เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้พาลูกค้าของบริษัทไปเข้าพักที่ โรงแรมดังแห่งหนึ่ง บนถนนเพรชบุรี แถวๆ รพ.กรุงเทพ เพื่อจะสั่งซื้อสินค้าส่งออกไปยัง ต่างประเทศ
ซึ่งแน่นอน ลูกค้าย่อมพกเงินดอลล่ามาเพื่อนมัดจำค่าสินค้าเป็นเงินสกุลดอลล่าสหรัฐ และเงินสกุลยูโร
โดยแบ่งใส่ซองน้ำตาล 5 ซอง
(4 ซองเป็นตัวเลขกลมๆ ส่วนอีก 1 ซอง เป็นเศษ 3,200ยูโร รวมกับเช๊คเงินสดสกุลเงิน อียิปต์ปอนด์ 350,000 EYP)
เวลาเข้าพักคือ ช่วงวันที่ 18 พย. - 25 พย. 2557
วันแรกที่เข้าพัก ถึงวันที่ 21 ทุกอย่างเป็นปกติ จนมาถึงคืนวันที่ 22 พย. ผมเอาเงินบาทไปแลกดอลล่าให้ลูกค้า 3,000$ แล้วเอาไปส่งให้ที่โรงแรมในคืนวันที่ 21 เราก็เอาเงินออกมานับกันเพราะมีนัดวันที่ 25 ต้องจ่ายมัดจำกับโรงงาน ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี...
วันที่ 25 พย. ผมโทรไปที่ล๊อบบี้เพื่อขอยืดเวลาเช๊คเอ้าท์อยู่ต่ออีก 1-2 คืน แต่ทางโรงแรมแจ้งว่า เรา booking มาแค่ วันที่ 25 ตอนนี้ห้องเต็มหมดแล้วต้องย้ายออก ดังนั้นช่วงเวลา 11.40 วันที่ 25 ทางลูกค้าจึงต้องเก็บกระเป๋ารวมถึงซองทั้งหมดที่อยู่ในเซฟ (จากคืนวันที่ 21 จนถึงเช้า 25 ไม่ได้เปิดตู้เซฟอีกเลย) เพราะมีนัดโรงงานตอนบ่ายโมงตรง ทำให้ไม่ได้มีเวลามานั่งนับเงินทุกซอง ลูกค้าใส่ซองทั้งหมดไว้ในกระเป๋าถือโดยถือติดตัวตลอด เช๊คเอ้าเสร็จขึ้นรถทันที มุ่งหน้าสู่โรงงานที่ นครปฐม ระหว่างกำลังเดินทางก็เอาซองมานับเงินอีกที ปรากฏว่า ซองที่เป็นเศษเงินที่ใส่ เศษ 3,200ยูโร+ 3,000$ ที่เอามาให้ทีหลัง รวมกับเช๊คเงินสดสกุลเงิน อียิปต์ปอนด์ 350,000 EYP) หายไป จึงโทรไปที่โรงแรม ว่าเงินหาย แจ้งรายละเอียดทั้งหมด...
ประชุมเสร็จตอนเย็น เลยตีรถกลับมาที่กรุงเทพ ทุกลักทุเล หา รร.ใหม่เพราะ รร.เก่าไม่ให้อยู่ต่อ ไปที่โรแรมแล้วไปเล่าเรื่องให้หมดให้ ผจก.ฟัง ผจก แจ้งว่าต้องไปแจ้งความ ห้าทุ่มคืนนั้นเลยไปแจ้งความที่ สน.มักหะกัน ซึ่งอยู่ตรงข้ามที่เกิดเหต. ห่างกันไปไฟแดงเดียว.. แจ้งความเสร็จก็คิดว่าเรื่องจะเป็นไปได้ด้วยดีจับคนร้ายได้โดยไว....
ลูกค้าพูดด้วยความโมโหว่านี่หยามกันมาก "ในห้องพักแท้ๆ ไม่มีคนอื่นเข้ามาเลย ดูจากกล่องวงจรปิดก็มีแต่ลูกค้ากับพนักงานทำความสะอาด"
ทำไมถึงมั่นใจว่าจะจับคนร้ายได้
1. ลิฟท์ชั้นห้องพักต้องใช้ คีย์การ์ด
2. กุญแจห้องเป็นคีย์การ์ด
3. มีกล้องวงจรปิดเต็มไปหมด.
4. ลูกค้าเปิดตู้เซฟเอาซองออกมาก่อนเช็คเอ้าท์ด้วยรหัสเดิม แปลว่าไม่มีการใช้ มาสเตอร์โค้ตแน่นอน ต้องเป็นคนที่รู้รหัส หรือ มี มาตเตอร์คีย์ เท่านั้น
ผ่านมาจะสามเดือน เรื่องเงียบกริ๊ปเข้ากลีบเมฆ ป่านนี้ขโมยมันคงเอาตังไปใช้จนอุจาระออกมากหมดแล้ว.
ทางโรงแรมแจ้งว่าจะสืบสวนเป็นการภายในตั้งแต่วันแรกที่เงินหาย แต่แจ้งกลับมาแค่ว่าไม่พบอะไรผิดปกติจากการสอบถามพนักงงาน (ขโมยมันคงสารภาพหรอกนะ ว่ามันขโมย)
1. ถามว่าเราผิดมั้ย ก็ผิดที่ทำไมไม่นับเงินก่อนออกมาก เสียเวลาอย่างมากก็ครึ่ง ชม. แต่ก็นะเพราะความไว้ใจ รร.5 ดาว พักประจำด้วย เดือนนึงพัก 15 วัน
2. แต่จะมองอีกมุมนึง รร.5 ดาว ปล่อยให้มีขโมยเข้าไปได้ไง
3. ลูกค้าต่างประเทศเข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย เฉพาะลูกค้าคนนี้ ปีนึงเงินเข้าประเทศเกือบ 500 ล้านบาท มันน่าอายนะ ที่ตำรวจเองก็ยังจับใครไม่ได้ ทั้งๆที่กล้องวงจรปิดมันก็มีว่าใครเข้าออก รายชื่อพนักงานก็มี ทุกอย่างอยู่ที่ตำรวจแล้ว..
4. มันจะมีกลิ่นตุๆ รึป่าว???
วันนี้ 17 กุมภา 2558 ผ่านมาจะ สามเดือนแล้ว โทรไปถาม ผจก ว่ามีอะไรคืบหน้ามั๊ย.. คำตอบคือ "เราได้ให้ข้อมูลกับ จนท ตำรวจไปหมดแล้ว ต้องเป็นหน้าที่ของ ตำรวจที่จะติดตาม"
เห้ย... เงินหายใน รร. เมิงนะ ไม่ใข่หน้า รร. ในล๊อบบี้ แต่
ในตู้เซฟ ในห้องพัก ที่ไม่มีคนนอกเข้าไปได้ ลูกค้าไม่ได้ไปเที่ยวผู้หญิงไม่พาคนนอกเข้ามา รร.เมิงมีขโมยแล้วคร๊าบ...
ผมฟังเสร็จก็อึ้งเหมือนกัน เงินตั้งเกือบครึ้งล้านหายไป ถึงแม้มันจะเล็กๆน้อยๆในธุรกิจของลูกค้า แต่มันก็น่าอับอายมากสำหรับการบริการของโรงแรม 5 ดาว...
ผมควรช่วยลูกค้ายังไงดี ไปนั่งเฝ้าตำรวจก็คงไม่ใช่เรื่อง
ตัวเช๊ครอคนเอาเช๊คไปขึ้นอยู่ครับจะได้จับตัวได้ เช็คเลขที่ 407 130 0000 5248 Egypt Bank เหลือแต่หัวเช็ตที่ยังมีเลขอยู่ ตัวเช็คไม่ได้ถ่ายเอาไว้ครับ
เงินหายในตู้เซฟห้องพักโรงแรมห้าดาว บนถนนเพรชบุรีตัดใหม่ เกือบครึ่งล้าน แจ้งความสามเดือนแล้วเรื่องเงียบ ทำไงดี
ซึ่งแน่นอน ลูกค้าย่อมพกเงินดอลล่ามาเพื่อนมัดจำค่าสินค้าเป็นเงินสกุลดอลล่าสหรัฐ และเงินสกุลยูโร
โดยแบ่งใส่ซองน้ำตาล 5 ซอง
(4 ซองเป็นตัวเลขกลมๆ ส่วนอีก 1 ซอง เป็นเศษ 3,200ยูโร รวมกับเช๊คเงินสดสกุลเงิน อียิปต์ปอนด์ 350,000 EYP)
เวลาเข้าพักคือ ช่วงวันที่ 18 พย. - 25 พย. 2557
วันแรกที่เข้าพัก ถึงวันที่ 21 ทุกอย่างเป็นปกติ จนมาถึงคืนวันที่ 22 พย. ผมเอาเงินบาทไปแลกดอลล่าให้ลูกค้า 3,000$ แล้วเอาไปส่งให้ที่โรงแรมในคืนวันที่ 21 เราก็เอาเงินออกมานับกันเพราะมีนัดวันที่ 25 ต้องจ่ายมัดจำกับโรงงาน ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี...
วันที่ 25 พย. ผมโทรไปที่ล๊อบบี้เพื่อขอยืดเวลาเช๊คเอ้าท์อยู่ต่ออีก 1-2 คืน แต่ทางโรงแรมแจ้งว่า เรา booking มาแค่ วันที่ 25 ตอนนี้ห้องเต็มหมดแล้วต้องย้ายออก ดังนั้นช่วงเวลา 11.40 วันที่ 25 ทางลูกค้าจึงต้องเก็บกระเป๋ารวมถึงซองทั้งหมดที่อยู่ในเซฟ (จากคืนวันที่ 21 จนถึงเช้า 25 ไม่ได้เปิดตู้เซฟอีกเลย) เพราะมีนัดโรงงานตอนบ่ายโมงตรง ทำให้ไม่ได้มีเวลามานั่งนับเงินทุกซอง ลูกค้าใส่ซองทั้งหมดไว้ในกระเป๋าถือโดยถือติดตัวตลอด เช๊คเอ้าเสร็จขึ้นรถทันที มุ่งหน้าสู่โรงงานที่ นครปฐม ระหว่างกำลังเดินทางก็เอาซองมานับเงินอีกที ปรากฏว่า ซองที่เป็นเศษเงินที่ใส่ เศษ 3,200ยูโร+ 3,000$ ที่เอามาให้ทีหลัง รวมกับเช๊คเงินสดสกุลเงิน อียิปต์ปอนด์ 350,000 EYP) หายไป จึงโทรไปที่โรงแรม ว่าเงินหาย แจ้งรายละเอียดทั้งหมด...
ประชุมเสร็จตอนเย็น เลยตีรถกลับมาที่กรุงเทพ ทุกลักทุเล หา รร.ใหม่เพราะ รร.เก่าไม่ให้อยู่ต่อ ไปที่โรแรมแล้วไปเล่าเรื่องให้หมดให้ ผจก.ฟัง ผจก แจ้งว่าต้องไปแจ้งความ ห้าทุ่มคืนนั้นเลยไปแจ้งความที่ สน.มักหะกัน ซึ่งอยู่ตรงข้ามที่เกิดเหต. ห่างกันไปไฟแดงเดียว.. แจ้งความเสร็จก็คิดว่าเรื่องจะเป็นไปได้ด้วยดีจับคนร้ายได้โดยไว....
ลูกค้าพูดด้วยความโมโหว่านี่หยามกันมาก "ในห้องพักแท้ๆ ไม่มีคนอื่นเข้ามาเลย ดูจากกล่องวงจรปิดก็มีแต่ลูกค้ากับพนักงานทำความสะอาด"
ทำไมถึงมั่นใจว่าจะจับคนร้ายได้
1. ลิฟท์ชั้นห้องพักต้องใช้ คีย์การ์ด
2. กุญแจห้องเป็นคีย์การ์ด
3. มีกล้องวงจรปิดเต็มไปหมด.
4. ลูกค้าเปิดตู้เซฟเอาซองออกมาก่อนเช็คเอ้าท์ด้วยรหัสเดิม แปลว่าไม่มีการใช้ มาสเตอร์โค้ตแน่นอน ต้องเป็นคนที่รู้รหัส หรือ มี มาตเตอร์คีย์ เท่านั้น
ผ่านมาจะสามเดือน เรื่องเงียบกริ๊ปเข้ากลีบเมฆ ป่านนี้ขโมยมันคงเอาตังไปใช้จนอุจาระออกมากหมดแล้ว.
ทางโรงแรมแจ้งว่าจะสืบสวนเป็นการภายในตั้งแต่วันแรกที่เงินหาย แต่แจ้งกลับมาแค่ว่าไม่พบอะไรผิดปกติจากการสอบถามพนักงงาน (ขโมยมันคงสารภาพหรอกนะ ว่ามันขโมย)
1. ถามว่าเราผิดมั้ย ก็ผิดที่ทำไมไม่นับเงินก่อนออกมาก เสียเวลาอย่างมากก็ครึ่ง ชม. แต่ก็นะเพราะความไว้ใจ รร.5 ดาว พักประจำด้วย เดือนนึงพัก 15 วัน
2. แต่จะมองอีกมุมนึง รร.5 ดาว ปล่อยให้มีขโมยเข้าไปได้ไง
3. ลูกค้าต่างประเทศเข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย เฉพาะลูกค้าคนนี้ ปีนึงเงินเข้าประเทศเกือบ 500 ล้านบาท มันน่าอายนะ ที่ตำรวจเองก็ยังจับใครไม่ได้ ทั้งๆที่กล้องวงจรปิดมันก็มีว่าใครเข้าออก รายชื่อพนักงานก็มี ทุกอย่างอยู่ที่ตำรวจแล้ว..
4. มันจะมีกลิ่นตุๆ รึป่าว???
วันนี้ 17 กุมภา 2558 ผ่านมาจะ สามเดือนแล้ว โทรไปถาม ผจก ว่ามีอะไรคืบหน้ามั๊ย.. คำตอบคือ "เราได้ให้ข้อมูลกับ จนท ตำรวจไปหมดแล้ว ต้องเป็นหน้าที่ของ ตำรวจที่จะติดตาม"
เห้ย... เงินหายใน รร. เมิงนะ ไม่ใข่หน้า รร. ในล๊อบบี้ แต่ในตู้เซฟ ในห้องพัก ที่ไม่มีคนนอกเข้าไปได้ ลูกค้าไม่ได้ไปเที่ยวผู้หญิงไม่พาคนนอกเข้ามา รร.เมิงมีขโมยแล้วคร๊าบ...
ผมฟังเสร็จก็อึ้งเหมือนกัน เงินตั้งเกือบครึ้งล้านหายไป ถึงแม้มันจะเล็กๆน้อยๆในธุรกิจของลูกค้า แต่มันก็น่าอับอายมากสำหรับการบริการของโรงแรม 5 ดาว...
ผมควรช่วยลูกค้ายังไงดี ไปนั่งเฝ้าตำรวจก็คงไม่ใช่เรื่อง
ตัวเช๊ครอคนเอาเช๊คไปขึ้นอยู่ครับจะได้จับตัวได้ เช็คเลขที่ 407 130 0000 5248 Egypt Bank เหลือแต่หัวเช็ตที่ยังมีเลขอยู่ ตัวเช็คไม่ได้ถ่ายเอาไว้ครับ