ได้ซื้อ gift voucher เช่ารถจากบ.Hertz จากบูธในงาน ไทยเที่ยวไทย ที่จัดงานในวันที่ 5-8พ.ย.2558 เพื่อใช้วันที่ 10ธ.ค. ที่จ.ภูเก็ต ซึ่งตอนนั้นเซลล์ ได้แจ้งโปร ว่าจ่าย 500 บาทต่อวัน สำหรับ รถรุ่นเล็ก และวัน ศุกร์. เสาร์. อาทิตย์. จ่ายเพิ่ม 300 บาท หากส่งรถช้ากว่ากำหนด จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม. ซึ่งจุดนั้นเรารับทราบ เราจึงตัดสินใจซื้อ โดยตอนนั้น มีเซลล์ที่บอกขายเป็นผู้ชาย. ส่วนน้องผู้หญิงที่เขียนใบจองชื่อที่เขียนไว้ชื่อ Belle ซึ่งทางผู้ขายทั้งสองท่านไม่ได้แจ้งในส่วนที่ราคาดังกล่าวไม่รวมประกันภัย และไม่ได้ แจ้งว่าจะมีการชำระค่ามัดจำผ่านบัตรเครดิต. จำนวน 30,000 บาท ณ วันที่รับรถ มารู้อีกทีคือวันที่โทร.ไป booking. ทาง call.center. จึงแจ้งว่าจะมีการตัดบัตร 30,000 และจะคืนเงินกลับบัตร 7-14 วัน. ตกใจค่ะ ว่าทำไมมัดจำแพงมาก เจ้าหน้าที่บอกเป็น policy ก็เข้าใจนะ. แต่คือจะถามว่าทำไม เซลล์ถึงไม่แจ้งลูกค้าก่อนจะขายควรให้ลูกรู้รายละเอียดทั้งหมด ก่อนถ้ารู้ก่อน จะได้เช็คบริษัทอื่น. เจ้าหน้าที่เพียงบอกว่าขอโทษ เซลล์คงจะเป็นพนักงานใหม่ยังไงเราก็ไม่คืนเงิน หรือไม่สามารถทำอะไรได้. และเจ้าที่ก็ถามว่าใน voucher. เขียนรายละเอียดแล้ว แต่ที่ก่อนจะซื้อ. เราไม่ได้อ่านเราฟังรายละเอียดจากเซลล์. ซึ่งเซลล์ต้องเป็นผู้ให้รายละเอียดทั้งหมดให้กระจ่างก่อน ที่จะตัดสินใจซื้อไม่ใช่หรือ.  ไม่งั้นหมายถึงเป็นการหมกเม็ดรายละเอียดข้อเท็จจริง. และทาง. Call. Center บอกว่า. เรื่องมัดจำถ้าโทร.มาจะต้องพูดทุกครั้ง. แต่นี่คือ. ไม่ได้ซื้อจาก call. Center. แต่ซื้อจากงานออกบูธ แสดงว่า บริษัท ของคุณไม่มีคุณภาพที่ให้พนักงานขายมาขาย โดยไม่ให้รายละเอียดทั้งหมดได้ครบถ้วนกับลูกค้า ก็เลยตัดสินใจในตอนแรกโทร.ไปcall. Center. เพื่อจะbooking ไปยืนยันเลยแล้วกัน แต่วันนี้. วันที่ 4ธ.ค. ไปงานไทยเที่ยวไทยอีกครั้ง ได้ไปถาม บ.Avis. เค้าให้รายละเอียดครบ พร้อมเรื่องมัดจำและให้อ่านรายละเอียดทุกอย่าง และให้เราเซ็นรับทราบก่อนจะซื้อvoucher จึงตัดสินใจว่า เราไม่ได้รับความเป็นธรรมในการที่จะรับทราบรายละเอียดทั้งหมดของ บ.hertz ก่อนที่จะซื้อ จึงตัดสินใจซื้อของ Avis และเราไม่พอใจมากถึงกับจะยอมเสียเงินจำนวน1,000บาท ที่เราได้จ่ายไปแล้วทิ้งไป. ไม่ทราบว่าส่วนนี้ทางบ.hertz. จะทำอย่างไรกับเหตุการณ์นี้??

Sent from my iPad