10 วิธีเผาผลาญพลังงานให้ได้ 500 แคลอรี่

กระทู้สนทนา
เมื่อปัญหาความอ้วนมีไขมันส่วนเกินยังเป็นเรื่องหนักใจ สารพัดวิธีลดน้ำหนักจึงถูกงัดมาใช้ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย งดทานอาหารนั่นนี่ จนสาวบางคนบ่นอุบ ต้องเหนื่อย.. ต้องทน กว่าจะลดน้ำหนักได้!

ทว่าในความจริงแล้ว ยังมีวิธีแสนง่าย ที่ช่วยให้คุณควบคุมน้ำหนัก และลดความอ้วนได้ แบบไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องทน แค่เพียงลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนิดๆ หน่อยๆ ในกิจกรรมชีวิตประจำวันเท่านั้น

อาทิแทนที่จะนั่งคุยโทรศัพท์ก็ลุกขึ้นมาเดินคุยซะ! เอาล่ะไปดูกันค่ะว่า เรามีไอเดียให้คุณทำอย่างไรกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันของคุณ เพื่อเผาผลาญพลังงานให้ได้ 500 แคลอรี่ (Calories) ต่อวัน


1. หมั่นขยับร่างกาย
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่าแค่ขยับแข้งขา เดินไปมานิดๆ หน่อยๆ ก็สามารถเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้มากถึง 350 แคลลอรี่ต่อวัน!
ฉะนั้นลองหาเวลาว่างในชีวิตประจำวัน เคลื่อนไหวร่างกายสักนิด เช่น กวาดบ้านถูบ้าน หรือจากที่เคยนั่งนอนคุยโทรศัพท์ เม้าท์มอยกับเพื่อนกับแฟน ก็เปลี่ยนมาเป็นเดินวนไปมาระหว่างคุยโทรศัพท์ ถ้านึกไม่ออก บิวท์อารมณ์ไม่ได้ว่าจะเคลื่อนไหวยังไงดี แนะนำให้จินตนาการถึงตอนจีบกับแฟนใหม่ๆ คุยไปเขินไป อายม้วนต้วน เอี้ยวตัวไปมา ประมาณนั้นแหละค่า … ลองทำสักวันละ 2 ครั้ง ภายใน 5 สัปดาห์คุณจะสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 10 ปอนด์ (pound)


2. เลือก “ถั่ว” เป็นอาหารทานเล่น
แทนที่จะทานอาหารจำพวกแป้ง หรือของหวาน น้ำตาลสูง ลองหันมาทานของกินเล่นที่เปี่ยมประโยชน์อย่าง ‘ถั่ว’ จะส่งผลดีต่อร่างกายของคุณมากกว่า

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell แนะให้ทานถั่ว เพราะมีไขมันที่ดีต่อหัวใจ แถมให้พลังงานไม่สูง ทว่าก็ต้องเลือกกันนิดนะคะ หากคุณเลือกทานถั่วทอดในปริมาณ 1 กำมือ (ประมาณ 1 ออนซ์) เฉพาะแค่น้ำมันที่เคลือบอยู่กับถั่ว ก็ให้พลังงานมากถึง 175 แคลอรี่แล้วค่ะ และถ้าทานถั่วทอดสัก 3 กำมือ คุณก็ได้ของแถมเป็นน้ำมันที่เคลือบผิวถั่วไปแล้วถึง 525 แคลอรี่

ไหนๆ ก็อยากจะห่วงใยสุขภาพ ใส่ใจอาหารการกินแล้ว ก็เลือกเป็นถั่วอบ หรือถั่วที่ปรุงโดยไม่ใช้น้ำมันดีกว่าเน๊อะ ^_^


3. ไม่ทานอาหารระหว่างดูทีวี
พฤติกรรมการกินหน้าจอ ทำให้คุณเพลิดเพลินสนุกสนานกับละครทีวี แล้วก็เผลอทานอาหารเข้าไป แบบไม่บันยะบันยัง จนตัวคุณเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าระหว่างบันเทิงเริงรมย์กับรายการทีวีสุดโปรดนั้น คุณได้หยิบอาหารทานไปแล้วมากมายขนาดไหน

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Massachusetts ค้นพบว่า การรับประทานอาหารไปด้วย ระหว่างการดูทีวี จะทำให้คุณรับประทานอาหารได้มากกว่า 288 แคลอรี่ โดยที่คุณเองก็แทบไม่รู้ตัว!

ดังนั้นแข็งใจเลิกพฤติกรรมนี้เถอะค่ะ ..เปลี่ยนมาทานอาหารที่โต๊ะอาหาร ทำให้เป็นกิจจะลักษณะ เพราะเมื่อทานอย่างมีสติ จะได้รู้ตัวว่าตัวเองหม่ำอาหารไปมากน้อยเพียงใดแล้ว นอกจากนี้ยังแนะนำให้คุณเอาเวลาที่นั่งนิ่งๆ (ขณะดูทีวี) สัก 1 ชั่วโมง มาเดินเล่นออกกำลังกายเบาๆ เพียงเท่านี้ก็เผาผลาญพลังงานไปได้ถึง 527 แคลอรี่


4. ใช้จานขนาดเล็กใส่อาหาร
ใช้จานใส่อาหารขนาดเล็ก แทนจานใบใหญ่ เพียงเท่านี้คุณก็จะรับประทานอาหารน้อยลงมื้อละ 20-25% และลดปริมาณพลังงานจากอาหารมื้อนั้นๆ ได้มากถึง 500 แคลอรี่เลยทีเดียว

ที่สำคัญ การเปลี่ยนมาใช้จานขนาดเล็ก มีข้อดีตรงที่แม้ว่าปริมาณอาหารจะน้อยลง แต่คุณก็ยังคงสุขใจ เพราะสายตาคุณมองเห็นว่าอาหารยังเต็มจานอยู่

“ถึงจะใส่อาหารจนเต็ม แต่ปริมาณอาหารในจานก็ไม่ได้มากนัก” นักวิจัยมหาวิทยาลัย Massachusetts ให้ข้อมูล


5. เลี่ยงกาแฟหวานมัน ..หันมาจิบเอสเปรสโซ
กาแฟแก้วโปรดที่รสชาติหวานมัน แถมแต่งหน้าด้วยวิปปิ้งครีม (whipping cream) ถึงจะรสชาติอร่อยเหาะ แต่ก็อาจให้พลังงานได้มากถึง 670 แคลอรี่เลยทีเดียว ทั้งนี้เพราะเจ้ากาแฟหวานมันนั้น มีทั้งส่วนผสมของวิปปิ้งครีม นมข้นหวาน และน้ำตาล ที่แต่ละสิ่งให้ปริมาณพลังงานมากโข

คงดีต่อสัดส่วนไม่น้อย ถ้าคอกาแฟเช่นคุณจะเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มกาแฟหวานๆ เติมวิปปิ้งครีม มาเป็น กาแฟร้อน อย่างเอสเปรสโซ (Espresso) ที่แม้จะเสิร์ฟเพียง ชอต (แก้วแบบจอก) เล็กๆ แต่เข้มถึงใจ

ที่สำคัญขอบอกไว้ว่าเอสเปรสโซ 1 ชอต (แบบไม่เติมครีมเทียมและน้ำตาล) ให้พลังงานเพียงแค่ 30 แคลอรี่เท่านั้นฉะนั้น เมื่อเทียบกับกาแฟรสชาติหวานมันบวกวิปปิ้งครีม เอสเพรสโซให้พลังงานน้อยกว่าถึง 640 แคลลอรี่เลยทีเดียว


6. เลี่ยงทานอาหาร เป็นกลุ่มใหญ่

“การทานอาหาร ที่มีเพื่อนร่วมโต๊ะ 7 คน จะทำให้คุณกินอาหารได้มากขึ้นถึง 96%” ดร. Brian Wansink ผู้เขียนหนังสือ Mindless Eating ระบุ

เหตุผลก็เพราะเมื่อมีผู้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารด้วยกันหลายคน คุณจะพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลิน แม้อิ่มแล้ว ก็ยังตักหยิบอาหารเข้าปากอย่างไม่หยุดหย่อน หรือแม้แต่คุณจะอิ่มแสนอิ่ม แต่ประเดี๋ยวก็คงได้ยินการเคี่ยวเข็ญ ‘อีกนิดสิ... อีกหน่อยน่า... เหลือนิดเดียวเสียดายของ’ เมื่อนั้นคุณก็อาจใจอ่อน ทานเข้าไปอีก ทั้งที่ท้องแทบจะแตกอยู่แล้ว

ฉะนั้นหากอยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนัก อยากลดปริมาณอาหาร ลองแข็งใจทานอาหารคนเดียว หรือไม่ก็เลี่ยงสังสรรค์ทานอาหารกับแขกเหรื่อไปก่อน ง่ายๆ แค่นี้คุณก็สามารถลดพลังงานได้ถึง 500 แคลอรี่


7. หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงโดยใช้น้ำมัน
    ผัดผัก 1 จานใส่น้ำมันไม่ต่ำกว่า 1 ช้อนโต๊ะแน่ ฉะนั้นหากอยากควบคุมน้ำหนักรักษาทรวดทรง ลองเปลี่ยนมาทานอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ตุ๋น ที่ไม่ต้องใช้น้ำมันดูบ้าง แล้วคุณจะลดความอ้วนได้เห็นผลแน่ๆ

ที่สำคัญ อย่าลืมสอดส่อง มองหา “น้ำมันแฝง” ที่อาจซ่อนกายมาโดยคุณคาดไม่ถึงด้วยล่ะ เห็นกันบ่อยๆ ก็เช่น ตั้งใจอยากลดน้ำหนัก อุตส่าห์ทานก๋วยเตี๋ยววุ้นเส้น หวังลดปริมาณแคลอรี่ แต่ดันขอน้ำมันกระเทียมเจียวราดใส่ก๋วยเตี๋ยวมาซะเยอะ ..แบบนี้ไม่ไหวน๊า (-_-“)


8. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
“การนอนหลับพักผ่อนน้อยเกินไป ทำให้คุณอยากทานขนมขบเคี้ยวมากขึ้น”
ผลงานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัย Chicago ยืนยันว่า ผู้ที่นอนหลับเพียง 5 ชั่วโมงครึ่ง จะมีความต้องการขนมขบเคี้ยวมากขึ้นในระหว่างวัน ฉะนั้นวิธีแสนง่ายในการจะควบคุมน้ำหนักได้ คือ เริ่มจากการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยลดปริมาณพลังงานได้มากถึง 1 , 087 แคลอรี่เชียวหล่ะ


9. ฟังความรู้สึก “อิ่ม” ของท้อง
ลองให้ความสำคัญรับฟังความรู้สึกของ “ท้อง” ตัวเองเสียหน่อยค่ะ เพราะคุณสาวๆ หลายท่านที่บางครั้งท้องของคุณน่ะอิ่มแสนอิ่ม แต่ตัวเองเสียดายของ หรือแพ้ความอยากทานของตัวเอง สุดท้ายเลยต้องทานอัดแน่นเข้าไป จนจุกเสียดก็ยอม

ฟังเสียงร่างกายของคุณหน่อยเถอะค่ะ หากอิ่มแล้วก็ไม่ต้องฝืนทานเข้าไปจนเกลี้ยงจานทุกมื้อ ทานแต่พอเหมาะ ทานแต่เพียงอิ่ม วิธีง่ายๆ เท่านี้ ก็จะสามารถลดพลังงานได้มากถึง 500 แคลอรี่ต่อวันแล้ว


10. ทานขนมขบเคี้ยว แค่ครึ่งถุง
เคยมั้ยคะ? ซื้อขนมขบเคี้ยว หรือมันฝรั่งทอดมาสักห่อ เป็นต้องตะบี้ตะบันทานให้หมดถุง ไม่หมดไม่เลิก บ้างให้เหตุผลดีๆ กลัวเก็บไว้นานจะไม่กรอบ หมดอร่อย สุดท้ายเลยต้องทานเยอะเกินโดยปริยาย

ลองเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ หันมาซื้อขนมห่อเล็กๆ จะได้ไม่ต้องเสียดาย เมื่อทานไม่หมด หรือหากจำเป็นต้องซื้อห่อใหญ่ แต่ทานไม่หมด ก็อดใจพับเก็บมัดปากถุงให้ดีเพื่อหลีกหนีมดแมลง ลองคิดดูสิ หากขนม 1 ถุงให้พลังงาน 200 แคลอรี่ แต่คุณลดปริมาณลงโดยทานเพียงครึ่งถุง ก็ลดไปได้แล้วง่ายๆ กว่า 100 แคลอรี่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่