+++ ขอเปิดด้วยภาพถ่ายของนกอีก๋อยและอ้ายกากเมื่อ 10 สิบปีที่แล้ว เราไปลานสางในฐานะผู้ประสานงานการปฏิบัติงานโครงการแลกเปลี่ยนกับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย โดยหนึ่งในกิจกรรมของโครงการคือการจัดทริปท่องเที่ยวชมธรรมชาติให้กับนักศึกษาแลกเปลี่ยน อุทยานแห่งชาติลานสางถูกลิสต์ไว้เป็นเบอร์ต้นๆ เพราะการเดินทางสะดวก พื้นที่กางเต๊นท์สวยงาม และที่สำคัญเต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติของทั้งผืนป่าและธารน้ำตก +++
++ ในตอนนั้นนกอีก๋อยจำแทบไม่ได้ว่าเราเดินผ่านน้ำตกอะไรบ้าง น้ำตกสวยงามแค่ไหน ความทรงจำของนกอีก๋อยตอนนั้นคือการทำงานล้วนๆ และแล้ววันหนึ่งจึงอยากจะกลับไปตามหาอดีตอีกครั้ง ++
++ ความแปลกใหม่ในการไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติลานสางรอบนี้อยู่ที่เราไม่ได้ไปนอนที่ลานกางเต๊นท์โซนน้ำตก หากแต่เป็นอีกหนึ่งลานกางเต๊นท์ที่ขึ้นให้เราจองผ่านระบบของกรมอุทยานฯ ที่มีชื่อว่า “ลานกางเต๊นท์ดอยผาแดง” ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากที่ทำการอุทยานประมาณ 20 กิโลเมตร (ทางเข้าจะอยู่ถึงก่อนตลาดมูเซอประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร) อยู่ที่ไหนกันหนอ..นึกภาพไม่ออกเลย แต่ที่รีวิวมาก็สวยไม่เบาแถมคนน้อยอีกต่างหาก เอาล่ะ..ยิ่งไม่รู้จักนกอีก๋อยนี่แหละยิ่งชอบ ++
/// เส้นทางจากพิษณุโลกถึงอุทยานแห่งชาติลานสาง ///
/// เพราะหัวใจเรียกร้อง การเดินทางจึงเริ่มต้น แต่กองทัพที่เดินด้วยท้องที่ว่างเปล่าอาจทำให้กำลังพลไม่มีเรี่ยวแรง..อิอิ ปรึกษากันดูว่าเราต้องหาอะไรกินระหว่างทางสักหน่อย นกอีก๋อยเสิร์ชหาร้านต้มเลือดหมูละแวกใกล้เคียงจนมาเจอ “แก้วต้มเลือดหมู” ในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นจังหวัดทางผ่านพอดี แต่ต้องเลี้ยวเข้าตัวเมืองสุโขทัยไปประมาณ 12 กิโลเมตร ///
/// งานดีทั้งต้มเลือดหมูและข้าวมันไก่ ถ้าเลือกไม่ได้ว่าจะกินอะไรก็กินคู่ไปเลยสิจ๊ะ อื้มมม อาหร่อยยยย!!! ///
/// ตามด้วยขนมกงราดน้ำตาลอ้อยหอมหวานละมุนนุ่มลิ้น ทำเป็นชิ้นเล็กๆ น่ากินมาก ร้านเปิดขายอยู่เยื้องร้านแก้วต้มเลือดหมูเลยจ้า..///
+++ ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงอุทยานแห่งชาติลานสาง +++
*** อุทยานแห่งนี้มีตำนานด้วยนะ..สมัยที่ป่าลานสางยังอุดมสมบูรณ์อย่างเต็มที่เมื่อประมาณ 200 กว่าปี สมเด็จพระเจ้าตากสินได้ยกทัพไปตีเชียงใหม่ครั้งที่ 2 ทรงหยุดพักพลที่บ้านระแหง แขวงเมืองตาก มีพวกมอญหนีพม่าเข้ามาสวามิภักดิ์ พระเจ้าตากสินได้ยกทัพเข้าตีขับไล่พม่าซึ่งตามมอญเข้ามา ในคืนหนึ่งพระองค์ได้พลัดหลงทางออกไปจากกองทัพ ทำให้ไพร่พลทหารของพระองค์พากันออกติดตามก็ไม่พบ ประจวบกับภูมิประเทศซึ่งในสมัยนั้นเป็นป่าทึบรกชัฏ ในเวลากลางคืนเดือนมืดทำให้ยากแก่การติดตาม ทหารทุกคนก็ล้ากำลังลงจึงพากันหยุดพัก ขณะที่ทหารไทยเหล่านั้นพักอยู่ก็เกิดปาฏิหารย์ มีแสงสว่างพุ่งสู่ท้องฟ้าพร้อมกับได้ยินเสียงม้าร้องอื้ออึง ทหารที่พักอยู่นั้นต่างก็พากันรีบตรงไปหาจุดที่มีแสงสว่างนั้น พอไปถึงจึงเห็นพระเจ้าตากสินประทับม้าพระที่นั่งกลางลานมีแสงสว่างออกมาจากพระวรกาย พร้อมไปด้วยทหารพม่าประมาณ 50 คน คุกเข่าหมอบกราบสวามิภักดิ์ยอมแพ้อยู่เบื้องหน้า ทหารไทยต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างปาฏิหารย์นั้น ประจวบกับเวลาฟ้าสางพอดี ต่อมาบริเวณนั้นเรียกว่า “ลานสาง”
ติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่
http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1015
/// ถึงปากทางเข้าอุทยานซึ่งเป็นที่ทำการหลัก นกอีก๋อยเข้าไปสอบถามว่าลานกางเต๊นท์ดอยผาแดงอยู่ตรงส่วนไหนของอุทยานฯ จากข้อมูลเราต้องขับขึ้นไปทางแม่สอดอีกราวๆ 20 กิโลเมตร (ไม่น้อยเลยว่ามะ ประหนึ่งว่าเป็นอีกอุทยานหนึ่งหรือเปล่าน้อ เพราะขนาดอุทยานแห่งชาติตากสินยังอยู่ห่างไปแค่ 10 กิโลเมตรเอง) แต่ก่อนไปเจ้าหน้าที่จับนกอีก๋อยวัดอุณหภูมิและตรวจสอบใบรับรองการฉีดวัคซีนเสร็จสรรพ ///
/// และขับมาเรื่อยๆ ประมาณ 10 กิโลเมตร จนเจอป้ายเขียวๆ แบบนี้ก็เลี้ยวเข้าไปเลยจ้า ///
/// ที่ต้องผ่านแน่ๆ ก็หมู่บ้านชาวเขาเผ่ามูเซอ บ้านช่องของพวกเค้าก็ประมาณนี้ค่อนข้างหนาแน่น และไม่ต้องห่วงว่าจะหลงเพราะระหว่างขึ้นไปลานกางเต๊นท์จะมีป้ายบอกทางตลอด ///
/// และแล้วก็มาถึงลานกางเต๊นท์ดอยผาแดง แต่ต้องบอกว่าเจ้าหน้าที่ที่นี่มีจำนวนน้อยนิด แต่ถ้าเทียบกับจำนวนคนเที่ยวที่มีแค่หยิบมือก็ถือว่าพอเพียง ซึ่งตอนที่ขึ้นไปถึงลานกางเต๊นท์ก็ยังพอมีนักท่องเที่ยวกลุ่มเดิมหลงเหลืออยู่ 2-3 กลุ่ม นกอีก๋อยไม่รอช้าหาทำเลเหมาะๆ เอาตรงใกล้ๆ จุดถ่ายภาพนี่แหละ...แว่วว่าเป็นมุมที่จะเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นด้วย...แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เห็นอย่างที่คาดหวังเอาไว้เพราะเมฆตอนเช้าเยอะจ้า ///
/// นี่จ้าห้องน้ำห้องท่า แบ่งฝั่งชายหญิง..แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่พอนะ คนน้อยกว่าอุทยานดังๆ หลายแห่งเยอะเลย ///
/// ที่นี่มีไฟส่องสว่างให้ตามจุดต่างๆ และที่น่าดีใจกว่านั้นคือโทรศัพท์ใช้ได้หมดทุกค่าย อาจเป็นเพราะมีชุมชนเผ่ามูเซอเข้ามาอาศัยหนาแน่นจึงจำเป็นต้องเอาการติดต่อสื่อสารมาถึงพวกเค้าด้วย ///
/// จากข้อมูลดอยผาแดงอุณหภูมิหนาวเย็นตลอดปี ซึ่งเป็นเหตุผลที่พืชพรรณแถบนี้จึงได้ออกดอกออกผลตลอดปี และนี่คือหมอกที่ลงมาช่วงดวงอาทิตย์กำลังจะตก อุณหภูมิต่ำสุดตอนกลางคืนที่นกอีก๋อยไปคือ 13 องศา สบายเนื้อสบายตัวเลยแหละ ///
/// ถึงจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นก็ยังได้เห็นดวงอาทิตย์ตกที่ดอยผาแดง..สวยทีเดียวเชียว จากดวงส้มจัดเปลี่ยนเป็นสีแดง และค่อยๆ คล้อยลงต่ำจนลับดวงไป ///
และแล้ว..จึ่งอัสดงลงลับลา
ตะวันบอกขอบฟ้าขอลาก่อน
จากกันวันนี้..ใช่จากกันนิรันดร
อย่าห่วงหาอาทรไปก่อนกาล
วันพรุ่งจะมาพร้อมอุราอุ่น
แสงแรกแห่งอรุณยามฟ้าสาง
อ่อนลมพัดยอดสนใบบางบาง
แดดจะเหือดน้ำค้างบนหญ้าคา..
- วันแรกกำลังจะผ่านไป -
ลานสาง Again..นกอีก๋อยออกตามหาอดีต ณ อุทยานแห่งชาติลานสาง จ.ตาก (14-15 มกราคม 2565)
ติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1015
/// ถึงปากทางเข้าอุทยานซึ่งเป็นที่ทำการหลัก นกอีก๋อยเข้าไปสอบถามว่าลานกางเต๊นท์ดอยผาแดงอยู่ตรงส่วนไหนของอุทยานฯ จากข้อมูลเราต้องขับขึ้นไปทางแม่สอดอีกราวๆ 20 กิโลเมตร (ไม่น้อยเลยว่ามะ ประหนึ่งว่าเป็นอีกอุทยานหนึ่งหรือเปล่าน้อ เพราะขนาดอุทยานแห่งชาติตากสินยังอยู่ห่างไปแค่ 10 กิโลเมตรเอง) แต่ก่อนไปเจ้าหน้าที่จับนกอีก๋อยวัดอุณหภูมิและตรวจสอบใบรับรองการฉีดวัคซีนเสร็จสรรพ ///