ซาอุดีอาระเบียมีแผนจะปฏิรูปเศรษฐกิจด้วยการลดตำแหน่งงานในรัฐวิสาหกิจที่ไร้ประสิทธิภาพ แล้วย้ายคนไปทำงานในภาคเอกชน     แต่การจ้างงานสุทธิเมื่อปีก่อนเพิ่มขึ้นเพียง 49,000 ตำแหน่ง ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2542  และต่ำกว่าที่ต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 226,000 ตำแหน่ง เพื่อรองรับผู้เข้าสู่ตลาดงานหน้าใหม่

ขณะที่จำนวนคนวัยทำงานที่ว่างงานเพิ่มขึ้นถึง 85,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว นักวิชาการวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์และลอนดอน (แอลเอสอี) ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียจ้างงานภาครัฐลดลงเพราะต้องรัดเข็มขัด ขณะที่ภาคเอกชนก็เริ่มซบเซา ปัญหาขณะนี้จึงเป็นเรื่องการไม่มีงานทำ


ชาวซาอุดีอาระเบียพึ่งพาการสนับสนุนของรัฐบาลมาโดยตลอด จึงยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐบาลขาดดุลการคลัง 367,000 ล้านริยาล (ราว 3.46 ล้านล้านบาท) เมื่อปีก่อนก็ตาม     

อย่างไรก็ดี ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเริ่มส่งผลต่อการจ้างงานแล้ว ปีที่แล้วรัฐบาลจ้างงานใหม่เพียง 93,000 ตำแหน่ง ลดลง 10,000 ตำแหน่งจากปีก่อนหน้านั้น ขณะที่ภาคเอกชนจ้างงานลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มการปฏิรูปตลาดแรงงานในปี 2554 ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมันจ้างพนักงานต่างชาติเพิ่มขึ้นเพียง 369,000 คน น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 และจ้างงานคนท้องถิ่นลดลง 43,000 คน


ร่างงบประมาณประจำปีนี้เสนอลดค่าใช้จ่ายลง 135,000 ล้านริยาล (ราว 1.27 ล้านล้านบาท) เป็นการตัดลดค่าใช้จ่ายประจำประเภทเงินเดือนและสวัสดิการ ซึ่งหมายความว่าจะมีการจ้างงานลดลง   ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของซาอุดีอาระเบียจะขยายตัวเพียงร้อยละ 1.2 ต่ำกว่าที่ธนาคารกลางซาอุดีอาระเบียคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/690002