ดาราศาสตร์หรือในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า แอสโตรโนมี (Astronomy) และชาวมุสลิม (โดยเฉพาะชาวมุสลิมในภาคใต้) จะเรียกวิชาดาราศาสตร์เป็นภาษาอาหรับว่า อิลมู อัลฟาลัก จะมีความหมายว่า วิชาการโคจรวัตถุท้องฟ้า และดาราศาสตร์ หรือ อัลฟาลัก ถือว่าเป็นวิชาที่เก่าแก่มากวิชาหนึ่งที่เริ่มต้นจากการสงสัยแล้วสังเกตของมนุษย์ เป็นวิชาความรู้ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกยุคทุกสมัยจนมาถึงปัจจุบัน และยังมีการพัฒนาต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) เป็นวิชาศึกษาเกี่ยวกับตำแหน่งและการเคลื่อนที่ของวัตถุท้องฟ้า เป็นวิชาที่ฮาลาล (วิชาที่ไม่ผิดกฏของศาสนาอิสลาม) อนุมัติในอิสลาม ถือว่าเป็นวิชาที่บังคับสำหรับสังคมมุสลิม (ฟารดูกีฟายะฮ์) เนื่องจากการปฏิบัติศาสนากิจในแต่ละวันของชาวมุสลิมล้วนเกี่ยวข้องกับความรู้ทางดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) ทั้งสิ้น แต่มีอีกวิชาหนึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า แอสโตรโลยี (Astrology) ซึ่งคนไทยเราจะเรียกว่า โหราศาสตร์ หรือในภาษาอาหรับจะเรียกว่า อิลมูลตานัจจิมีน (??? ???????) ซึ่งเป็นวิชาที่ฮารามหรือต้องห้ามในอิสลาม เพราะเป็นวิชาที่ใช้การพยากรณ์ชะตาชีวิตในอนาคตของบุคคล โดยอาศัยตำแหน่งของดาวบนท้องฟ้า ซึ่งต่างกับดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) จะเป็นการพยากรณ์หรือการคาดคะเนทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ และการคำนวณทางวิทยาศาสตร์เป็นศาสตร์ที่แน่นอน เช่นการคำนวณหาเวลาการขึ้นตกของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ แม้กระทั้งคำนวนหาวันเวลาที่จะเกิดปรากฏการณ์ต่างๆทางดาราศาสตร์ เช่น สุริยุปราคา จันทรุปราคา และปรากฏการณ์อื่น
ปัจจุบันวิชาดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) มีความก้าวหน้าไปมาก แบ่งเป็นรายวิชาย่อยๆที่มีความละเอียดและศึกษาลึกลงไปในเรื่องที่เกี่ยวกับวัตถุฟ้าต่างๆ ตลอดจนการเดินทางในอวกาศ ประกอบกับเครื่องมือต่างๆได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง นักดาราศาสตร์จึงสามารถศึกษา วัตถุที่อยู่ในหวงอวกาศลึก (Deep sky object) ได้สะดวกขึ้นและมีความแม่นยำมากขึ้น อย่างไรก็ตามวิชาดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) จะเกี่ยวข้องกับหลักชารีอะฮ์อิสลาม เนื่องจากวิชา อัลฟาลัก มีความจำเป็นต่อมุสลิมทุกคน
วิชาดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) มีความจำเป็นต่อมุสลิมทุกคน ในกรณีต่อไปนี้
1. ใช้กำหนดเวลาปฏิบัติศาสนกิจ (ศอลาต) หรือละหมาดในแต่ละเวลาของแต่ละวันโดยจะใช้ตำแหน่งของดวงอาทิตย์ ที่ขึ้น-ตกในแต่ละวันเป็นหลัก
2. ใช้กำหนดทิศกิบลัต (มหานครเมกะ) ที่มุสลิมทุกคนต้องผินหน้าเข้าหาเวลาศอลาต (ละหมาด) หรือทำกิจกรรมบางอย่างในศาสนาอิสลาม
3. ใช้กำหนดวันเริ่มต้นเดือนกอมารียะฮ์ โดยการสังเกตตำแหน่งดวงจันทร์เป็นหลัก จะสังเกตจันทร์เสี้ยวแรกเพื่อกำหนดวันเริ่มต้นเดือนใหม่
4. ใช้กำหนดเดือนจันทรคติของอิสลาม หรือเดือนกอมารียะฮ์ทั้ง 12 เดือน ของปีฮิจเราะฮ์ศักราช
5. ใช้กำหนดวันสำคัญของอิสลามในปีฮิจเราะฮ์ศักราช เช่น อิดิลอัฏฮา, อิดิลฟิตรี, 1 รอมฏอน, 1 มุฮัรรอม (ปีใหม่ของปฏิทินอิสลาม) เป็นต้น
ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่าวิชาดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) มีความสำคัญ และมีความเกี่ยวข้องกับสังคมมุสลิมมาเป็นเวลาช้านาน เนื่องจากต้องใช้ความรู้ที่ถูกต้องทางด้านดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) เช่น การสังเกตการณ์จันทร์เสี้ยวแรก เพื่อใช้ในการกำหนดวันเริ่มต้นเดือนกอมารียะฮ์ (เดือนใหม่) รวมทั้งการกำหนดเวลาของการปฏิบัติศาสนกิจที่เกี่ยวข้องของชาวมุสลิมทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นด้วย
เรียบเรียงโดย
รอยาลี มามะ
เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
แหล่งข้อมูลมูลอ้างอิง
หนังสือ อัลฟาลัก ดาราศาสตร์ปัฏิบัติสำหรับมุสลิม “นิแวเต๊ะ หะยีวามิง”
สามารถดูที่มาของบทความและภาพประกอบในแต่ละข้อตามลิ้งสปอร์ย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.narit.or.th/index.php/astronomy-article/884-astronomy-islam
มารู้จักกับวิชาอัล-ฟาลัก(ดาราศาสตร์)กับความจำเป็นที่ต้องเรียนสำหรับผู้นับถือศาสนาอิสลาม
ดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) เป็นวิชาศึกษาเกี่ยวกับตำแหน่งและการเคลื่อนที่ของวัตถุท้องฟ้า เป็นวิชาที่ฮาลาล (วิชาที่ไม่ผิดกฏของศาสนาอิสลาม) อนุมัติในอิสลาม ถือว่าเป็นวิชาที่บังคับสำหรับสังคมมุสลิม (ฟารดูกีฟายะฮ์) เนื่องจากการปฏิบัติศาสนากิจในแต่ละวันของชาวมุสลิมล้วนเกี่ยวข้องกับความรู้ทางดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) ทั้งสิ้น แต่มีอีกวิชาหนึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า แอสโตรโลยี (Astrology) ซึ่งคนไทยเราจะเรียกว่า โหราศาสตร์ หรือในภาษาอาหรับจะเรียกว่า อิลมูลตานัจจิมีน (??? ???????) ซึ่งเป็นวิชาที่ฮารามหรือต้องห้ามในอิสลาม เพราะเป็นวิชาที่ใช้การพยากรณ์ชะตาชีวิตในอนาคตของบุคคล โดยอาศัยตำแหน่งของดาวบนท้องฟ้า ซึ่งต่างกับดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) จะเป็นการพยากรณ์หรือการคาดคะเนทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ และการคำนวณทางวิทยาศาสตร์เป็นศาสตร์ที่แน่นอน เช่นการคำนวณหาเวลาการขึ้นตกของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ แม้กระทั้งคำนวนหาวันเวลาที่จะเกิดปรากฏการณ์ต่างๆทางดาราศาสตร์ เช่น สุริยุปราคา จันทรุปราคา และปรากฏการณ์อื่น
ปัจจุบันวิชาดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) มีความก้าวหน้าไปมาก แบ่งเป็นรายวิชาย่อยๆที่มีความละเอียดและศึกษาลึกลงไปในเรื่องที่เกี่ยวกับวัตถุฟ้าต่างๆ ตลอดจนการเดินทางในอวกาศ ประกอบกับเครื่องมือต่างๆได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง นักดาราศาสตร์จึงสามารถศึกษา วัตถุที่อยู่ในหวงอวกาศลึก (Deep sky object) ได้สะดวกขึ้นและมีความแม่นยำมากขึ้น อย่างไรก็ตามวิชาดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) จะเกี่ยวข้องกับหลักชารีอะฮ์อิสลาม เนื่องจากวิชา อัลฟาลัก มีความจำเป็นต่อมุสลิมทุกคน
วิชาดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) มีความจำเป็นต่อมุสลิมทุกคน ในกรณีต่อไปนี้
1. ใช้กำหนดเวลาปฏิบัติศาสนกิจ (ศอลาต) หรือละหมาดในแต่ละเวลาของแต่ละวันโดยจะใช้ตำแหน่งของดวงอาทิตย์ ที่ขึ้น-ตกในแต่ละวันเป็นหลัก
2. ใช้กำหนดทิศกิบลัต (มหานครเมกะ) ที่มุสลิมทุกคนต้องผินหน้าเข้าหาเวลาศอลาต (ละหมาด) หรือทำกิจกรรมบางอย่างในศาสนาอิสลาม
3. ใช้กำหนดวันเริ่มต้นเดือนกอมารียะฮ์ โดยการสังเกตตำแหน่งดวงจันทร์เป็นหลัก จะสังเกตจันทร์เสี้ยวแรกเพื่อกำหนดวันเริ่มต้นเดือนใหม่
4. ใช้กำหนดเดือนจันทรคติของอิสลาม หรือเดือนกอมารียะฮ์ทั้ง 12 เดือน ของปีฮิจเราะฮ์ศักราช
5. ใช้กำหนดวันสำคัญของอิสลามในปีฮิจเราะฮ์ศักราช เช่น อิดิลอัฏฮา, อิดิลฟิตรี, 1 รอมฏอน, 1 มุฮัรรอม (ปีใหม่ของปฏิทินอิสลาม) เป็นต้น
ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่าวิชาดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) มีความสำคัญ และมีความเกี่ยวข้องกับสังคมมุสลิมมาเป็นเวลาช้านาน เนื่องจากต้องใช้ความรู้ที่ถูกต้องทางด้านดาราศาสตร์ (อัลฟาลัก) เช่น การสังเกตการณ์จันทร์เสี้ยวแรก เพื่อใช้ในการกำหนดวันเริ่มต้นเดือนกอมารียะฮ์ (เดือนใหม่) รวมทั้งการกำหนดเวลาของการปฏิบัติศาสนกิจที่เกี่ยวข้องของชาวมุสลิมทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นด้วย
เรียบเรียงโดย
รอยาลี มามะ
เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
แหล่งข้อมูลมูลอ้างอิง
หนังสือ อัลฟาลัก ดาราศาสตร์ปัฏิบัติสำหรับมุสลิม “นิแวเต๊ะ หะยีวามิง”
สามารถดูที่มาของบทความและภาพประกอบในแต่ละข้อตามลิ้งสปอร์ย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้