後菜鳥的燦爛時代 Refresh Man (กึ่งรีวิวตอนที่ 7) : Little by little

ตัวเขาก็เหมือน "เพชร" นั่นแหละ
จะส่องประกายได้ก็ต้องผ่านการเจียระไน


ถ้อยคำที่เหวินข่ายใช้อธิบายหยูถังทำเอาอ้ายซานิ่งอึ้งไปพักหนึ่งแต่ก็ดูเหมือนคนพูดจะไม่ค่อยแคร์อะไรมากมายนักเพราะกำลังดีใจที่ "อริเก่า" ผ่านบททดสอบบทแรกไปได้ ถึงมันจะหนักหนา ถึงจะเจ็บ เหนื่อย และ มีน้ำตา แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่าย ๆ เขาพูดเสมอว่าการผลักเธอลงมาจากหอคอยงาช้างคือ "แผนการ" หนึ่งที่จะทำให้ทีมขาย 3 ได้ฟื้นคืนชีพใหม่อีกครั้ง แล้วก็ยังพูดอีกหลายครั้งว่าหากใครซักคนจะทำแบบนั้นได้ คน ๆ  นั้นคือหยูถัง แม้อ้ายซาจะนึกเสียดายว่าความหวังดีของเจ้านายอาจถูกเข้าใจผิดและคิดเป็นอื่น ทั้ง ๆ ที่เหวินข่ายเองก็ช่วยกรุยทางให้กับหยูถังอย่างลับ ๆ ตลอดมา มีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่มองไม่เห็นมัน แต่เหวินข่ายก็ไม่ได้นำพา ราวกับว่าเขาไม่ได้ต้องการอะไรเลยจากการเลือกสรรหนทางเหล่านี้ให้เธอ หากเธอจะเข้าใจผิดก็ไม่เป็นไร เพราะการที่เห็นเธอประสบความสำเร็จก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา หลายครั้งที่ยิ้ม หัวเราะ ด้วยสายตาขบขันหากอ่อนโยนและรื่นรมย์ รอยยิ้มแบบที่ไม่เคยมีให้ใครคนไหน นอกจาก "เธอคนนั้น" แต่เพียงผู้เดียว

คุณอาจไม่รู้ตัวก็ได้ว่าคุณชอบเขา เคลวิน .... ใจจริงแล้วคุณชอบเธอหรือเปล่า ?


เคยเดาว่าคำถามนี้จากอ้ายซา เหวินข่ายจะตอบว่า "ไม่" แต่สุดท้ายก็มิใช่ทั้งการตอบรับและการปฏิเสธ .... หากคือการ "นิ่ง" พร้อมร้อยยิ้มชวนพิจารณาที่แต่งแต้มริมฝีปาก หากเขาเป็นผู้ชายปากแข็งมากศักดิ์ศรีอาจจะลุกลี้ลุกลนตอบว่าไม่ หากเขาไม่มีมาดมีฟอร์มอะไรเรื่องคงจบลงที่เขาตอบเธอว่าใช่ แต่ดูแล้วรอยยิ้มของการไม่รับไม่ปฏิเสธ คล้ายจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างชัดเจน คำถามนั้นพาเหวินข่ายกลับไปในห้วงคิด .... เสียงที่อัดไว้เพื่อจะสารภาพกับใครซักคน วันนั้นที่งานฉลองจบการศึกษา ... ถ้าฉันจะขอเต้นรำกับเธอล่ะ และอีกหลายคำที่ผ่านปากออกไปยามเมามาย เธอยังไม่กลับอีกหรือ เธอควรจะกลับได้แล้วนะ ดึกมากแล้ว ฉันเป็นห่วง หยูถัง ฉันขอโทษ ถ้าหากฉันรู้ว่าเธอจะต้องไปพบกับหมอนั่น .... จริง ๆ คงต้องบอกว่า ลึก ๆ เขามั่นใจและแน่ใจว่าเขาคิดกับเธออย่างไร และ วันเวลาที่ผ่านมา 10 ปีมานี้ ก็ยังเป็นเธอคนเดียวที่คงอยู่ในใจ

เขามีแผนของเขาที่จะผลักดันเธอไปทีละนิด ๆ
เขามีฝันของเขาที่จะบอกความรู้สึกกับเธอทีละหน่อย


คำถามบางคำถาม ... มีคำตอบชัดเจน โดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความ


เขายินดีที่จะให้มันไปทีละนิดแบบนี้ คอยดูการเติบโตของเธอไป และหากจะมีใครหรืออะไรเข้ามาขวางแผนการนี้ ด้วยสองมือของเขาสมองของเขาและความสามารถของเขาก็หักร้างถางพงออกไปเอง ไม่ว่าจะเป็นหวังจื่ออวี้ หรือ ใครหน้าไหน ก็ไม่มีวันได้เข้าใกล้ เพราะคนที่จะมีสิทธิเช่นนั้นได้ก็ต้องเป็นเขาแต่เพียงคนเดียวเท่านั้น

ความรู้สึกบางเบาบางอย่างเกิดขึ้นในใจของหยูถัง ความสัมพันธ์ของเขาและเธอ เธอคิดเอาว่ามันเป็น platonic relationship จะแปลกอะไรถ้าเรามีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชาย ? เธอไม่เคยมองเขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง แต่มองเขาเป็น "เพื่อน" คนหนึ่งของเธอเสมอมา เธอเล่นหัวกับเขา สนิทสนมกลมเกลียว แก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่ากับเขาได้ ยามเขาไม่สบายใจเธอก็ไม่สบายใจ วันใดเขาประสบความสำเร็จเธอไม่เคยนึกอิจฉา และยินดีหนักหนาเมื่อเขาได้ใช้ศักยภาพเต็มตามที่เธอคิดว่าเขามี ถึงเขาไม่รู้และไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร และ ถึงเขาจะลดขั้นเธอลงมาที่แผนกขายถึงโอดครวญบ่นบ้าง แม้เธอจะนึกว่าเป็นการแก้แค้นของวันเวลายามเด็ก เธอก็แฟร์พอที่จะไม่คิดอะไรให้มากความ แถมยังแมนพอที่จะขอบคุณที่เขาให้โอกาสเธอจุดไฟในตัวเอง

หากวันนี้อะไรในใจบางอย่างเริ่มปรากฎ ภาพในวันวานย้อนกลับคืนมาเรื่อย ๆ อารมณ์และความรู้สึกที่เธอมองหาเขาในงานเลี้ยงฉลองเรียนจบ อารมณ์และความรู้สึกยามเธอเห็นภาพคู่ของเขากับเธอในโทรศัพท์ มันมีอะไรที่เหมือนกัน เมื่อเพื่อนร่วมงานเอ่ยถึงว่าใครกันที่เธอมีสัมพันธ์ด้วย แม้คนอื่นจะนึกว่าเป็นหวังจื่ออวี้ เธอกลับนึกถึงใครบางคนขึ้นมาทันทีทันควัน แล้วก็ต้องมาถามตัวเองว่า "คิดอะไรอยู่" ความรู้สึกแปลก ๆ นี้เริ่มทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ หากเธอก็ยังไม่กล้าแม้จะมองลงไปให้ลึกซึ้งว่ามันคืออะไร ?

เรื่องเก่าสำเร็จไปไม่ทันไร เรื่องใหม่และใหญ่กว่าก็เข้ามาแทรก ... แบบฝึกหัดชิ้นแรกของเธอผ่านไปด้วยความยาก แบบฝึกหัดชิ้นที่สองที่หนักหน่วงยิ่งกว่าก็ผ่านเขามา แม้จะคว้าสัญญามาไว้ได้แต่สุดท้ายก็มีเงื่อนไขลอยมาจากหัวหน้าทีมขาย1 หากทำไม่ได้ทีมขาย3เป็นอันสลายโต๋ อีกครั้งแล้วสินะที่เธอต้องฝ่าด่านอรหันต์เก้าทองคำ

ก็ต้องมาดูกันว่าเธอจะไปได้ไกลแค่ไหน
ทั้งเรื่องงาน และ เรื่อง "นั้น"


เจียระไนเพชรต้องใช้เวลา
ความสัมพันธ์ก็เช่นกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่