後菜鳥的燦爛時代 Refresh Man (กึ่งรีวิวตอนที่ 9) : รึเปล่า ?

ไม่แน่ใจ กับท่าที แต่รู้ว่ามีความหมาย


จงอวี้ถัง ไม่ใช่คนโง่ ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้อีกชื่อหนึ่งว่า "ม่านเฟินถัง" แต่ถึงฉลาดอย่างไร อวี้ถังก็ไม่ใช่นักอ่านใจ งานที่ประเดประดังเข้ามาความกดดันที่กดทับซ้ำซ้อนลงไปยิ่งทำให้เธอไม่มีเวลาจะให้ความสำคัญกับสัญญาณที่ส่งแบบ "ขาด ๆ หาย ๆ" และยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสัญญาณที่ค่อนข้าง "สับสน" เสียอีก สถานการณ์ยิ่งไม่เอื้อให้เธอคิดเป็นอย่างอื่น เมื่อ "เขา" จงใจจะปิดบังความรู้สึก ประกอบกับเรื่องราวในวัยเยาว์อดีตของเขาและเธอที่มีร่วมกัน ก็ไม่แปลกที่เธอจะมองไม่เห็นว่ากาลเวลา 10  ปีที่ผ่านไปสำหรับเหวินข่าย ไม่ใช่อดีต ไม่ใช่ปัจจุบัน และ ไม่ใช่ทั้งอนาคต แต่เป็น Always อวี้ถังคือ "นิรันดร์" สำหรับเขา

เธอ "เข้าใจ" ไปเองว่าเขากลับมาเพื่อแก้แค้น และ เธอก็เข้าใจไปเองว่าสิ่งที่สำทับลงไปกับการแก้แค้น คือ เรื่องราววันนั้นที่สระน้ำ เธอคิดเองเออเองว่านี่คือเรื่องราวใหญ่โตที่ทำให้เขาหยุดพูดกับเธอ เห็นเธอเป็นธาตุอากาศ และ ต่อเนื่องยืนยาวมาถึงการที่เขากดดันเธอทุกทางในปัจจุบัน ทั้งที่สำหรับเหวินข่ายเรื่องเหล่านั้นคือ past is past. ไม่สำคัญเลยซักนิด กลับกันเสียอีกภาพอดีตที่หวนกลับมาในห้วงคิดของเหวินข่าย คือ วันที่เธอสะอึกสะอื้นเสียน้ำตากับการจากอย่างกะทันหันของแม่ตนเอง

ประโยคแรกที่เธอพูดกับเขา .... ในที่สุดเธอก็ออกมาเจอฉันได้เสียที จากนั้นคือน้ำตาที่นองหน้า และ เสียงคร่ำครวญด้วยความเสียใจ ก็เป็นเขาเองที่โอบกอดเธอไว้กอดอยู่แบบนั้นทำอยู่อย่างนั้นจนเสียงสะอื้นจางหายและเธอหลับไหลไป เหวินข่ายเอ่ยกับคนที่ซบแนบอกว่า เขาสัญญากับแม่ของเธอแล้วว่าจะเป็นคนที่ดูแลเธอเอง ดังนั้น .... เธอรอนะ รอฉันกลับมา อวี้ถังจะรู้หรือก็หาไม่ มีเพียงคนเดียวที่รู้อยู่แก่ใจว่าทั้งหมด ทำเพื่ออะไร เพราะอะไร เหวินข่ายคงรู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องไปไกล แต่ก็ตั้งมั่นเอาไว้ว่าจะกลับมา แต่ทำไมต้องยาวถึง 10 ปี คงต้องดูกันต่อไป

เรื่องที่ยังไม่เคลียร์คือการหยุดพูด ทำไม ? อาจจะเป็นเพราะโกรธ และ เรื่องนั้น(อาจ)จบไป เพราะการตายของแม่อวี้ถัง และจากคำสัญญาที่ให้ไว้นั้นกลายเป็น wake up call ของเหวินข่าย ว่าเขาจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ หากต้องการจะดูแลอวี้ถังล่ะก็นะ ที่เขาไม่เคยมีใครจริงจัง ไม่สนใจผู้หญิงคนไหน อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ และ อาจจะเป็นไปได้ที่เหวินข่ายเลือกอ้ายซาเป็นเลขาฯ เป็นเพราะว่าอ้ายซามีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาระลึกถึง "ม่านเฟินถัง" ถึงบุคคลิกจะแตกต่างกันมาก อวี้ถังร่าเริงแจ่มใสกระตือรือร้นเต็มไปด้วยพลังงานส่วนอ้ายซาดูสงบสุขุมคัมภีรภาพ หากสิ่งที่เหมือนกันคือทั้งคู่คือผู้หญิง "เก่ง" และ ความ "เก่ง" ในตัวอ้ายซานี่ละมั้ง ทำให้เหวินข่ายนึกถึงคน "เก่ง" อีกคนขึ้นมาบ่อย ๆ

และในพักหลัง ๆ การนึกถึงมัน "บ่อย" จนกระทั่ง "ยาก" ที่จะควบคุมตัวเองต่อหน้าผู้หญิงชื่อจงอวี้ถัง


เขาพยายามอย่างหนักที่จะไม่เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองให้อวี้ถังรู้ แต่ไม่เคยพยายามที่จะปิดบังความรู้สึกเหล่านั้นยามอยู่ต่อหน้าคนอื่น ชื่อนี้ ... จงอวี้ถังติดปากเขาอยู่เสมอ เป็นคำพูดแรกที่จะเอ่ยปาก เป็นความคิดแรกที่เกิดขึ้นในยามเช้า และ เป็นห้วงคิดสุดท้ายก่อนจะพักผ่อนยามค่ำคืน ทุกคนเห็นทุกคนรู้ โลกนี้รู้ว่าเขารู้สึกเช่นไรกับเธอ เขาพร้อมที่จะสู้กับใครที่เข้ามาใกล้ชิดเธอ เขาพร้อมที่จะยอมรับกับคนอื่นว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ เว้นแต่ .... ตัวเธอเท่านั้นที่ไม่เขาไม่บอก ไม่พูด และ มักจะแสดงอะไรที่ไม่ตรงกับใจบ่อย ๆ

ในเวลาปกติทำการกระทำอย่างนี้ก็ "ยาก" พออยู่แล้ว แต่เมื่อต้องคอยระงับอาการหึงหวงห่วงกังวลเวลามีคนอื่นเข้าใกล้ คนอื่นที่เหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาว ทุกอย่างสูสีกันหมด ความฝืดที่จะต้องเก็บกดอารมณ์จึงพีคขึ้นเป็นหลายเท่าตัว ความในใจมันจึงหลุดออกมาจนได้ หลุดแบบที่ไม่รู้ว่าตัวเองหลุด เพราะมันเป็นไปตามธรรมชาติ ที่จะส่งข้อความ จะพูดคุย จะโทรหา จะติดตามตารางเวลาของคน ๆ นั้น ไปที่ไหนทำอะไรไปกลับใครกลับเมื่อไหร่ ที่จะรายงานตารางเวลาของตัวเองพร้อมกันไปด้วยว่าจะไปไหนกับใคร และ เราจะเจอกันได้ที่ไหนเมื่อไหร่

เธอจะไปกินข้าวกับเขาก็ได้ฉันไม่ว่า แต่โทรบอกกันหน่อย แล้วเราค่อยเจอกันตอนเย็นที่บ้านนะ ประโยคนี้เบอร์นี้ คือ เจ้านายกับลูกน้อง เหรอ ? ลูกหนี้กับเจ้าหนี้ เหรอ ? เพื่อนสนิทกับเพื่อนสนิท เหรอ ? แฟนพูดกับแฟน เหรอ ? ไม่อ่ะ ไม่ใช่ซักอย่าง น้ำเสียง ท่าที มันก็ไม่ใช่ไม่ไว้ใจเหมือนแฟนไปกะคนอื่นด้วยนะ แต่มันเหมือนแบบ คนแต่งงานกันนานแล้วอ่ะ เหตุการณ์ประมาณฝาละมีกะทำเซอร์ไพรซ์กำลังจะมารับเมียไปกินข้าว แต่เมียดันติดเลี้ยงลูกค้ากะทีม ก็เลยโทรถามเมียว่า อ้าว ไมไม่บอกว่าติดงานอ่ะ (ราวกับเป็นหน้าที่ต้องบอก ...  เออสิหน้าที่เมียไง) ทีหลังโทรบอก(รายงาน)หน่อยสิจะไปไหน ละวันนี้เค้าไปออกก๊วนตีกอล์ฟตอนบ่ายแล้วเจอกันที่บ้านตอนเย็นนะที่รัก อารมณ์ประมาณนี้ ไว้ใจเมียตัวเองว่าไม่คิดอะไร แต่ขัดใจถ้าคนอื่นจะมาทำคะแนน

คนรับสารถึงกับใบ้รับประทาน .... นี่กินยาผิดหรือประสาทกลับ


ตอนนี้การงานเริ่มเข้าที่เข้าทาง ดังนั้นความฉลาดและละเอียดอ่อนเริ่มกลับคืนมาเป็นเจ้าเรือน จิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจายตรงนั้นตรงนี้ เริ่มกลายเป็นรูปเป็นร่าง ก็บอกแล้วว่าอวี้ถังไม่โง่ไง ตอนนี้ปะติดปะต่อเรื่องราวได้และกำลังเกิดความสงสัยทั้งตัวเองและตัวเขาคนนั้นเป็นอย่างมาก สัญญาณที่ส่งมามัน mixing จนกระทั่งไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรแน่ นาทีนึงเขาร้ายกับเธอกดดันเธอ แต่กลายเป็นว่าในอีกทางนึงเขาช่วยเหลือเธอชื่นชมเธอเหลือเกิน และ ไม่กี่วันมานี้ยิ่งเธอจับสังเกตและเอาถ้อคำและการกระทำมารวมกัน ยิ่งทำให้เธองงงัน

ก็เธอรู้จักจีเหวินข่ายเอาเป็นว่าครึ่งชีวิตโดยไม่ได้คิดว่าเธอคิดกับเขาอย่างไร และ เขาจะคิดกับเธออย่างไร ที่ผ่านมาเธออยู่โดยมีความสุขดีในสภาพนั้น ไม่เคยต้องแย่งชิง หรือ แบ่งปันเขากับผู้ใด ก็เวลาทั้งหมดเช้าจรดเย็นไม่เว้นวันหยุดก็เป็นเธอที่อยู่กับเขาและเขาที่อยู่กับเธอ เป็นแฟนไม่เป็นแฟนแทบไม่มีความหมาย ถึงไม่มีคำนั้น "เรา" ก็อยู่ด้วยกันตลอด หัวเราะด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน จากนั้นหายนะในความสัมพันธ์ก็เกิดขึ้นเขาหายไป และ เธอร่วงหล่นจากตำแหน่งหัวหน้าเลขามาลำบากลำบนในแผนกเซลล์พร้อมคำเย้ยหยันที่เธอคิดว่าคือการแก้แค้นเอาคืน

แต่วันนี้ทุกคำพูดที่เธอได้ยิน การกระทำที่เธอระลึกตรึกได้ .... ทุกอย่างเหล่านั้นเป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาชอบเธอ และ ที่ร้ายคือเป็นไปได้หรือไม่ว่าเธอก็ชอบเขา ทุกอย่างมันยิ่งชัดขึ้นเมื่อเกิดปัญหาใหญ่ระดับชาติอย่าง "มัดผม" กับ "ปล่อยผม" เนื่องจากไม่เคยนึกมาก่อนว่าเขาจะชอบเธอ มื้ออาหารที่เหวินข่ายลงทุนทำครัวเองเพื่อเอาใจจึงจบลงแบบไม่ค่อยสวยสะเท่าไหร่นักเพราะยางรัดผมอันเดียว หลังจากทะเลาะใส่อารมณ์จนพลอยนอนไม่หลับกันทั้งคู่ ... พุทธิปัญญาของอวี้ถังก็เกิดขึ้นในใจ ....  เหยยยยย  เธอมองดูยางรัดผมในมือ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่มัดหรือปล่อย ไอ้ยางยืดอันสวยในมือที่แหละที่เป็นปัญหา ... หรือว่า "หึง" ขุ่นพระ ?

ด้วยเหตุผลกลใดที่หัวใจก็ไม่อาจทราบ จีเหวินข่ายขับรถมาแต่เช้าตรู่พร้อม brown bag ใบเขื่อง เจ้าตัวถึงกับปิดแอร์เพราะกลัวอาหารจะไม่ร้อนและเสียรส พร้อมซ้อมบทพูดขออภัยที่ทำตัวเป็นเด็ก ๆ เมื่อคืนวาน แต่เมื่อเห็นภาพบาดตาลมเพชรหึงก็ตีขึ้นอีกคำรบ "เสียเวลาจริง ๆ" ไม่รู้อาหารเช้าถุงนั้นจะดิ่งสู่ถังขยะเหมือนยางรัดผมที่สั่งออนไลน์มาให้ใครบางคนโดยเฉพาะหรือไม่ ? อืมมม์ แล้วรถของเล่นชิ้นนั้นที่บ้าน ที่ทำให้เจ้าตัวแอบยิ้มสดใสอารมณ์ดีทั้งวันอีกละ จะถามลงถังไปด้วยกันเลยไหม ?

ตอนนี้ทั้งเขาและเธอต่างแอบจับได้ถึงท่าทีของกันและกัน
เพียงแต่ยังไม่แน่ใจความหมาย
แต่เหวินข่ายคงไม่ต้องรอนาน
ก็ผู้หญิงคนนั้นยอมสงสัยอะไรนานเสียเมื่อไหร่
ช้าเร็วอย่างไร .... ต้องถามแน่
จะตอบอะไรก็เอาให้ดี

ตอบผิด .... อาจเสียเวลาไปอีก 10 ปีก็ได้
จะลองไหม จีเหวินข่าย


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่