後菜鳥的燦爛時代 Refresh Man (กึ่งรีวิว) : แค้นเธอเลยเจอรัก (อย่าออกทะเลเลยนะคราวนี้ เจ้าพระคุณเอ๋ย) สปอยด์น้า

นี่คือดูซีรีส์ไต้หวัน ... 2 เรื่องติดกัน พอกลางเรื่องไป ออกทะเล เรื่องแรกสะเปะสะปะมากหาทางจบไม่ลง เรื่องที่สองตอนแรกน่าสนใจแผ่วกลางและแผ่วปลายในที่สุด แต่ไม่แย่เท่าเรื่องแรกยังพอรักษาแก่นเรื่องไว้ได้ หากก็ทุลักทุเลพอสมควร ส่วนเรื่องนี้เพิ่งออกตอนแรกเมื่อวันอาทิตย์ พระเอกคือแอรอน และ นางเอกคือโจแอน ละครของแอรอนดูมาหลายเรื่อง Just You คือน่ารัก Fall in love with me พี่ว่าค่อนไปทางพัง ส่วนโจแอน ... เห็นหน้าบ่อยแต่นึกไม่ออกว่าเห็นเธอในเรื่องอะไร

ส่วน 後菜鳥的燦爛時代 Refresh Man นี้ น่าสนใจตรงไหน น่าสนใจตรงที่ว่ามันเหมือน Just You บวกกับ In time with you ผสมปนเปกันไป ที่ว่าเหมือน Just You เพราะเป็นเรื่องระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง ที่ว่าคล้าย In time with you เพราะ เป็นประเด็นระหว่างเพื่อนกับเพื่อน ที่เป็น "คู่กัด" กันมาเนิ่นนาน ตอนแรกทรงดี ดีมาก แต่กลัวใจพี่คนเขียนบทกับพี่ผู้กำกับจะพาเรื่องเป๋ออกนอกอ่าวไป

後菜鳥的燦爛時代  (Hou Cai Niao De Can Lan Shi Dai) มีความหมายว่า "The Glorious Era of the Late Bloomer" ที่เขาว่ากันว่าดอกไม้งามมักบานช้า ประมาณอย่างนั้น "ดอกไม้บานช้า" หรือ จะเรียกให้สะใจว่า "หัวเราะที่หลังดังกว่า" ในที่นี้คือ เจียเหวินข่าย พระเอกของเรา หากนับย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เหวินข่าย เป็นนักเรียนท้ายแถว ไม่ว่าจะเรื่องผลการเรียน กีฬา หรือ กิจกรรมก็ตาม นับว่าเป็นนักเรียน "พื้น ๆ ดาษ ๆ"  ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ perfectionist มากความสามารถอย่างหยูถัง แต่ไม่ว่าจะทางไหนก็สู้เด็กสาวคนนี้ไม่ได้ซักอย่าง  จึงแทบจะกลายเป็น "ลูกไล่" เธอคนนี้ตลอดเวลา

10 ปี ผ่านไป หยูถัง เติบโตในสายงานเลขานุการ จนเป็นถึง secretary in chief ของบริษัทเครื่องสำอางค์ยักษ์ใหญ่นามว่า Muse เธอยังเป็นคนเดิมที่มุ่งมั่น คล่องงาน เฉียบคม และ เชื่อมือได้ ไม่ใช่หญิงสาวใสซื่อ อ่อนแอ ไร้สมอง หรือ มือสมัครเล่นแต่อย่างใด แต่แล้วชะตากลับเล่นตลก เมื่อบริษัท Muse มีปัญหาจนกระทั่งมี CEO คนใหม่เข้ามา และ คน ๆ นั้นไม่ใช่ใครที่ไหน ... เจียเหวินข่าย ไม้เบื่อไม้เมาเจ้าเดิม หากในวันนี้สถานะกลับกันเสียแล้ว เขาเป็นเจ้านาย เธอเป็นลูกน้อง แถมต้องทำงานใกล้ชิดกันในฐานะ CEO และ หัวหน้าฝ่ายเลขาฯ แต่ก็แน่นอนว่า "เขา" มีเลขาฯส่วนตัวตามติดมาจากต่างประเทศด้วย

หยูถัง .. งง เป็นไก่ตาแตก จากคนที่เป็นลูกไล่กลายมาเป็นเจ้านาย จากคนที่เคยเหนือกว่าในทุกด้านกลับกลายมาอยู่ใต้อำนาจสั่งการ สงบใจไว้หยูถัง ... ก็เป็นอย่างที่เคยเป็นมาตลอดไง "ความเก่ง" "ความคล่อง" ที่มีนั้นก็เอามาใช้เหมือนอย่างเคย แต่แล้วไม่รู้พระศุกร์เข้าหรือพระเสาร์แทรก ความผิดพลาดมันเข้ามาตั้งแต่ช็อตแรก ทั้งนี้คนอย่างหยูถังก็ไม่เคยพลาดมาก่อนไง ทำไมต้องเป็นวันนี้ เลขาฯส่วนตัวมากประสิทธิภาพของ "เพื่อนเก่า" เป็นคนแก้ปัญหาให้ เฟลไปหนึ่งดอก จนกระทั่งหยูถังต้องหาทางระบายออก ด้วยไวน์ ด้วยเพื่อน แต่แล้ว(อีกหนึ่งที)นอกจากอำนาจพระศุกร์พระเสาร์แล้ว ราหูยังสำแดงเดชอมชะตาของหยูถังต่ออีกหนึ่งดอก เมื่อเพื่อนรักของเธอรับโทรศัพท์ให้แต่ดันลืมบอกให้หยูถังโทรกลับหาเจ้านาย วันรุ่งขึ้นเมื่อไปถึงที่ทำงาน(ซึ่งสาย)ทุกอย่างก็สำเร็จเสร็จบริบูรณ์แล้ว เพราะ "เจ้านาย" และ "เลขาส่วนตัว" ลุยงานกันทั้งคืน โดยที่หัวหน้าเลขาฯแอ้งแม้งไม่รู้เรื่อง แถมตื่นมาแฮงค์ด้วยอีกต่างหาก

ชีวิตมันจะ ship หาย ก็ว่านี้อีกได้ไหม ?


ถึงแม้ "งาน" จะผ่านไปด้วยดี แต่ CEO เห็นว่า "หยูถัง" หมดสิ้น passion ในการทำงานเป็นเลขาเสียแล้วกระมัง ถึงได้จัดเฟลเรื่องใหญ่ได้ถึงสองดอกแบบนี้ ด้วยคำสั่งสายฟ้าฟาด เธอจะต้องย้ายจากแผนกเลขาไปสู่แผนกขาย 3 ทั้งที่เธอทำงานขายไม่เป็นเลย "คนอย่างเธอก็มีวันนี้เหมือนกันนะ" เหวินข่ายว่า มันไม่ใช่แค่เรื่องงานที่พลาดพลั้งสินะ ประโยคนี้เธอเคยพูดไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้วต่อหน้าเหวินข่าย เมื่อตอนอยู่มัธยมปลาย

แต่เคราะห์กรรมของเจ้าหล่อนยังไม่เหมดแต่เพียงเท่านี้ เมื่อเธอย่างเท้าเข้าไปที่แผนกขาย 3 ชั้นแรกเธอเห็นห้องทำงานที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทุกคนต่างยุ่งวุ่นวายกับงาน หากแท้ที่จริงแล้วเป็นแค่การสร้างภาพไปวัน ๆ ตบตาเจ้านายเท่านั้น แน่นอนว่าทั้งขัดใจ และ ขัดนิสัยของหยูถังยิ่งนัก คนพวกนี้เกิดมาหายใจเปล่า ๆ แล้วก็ตายแบบนั้นหรือ เมื่อเลขาฯใหญ่ระเห็ดมาเป็นเลขาฯแผนก จากงานสำคัญในวันนั้น วันต่อมางานของเธอคือการเปลี่ยนหลอดไฟ และ สั่งอาหารให้กับคนในแผนกเสียแล้ว และ ชีวิตยิ่งบัดซบเข้าไปอีก เมื่อคนที่มาพบเจอเข้าก็คืออริคู่กัดคนเก่า CEO ที่มาปล่อยเกาะเธอไว้ยังแผนกบ้าบอแห่งนี้ และ ภาพของเธอในสายตาเขาคงยิ่งติดลบเข้าไปอีก

นอกจาก ship หายแล้ว บัดซบก็แล้ว เพิ่มรันทดเข้าไปหน่อยเถอะ


นี่เธอมาถึงจุด ๆ นี้ได้อย่างไร ชีวิตเธอออกมาเบอร์นี้ได้อย่างไร ทุกอย่างที่เธอเคยทำกับเขาย้อนรอยกลับมาอย่างเจ็บแสบร้อยเท่าพันทวี จากคนเคยเก่ง รางวัลเป็นร้อย จากคนที่เป็น perfectionist วันนี้มันพังทลายลงทุกสิ่ง ทั้งการงาน  ชีวิต และ ความเชื่อมั่นในตนเอง ไม่ใช่แค่ตำแหน่งที่ลดลง ไม่ใช่แค่เธออาจไม่มีโบนัส แต่ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป เธออาจตกงาน และ ที่ยิ่งกว่าตกงาน คือการถูกหยามจากคนที่เคยด้อยกว่า ซึ่งมันเหลือเกินที่จะทน จะเรียกว่าอยู่ในอาการ "กลืนเลือด" คงไม่ผิดนัก เธอเริ่มโกรธ และ หดหู่อย่างจริงจังเสียแล้ว แต่ก็ถ้อยคำของเขาอีกเหมือนกันที่จุดศักดิ์ศรีชนิดฆ่าได้หยามไม่ได้ของเธอขึ้นมาใหม่

"ถ้าไม่พอใจ ก็ทำให้ฉันเห็นสิ ไต่กลับขึ้นมาให้ได้"


ไม่มีใครรู้ว่าเหวินข่ายคิดอะไร 10 ปีที่ผ่านมาเขาเจออะไรบ้าง เหวินข่ายพูดเสมอว่า "ขุน กับ เบี้ย" นั้นมีแล้ว เหลือแต่ "ลมตะวันออก" เท่านั้นแหละ ขุน คงเป็นเขา เบี้ย คงหมายถึง ฝ่ายขาย ส่วนลมตะวันออก ... ถ้าจะให้เทียบก็คือพลังหรือกลไกที่จะคอยผลักดันเบี้ยให้เป็นไปตามขุนสั่ง หรือ "เหวินข่าย" คิดจะให้ "หยูถัง" เป็น "ลม" หากจะมีใครซักคนที่ผลักดันฝ่ายขายของบริษัทได้

คงต้องเป็นคนที่มีพลังล้นเหลือ มีมือที่แข็ง คล่อง และ สู้ขาดใจ ส่วนหนึ่งมันอาจเป็นการ "เอาคืน" แต่ส่วนหนึ่งเขารู้ว่า "ผู้หญิง" ตัวเล็ก ๆ คนนี้ที่เขารู้จัก ช่วงชีวิตหลายปีที่เห็นกันในชั้นมัธยม เธอทำได้ดีกว่านี้ เธอเป็นได้มากกว่านี้ เขารู้ดีสิ่งที่เธอทำได้ไม่ใช่แค่ดี หรือ ยอดเยี่ยม แต่ถ้าเค้นมันออกมาจนหมดได้ละก็นั่นคือคำว่า "เลอเลิศ"

การเอาคืนนี้ก็สมน้ำสมเนื้อกับที่เขาเคยโดนล่ะนะ
แต่มันมีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ?


เขารู้จักเธอดีจึงกระตุ้นด้วยการหยามหมิ่นศักดิ์ศรีและแก้แค้นไปด้วยในตัว แต่การวางหมากชั้นนี้ แปลว่าเขาต้องมั่นใจในตัวเพื่อนคู่รักคู่แค้นคนนี้ไม่น้อยว่าจะเป็นลมที่สามารถจะหนุนนำบริษัทไปให้ไกล เพราะพี่มาเป็น CEO พี่ไม่ได้มาเล่น ๆ พี่ไม่ได้มาเพื่อแกล้งให้สะใจอย่างเดียว ยังไงผลประดยชน์ของบริษัทต้องมา แล้วความเชื่อใจอันนี้มันมีความรู้สึกอย่างอื่นปนเข้ามาด้วยหรือไม่นะ .... น่าติดตามด้วยใจระทึก


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่