++ สองสามปีมานี้นกอีก๋อยกับอ้ายกากได้วางแผนการท่องเที่ยวในแบบที่เราต้องการอย่างแท้จริง คือเน้นการท่องเที่ยวทางธรรมชาติเป็นอันดับแรก และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกับศาสนาเป็นอันดับรอง ทั้งนี้ก็เพื่อให้การเดินทางของเราสองคนไม่จำกัดแค่การไปสัมผัสกับแค่ธรรมชาติ แต่ยังต้องการเปิดประสบการณ์ให้กับวัฒนธรรมที่หลากหลายของพื้นที่ในภาคต่างๆ ในประเทศไทยอีกด้วย อุทยานแห่งชาติภูผาม่านก็เป็นอีก 1 จุดหมายปลายทางที่เราตกลงกันว่ามันน่าสนใจ ++
 
          +++ เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าย้อนกลับไปทริปอุทยานแห่งชาติภูลังกา (ถ้ำนาคา) ตอนนั้นบังเอิญได้ยินแว่วๆ จากนักท่องเที่ยวท่านหนึ่งที่โพล่งออกมาว่าหัวนาคที่อุทยานแห่งชาติภูผาม่านมีความเหมือนจริงมากกว่าที่นี่ เราก็เอ๊ะ พูดในใจก็คงไม่มีใครว่าหรอกมั้ง...แต่ก็ต้องฟังหูไว้หู และที่สำคัญมันก็เป็นความเห็นส่วนตัวของเค้า +++
         +++  แต่ก๋อยก็เอ๊ะ! จริงเหรอ? ก๋อยว่าที่ถ้ำนาคาก็สวยและคล้ายกับหัวนาคมากๆ แล้วนะ ยังมีที่เหมือนกว่านี้อีกเร๊อะ? และความสงสัยนั้นก็นำมาซึ่งทริปอุทยานฯ ภูผาม่าน ขอนแก่น ครั้งนี้แหละจ้า +++


+++ ก็แอบมีนอยด์นะกับความที่ไม่รอบคอบของตัวเองที่ไม่ได้โทรมาสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าการได้ออกท่องเที่ยวทุกครั้งคือกำไรแล้ว..และที่สำคัญอุทยานแห่งชาติภูผาม่านไม่ได้มีดีแค่ถ้ำพญานาคราชซะหน่อย +++
         +++ ว่าแต่ทำไมชื่อภูผาม่าน?   นี่คือข้อมูลส่วนหนึ่ง : ภูผาม่านนั้นเรียกตามชื่อของภูเขาเทือกหนึ่งทางตอนใต้ของอุทยานฯ มีหน้าผาสูงชันคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า มองดูเหมือนผ้าม่านผืนใหญ่ ส่วนสภาพป่าของอุทยานฯ ก็ยังอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าดิบและป่าไม้เบญจพรรณ สภาพอากาศของที่นี่เย็นชื้นเกือบตลอดทั้งปี และไฮไลท์ของที่นี่มีเยอะเลยอย่างถ้ำพญานาคราช น้ำตกตาดฟ้า น้ำตกตาดใหญ่ ถ้ำค้างคาว ฯ (เสียดายไมได้ไปสักที) +++
    
+++ ส่วนขากลับยังได้ซื้อข้าวเหนียวไก่ย่างกลับไปกินแก้หิวยามวิกาล..ถ่ายมาแค่ข้าวเหนียวพอ เดี๋ยวเห็นไก่ย่างแล้วจะน้ำลายไหลย้อยกันน่ะ +++
          /// จบละจ้ะ ทริปสั้นสุดๆ ของนกอีกก๋อยกับอ้ายกาก..ถึงจะสั้นแต่ก็บรรจุไว้ด้วยความสุขที่หาได้ไม่ยากเพียงแค่เราออกเดินทาง..///