มันเริ่มตั้งแต่ผมอยู่ในรั้วมัธยมศึกษา ตอนนั้นผมอยู่ ม.5 ผมคบกับเพื่อนรุ่นเดียวชื่อ น. (นามสมมติ) ผมคบกับน.ก็ไม่นานเท่าไหร่หรอก(จำไม่ได้ครับ)
แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังจะจบปีการศึกษา ทาง รร. จะพาไปทัศนศึกษา(ผมจำสถานที่ไปไม่ได้) -เราเริ่มออกเเดินทางช่วงเวลาเช้าประมานตีสามตีสี่
ซึ่งรถบัสแต่ละคันจะแบ่งเป็นห้องๆ ผมอยู่ห้องคิงก็จะได้ขึ้นรถอีกคัน ส่วน น. อยู่คนละห้องกับผมเธอก็ขึ้นรถอีกคัน แต่ช่วงเวลานั้นผมแอบไปขึ้นรถคันเดียวกับเธอเพื่อที่เราจะได้นั่งด้วยกัน และก็สำเร็จผมได้นั่งข้างเธอตลอดทางจนถึงที่หมาย เหตุเกิดขึ้น! เมื่อตอนขากลับหลังจากที่ทัวร์จบแล้วเราก็เริ่มเดินทางกลับ
ซึ่งคุณหลายคนอาจจะรู้ว่า ขากลับมันคือ สิ่งที่ต้องการมากกว่าเที่ยวซะอีก เพราะจะฉลองกันเต็มที่เครื่องดื่มมึนเมาเต้นร้องเพลงบนรถบัสที่ใครหลายคนคงจะผ่านตามาบ้าง เรื่องมีอยู่ว่าผมกับเพื่อนๆซื้อเหล้าขึ้นมากินกันพอได้ที่ผมก็เมา ส่วน น. ก็ไปกินเหล้ากับกลุ่มเพื่อนอีกกลุ่มซึ่งผมก็ไม่ได้ห้ามเพราะผมเองก็ดื่ม
พอรู้ว่าเมาแล้วผมจึงกลับที่นั่งเพื่อที่จะนอน ส่วน น. เธอก็ไปเต้นกับเพื่อนๆ ในช่วงที่ผมครึ่งหลับครึ่งตื่นสายตาเหลือบไปเห็น น. กำลังเต้นคลอเคลียกับผู้ชายคนนึง นามสมมติว่า บ. ซึ่งคือเพื่อนสนิทของผมซึ่งเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่อนุบาล หลายครั้งที่ น. กับ บ. แอบเหลือบมามองผม แต่ผมก็แกล้งหลับพอมันเริ่มหนักขึ้นผมทนที่จะดูไม่ไหว ผมจึงเดินเข้าไปถามแต่ก้ได้คำตอบอย่าง
ของ น. และ บ. หลังจากนั้นเพื่อนอีกคนก็พยายามกันผมออกมาเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเพราะกลังว่าอาจารย์รู้ ผมถึงกับทรุดและนั่งร้องไห้ต่อหน้าเพื่อนอีกหลายๆคนบนรถ มันเป็นความเจ้บปวดครั้งแรกที่ผมได้รับกับเรื่องของความรักซึ่งมันแย่มากๆ ถึงขั้นที่ผมขอย้าย รร. เพื่อไม่เจอหน้า น. กับเพื่อนทรยศ แต่อาจารย์ก็ไม่ให้ผมย้าย จากนั้นผมก็ทนดู น. กับ บ. คบกัน แย่จัง!
หลังจากเรื่องมันผ่านมาได้ผมจบการศึกษาและเรียนระดับอุดมศึกษา ที่ คณะวิศวฯ ณ มหาลัยแห่งหนึ่ง ลืมบอกไป!ตอนกำลังจบม.6 ผมกำลังคบกับ ผู้หญิงคนนึงนามสมมติ อ. เราคบกันจนถึงผมเข้ามหาลัย ซึ่งม.เราก้ไม่ได้ไกลกันนักผมก็ไปมาหาเธอได้อยู่บ่อยๆ จนครั้งเราทะเราะกันบ่อยเข้าผมก้เริ่มห่างๆเธอไปและนอกใจเธอไปคบคนใหม่ (ผมนี่ก้เลวนะ) เรียนอยู่ ม.เดียวกับผม คณะที่สวๆเยอะมาก ชื่อว่า ม. (นามสมติ)คบกันได้สักพักผมก็เริ่มเอะใจขึ้นอีกครั้งเมื่อเพื่อนที่เรียนด้วยกันกลับผมนามสมสติว่า จ.(กลุ่มเดียวกัน) มีความสนิทสนมกันมากผิดปกติ จนผมรู้ว่าเขาทั้งสองแอบคุยกันจริง ผมจึงออกห่างและไม่บอกความจริงกับเพื่อนคนอื่นๆเลย ครั้งนึงผมหายออกจากห้องไปช่วงดึกซึ่ง รูมเมท ก้ตามหาผมกับเพื่อนคนๆ รวมทั้ง ม. กับ จ. วันนั้นมีฝนโปรยปรายลงมานิดๆผมไม่ได้ไปไหนหรอกแอบนั่งร้องไห้ในมุมๆนึงของมหาลัย (ยังกะ MV เพลงเนาะ ฝนตกนั่งร้องไห้ตากฝน 555 ) จากที่เขามาตามผมก้ไม่กลับหรอกแล้วก็ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร เขาก็พากันกลับ เช้ามา ม. ก็บอกเลิกผมไป จากนั้นไม่นาน จ. กับ ม. ก็คบกันจริงๆ (เจ็บมั้ยหละ555) พอเรื่องทุกอย่างเริ่มดีขึ้นมีคนบอกว่าแฟนเก่าที่ชื่อ อ. กำลังคบกับเพื่อนที่ชื่อ บ. เพราะ บ. มันเลิกกับ น. แล้ว (บังเอิญเนาะ) แต่ก็ช่างเถอะผมทิ้ง อ. ไปเอง
แต่ที่น่าเจ็บใจกว่านั้น คือ มันตามมาคบแฟนเก่าผมอีก คนอะไรเ_ี๊ย จริงๆ 555 ผมเจ็บกับเรื่องเดิมๆซ้ำจนผมสัญญากับตัวเองว่าถ้าผู้หญิงคนไหนเคยคุยหรือคบกับเพื่อนเราผมจะไม่ไปยุ่งกับเธอเด็ดขาด (พูดแล้วก็เจ็บเนาะ) วงจรชีวิตห่วยจัง เป็นโสดก็ดีเพื่อนจะได้ไม่มาแย่งอีก 555 ไหนๆก็จะจบอยู่แล้ว
ขอบคุณที่อ่านผมแค่ระบายพราะเก็บมานานเกือบเกือบห้าปี เก็บไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมปล่อยวางแล้วไม่โกรธไม่แค้นเพื่อนตัวเองหรอกเลวยังไงมันก็เพื่อนแหละ ขอแค่อย่าได้เกิดขึ้นอีกครั้งก็พอ
บาปกรรมหรือบังเอิญ ที่ทั้งชีวิตโดนเพื่อนสนิทตีท้ายครัวตลอด?
แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังจะจบปีการศึกษา ทาง รร. จะพาไปทัศนศึกษา(ผมจำสถานที่ไปไม่ได้) -เราเริ่มออกเเดินทางช่วงเวลาเช้าประมานตีสามตีสี่
ซึ่งรถบัสแต่ละคันจะแบ่งเป็นห้องๆ ผมอยู่ห้องคิงก็จะได้ขึ้นรถอีกคัน ส่วน น. อยู่คนละห้องกับผมเธอก็ขึ้นรถอีกคัน แต่ช่วงเวลานั้นผมแอบไปขึ้นรถคันเดียวกับเธอเพื่อที่เราจะได้นั่งด้วยกัน และก็สำเร็จผมได้นั่งข้างเธอตลอดทางจนถึงที่หมาย เหตุเกิดขึ้น! เมื่อตอนขากลับหลังจากที่ทัวร์จบแล้วเราก็เริ่มเดินทางกลับ
ซึ่งคุณหลายคนอาจจะรู้ว่า ขากลับมันคือ สิ่งที่ต้องการมากกว่าเที่ยวซะอีก เพราะจะฉลองกันเต็มที่เครื่องดื่มมึนเมาเต้นร้องเพลงบนรถบัสที่ใครหลายคนคงจะผ่านตามาบ้าง เรื่องมีอยู่ว่าผมกับเพื่อนๆซื้อเหล้าขึ้นมากินกันพอได้ที่ผมก็เมา ส่วน น. ก็ไปกินเหล้ากับกลุ่มเพื่อนอีกกลุ่มซึ่งผมก็ไม่ได้ห้ามเพราะผมเองก็ดื่ม
พอรู้ว่าเมาแล้วผมจึงกลับที่นั่งเพื่อที่จะนอน ส่วน น. เธอก็ไปเต้นกับเพื่อนๆ ในช่วงที่ผมครึ่งหลับครึ่งตื่นสายตาเหลือบไปเห็น น. กำลังเต้นคลอเคลียกับผู้ชายคนนึง นามสมมติว่า บ. ซึ่งคือเพื่อนสนิทของผมซึ่งเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่อนุบาล หลายครั้งที่ น. กับ บ. แอบเหลือบมามองผม แต่ผมก็แกล้งหลับพอมันเริ่มหนักขึ้นผมทนที่จะดูไม่ไหว ผมจึงเดินเข้าไปถามแต่ก้ได้คำตอบอย่าง ของ น. และ บ. หลังจากนั้นเพื่อนอีกคนก็พยายามกันผมออกมาเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเพราะกลังว่าอาจารย์รู้ ผมถึงกับทรุดและนั่งร้องไห้ต่อหน้าเพื่อนอีกหลายๆคนบนรถ มันเป็นความเจ้บปวดครั้งแรกที่ผมได้รับกับเรื่องของความรักซึ่งมันแย่มากๆ ถึงขั้นที่ผมขอย้าย รร. เพื่อไม่เจอหน้า น. กับเพื่อนทรยศ แต่อาจารย์ก็ไม่ให้ผมย้าย จากนั้นผมก็ทนดู น. กับ บ. คบกัน แย่จัง!
หลังจากเรื่องมันผ่านมาได้ผมจบการศึกษาและเรียนระดับอุดมศึกษา ที่ คณะวิศวฯ ณ มหาลัยแห่งหนึ่ง ลืมบอกไป!ตอนกำลังจบม.6 ผมกำลังคบกับ ผู้หญิงคนนึงนามสมมติ อ. เราคบกันจนถึงผมเข้ามหาลัย ซึ่งม.เราก้ไม่ได้ไกลกันนักผมก็ไปมาหาเธอได้อยู่บ่อยๆ จนครั้งเราทะเราะกันบ่อยเข้าผมก้เริ่มห่างๆเธอไปและนอกใจเธอไปคบคนใหม่ (ผมนี่ก้เลวนะ) เรียนอยู่ ม.เดียวกับผม คณะที่สวๆเยอะมาก ชื่อว่า ม. (นามสมติ)คบกันได้สักพักผมก็เริ่มเอะใจขึ้นอีกครั้งเมื่อเพื่อนที่เรียนด้วยกันกลับผมนามสมสติว่า จ.(กลุ่มเดียวกัน) มีความสนิทสนมกันมากผิดปกติ จนผมรู้ว่าเขาทั้งสองแอบคุยกันจริง ผมจึงออกห่างและไม่บอกความจริงกับเพื่อนคนอื่นๆเลย ครั้งนึงผมหายออกจากห้องไปช่วงดึกซึ่ง รูมเมท ก้ตามหาผมกับเพื่อนคนๆ รวมทั้ง ม. กับ จ. วันนั้นมีฝนโปรยปรายลงมานิดๆผมไม่ได้ไปไหนหรอกแอบนั่งร้องไห้ในมุมๆนึงของมหาลัย (ยังกะ MV เพลงเนาะ ฝนตกนั่งร้องไห้ตากฝน 555 ) จากที่เขามาตามผมก้ไม่กลับหรอกแล้วก็ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร เขาก็พากันกลับ เช้ามา ม. ก็บอกเลิกผมไป จากนั้นไม่นาน จ. กับ ม. ก็คบกันจริงๆ (เจ็บมั้ยหละ555) พอเรื่องทุกอย่างเริ่มดีขึ้นมีคนบอกว่าแฟนเก่าที่ชื่อ อ. กำลังคบกับเพื่อนที่ชื่อ บ. เพราะ บ. มันเลิกกับ น. แล้ว (บังเอิญเนาะ) แต่ก็ช่างเถอะผมทิ้ง อ. ไปเอง
แต่ที่น่าเจ็บใจกว่านั้น คือ มันตามมาคบแฟนเก่าผมอีก คนอะไรเ_ี๊ย จริงๆ 555 ผมเจ็บกับเรื่องเดิมๆซ้ำจนผมสัญญากับตัวเองว่าถ้าผู้หญิงคนไหนเคยคุยหรือคบกับเพื่อนเราผมจะไม่ไปยุ่งกับเธอเด็ดขาด (พูดแล้วก็เจ็บเนาะ) วงจรชีวิตห่วยจัง เป็นโสดก็ดีเพื่อนจะได้ไม่มาแย่งอีก 555 ไหนๆก็จะจบอยู่แล้ว
ขอบคุณที่อ่านผมแค่ระบายพราะเก็บมานานเกือบเกือบห้าปี เก็บไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมปล่อยวางแล้วไม่โกรธไม่แค้นเพื่อนตัวเองหรอกเลวยังไงมันก็เพื่อนแหละ ขอแค่อย่าได้เกิดขึ้นอีกครั้งก็พอ