจะไม่ได้ถ่ายวิธีการทำทุกอิริยาบถแต่การได้เห็นขั้นตอนแบบรวบรัดก็ทำให้ผมซึมซับในอรรถรสของเสน่ห์ปลายจวักกับความอ่อนน้อมถ่อมตนจนเจริญอาหารตามขึ้นมาแทนที่มัวจะไปนั่งทราบซึ้งกับคำพูดที่ถูกประดิษฐ์จากความคิดแต่จับต้องไม่ได้เพราะปลิวหายไปกับสายลมก่อนเมื่อเทียบกับสิ่งที่ตัว 2 สามีภรรยาได้ต้อนรับและบริการบรรดาลูกค้าแต่ละคนเสมือนว่าที่นี่คือบ้านของคุณที่มันเห็นภาพในหลายมุมมากกว่า

- ภาพรวมที่ประมวลในเวลา 1 ชั่วโมง 56 นาที จะเน้นไปที่การช่วยเหลือลูกค้าแต่ละ case ที่ตัว 2 สามีภรรยาเจ้าของร้านคาเฟ่บ้านไร่ได้ต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและท่าทีอบอุ่นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งแต่ละ Case ประกอบด้วย สาวเมืองกรุงพบกับหนุ่มบ้านนาจนเกิดความรัก , เด็กสาวที่มีปัญหาไม่ลงรอยกับพ่อของตนเอง และ สามีภรรยาวัยชราที่มาเที่ยวพักผ่อนเป็นครั้งสุดท้าย โดยแต่ละ Case จะมีโทนค่อนข้างหลากหลายในอารมณ์ Feel Good ให้ชวนจิ้นและเผลอน้ำตาซึ้งออกมาว่าเป็นใคร ? มาจากไหน ? มีความในใจอะไรทำไมมานั่งพักใจในร้านแห่งนี้มันเลยเห็นการ Action ที่ชัดกว่าปมของ 2 สามีภรรยาแถมโดนความเรื่อยเปื่อยไม่โดดไปทางอารมณ์ใดให้ชัดแจ้งตาม Feel หนังญี่ปุ่นสำทับอีกกระทงกลายเป็นว่าเส้นเรื่องที่อุตส่าห์ปูไว้เรียกแขกแต่ต้นถูกพัดหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไว

- หลังจากแนะนำปมของ 2 สามีภรรยาผสมเสียงตามสายในรูปแบบบรรยายกระทั่งมีสาวเมืองกรุงคนหนึ่งเดินหิ้วกระเป๋าเข้ามาในร้านยังจูนไม่ติดว่าเรื่องจะ Run ไปทิศทางไหน ? เพราะหนังยังอยู่ในช่วงอารัมภบทกับการประเคนแต่ละสิ่งพร้อมกับแวะไปสำรวจปมในใจของตัวภรรยาจนสับสนว่าตกลงจะให้กูโฟกัสอะไรก่อนแถมจังหวะการเล่าก็ Slow ไม่เลิกเลยดูเชื่องช้าไปใหญ่ กว่าจะผ่านไปได้แต่ละ Scene หาวแล้วหาวอีกคล้ายจะวูบแต่ไม่ถึงกับหลับเพราะได้สภาพแวดล้อมเป็นมิตรช่วยดึงดูดสายตาให้ตื่นกับสิ่งรอบตัวจนกระทั่งถึงตอนที่สาวเมืองกรุงกำลังจะเดินทางกลับจนมาเจอกับหนุ่มบ้านนาแว้นมอเตอร์ไซต์ผ่านมาพอดีแล้วเขาขออาสาขี่รถมอไซต์ไปส่งเธอถึงที่ เท่านั้นแหล่ะก็เริ่มจูนติดทันทีว่ากูควรจะโฟกัสอะไรต่อจากนี้

- พอเริ่มเข้าที่ตัวหนังยังคงทำหน้าที่ Slow ตามหน้าเหตุการณ์ที่เริ่มจับจุดแล้วว่ายังสาละวนอยู่แต่คาเฟ่ไปอย่างซื่อสัตย์ มีแวะไปดูข้างนอกประปรายแต่ไม่ได้มีเหตุการณ์ทำให้เกิดความตื่นเต้นเลยทำให้สิ่งที่ใส่มาทั้งการปรากฎตัวของเด็กสาวหรือสามีภรรยาชรารวมถึงการทำขนมปังที่จำไม่ได้ว่าหน้าอะไรแต่เห็นแล้วหิวชิหายค่อย ๆ กระจายตัวไปกับบรรยากาศที่รายล้อมด้วยทุ่งหญ้าสะวันนาและภูเขาแล้วหายวับไปกับตาขณะเดียวกันมันก็ครอบคลุมในความจำกัดขอบของตัวละครก็ดีหรือตัว Location ที่ใช้ทรัพยากรได้คุ้ม อีกทั้งสัญญะที่ซ่อนอยู่มันสื่อความหมายในแง่ของปรัชญาการใช้ชีวิต การเห็นใจ การให้กำลังใจในความเป็นมนุษย์ปุถุชนออกมาได้ลึกซึ้งกินใจดี

- แม้แต่ละ case ที่ 2 สามีภรรยาปะทะจะหาทางเคลียร์จนราบรื่นจนคิดในใจว่าทำไมมันง่ายอะไรขนาดนั้น ? ทั้งที่ปัญหาบาง Case มีท่าทีหนักหนาเอาเรื่องอยู่ ถึงบทสรุปก่อนจากไม่กี่อึดใจมันทิ้งทวนในแง่ของความหมายผ่านมวลความรู้สึกของ 2 สามีภรรยาเป็นปลายเปิดได้ประทับใจแต่ยังขาดเหตุผลในแง่ของตรรกะอยู่ว่าทำไมถึงมองโลกในแง่ดี ? รู้จักกันยังไง ? ทำไมเปิดร้านร่วมกัน ? ซึ่งตรงนี้ยังคลุมเครือเป็นปริศนาธรรมจนแทบไม่เห็นความรู้สึกอีกมุมนอกเหนือจากการปั้นหน้ายิ้มเหมือนกับตาลุงใน Perfect Days (2023) แต่ไม่ปฏิเสธว่าสารที่ส่งมามันสื่อตรงตามชื่อเรื่องได้อย่างครอบคลุมเช่นกันว่า ความสุข คืออะไร ? มันมีหน้าตาเป็นอย่างไร ? ทำไมคนถึงต้องการมันนัก ? ถ้าถามคนหลายล้านแน่นอนว่าแต่ละคนก็ตอบในมุมที่รู้สึกในขณะนั้นซึ่งอาจถูกใจและไม่ถูกใจก็ได้ ทั้งนี้คำตอบจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่เราจะค้นหา ตีความ และ กำหนดด้วยตัวเราเอง

ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ : EMistique
ชื่อสินค้า: Review By EMistique
[CR] No.151 Bread of Happiness (2012) : ความสุข หอมกรุ่นจากเตา ด้วย 2 ใจของเรา
- ดูจบเกิดอยากกินขนมปังแต่ละหน้าที่ตัว 2 สามีภรรยาลงมือทำอย่างพิถีพิถันขึ้นมาทันที ถึงจะไม่ได้ถ่ายวิธีการทำทุกอิริยาบถแต่การได้เห็นขั้นตอนแบบรวบรัดก็ทำให้ผมซึมซับในอรรถรสของเสน่ห์ปลายจวักกับความอ่อนน้อมถ่อมตนจนเจริญอาหารตามขึ้นมาแทนที่มัวจะไปนั่งทราบซึ้งกับคำพูดที่ถูกประดิษฐ์จากความคิดแต่จับต้องไม่ได้เพราะปลิวหายไปกับสายลมก่อนเมื่อเทียบกับสิ่งที่ตัว 2 สามีภรรยาได้ต้อนรับและบริการบรรดาลูกค้าแต่ละคนเสมือนว่าที่นี่คือบ้านของคุณที่มันเห็นภาพในหลายมุมมากกว่า
- ภาพรวมที่ประมวลในเวลา 1 ชั่วโมง 56 นาที จะเน้นไปที่การช่วยเหลือลูกค้าแต่ละ case ที่ตัว 2 สามีภรรยาเจ้าของร้านคาเฟ่บ้านไร่ได้ต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและท่าทีอบอุ่นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งแต่ละ Case ประกอบด้วย สาวเมืองกรุงพบกับหนุ่มบ้านนาจนเกิดความรัก , เด็กสาวที่มีปัญหาไม่ลงรอยกับพ่อของตนเอง และ สามีภรรยาวัยชราที่มาเที่ยวพักผ่อนเป็นครั้งสุดท้าย โดยแต่ละ Case จะมีโทนค่อนข้างหลากหลายในอารมณ์ Feel Good ให้ชวนจิ้นและเผลอน้ำตาซึ้งออกมาว่าเป็นใคร ? มาจากไหน ? มีความในใจอะไรทำไมมานั่งพักใจในร้านแห่งนี้มันเลยเห็นการ Action ที่ชัดกว่าปมของ 2 สามีภรรยาแถมโดนความเรื่อยเปื่อยไม่โดดไปทางอารมณ์ใดให้ชัดแจ้งตาม Feel หนังญี่ปุ่นสำทับอีกกระทงกลายเป็นว่าเส้นเรื่องที่อุตส่าห์ปูไว้เรียกแขกแต่ต้นถูกพัดหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไว
- หลังจากแนะนำปมของ 2 สามีภรรยาผสมเสียงตามสายในรูปแบบบรรยายกระทั่งมีสาวเมืองกรุงคนหนึ่งเดินหิ้วกระเป๋าเข้ามาในร้านยังจูนไม่ติดว่าเรื่องจะ Run ไปทิศทางไหน ? เพราะหนังยังอยู่ในช่วงอารัมภบทกับการประเคนแต่ละสิ่งพร้อมกับแวะไปสำรวจปมในใจของตัวภรรยาจนสับสนว่าตกลงจะให้กูโฟกัสอะไรก่อนแถมจังหวะการเล่าก็ Slow ไม่เลิกเลยดูเชื่องช้าไปใหญ่ กว่าจะผ่านไปได้แต่ละ Scene หาวแล้วหาวอีกคล้ายจะวูบแต่ไม่ถึงกับหลับเพราะได้สภาพแวดล้อมเป็นมิตรช่วยดึงดูดสายตาให้ตื่นกับสิ่งรอบตัวจนกระทั่งถึงตอนที่สาวเมืองกรุงกำลังจะเดินทางกลับจนมาเจอกับหนุ่มบ้านนาแว้นมอเตอร์ไซต์ผ่านมาพอดีแล้วเขาขออาสาขี่รถมอไซต์ไปส่งเธอถึงที่ เท่านั้นแหล่ะก็เริ่มจูนติดทันทีว่ากูควรจะโฟกัสอะไรต่อจากนี้
- พอเริ่มเข้าที่ตัวหนังยังคงทำหน้าที่ Slow ตามหน้าเหตุการณ์ที่เริ่มจับจุดแล้วว่ายังสาละวนอยู่แต่คาเฟ่ไปอย่างซื่อสัตย์ มีแวะไปดูข้างนอกประปรายแต่ไม่ได้มีเหตุการณ์ทำให้เกิดความตื่นเต้นเลยทำให้สิ่งที่ใส่มาทั้งการปรากฎตัวของเด็กสาวหรือสามีภรรยาชรารวมถึงการทำขนมปังที่จำไม่ได้ว่าหน้าอะไรแต่เห็นแล้วหิวชิหายค่อย ๆ กระจายตัวไปกับบรรยากาศที่รายล้อมด้วยทุ่งหญ้าสะวันนาและภูเขาแล้วหายวับไปกับตาขณะเดียวกันมันก็ครอบคลุมในความจำกัดขอบของตัวละครก็ดีหรือตัว Location ที่ใช้ทรัพยากรได้คุ้ม อีกทั้งสัญญะที่ซ่อนอยู่มันสื่อความหมายในแง่ของปรัชญาการใช้ชีวิต การเห็นใจ การให้กำลังใจในความเป็นมนุษย์ปุถุชนออกมาได้ลึกซึ้งกินใจดี
- แม้แต่ละ case ที่ 2 สามีภรรยาปะทะจะหาทางเคลียร์จนราบรื่นจนคิดในใจว่าทำไมมันง่ายอะไรขนาดนั้น ? ทั้งที่ปัญหาบาง Case มีท่าทีหนักหนาเอาเรื่องอยู่ ถึงบทสรุปก่อนจากไม่กี่อึดใจมันทิ้งทวนในแง่ของความหมายผ่านมวลความรู้สึกของ 2 สามีภรรยาเป็นปลายเปิดได้ประทับใจแต่ยังขาดเหตุผลในแง่ของตรรกะอยู่ว่าทำไมถึงมองโลกในแง่ดี ? รู้จักกันยังไง ? ทำไมเปิดร้านร่วมกัน ? ซึ่งตรงนี้ยังคลุมเครือเป็นปริศนาธรรมจนแทบไม่เห็นความรู้สึกอีกมุมนอกเหนือจากการปั้นหน้ายิ้มเหมือนกับตาลุงใน Perfect Days (2023) แต่ไม่ปฏิเสธว่าสารที่ส่งมามันสื่อตรงตามชื่อเรื่องได้อย่างครอบคลุมเช่นกันว่า ความสุข คืออะไร ? มันมีหน้าตาเป็นอย่างไร ? ทำไมคนถึงต้องการมันนัก ? ถ้าถามคนหลายล้านแน่นอนว่าแต่ละคนก็ตอบในมุมที่รู้สึกในขณะนั้นซึ่งอาจถูกใจและไม่ถูกใจก็ได้ ทั้งนี้คำตอบจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่เราจะค้นหา ตีความ และ กำหนดด้วยตัวเราเอง
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ : EMistique
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้