สัญลักษณ์ดาวกับจันทร์เสี้ยวในอิสลาม
จุดเด่นของอิสลามหนึ่งที่ไม่เหมือนกับศาสนาอื่นคือ ศาสนาอิสลามไม่มีเครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ใด ๆ ที่เป็นสิ่งแทนศาสนาอิสลามเลยนะครับ แต่ดูเหมือนว่าศาสนาอื่นจะมีสัญลักษณ์แทนศาสนากันทั้งนั้น อาทิเช่น ไม้กางเขนเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์ เป็นต้น
ครั้งหนึ่งขณะที่มุสลิมต้องทำสงครามกับศัตรูของอิสลาม ฝ่ายศัตรูเขาก็มีธงรบและมีสัญลักษณ์บนธงของพวกเขา เพื่อบรรดาทหารจะได้รู้ว่านั่นเป็นกองทัพของตนเอง แต่ทว่าฝ่ายมุสลิมเมื่ออิสลามไม่มีสัญลักษณ์แทนศาสนาอิสลามจึงไม่มีธงรบที่เป็นสัญลักษณ์เป็นของตนเอง
ฉะนั้นบรรดาแม่ทัพมุสลิมต่างสรรหาสัญลักษณ์ไว้บนธงรบเพื่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างรบพุ่งกับศัตรู, แม่ทัพมุสลิมบางคนก็ใช้ธงสีเขียวเป็นสัญลักษณ์บ้าง, บางคนก็ใช้สีสันต่างๆ กันออกไป
แต่มีแม่ทัพอยู่คนหนึ่งใช้ตัวอักษรภาษาอฺรับว่า " ن " อักษรนูน ซึ่งหมายถึง รัศมี คำเต็มคือ " نور " อ่านว่า นูรฺ, หรือเป็นคำย่อของ " نورالله " อ่านว่า นูรุลลอฮฺ แปลว่า รัศมีของอัลลอฮฺ,
ภายหลังที่ใช้ตัวอักษรอฺรับว่า " ن " จากนั้น มุสลิมหลายคนพากันพิจารณาคำว่า " ن " ซึ่งเส้นโค้งของตัวอักษร "นูน"คล้ายกับจันทร์เสี้ยว และจุดที่อยู่ตรงกลางคล้ายกับดวงดาว อีกทั้งการเข้าเดือนใหม่ของอิสลามนั้นก็พิจารณาจากการเห็นจันทร์เสี้ยว
มุสลิมในรุ่นหลังๆ ก็ออกแบบจากตัวอักษร นูน ให้กลายมาเป็นดวงดาวที่ถูกวางไว้ช่วงส่วนโค้งของจันทร์เสี้ยวตราบจนปัจจุบันนี้ครับ,
ข้างต้นเป็นตำนานหนึ่งที่กล่าวถึงที่มาของสัญลักษณ์ดาวเดือน, แต่กระนั้นก็ตามยังมีตำนานอื่นๆ ที่กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวนะครับ แม้ว่าเรื่องเดือนกับดาวจะไม่ใช่เรื่องบทบัญญัติของศาสนา แต่ก็รู้ไว้ใช่ว่านะครับ อนึ่ง มุสลิมในยุคหลัง หรือในยุคปัจจุบันก็เลยนำดาวเดือนมาเป็นสัญลักษณ์ติดอยู่บนโดมของมัสญิด หรือเป็นสัญลักษณ์ไว้ตามร้านค้ามุสลิม หรือเป็นสัญลักษณ์บนธงชาติของประเทศมุสลิม ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตามหากสัญลักษณ์ดาวเดือนปรากฏ ณ ที่ใด เราเองก็สามารถบ่งชี้ได้ลำดับหนึ่งว่าสถานที่แห่งนั้นต้องมีมุสลิมอย่างแน่นอน
ความหมายของดาวเดือนจากข้อมูลอื่นฯ
ดาว คือเครื่องหมายนำทาง บอกทิศเมื่อมนุษย์ต้องเดินทางกลางทะเล หรือทะเลทราย ชาวอาหรับสมัยก่อนเดินทางตอนกลางคืนเพราะกลางวันอากาศกลางทะเลทรายจะร้อนมาก ดาวคือเครื่องหมายบอกทิศทางในการเดินทาง
เดือน คือเครื่องหมายของกาลเวลา เดือนส่งผลถึงระดับน้ำขึ้นลงที่แตกต่างกัน เดือนคือการกำหนดเวลาเริ่มต้นของเดือนใหม่และสิ้นสุดเดือนเก่า เดือนคือเวลาที่พ่านไปที่มนุษย์ต้องใคร่ครวญถึงการกระทำของตนเอง และเดือนที่สำคัญที่สุดที่เป็นศิริมงคลที่สุดของมุสลิมคือ เดือนรอมฎอน ที่ต้องอาศัยการดูดวงจันทร์เพื่อเข้าสู่เดือนแห่งการถือศีล-อด
เพราะทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งเตือนใจและเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตของมนุษย์ชาติโดยทั่วกัน มุสลิมจึงให้ความสำคัญและนำมาเป็นสัญลักษ์ของอิสลาม
ดาวมี 5 แฉกแทนหลักปฎิบัติทั้ง 5 ประการ เสี้ยวจันทร์แทนการยอมรับ มักติดไว้เป็นสัญลักษณ์ที่มัญยิดเพื่อบอกว่า ณ สถานที่นี้มีเพื่อให้กระทำการทั้ง 5 ประการ อย่างไรก็ดีเชื่อกันว่ามีการนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ครั้งแรกที่มัสญิดอัลหะรอม ปัจจุบันนิยมใช้เป็นสัญลักษณ์กันเกือบทั่วโลก
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=795789.
เรียนรู้อิสลาม สำหรับผู้ไม่เป็นมุสลิม ๑๐
จุดเด่นของอิสลามหนึ่งที่ไม่เหมือนกับศาสนาอื่นคือ ศาสนาอิสลามไม่มีเครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ใด ๆ ที่เป็นสิ่งแทนศาสนาอิสลามเลยนะครับ แต่ดูเหมือนว่าศาสนาอื่นจะมีสัญลักษณ์แทนศาสนากันทั้งนั้น อาทิเช่น ไม้กางเขนเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์ เป็นต้น
ครั้งหนึ่งขณะที่มุสลิมต้องทำสงครามกับศัตรูของอิสลาม ฝ่ายศัตรูเขาก็มีธงรบและมีสัญลักษณ์บนธงของพวกเขา เพื่อบรรดาทหารจะได้รู้ว่านั่นเป็นกองทัพของตนเอง แต่ทว่าฝ่ายมุสลิมเมื่ออิสลามไม่มีสัญลักษณ์แทนศาสนาอิสลามจึงไม่มีธงรบที่เป็นสัญลักษณ์เป็นของตนเอง
ฉะนั้นบรรดาแม่ทัพมุสลิมต่างสรรหาสัญลักษณ์ไว้บนธงรบเพื่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างรบพุ่งกับศัตรู, แม่ทัพมุสลิมบางคนก็ใช้ธงสีเขียวเป็นสัญลักษณ์บ้าง, บางคนก็ใช้สีสันต่างๆ กันออกไป
แต่มีแม่ทัพอยู่คนหนึ่งใช้ตัวอักษรภาษาอฺรับว่า " ن " อักษรนูน ซึ่งหมายถึง รัศมี คำเต็มคือ " نور " อ่านว่า นูรฺ, หรือเป็นคำย่อของ " نورالله " อ่านว่า นูรุลลอฮฺ แปลว่า รัศมีของอัลลอฮฺ,
ภายหลังที่ใช้ตัวอักษรอฺรับว่า " ن " จากนั้น มุสลิมหลายคนพากันพิจารณาคำว่า " ن " ซึ่งเส้นโค้งของตัวอักษร "นูน"คล้ายกับจันทร์เสี้ยว และจุดที่อยู่ตรงกลางคล้ายกับดวงดาว อีกทั้งการเข้าเดือนใหม่ของอิสลามนั้นก็พิจารณาจากการเห็นจันทร์เสี้ยว
มุสลิมในรุ่นหลังๆ ก็ออกแบบจากตัวอักษร นูน ให้กลายมาเป็นดวงดาวที่ถูกวางไว้ช่วงส่วนโค้งของจันทร์เสี้ยวตราบจนปัจจุบันนี้ครับ,
ข้างต้นเป็นตำนานหนึ่งที่กล่าวถึงที่มาของสัญลักษณ์ดาวเดือน, แต่กระนั้นก็ตามยังมีตำนานอื่นๆ ที่กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวนะครับ แม้ว่าเรื่องเดือนกับดาวจะไม่ใช่เรื่องบทบัญญัติของศาสนา แต่ก็รู้ไว้ใช่ว่านะครับ อนึ่ง มุสลิมในยุคหลัง หรือในยุคปัจจุบันก็เลยนำดาวเดือนมาเป็นสัญลักษณ์ติดอยู่บนโดมของมัสญิด หรือเป็นสัญลักษณ์ไว้ตามร้านค้ามุสลิม หรือเป็นสัญลักษณ์บนธงชาติของประเทศมุสลิม ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตามหากสัญลักษณ์ดาวเดือนปรากฏ ณ ที่ใด เราเองก็สามารถบ่งชี้ได้ลำดับหนึ่งว่าสถานที่แห่งนั้นต้องมีมุสลิมอย่างแน่นอน
ความหมายของดาวเดือนจากข้อมูลอื่นฯ
ดาว คือเครื่องหมายนำทาง บอกทิศเมื่อมนุษย์ต้องเดินทางกลางทะเล หรือทะเลทราย ชาวอาหรับสมัยก่อนเดินทางตอนกลางคืนเพราะกลางวันอากาศกลางทะเลทรายจะร้อนมาก ดาวคือเครื่องหมายบอกทิศทางในการเดินทาง
เดือน คือเครื่องหมายของกาลเวลา เดือนส่งผลถึงระดับน้ำขึ้นลงที่แตกต่างกัน เดือนคือการกำหนดเวลาเริ่มต้นของเดือนใหม่และสิ้นสุดเดือนเก่า เดือนคือเวลาที่พ่านไปที่มนุษย์ต้องใคร่ครวญถึงการกระทำของตนเอง และเดือนที่สำคัญที่สุดที่เป็นศิริมงคลที่สุดของมุสลิมคือ เดือนรอมฎอน ที่ต้องอาศัยการดูดวงจันทร์เพื่อเข้าสู่เดือนแห่งการถือศีล-อด
เพราะทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งเตือนใจและเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตของมนุษย์ชาติโดยทั่วกัน มุสลิมจึงให้ความสำคัญและนำมาเป็นสัญลักษ์ของอิสลาม
ดาวมี 5 แฉกแทนหลักปฎิบัติทั้ง 5 ประการ เสี้ยวจันทร์แทนการยอมรับ มักติดไว้เป็นสัญลักษณ์ที่มัญยิดเพื่อบอกว่า ณ สถานที่นี้มีเพื่อให้กระทำการทั้ง 5 ประการ อย่างไรก็ดีเชื่อกันว่ามีการนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ครั้งแรกที่มัสญิดอัลหะรอม ปัจจุบันนิยมใช้เป็นสัญลักษณ์กันเกือบทั่วโลก
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=795789
.