ผมก็เป็นเด็กผู้ชายคนนึงเรียนอยู่ม.6 ติดมหาลัยแล้ว เป็นผู้ชายธรรมดาทั่วไปที่อาจจะสูงกว่าชาวบ้านชาวช่องเขานิดนึงผมสูงประมาณ 196 น้ำหนัก 112 กิโลกรัมรูปร่างดูไม่อ้วนมากแต่จริงๆก็คืออ้วนถ้าถอดเสื้อ ไม่ได้เสียความมั่นใจอะไร ตอนเด็กๆก็เคยถูกบูลลี่ แล้วก็เคยเป็นคนบูลลี่ชาวบ้าน (ร้อยละ 90 จะเป็นฝ่ายโดนเอง) โตมาก็พอมีความมั่นใจอยู่บ้าง ไม่ได้เป็นพวกกลัวสังคมอะไรแค่ชอบที่จะอยู่คนเดียวหรืออยู่กับเพื่อนสนิทมากกว่า งานอดิเรกก็ทั่วไปครับ ฟังเพลงเล่นเกม ไม่ค่อยดูหนังเท่าไหร่ ว่างๆก็ออกไปขับรถเล่น ฟังเพลงไปด้วยบ้างหรือขับไปเฉยๆชมวิวบ้าง ไม่ใช่เด็กแว้น ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้าหรือถ้าดื่มเหล้าก็ดื่มพอเป็นทางการให้จอยๆไปกับงาน แต่เคยลองมาหมดแล้วบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เหล้าหรือยาสูบ และ ไม่ชอบสักอย่าง
ตอนเด็กๆเป็นคนช่างฝันครับ ผมฝันว่าผมจะแต่งงานกับผู้หญิงคนเดียว มีแฟนเพียงแค่คนเดียวไปตลอดชีวิต มีลูกนู่นนี่นั่นบลาๆค่อยว่ากัน พอโตมาก็ได้รู้ความจริงว่ามันเป็นไปได้ยาก จนมาถึงปัจจุบันก็เคยมีแฟนประมาณ 10 คนครับ 8 คนเป็นแฟนจากโลกออนไลน์ เลิกกันไปก็ไม่ได้อะไรมากถือว่าพอสอนให้เรียนรู้กับความรัก คนที่ 9 เป็นเพื่อนในห้องแต่ว่าก็โดนบอกเลิก เพราะว่านางเบื่อ ซึ่งก็รู้สึกว่าดีแล้วที่เลิกกันถ้าไม่เลิกผมน่าจะปวดหัวกว่านี้ ปัญหาอยู่ที่คนสุดท้ายนี่แหละครับ
คนสุดท้ายผมคบกับแฟนผม 1 ปี 4 เดือน ถ้าสำหรับเด็กมัธยมก็ถือว่าใช้ได้ แต่การเจอกับแฟนคนล่าสุดคนนี้เป็นโชคชะตาสุดๆเลยครับ เพราะว่าเพียงแค่ถ้าผมไม่เดินไปตรงนั้น ไม่เดินไปหาเพื่อนผม ผมก็จะไม่เจอผู้หญิงคนนั้นอีกแน่ๆ แต่แค่วันนั้นอารมณ์ดีหรืออะไรไม่รู้เดินไปหาเพื่อนก็เลยเจอเธอ เธอเป็นรุ่นพี่ผมครับ ตอนนั้นผมอยู่ม 4 เธออยู่ม 5 พวกเราคุยกันประมาณ 5 เดือนก็ได้คบกัน ระหว่างทางก็มีอุปสรรคค่อนข้างเยอะแต่ก็ผ่านมาได้ ตอนที่ได้คบกันก็เสียจูบแรกไปด้วย มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากเลยสำหรับผม ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ดีที่สุดก็ตาม เราก็คบกันไปเรื่อยๆครับทุกอย่างดูจากปกติดีจนกระทั่งผ่านไปเกือบ 1 ปีเรามีปัญหากันครับ มันเป็นเพราะอะไรหลายๆอย่างตอนนั้นผมไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรผมคิดว่ามันเป็นเพราะว่าเราไม่ยอมพูดกันตรงๆ เธอไม่ยอมบอกผมว่าเธอรู้สึกยังไง ผมเลยแก้ปัญหาไม่ถูก ผมคิดว่าผมดูแลเธอเต็มที่เท่าที่ผมจะทำได้แล้ว เวลาเธออยากได้อะไรผมก็ซื้อให้แทบจะตลอด ก็เท่าที่เด็กมัธยมคนนึงจะซื้อให้ได้ ผลสุดท้ายตอนครบรอบ 1 ปีก็ได้ความว่าจะพักคุยกันไปสัก 3 วันครับให้ตัดสินใจว่าจะเอายังไง สุดท้ายก็กลับมาคบกัน แต่พอกลับมาคบกันแล้วทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมแน่นอน เธอโฟกัสเรื่องมหาลัยของเธอมากกว่าเพราะตอนนั้นเธอก็อยู่ม. 6 แล้วผมก็ขึ้นมอ 5 เทอม 2 เธอโฟกัสกับเพื่อนเธอมากกว่าจนผมน้อยใจนู่นนี่นั่น เมื่อถึงจุดนึงเธอก็ขอเลิกผมไปแล้วเธอก็กลับมา ตอนนั้นผมเสียใจมาก ผมมองแล้วมันเป็นความผิดของเธอ แต่หลังจากเธอกลับมาแล้วแน่นอนแล้วมันก็ไม่เหมือนเดิม ทุกอย่างมันก็ไม่เหมือนเดิมจริงๆ พอผ่านไปสักเดือนนึง ระหว่างที่ผมกำลังนอนอยู่ในห้องกำลังเล่นเกมอยู่....
อยู่ๆเธอก็ทักมาว่า เราเลิกกันเถอะ... เอาจริงผมจำข้อความไม่ได้หรอกครับเพราะตอนนั้นผมตกใจมาก ใจผมดิ่งไปอยู่ตรงตาตุ่ม แต่เนื่องด้วยความที่มันเป็นรอบที่ 3 แล้วแล้วก็กฎของผมก็คือ 3 ครั้ง ครบ 3 ครั้งคือจบ ผมถามเธอให้แน่ใจดีๆแล้วเพราะมันจะไม่มีทางกลับแล้วสำหรับผม
ตอนนั้นผมคิดว่า.. มันจะจบอย่างนี้จริงๆหรอ ผมไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเลยตอนนั้น ผมโวยวาย ผมสับสน ผมพยายามพูดอะไรก็ไม่รู้ไปเรื่อยๆแพมไปเรื่อยๆ เพื่อที่ว่าจะให้เธออยู่กับผมได้นานที่สุด วันนั้นเหมือนจะเป็นวันอาทิตย์ เธอมาทักบอกเลิกผมช่วงประมาณ 22:00 น ผมคุยกับเธอจนถึงตี 1 ...... เวลามันผ่านไปไวอย่างไม่น่าเชื่อเลยผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่า 22:00 น ถึง 01:00 น มันจะไวขนาดนั้น แต่สุดท้ายแล้วผมก็ยอมรับตัวเองว่าเธอต้องไป ผมรั้งเธอไว้ไม่ได้ แล้วเธอก็ไม่อยากอยู่ มาถึงจุดนี้แล้ว.. ก็คงจะสงสัยกันว่ามันเกี่ยวอะไรกับความผิดตลอดชีวิตที่ผมพูดถึงในหัวเรื่องตอนแรก?
ตอนที่เธอทักมาบอกเลิกระหว่างที่เรากำลังคุยกันเธอค่อนข้างเน้นย้ำประโยคหนึ่งก็คือ "เธออย่าโทษตัวเองนะ มันไม่ใช่ความผิดเธอเลย" ตอนนั้นผมไม่เข้าใจประโยคนี้อย่างมาก. เธอเป็นคนบอกเลิกผมไม่ใช่เหรอ?ทำไมผมต้องโทษตัวเอง? มันเป็นความผิดของผมเหรอ?ผมพยายามเต็มที่แล้วนะ ตอนนั้นผมไม่เข้าใจประโยคนี้แม้แต่นิดเดียวเลย ในเช้าวันถัดมา ผมตื่นขึ้นมา สมองผมมันยังคิดว่าผมยังมีเธออยู่ ผมกำลังจะทักไปอรุณสวัสดิ์เธอแต่ก็กลับรู้ว่าตัวเองนั้นบล็อกเธอไปแล้ว ถึงแม้จะยังไม่ลบแชทแต่ก็บล็อกไปแทบจะทุกช่องทางแล้ว ก็ได้แต่ทำใจแล้วก็ใช้ชีวิตต่อไป เสียใจร้องไห้อยู่หลายชั่วโมง แต่ก็ยังรู้สึกว่ามีเธออยู่ในใจ ผ่านไปสัก 2-3 สัปดาห์ก็เจอรุ่นน้องเข้ามาทำให้ใจหวั่นไหว ก็คิดว่าจะทำใจได้แล้วแต่สุดท้ายก็ไม่ได้อยู่ดี ก็ยังไม่กล้าจะจีบผู้หญิงคนไหนอยู่ดี มันอาจจะเร็วเกินไปตอนนั้นหรืออะไรก็ตามเถอะ สุดท้ายก็ได้รุ่นน้องที่น่ารักมาคนหนึ่งซะงั้น?
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ผมได้รู้จักกับรุ่นน้องซึ่งเป็นรุ่นน้องผู้หญิงคนนึง น้องแกอยู่ม. 4 เพิ่งเข้ามาใหม่ ก็ได้รู้จักกันนู่นนี่นั่น ก็สนิทกัน คุยกันถูกคอ คุยกับแฟนนางก็ถูกคอ เล่นเกมกับแฟนนางบ่อยๆ สนิทกันคุยกันเฮฮา จนกระทั่งถึงช่วงประมาณ 2 เดือนก่อนหน้านี้ก่อนที่ผมจะมาเล่า รุ่นน้องผมนางแกทะเลาะกับแฟนที่ผมก็สนิทอยู่ด้วย แล้วทุกอย่างในความสัมพันธ์นี้ ความสัมพันธ์ของน้องแกกับแฟนอ่ะ ที่แกมาเล่าให้ผมฟังทุกอย่างเลยนะครับ ร้อยละ 98% เลย ผมสัมผัสได้เลยว่ามันเหมือนกับความสัมพันธ์ของผมมากๆ แต่ในครั้งนี้ผมได้รู้ว่ามุมมองของแฟนผม ในตอนนั้น ตอนที่ผมยังคบกับแฟนอยู่มันเป็นยังไง ผมได้เข้าใจว่าทำไมแฟนผมถึงบอกว่าอย่าโทษตัวเองนะ มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลย เพราะเธอรู้ดีว่าผมจะโทษตัวเอง ความคิดมากของผมมันจะทำให้ผมเป็นบ้า! แฟนผมเลยพูดไว้แต่ตอนนั้นผมไม่เข้าใจ หลังจากที่ผ่านมา 3 เดือนผมก็ได้เข้าใจว่าทำไมเธอถึงพูดแบบนั้น แม้แต่ช่วงเวลาสุดท้ายที่เธอบอกเลิกกับผมเธอก็ยังเป็นห่วงผม ก่อนที่เธอจะเลิกกับผมเธอบอกกับผมเสมอว่าถ้าเราเลิกกันขอเฝ้าดูเธอเติบโตได้ไหมเธอหวังดีกับผมมาตลอดแต่.... ผมไม่เคยเข้าใจเลย... ผมบอกกับเธอว่าถ้าเลิกกันไปแล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกันอีก! ไม่งั้นผมก็ไม่มีทางที่จะลืมเธอได้หรอก! ผมพูดออกไปอย่างนี้ทั้งที่ผมรู้อยู่แก่ใจว่าสุดท้ายแล้วผมก็ลืมเธอไม่ได้อยู่ดีแต่ผมแค่..... ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมพูดแบบนั้นทำไม ผมเป็นคนบล็อกเธอเอง แล้วในตอนนี้ผมก็มาสำนึกผิดกับการกระทำของผมเอง ผมได้เข้าใจว่าการกระทำของผมมันน่าเกลียดแค่ไหน มันมันเห็นแก่ตัวแค่ไหน มันละเลยความรู้สึกของเธอแค่ไหน ผมเคยคิดว่าผมเป็นคนดีมาก่อน จนกระทั้งผมได้รู้ว่าการกระทำของผมนี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอบอกเลิกกับผม....
ในช่วงแรกที่ได้ปรึกษาปัญหาความรักของรุ่นน้องผม ผมก็ได้เข้าใจว่าเราเหมาะสมที่จะเลิกกันแล้ว แต่พอถึงตอนนี้ผมก็ได้เข้าใจลึกซึ้งกว่าเดิมว่าทำไมเธอถึงเลิกกับผมและมันเป็นความผิดของผมเอง ผมเคยเชื่อว่าผมทำดีที่สุดและนั่นคือสิ่งที่ผมจะทำต่อ แต่ในตอนนี้ทั้งหมดความเชื่อตลอด 18 ปีที่ผมมีชีวิตอยู่มามันพังสลายออกไปหมด ผมจะต้องอยู่กับความรู้สึกผิดที่ผมสร้างขึ้นมาเอง ที่ผมทำพังเอง ผมไม่เข้าใจด้วยด้วยซ้ำว่าทำไมตัวเองถึงเลือกที่จะทำแบบนั้น ทำไมถึงเลือกที่จะทำการกระทำที่มันน่ารังเกียจและทุเรศแบบนั้นกับเธอ เธอเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดที่ผมเคยเจอ เธอมีความเป็นแม่ศรี เรียบร้อย พูดจาไพเราะ รู้กาละเทศะ ระมัดระวังตัวพร้อมที่จะเป็นแม่คนคนนึงได้สำหรับผม มีคุณสมบัติของภรรยาสูงมาก ผมได้ผู้หญิงคนนี้มาจากโชคชะตาแต่ผมกับโยนสิ่งนั้นทิ้งไปเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง.
และผมไม่แม้แต่จะรู้ความโง่เขลาของตัวเองเลยด้วยซ้ำในตอนนั้น....
ตอนนี้ผมก็เลยต้องมาสงสัยต่อว่าผมจะทำยังไงต่อกับชีวิต ความรู้สึกที่พังสลายไปจะเอายังไงต่อ ผมคงไม่อ้อนวอนให้เธอกลับมาสิ่งเดียวที่อยากจะทำก็คือขอโทษ ผมคิดว่าผมอยากจะเขียนจดหมายทิ้งไว้สัก 1 ฉบับ เมื่อเธอแต่งงานค่อยส่งจดหมายขอโทษนี้ไป ขอโทษทุกสิ่งที่ผมได้ทำกับเธอ และที่สำคัญก็คือผมจะไม่เจอหน้าเธออีกเด็ดขาด หลังจากที่ผมขอโทษเธอไปแล้ว ผมรู้สึกอายขนาดที่ว่าต่อให้เอาหน้าไปมุดไว้ในศพที่ไหนมันก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกละอายน้อยลง ผมไม่รู้ว่าผมจะใช้ชีวิตอยู่กับความรู้สึกผิดขนาดนี้ไปได้ยังไง นั่นแหละครับ ไม่รู้จะด้วยซ้ำว่าผมจะสามารถเป็นคู่รักให้ใครได้อีก ผมหมดหวังในตัวผมเองไปแล้ว.
- นามสมมุติ
เราจะอยู่กับความผิดตลอดชีวิตของเรายังไงครับ?
ตอนเด็กๆเป็นคนช่างฝันครับ ผมฝันว่าผมจะแต่งงานกับผู้หญิงคนเดียว มีแฟนเพียงแค่คนเดียวไปตลอดชีวิต มีลูกนู่นนี่นั่นบลาๆค่อยว่ากัน พอโตมาก็ได้รู้ความจริงว่ามันเป็นไปได้ยาก จนมาถึงปัจจุบันก็เคยมีแฟนประมาณ 10 คนครับ 8 คนเป็นแฟนจากโลกออนไลน์ เลิกกันไปก็ไม่ได้อะไรมากถือว่าพอสอนให้เรียนรู้กับความรัก คนที่ 9 เป็นเพื่อนในห้องแต่ว่าก็โดนบอกเลิก เพราะว่านางเบื่อ ซึ่งก็รู้สึกว่าดีแล้วที่เลิกกันถ้าไม่เลิกผมน่าจะปวดหัวกว่านี้ ปัญหาอยู่ที่คนสุดท้ายนี่แหละครับ
คนสุดท้ายผมคบกับแฟนผม 1 ปี 4 เดือน ถ้าสำหรับเด็กมัธยมก็ถือว่าใช้ได้ แต่การเจอกับแฟนคนล่าสุดคนนี้เป็นโชคชะตาสุดๆเลยครับ เพราะว่าเพียงแค่ถ้าผมไม่เดินไปตรงนั้น ไม่เดินไปหาเพื่อนผม ผมก็จะไม่เจอผู้หญิงคนนั้นอีกแน่ๆ แต่แค่วันนั้นอารมณ์ดีหรืออะไรไม่รู้เดินไปหาเพื่อนก็เลยเจอเธอ เธอเป็นรุ่นพี่ผมครับ ตอนนั้นผมอยู่ม 4 เธออยู่ม 5 พวกเราคุยกันประมาณ 5 เดือนก็ได้คบกัน ระหว่างทางก็มีอุปสรรคค่อนข้างเยอะแต่ก็ผ่านมาได้ ตอนที่ได้คบกันก็เสียจูบแรกไปด้วย มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากเลยสำหรับผม ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ดีที่สุดก็ตาม เราก็คบกันไปเรื่อยๆครับทุกอย่างดูจากปกติดีจนกระทั่งผ่านไปเกือบ 1 ปีเรามีปัญหากันครับ มันเป็นเพราะอะไรหลายๆอย่างตอนนั้นผมไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรผมคิดว่ามันเป็นเพราะว่าเราไม่ยอมพูดกันตรงๆ เธอไม่ยอมบอกผมว่าเธอรู้สึกยังไง ผมเลยแก้ปัญหาไม่ถูก ผมคิดว่าผมดูแลเธอเต็มที่เท่าที่ผมจะทำได้แล้ว เวลาเธออยากได้อะไรผมก็ซื้อให้แทบจะตลอด ก็เท่าที่เด็กมัธยมคนนึงจะซื้อให้ได้ ผลสุดท้ายตอนครบรอบ 1 ปีก็ได้ความว่าจะพักคุยกันไปสัก 3 วันครับให้ตัดสินใจว่าจะเอายังไง สุดท้ายก็กลับมาคบกัน แต่พอกลับมาคบกันแล้วทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมแน่นอน เธอโฟกัสเรื่องมหาลัยของเธอมากกว่าเพราะตอนนั้นเธอก็อยู่ม. 6 แล้วผมก็ขึ้นมอ 5 เทอม 2 เธอโฟกัสกับเพื่อนเธอมากกว่าจนผมน้อยใจนู่นนี่นั่น เมื่อถึงจุดนึงเธอก็ขอเลิกผมไปแล้วเธอก็กลับมา ตอนนั้นผมเสียใจมาก ผมมองแล้วมันเป็นความผิดของเธอ แต่หลังจากเธอกลับมาแล้วแน่นอนแล้วมันก็ไม่เหมือนเดิม ทุกอย่างมันก็ไม่เหมือนเดิมจริงๆ พอผ่านไปสักเดือนนึง ระหว่างที่ผมกำลังนอนอยู่ในห้องกำลังเล่นเกมอยู่....
อยู่ๆเธอก็ทักมาว่า เราเลิกกันเถอะ... เอาจริงผมจำข้อความไม่ได้หรอกครับเพราะตอนนั้นผมตกใจมาก ใจผมดิ่งไปอยู่ตรงตาตุ่ม แต่เนื่องด้วยความที่มันเป็นรอบที่ 3 แล้วแล้วก็กฎของผมก็คือ 3 ครั้ง ครบ 3 ครั้งคือจบ ผมถามเธอให้แน่ใจดีๆแล้วเพราะมันจะไม่มีทางกลับแล้วสำหรับผม
ตอนนั้นผมคิดว่า.. มันจะจบอย่างนี้จริงๆหรอ ผมไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเลยตอนนั้น ผมโวยวาย ผมสับสน ผมพยายามพูดอะไรก็ไม่รู้ไปเรื่อยๆแพมไปเรื่อยๆ เพื่อที่ว่าจะให้เธออยู่กับผมได้นานที่สุด วันนั้นเหมือนจะเป็นวันอาทิตย์ เธอมาทักบอกเลิกผมช่วงประมาณ 22:00 น ผมคุยกับเธอจนถึงตี 1 ...... เวลามันผ่านไปไวอย่างไม่น่าเชื่อเลยผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่า 22:00 น ถึง 01:00 น มันจะไวขนาดนั้น แต่สุดท้ายแล้วผมก็ยอมรับตัวเองว่าเธอต้องไป ผมรั้งเธอไว้ไม่ได้ แล้วเธอก็ไม่อยากอยู่ มาถึงจุดนี้แล้ว.. ก็คงจะสงสัยกันว่ามันเกี่ยวอะไรกับความผิดตลอดชีวิตที่ผมพูดถึงในหัวเรื่องตอนแรก?
ตอนที่เธอทักมาบอกเลิกระหว่างที่เรากำลังคุยกันเธอค่อนข้างเน้นย้ำประโยคหนึ่งก็คือ "เธออย่าโทษตัวเองนะ มันไม่ใช่ความผิดเธอเลย" ตอนนั้นผมไม่เข้าใจประโยคนี้อย่างมาก. เธอเป็นคนบอกเลิกผมไม่ใช่เหรอ?ทำไมผมต้องโทษตัวเอง? มันเป็นความผิดของผมเหรอ?ผมพยายามเต็มที่แล้วนะ ตอนนั้นผมไม่เข้าใจประโยคนี้แม้แต่นิดเดียวเลย ในเช้าวันถัดมา ผมตื่นขึ้นมา สมองผมมันยังคิดว่าผมยังมีเธออยู่ ผมกำลังจะทักไปอรุณสวัสดิ์เธอแต่ก็กลับรู้ว่าตัวเองนั้นบล็อกเธอไปแล้ว ถึงแม้จะยังไม่ลบแชทแต่ก็บล็อกไปแทบจะทุกช่องทางแล้ว ก็ได้แต่ทำใจแล้วก็ใช้ชีวิตต่อไป เสียใจร้องไห้อยู่หลายชั่วโมง แต่ก็ยังรู้สึกว่ามีเธออยู่ในใจ ผ่านไปสัก 2-3 สัปดาห์ก็เจอรุ่นน้องเข้ามาทำให้ใจหวั่นไหว ก็คิดว่าจะทำใจได้แล้วแต่สุดท้ายก็ไม่ได้อยู่ดี ก็ยังไม่กล้าจะจีบผู้หญิงคนไหนอยู่ดี มันอาจจะเร็วเกินไปตอนนั้นหรืออะไรก็ตามเถอะ สุดท้ายก็ได้รุ่นน้องที่น่ารักมาคนหนึ่งซะงั้น?
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ผมได้รู้จักกับรุ่นน้องซึ่งเป็นรุ่นน้องผู้หญิงคนนึง น้องแกอยู่ม. 4 เพิ่งเข้ามาใหม่ ก็ได้รู้จักกันนู่นนี่นั่น ก็สนิทกัน คุยกันถูกคอ คุยกับแฟนนางก็ถูกคอ เล่นเกมกับแฟนนางบ่อยๆ สนิทกันคุยกันเฮฮา จนกระทั่งถึงช่วงประมาณ 2 เดือนก่อนหน้านี้ก่อนที่ผมจะมาเล่า รุ่นน้องผมนางแกทะเลาะกับแฟนที่ผมก็สนิทอยู่ด้วย แล้วทุกอย่างในความสัมพันธ์นี้ ความสัมพันธ์ของน้องแกกับแฟนอ่ะ ที่แกมาเล่าให้ผมฟังทุกอย่างเลยนะครับ ร้อยละ 98% เลย ผมสัมผัสได้เลยว่ามันเหมือนกับความสัมพันธ์ของผมมากๆ แต่ในครั้งนี้ผมได้รู้ว่ามุมมองของแฟนผม ในตอนนั้น ตอนที่ผมยังคบกับแฟนอยู่มันเป็นยังไง ผมได้เข้าใจว่าทำไมแฟนผมถึงบอกว่าอย่าโทษตัวเองนะ มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลย เพราะเธอรู้ดีว่าผมจะโทษตัวเอง ความคิดมากของผมมันจะทำให้ผมเป็นบ้า! แฟนผมเลยพูดไว้แต่ตอนนั้นผมไม่เข้าใจ หลังจากที่ผ่านมา 3 เดือนผมก็ได้เข้าใจว่าทำไมเธอถึงพูดแบบนั้น แม้แต่ช่วงเวลาสุดท้ายที่เธอบอกเลิกกับผมเธอก็ยังเป็นห่วงผม ก่อนที่เธอจะเลิกกับผมเธอบอกกับผมเสมอว่าถ้าเราเลิกกันขอเฝ้าดูเธอเติบโตได้ไหมเธอหวังดีกับผมมาตลอดแต่.... ผมไม่เคยเข้าใจเลย... ผมบอกกับเธอว่าถ้าเลิกกันไปแล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกันอีก! ไม่งั้นผมก็ไม่มีทางที่จะลืมเธอได้หรอก! ผมพูดออกไปอย่างนี้ทั้งที่ผมรู้อยู่แก่ใจว่าสุดท้ายแล้วผมก็ลืมเธอไม่ได้อยู่ดีแต่ผมแค่..... ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมพูดแบบนั้นทำไม ผมเป็นคนบล็อกเธอเอง แล้วในตอนนี้ผมก็มาสำนึกผิดกับการกระทำของผมเอง ผมได้เข้าใจว่าการกระทำของผมมันน่าเกลียดแค่ไหน มันมันเห็นแก่ตัวแค่ไหน มันละเลยความรู้สึกของเธอแค่ไหน ผมเคยคิดว่าผมเป็นคนดีมาก่อน จนกระทั้งผมได้รู้ว่าการกระทำของผมนี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอบอกเลิกกับผม....
ในช่วงแรกที่ได้ปรึกษาปัญหาความรักของรุ่นน้องผม ผมก็ได้เข้าใจว่าเราเหมาะสมที่จะเลิกกันแล้ว แต่พอถึงตอนนี้ผมก็ได้เข้าใจลึกซึ้งกว่าเดิมว่าทำไมเธอถึงเลิกกับผมและมันเป็นความผิดของผมเอง ผมเคยเชื่อว่าผมทำดีที่สุดและนั่นคือสิ่งที่ผมจะทำต่อ แต่ในตอนนี้ทั้งหมดความเชื่อตลอด 18 ปีที่ผมมีชีวิตอยู่มามันพังสลายออกไปหมด ผมจะต้องอยู่กับความรู้สึกผิดที่ผมสร้างขึ้นมาเอง ที่ผมทำพังเอง ผมไม่เข้าใจด้วยด้วยซ้ำว่าทำไมตัวเองถึงเลือกที่จะทำแบบนั้น ทำไมถึงเลือกที่จะทำการกระทำที่มันน่ารังเกียจและทุเรศแบบนั้นกับเธอ เธอเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดที่ผมเคยเจอ เธอมีความเป็นแม่ศรี เรียบร้อย พูดจาไพเราะ รู้กาละเทศะ ระมัดระวังตัวพร้อมที่จะเป็นแม่คนคนนึงได้สำหรับผม มีคุณสมบัติของภรรยาสูงมาก ผมได้ผู้หญิงคนนี้มาจากโชคชะตาแต่ผมกับโยนสิ่งนั้นทิ้งไปเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง.
และผมไม่แม้แต่จะรู้ความโง่เขลาของตัวเองเลยด้วยซ้ำในตอนนั้น....
ตอนนี้ผมก็เลยต้องมาสงสัยต่อว่าผมจะทำยังไงต่อกับชีวิต ความรู้สึกที่พังสลายไปจะเอายังไงต่อ ผมคงไม่อ้อนวอนให้เธอกลับมาสิ่งเดียวที่อยากจะทำก็คือขอโทษ ผมคิดว่าผมอยากจะเขียนจดหมายทิ้งไว้สัก 1 ฉบับ เมื่อเธอแต่งงานค่อยส่งจดหมายขอโทษนี้ไป ขอโทษทุกสิ่งที่ผมได้ทำกับเธอ และที่สำคัญก็คือผมจะไม่เจอหน้าเธออีกเด็ดขาด หลังจากที่ผมขอโทษเธอไปแล้ว ผมรู้สึกอายขนาดที่ว่าต่อให้เอาหน้าไปมุดไว้ในศพที่ไหนมันก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกละอายน้อยลง ผมไม่รู้ว่าผมจะใช้ชีวิตอยู่กับความรู้สึกผิดขนาดนี้ไปได้ยังไง นั่นแหละครับ ไม่รู้จะด้วยซ้ำว่าผมจะสามารถเป็นคู่รักให้ใครได้อีก ผมหมดหวังในตัวผมเองไปแล้ว.
- นามสมมุติ