หน้าชาแทนคนไทย...เมื่อฝรั่งลืมเงินไว้ที่ตู้เซฟในห้องพักโรงแรม

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราจองโรงแรมให้แขกฝรั่งที่มาพักเพื่อมาทำงานซ่อมบำรุงเครื่องจักรของโรงงาน
ให้พักที่โรงแรม 3-4 ดาวริมทะเลที่อยู่ในรัศมีใกล้โรงงานที่สุด คืนละเกือบๆ2000
ตามปกติจะส่งแขกไปพักที่นี่เป็นประจำเพราะสะดวกในการรับ-ส่งมาโรงงาน
แขกคนนี้พักอยู่ 3 คืน คนละห้องกับเพื่อนที่มาด้วยกัน แล้วเช็คเอ้าท์เลท ออกไปเมื่อวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ ตอนเย็น เพื่อบินกลับต่างประเทศ

พอมาวันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ มีเมล์ส่งมาแจ้งเราว่าเค้าลืมเงินไว้ใน Safety box ในห้องพักจำนวนประมาณ 200 ยูโร ตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 8000 บาท
ให้เราสอบถามไปทางโรงแรม เพราะมันผ่านมา 3 คืนแล้วที่เค้าลืม พร้อมบอกว่า 'ถ้าได้คืนก็ดี แต่ถ้าไม่ได้คืนก็ไม่เป็นไร' แล้วก็ให้ Code มา (ไม่เป็นไรได้ไง???)

แต่..........ในหัวของเรามีคำถามว่า........
1. ยังไงก็ต้องได้เงินคืน ไม่เป็นไรไม่ได้ เท่าที่รู้ทางโรงแรมแต่ละแห่งจะมีผู้จัดการที่ถือกุญแจเพื่อมาเปิดตู้เซฟได้เพียงคนเดียว จึงยังพอเบาใจได้บ้างว่าถ้าเงินหายไปจริง ทางโรงแรมก็ต้องรู้ว่าใครเป็นคนเอาไป
2. ทำไมโรงแรมไม่แจ้งว่าแขกลืมเงินทิ้งไว้ในตู้เซฟทั้งที่ผ่านมาแล้วถึง 3 วัน จะบอกว่าไม่มีอีเมล์แขก ก็แจ้งเราสิ ปกติติดต่ออะไรก็ผ่านเราอยู่แล้ว เค้าจะมองคนไทยว่าไงเนี่ย

เราก็โทรไป รีเซฟชั่นรับสาย (เป็นบทสนทนาคร่าวๆเท่าที่จำได้นะคะ)
เรา : "น้องคะ พี่โทรจากบรัษัท........นะคะ พี่จะสอบถามเรื่องแขก Mr...... ที่เช็คเอ้าท์ออกไปเมื่อคืนวันศุกร์ค่ะ"
Re : "ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ"
เรา : "Mr. ... เค้าลืมเงินไว้ในห้อง ใน safety box ห้องหมายเลข ......มีใครแจ้งไว้มั้ยคะ"
Re : "สักครู่นะคะ เดี๋ยวถามแม่บ้านก่อน"
เรา : (ห๊ะ!!! ถามแม่บ้าน???) .....
ฟังเพลงรอสายแป๊ปนึง นางก็กลับมาในสาย
Re : "คุณ..คะ ใช่ค่ะลูกค้าลืมเงินไว้ในตู้เซฟค่ะ เจอตั้งแต่วันศุกร์แล้วค่ะ"
เรา : "เอ่อ แล้วทำไมโรงแรมไม่แจ้งอ่ะคะ ถ้าลูกค้าไม่ถามก็ไม่แจ้งเหรอคะ เพราะมันผ่านมาตั้ง 3 วันแล้ว ใครเป็นคนเจอคะ ปกติเวลาลูกค้าเช็คเอ้าท์ แล้วเซฟในห้องล็อคอยู่ นี่แม่บ้านเป็นคนเปิดเหรอคะ"
Re : "ซักครู่นะคะ"
แล้วนางก็โอนสายไปให้ผู้ชายคนนึงที่เราเดาว่าน่าจะเป็นคนดูแลเรื่องนี้โดยตรง
Safe : "สวัสดีครับ"
เรา : "ค่ะ"
Safe : "............" (คือเงียบเหมือนงง ว่าใครโอนสายมา ไม่รู้เรื่องอะไร)
เรา : "พอดีจะสอบถามเรื่องที่ลูกค้าลืมเงินไว้ในตู้เซฟในห้องค่ะ"
Safe : "อ๋อ ครับๆ ว่าไงครับ"
เรา : "..??.."  "คือปกติทางโรงแรมไม่มีนโยบายแจ้งลูกค้าในกรณีลืมของไว้ในเซฟในห้อง ไม่ได้วางไว้ตามหัวเตียง นี่ผ่านมาแล้ว 3 วันค่ะ"
Safe : "คืองี้ครับ ก็..เอ่อ...อ่า....แขกลืมไว้ครับ ถ้าแขกลืมไว้ แม่บ้านก็จะเก็บไว้ให้ครับ"
เรา : "เหรอคะ แล้วไม่แจ้งแขกเหรอคะ หรือต้องรอให้แขกเค้ามาทวงถามเอง"
Safe : "ครับๆก็แจ้งครับแจ้ง"
เรา : "เท่าที่เข้าใจ ทางโรงแรมแต่ละที่จะมีคนถือกุญแจเปิดตู้เซฟได้คนเดียว อันนี้แม่บ้านเปิดได้ด้วยเหรอคะ แล้วใช้เวลากี่วันแจ้งคะ นี่ 3 วันแล้ว"
Safe : "ใช่ครับ ก็มีคนถือกุญแจเปิดคนเดียว" (แล้วก็อ้ำๆอึ้งๆตอบไม่ตรงคำถาม)
เรา : "คือเราก็ทำธุรกิจกันมานานอ่ะนะคะ เคสแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น และถ้าพูดตรงๆที่ถามไปเนี่ย มันเกี่ยวกับชื่อเสียงโรงแรมคุณโดยตรงเลยนะ ว่าแขกลืมของไว้ 3 วันในเซฟ  มีคนเปิด เจอ คุณรู้กันหรือเพิ่งรู้อันนี้ไม่ทราบ แต่แขกลืมไว้ แล้วรอให้แขกติดต่อมาเองเหรอคะ  ถ้าติดต่อไม่ได้ ทำไงคะ คุณมีเบอร์แขกเหรอคะ อีเมล์คุณก็ไม่มี แล้วทำไมคุณไม่ติดต่อดิฉันซึ่งเป็นคนทำจองมาตลอด ถ้าแขกลืม ก็ลืมไป อย่างนั้นเหรอคะ???  แขกเค้าอาจจะคิดว่า ทางโรงแรมติดต่อมาที่ดิฉันแล้ว แต่ดิฉันไม่ได้แจ้งแขกก็อาจเป็นได้ มันก็พาเสียชื่อมาถึงเราด้วยเหมือนกันนะคะ  รบกวนตรวจสอบระบบและนโยบายของคุณด้วยนะคะ ว่าเคสนี้เกิดอะไรขึ้น และถ้าจะให้ดีก็แจ้งผลกลับมาด้วย"
Safe : "ครับๆ"  (รับไปแบบส่งๆ)

วันนี้เจ้านายเพิ่งทราบเรื่อง เดินมาถามเรา ว่าทำไมโรงแรมไม่แจ้ง ลืมเงินตั้งเยอะไว้ตั้งหลายวัน แล้วลืมใน safety box ด้วยอีกต่างหาก
เจ้านายบอกว่า 'เสียชื่อนะ โรงแรมนี้ ต่อไปใครจะอยากมาพัก ทำแบบนี้เหมือนทำลายชื่อเสียงของประเทศไปด้วยเลย'

โอว......แม่เจ้า........หน้าชา.......เหมารวมเลยทีนี้......อยากจะเถียงนะ ว่า แหม..ทำอย่างกับประเทศยูไม่มีคนแบบนี้นะ มันก็มีเหมือนกันหมดน่ะแหละ
แต่.......มันไม่ใช่อ่ะ เราจะคิดย้อนเค้าแบบนี้ไม่ได้  เพราะมันคือเรื่องจริง ใครจะเป็นยังไงก็ช่าง เราดูที่ตัวเรา ประเทศเราดีกว่า จะวัดความดีความชั่วนี่วัดกันยาก มันไม่ควรเกิดขึ้นกับโรงแรมระดับนี้ ยังติดอยู่ในหัว ว่าทำไม เค้าคิดอะไรกัน

หรือเราเข้าใจโรงแรมผิดคะ ใครรู้ช่วยบอกที ว่าระบบพวกนี้ของโรงแรมเป็นยังไง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่