後菜鳥的燦爛時代 Refresh Man (กึ่งรีวิวตอนที่ 4) : Reckless Decision and Little Triumphs

เมื่อถูกบีบกระทั่งจนตรอก .... เธอทำในสิ่งที่เธอเองก็ไม่คาดคิดว่าจะชีวิตนี้เธอจะทำ และ เขาเองก็ไม่คิดเช่นกันว่าเธอจะทำแบบนั้นลงไป แต่อะไรที่เกิดขึ้นแล้วย่อม "ดีเสมอ" ระหว่างสงครามดอกไม้ยังผลิบานได้ฉันใด ระหว่างวิกฤตเราก็ยังมองหาแง่งามของมันได้ฉันนั้น (นี่คำเปรียบเทียบตำราไหนฟระ ฮ่า ๆ ) ก็เอาเถอะ เป็นอันว่าแนวนี้ก็แล้วกัน

หลังจากการตัดสินใจปัจจุบันทันด่วนนำเงินเก็บของตนเองไปจบความวุ่นวายแบบง่าย ๆ และ แบบโง่ ๆ ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งของ refresh man เด็กมือใหม่ก็คือมักจะหาทางที่ง่ายที่สุด ซับซ้อนน้อยที่สุด ในการแก้ปัญหาให้พ้นไป โดยไม่คิดถึงผลพวงที่จะติดตามมา อีกหนึ่งบทเรียนที่แสนเจ็บปวดของหยูถัง และ อีกหนึ่งความเจ็บใจลึก ๆ ของเหวินข่ายเช่นกัน

เธอไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น แต่ความบีบคั้นทั้งมวลที่ได้พบเจอ ตั้งแต่วันแรกถึงวันล่าสุด ที่โดนเหวินข่ายย่ำบนแผลสดเข้าไปเต็มเปา ทำให้ระบบคิดของคนเก่งที่ความมั่นใจถอยไปมากแล้วนั้นก็ยิ่งรวนมากขึ้นไปอีก เรียกได้ว่านี่ไม่ใช่ตัวเธออย่างที่เคยเป็น เอาเข้าจริง ๆ ชีวิตของหยูถังก็ too smooth อย่างที่เหวินข่ายว่า จริง ๆ ถ้าถามว่าเธอผิดพลั้งอะไรมากแค่ไหน เธอไร้ประสิทธิภาพมากขนาดนั้น ไม่มีดีอะไรเลยขนาดนั้น ก็เปล่าหรอก แต่สิ่งที่เธอเป็นอยู่มันไม่เต็มศักยภาพที่เธอจะเป็นได้  และเธอใช้ชีวิตเช่นนั้นมาตลอด ดังนั้นพอเจอแรงกดดันระดับสาหัสเข้าก็ถึงกับเป๋

หากก็ต้องเห็นใจหยูถังนะ เธอถอยมามาก และ ถอยมาไกล ถ้าเธอยังถอยให้เขาอีกในคราวนี้ แม้แต่เศษเสี้ยวของความนับถือตัวเองก็คงไม่เหลือ มันสุดทางแล้วจริง ๆ ชั้นแรกเธอตั้งใจจะเอาเงินส่วนนั้นซื้ออิสระให้ตัวเองแล้วเริ่มต้นใหม่ แต่ก็อย่างที่ถูกวิเคราะห์บุคคลิกไว้ พวก proactive ทำงานเชิงรุก มีความรับผิดชอบ และ รักองค์กร มีความเป็นเอกภาพ ถ้าเธอหนีไปตอนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าแพ้จะตามติดตัวเธอไป แต่มันยังหมายถึงเธอปัดความรับผิดชอบทิ้งอีกต่างหาก เธอตัดสินใจเอาเงินส่วนนั้นซื้อเวลา ปกป้องแผนก ปกป้องคนที่คิดว่าเป็นพวกพ้อง ได้งานมาก็ต้องรับผิดชอบ .... เธอไม่อยากแพ้พ่ายอีกแล้ว

และเหมือนโรยเกลือลงบนแผล เมื่อเหวินข่ายที่เกิดรู้เรื่องเข้าก็พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่าเชิญอยู่กับชัยชนะบนซากปรักหักพังที่ว่านั้นให้พอใจ ก็แล้วกัน พนันน้ำแข็งใสจึงจบลงทั้งน้ำตา "ไม่ว่าตัวฉันตอนมัธยมจะเป็นยังไงแต่ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าฉันมันขี้แพ้ ฉันพยายามนะ พยายามหนักมากแต่ฉันก็ยังแพ้อยู่ดี " ในขณะที่หยูถังจมกับสถานการณ์ชีวิตที่ตอนนี้น่าจะร่วงถึงก้นเหว ทั้งร่างกาย ทั้งจิตใจ จนไม่อาจสนใจอะไรรอบตัว สายตาคู่นั้นของเหวินข่ายมองจ้องเธอด้วยความเจ็บปวดเช่นกัน เขาไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนี้ และ ใจจริงก็ไม่ได้ต้องการให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น

หากสิ่งที่เหวินข่ายทำก็เหมือนเดิม เจ้าตัวนำเงินจำนวนหนึ่งวางลงบนโต๊ะ
เดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่มันมี และ มีมากด้วย


แท้ที่จริงแล้วตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องหน้าร้านอาหาร คนที่อยู่ไม่สุขไม่ได้มีแต่หยูถัง เหวินข่ายเองก็เป็น เจ้านายแสนฉลาดและใจเย็นของสุดยอดเลขาฯอ้ายซา จับต้องมองแต่ตัวต่อไม้บนยอดหอคอยที่เขาสร้าง ไร้ซึ่งสมาธิในการทำงาน และ สุดท้ายถึงกับลุกแล่นไปแผนก 3 ย้ำซ้ำ ๆ กับตัวเองว่าเธอคนนั้นคงไม่ยอมแพ้แค่นี้ใช่ไหม ? คงจะนึกอยู่เหมือนกันว่าเรื่องที่ทำไปเมื่อวานก็แรงไม่ใช่น้อย

หากจะมีใครรู้ถึงความซับซ้อนในใจเหวินข่ายก็หาไม่ ทุกวันนี้ถึงจะมองออกว่าเขา "รู้สึก" อะไร ๆ กับหยูถังมากกว่าความเป็นคู่แค้นสมัยเรียน หากเหตุผลกลใดที่ทำให้เขาลุยแหลกใส่เธอมากขนาดนี้ ทำไมต้องกดดันเธอมากขนาดนั้น ทำไมต้องใส่ "ความคาดหวัง" และ ให้แบบฝึกหัดหนักหน่วงแก่หยูถังเพราะอะไร ทำไมต้องเป็นเธอ ทุกอย่างนี้มันมากกว่าการฝึก มากกว่าสอนงาน เหมือนกับการเข้า intensive course อะไรซักอย่าง ถ้าคิดลึกอีกนิดจะนึกว่ากำลังสร้าง CEO หญิงคนใหม่เลยนะ

ถ้าเหวินข่ายต้องการให้แผนก 3 พลิกกลับมามีประสิทธิภาพ ก็น่าจะโดนตื้บพร้อม ๆ กันทั้งแผนกสิ ก็สับสนเหมือนกันว่าสถานะของ "หยูถัง" เหมือนจะพิเศษ แต่อีกทางก็เหมือน "เบี้ย" ที่ใช้เดินเกมส์ แถมหยูถังเองก็ไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งในเรื่องนี้เสียด้วยสิ หัวใจของเธออยู่กับงาน การเอาตัวรอด และ การพลิกเกมส์เพื่อเอาชนะ ในขณะที่อีกฝั่งก็ดีกับทุกคนเลยนะ พูดดีกับพ่อกับน้องของหยูถัง แต่พอมาถึงหยูถังไอ้ที่เคยดี ๆ มันกลายเป็นจิกกัด เป็นเย็นชาไปซะได้ จะต้องมา keep look อะไรกันเบอร์นั้น เป็นห่วงไม่บอกว่าห่วง ช่วยก็ไม่บอกว่าช่วย หยูถังควรงงไหม ? ควรมากนี่บอกเลย

หากในความวินาศระดับเว่อร์วัง ยังมีเรื่องให้หยูถังได้คลายใจ อย่างน้อยเธอได้พี่เจียหยินมาเป็นพวก ก็เหมือนอย่างที่เหวินข่ายคาดการณ์ไว้ แถมเจ้าตัวยังใจดีแอบเพิ่มแรงไขก็อกอีกซักนิด ใบ้ ๆ ให้เจียหยินได้รู้ว่าหยูถังทำอะไร ใจจริงนางก็ยิ้มมุมปากแหละว่าหยูถังจะได้คนช่วย และ เอาเข้าจริงนางก็ยิ้มภูมิใจในการนิสัยของหยูถังอีกหน่อยด้วย เหมือนรู้อยู่ละว่าผู้หญิง(ของฉัน .... ตีความได้ประมาณนั้นนะ)เป็นแบบนี้ ก็กลับมาที่เรื่องความเชื่อมั่นอีกแหละว่านางต้องมาได้ และ เริ่มวางหมากตัวต่อไปแล้วด้วย ว่าอีกคนที่จะได้แรงฉุดจากการดิ้นของหยูถังคือใคร

เป็นความรู้สึกที่แปลกยังไงบอกไม่ถูก คือ นางก็เจ็บปวดใจทุกครั้งที่หยูถังล้มนะ แต่เหมือนอยากให้ยืนขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง โดยที่นางเลือกจะยืนอยู่ห่าง ๆ แล้วก็ช่วยประคองบ้างตามสมควร แต่ก็ไม่อยากให้รู้ว่าตัวเองใจดีด้วย แล้วทุกวันนี้คือยังไม่พอใจนะ นางยังมีแผนเป็นขั้นเป็นตอน เขาเจ็บปวดร้องไห้ก็มานั่งกลุ้ม แต่ในความเจ็บของเขาก็รู้สึกยินดีที่เขาได้รับบทเรียน และ รู้สึกภูมิใจที่เขาก้าวข้ามผ่านมันไปได้โดยที่เรายื่นมือเข้าไปช่วยน้อยที่สุด ชัยชนะเล็ก ๆ ของหยูถังก็เหมือนชัยชนะเล็ก ๆ ของเหวินข่ายด้วยอีกทางนึง แต่ไม่แสดงให้รู้ แบบนี้เขาเรียกอะไร ? ความรักรึเปล่า ? เป็นความรักแบบที่โหดมันฮาดีนะ

แต่อย่างว่า .... เรื่องราวทั้งหมดเหมือนเป็นไปตามแผน
หากตัวละครลับกลับปรากฎทำให้เรื่องราวไม่เป็น as plan
เขามาแล้ว กรุณาหลับตา เอ๊ย ผิดเรื่อง
หนุ่มหล่ออีกคนปรากฎตัวแล้ว
เหวินข่ายจ๊ะ กรุณาเตรียมใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่