ปีนี้ลีคของอิตาลีมีเรื่องให้น่าตื่นเต้นอีกครั้ง จากการกลับมาของ Aurea Cruz นักวอลเลย์บอลหญิง จากประเทศเปอร์โต ริโก้ ผู้ซึ่งมีความภาคภูมิใจในผิวสีแทนที่แสนจะโดดเด่นในสนามและความรักบ้านเกิดของเธอ การกลับมาของเธอหลังจากที่เธอหายไปสามฤดูกาล เพื่อเล่นให้กับสโมสรชั้นนำอย่าง Rabita Baku ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก สำหรับเธอลีคอิตาลีถือเป็นความทรงจำที่ดี ที่ซึ่งทำให้เธอได้เติบโตในฐานะนักกีฬาชั้นนำ หลังจากที่เธอจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยไม่นาน
ก่อนหน้านั้นเราได้เห็นเธอติดทีมชาติเข้าแข่งขันชิงแชมป์โลก แต่ลีคอิตาลีถือเป็นจุดเริ่มต้นการเป็นนักกีฬาต่างประเทศอย่างแท้จริง "สโมสรแรกของฉันคือทีม Tortoli เป็นทีมในลีค A2 ของอิตาลีที่มีความกระหายอยากจะเลื่อนชั้น ตอนนั้นฉันได้รับการสอนแบบแทบจะเริ่มต้นใหม่จากพื้นฐานเลย" เธอกล่าวต่อว่า สาเหตุที่เธอเลือกทีมลีคล่าง เพราะเธอชอบการเป็นหัวหน้าทีมที่ได้ลงเล่นในสนาม มากกว่าเป็นตัวสำรองอยู่ในทีมชั้นนำ การอยู่ทีมเล็กๆแบบนี้ ทำให้เธอสามารถแสดงศักยภาพและความสามารถได้เต็มที่กว่า "เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันยังสงสัยว่าฉันสามารถผ่านทุกสิ่งทุกอย่างมาได้ยังไง มันยากมากกับการเล่นในทีมชั้นนำ และต้องเจอกับความลำบากในการเล่น เพราะทีมคู่แข่งก็เก่งมากเช่นกัน ฉันต้องเสียสละหลายสิ่งหลายอย่าง ต้องกระตุ้นตัวเองอยู่เสมอ มันคือการลงทุนลงแรงอย่างแท้จริง" กับทีมอย่าง Villa Cortese และ Rabita Baku เธอมองว่าเธอได้รับประสบการณ์มหาศาล และนั่นคงเป็นเหตุผลให้สโมสร Igor Volley Novara ตัดสินใจรับเธอเข้ามาในทีม เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ในสนามให้แก่คนอื่นๆ
การได้เล่นให้กับสโมสรของอาเซอร์ไบจัน เธอมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้ว "ฉันยังจำได้ไม่ลืมเลย ปี 2013 โค้ช Marcello Abbondanza พาเราเข้ามารอบสุดท้ายเจอกับทีม VakifBank ของตุรกี มันเป็นฤดูกาลแรกของฉันกับทีม Rabita คู่แข่งโจมตีใส่เราในรูปแบบต่างๆซึ่งฉันไม่เคยเจอมาก่อนตอนสมัยอยู่กับทีม Villa Cortese มันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ฉันมองว่าในตอนนั้นบางทีมันอาจจะยังไม่ถึงเวลาของชัยชนะละมั้ง แมตช์นั้นทำให้ฉันเห็นว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า และวอลเลย์บอลยังมีอะไรอีกมากมายให้เรียนรู้" ดังนั้นเธอจึงตั้งเป้าหมายไว้กับตัวเองที่จะเรียนรู้อยู่เสมอ "หลังจากนั้นมันก็ไม่ง่ายนักหรอกนะ ฉันพยายามเอาตัวเข้าไปอยู่ในวงการวอลเลย์บอลชั้นนำ ฉันต้องมีความคิดและสร้างสภาพแวดล้อมให้เป็นนักวอลเลย์บอลอาชีพ ตัวลีคภายในของอาเซอร์ไบจันเอง การแข่งขันไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก แน่นอนว่านักกีฬาแต่ละคนจะเลือกไปอยู่ทีมไหนก็ได้ ส่วนมากพวกเธอก็จะไปในลีคที่ตัวเองชอบและถนัด พวกเธอคงไม่ได้คิดว่ามันคุ้มค่ากว่าที่จะเอาตัวเองไปอยู่ในทีมที่แข่งขันกันสูงหรือทีมที่มีการเล่นแตกต่างไปจากที่ตัวเองเล่น แต่สำหรับฉันมองว่าเราควรเลือกอยู่สภาพแวดล้อมที่เราจะได้เจอกับเทคนิคการเล่นใหม่ๆตลอดเวลา สำหรับฉันวอลเลย์บอลคืออาชีพ ฉันอุทิศชีวิตให้กับมันแล้ว"
ปีนี้นอกจากเธอแล้ว ทีมยังมีนักวอลเลย์ซุปเปอร์สตาร์อีกคน แคทเธอรีน บอสเซททิ ซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกันสมัยอยู่สโมสร Villa Cortese "เราต่างก็แยกย้ายกันไปคนละสโมสร เธอเองก็ไปกับสโมสรชั้นนำและมีประสบการณ์มากมาย เรารู้จักกันดีและรู้จุดที่เราจะสามารถช่วยกันเพื่อทำให้ทีมประสบความสำเร็จ ทุกๆการซ้อมบอกได้เลยว่า เรามุ่งมั่นที่จะเอาชนะ ไม่กลัวว่าจะเหนื่อยหรือลำบาก เราสองคนจะต้องช่วยคุมอารมณ์ของทีมให้คงที่อยู่ตลอดเวลา นั่นเป็นเรื่องสำคัญ สุดท้ายแล้วฉันคิดว่า เราจะช่วยกันวิ่งสู่เส้นชัยได้"
หลายๆคนคงอยากทราบว่าทำไมทีมได้แต้ม เสียแต้ม เธอก็ยังมีสีหน้าอารมณ์เรียบเฉย จนบางทีเหมือนกับเธอไม่มีอารมณ์จะเล่น "ฉันเก็บอารมณ์เอาไว้ เพราะฉันกลัวว่าถ้าแสดงออกไป ฉันจะเสียสมาธิและทำให้เกมเปลี่ยน เกมจะยังไม่จบจนกว่าลูกของคะแนนสุดท้ายจะกระทบกับพื้น และเราไม่ควรคิดว่าเราจะชนะเซ็ตนั้นๆเพราะเรานำไปมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาดิวส์ ฉันเคยอ่านงานวิจัยว่า ถ้าเราตื่นเต้นดีใจมากเกินไป ทำให้อาดรีนาลีนหลั่งมาก มือจะเริ่มสั่น ปฏิกิริยาจะช้าลง การตีลูกความแม่นยำก็จะต่ำลงด้วย ดังนั้นการควบคุมอารมณ์ก็ถือเป็นเรื่องที่จำเป็น"
นอกจากนี้เธอยังได้เรียนการจัดการบริหารกีฬาสำหรับเยาวชน ซึ่งเธอมีแผนที่จะพัฒนาวงการกีฬาวอลเลย์บอล "มีสองสามโครงการที่ฉันอยากทำในปี 2016 แต่โชคร้ายที่ปีนี้การซ้อมเก็บตัวทีมชาติใช้เวลาค่อนข้างนาน เรื่องแรกคือฉันอยากจัดตั้งองค์กรที่ช่วยในเรื่องกีฬาและการศึกษาควบคู่กันผ่านทางการให้ทุนการศึกษา เรื่องต่อมา ฉันอยากให้สมาคมวอลเลย์บอลของอเมริกาเหนือเปิดแคมป์ฝึกที่เปอร์โตริโกบ้าง ถึงแม้ว่าเราจะมีประชากรไม่มาก แต่วงการกีฬาของเราไม่ได้ด้อยกว่าประเทศอื่นเลย ถ้ามีแคมป์นี้ฉันอยากไปช่วยแบ่งปันประสบการณ์ให้กับเด็กรุ่นใหม่ สุดท้ายก็คือมีทีมมหาวิทยาลัยของสหรัฐหลายทีมติดต่อให้ฉันไปเป็นโค้ช ตอนนี้ฉันยังอยากเป็นนักกีฬาในสนามมากกว่า แต่ฉันก็กำลังพิจารณาเหมือนกัน"
ทีมเปอร์โตริโก้ แม้จะพลาดโอกาสจากโควต้าของทวีปอเมริกาเหนือ แต่ยังมีโอกาสไปคว้าโควต้ารายการคัดโอลิมปิกรายการรอง ซึ่งสำหรับตัวเธอคิดว่านี่คงเป็นโอลิมปิกสุดท้ายของเธอแล้วที่จะยุติเก็บไว้เพียงแค่ความสำเร็จและล้มเหลวในอดีต ความภูมิใจที่สุดของเธอในฐานะทีมชาติก็คือ "เมื่อปี 2009 ทีมของเราเอาชนะทีมสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ ในการชิงอันดับที่ 3 รายการ Pan American Cup รวมถึงเรายังเคยแพ้บราซิลแบบฉิวเฉียด 3-2 สำหรับฉันคิดว่านั่นเป็นจุดสูงสุดของการเดินทางในฐานะทีมชาติแล้ว ตอนที่ฉันเล่นให้กับทีมชาติ ความรู้สึกของฉันมันพุ่งพล่าน เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักในกีฬานี้ มันทำให้ฉันอยากจะก้าวเข้ามาสู่วงการวอลเลย์บอลอย่างแท้จริง
ฉันคิดว่านักกีฬาแต่ละคนคงรู้สึกไม่เหมือนกันหรอกเวลามาเล่นทีมชาติ วอลเลย์บอลไม่ใช่กีฬาแรกที่ฉันเลือกเล่น ถ้าให้เลือกตอนสมัยเด็กๆ ฉันคงเลือกบาสเกตบอล แต่ในตอนนั้นฉันเลือกที่เล่นตามพี่สาว ฉันได้มีโอกาสเข้าทีมชาติและมันเริ่มต้นที่ตรงนั้น ฉันค้นพบความสามารถของตัวเอง และในตอนนี้ฉันก็พยายามเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆให้มากที่สุด ฉันคงบอกไม่ได้ว่ารู้สึกขอบคุณมากแค่ไหน สำหรับโอกาสที่ได้เล่นทีมชาติ แน่นอนว่าฉันยังมีความฝันที่จะได้ไปโอลิมปิก ตอนนี้ทุกคนมองฉันเป็นเสาหลักของทีม เพื่อนในทีมบางคนเรียกฉันว่า เอวิต้า เพราะฉันเหมือนกับเอวาพี่สาวของฉัน เธอเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันมาสู่เส้นทางนี้
ทีมชาติของเรามีนักกีฬามีความสามารถมากมาย แต่เราเปลี่ยนโค้ชค่อนข้างบ่อย และในแต่ละช่วงของปี เรามีเวลารวมตัวกันค่อนข้างน้อย ทำให้ผลงานไม่ดี แต่คราวนี้เราจะต้องรวมตัวกัน ฝึกให้หนักเพราะนี่จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย อย่างน้อยก็สำหรับฉัน" เมื่อฟังดังนั้น เราเลยถามว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายของเธอจริงๆน่ะหรอ "พอเวลาบอกว่าจะเลิกเล่น มันก็ใจหายนะ มันไม่ง่ายเลยสำหรับนักกีฬา เรามีความปรารถนาและความฝันที่จะชนะ มันเป็นความรู้สึกที่เรายอมสละทุกอย่างเพื่อทีม การที่ฉันจะเลิกเล่นทีมชาติแต่ยังเล่นอาชีพอยู่อันนั้นพูดง่ายกว่า เพราะตอนนี้มีนักกีฬาเข้ามาแทนในทีมชาติมากมาย แต่การได้เห็นรุ่นน้องมาเล่น แล้วเราได้พักเฉยๆน่ะหรอ ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะทนได้รึเปล่า ที่แน่ๆคือฉันอยากอำลาอาชีพนักวอลเลย์บอล ใส่เสื้อเจอร์ซีย์ครั้งสุดท้ายในฐานะทีมชาติ"
แม้ความตั้งใจในวัยเด็กของเธอคงไม่มีโอกาสได้สุกงอมเต็มที่ก็ตาม แต่อย่างน้อยในเวลานี้ เราก็ยังจะได้เห็นผลงานเธอจนจบการแข่งขันฤดูกาล เป็นกำลังใจให้เธอและทีมชาติของเธอด้วย
จากผู้แปล : ส่วนตัวเสียดายแทนเธอ เธอเกือบจะได้แชมป์ซักแชมป์หลายครั้ง แต่ก็ได้แต่เหรียญเงินมาตลอด ยังไงปีนี้ขอให้ได้ไปนะ
ชมภาพแฟชั่นของเธอเพิ่มเติมที่นี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.pallavoliamo.it/rivista/dicembre-gennaio-2016/?rivista=1
[แปล] ออเรีย ครูส จากเปอร์โตริโก้ นี่จะเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของเธอ
ปีนี้ลีคของอิตาลีมีเรื่องให้น่าตื่นเต้นอีกครั้ง จากการกลับมาของ Aurea Cruz นักวอลเลย์บอลหญิง จากประเทศเปอร์โต ริโก้ ผู้ซึ่งมีความภาคภูมิใจในผิวสีแทนที่แสนจะโดดเด่นในสนามและความรักบ้านเกิดของเธอ การกลับมาของเธอหลังจากที่เธอหายไปสามฤดูกาล เพื่อเล่นให้กับสโมสรชั้นนำอย่าง Rabita Baku ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก สำหรับเธอลีคอิตาลีถือเป็นความทรงจำที่ดี ที่ซึ่งทำให้เธอได้เติบโตในฐานะนักกีฬาชั้นนำ หลังจากที่เธอจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยไม่นาน
ก่อนหน้านั้นเราได้เห็นเธอติดทีมชาติเข้าแข่งขันชิงแชมป์โลก แต่ลีคอิตาลีถือเป็นจุดเริ่มต้นการเป็นนักกีฬาต่างประเทศอย่างแท้จริง "สโมสรแรกของฉันคือทีม Tortoli เป็นทีมในลีค A2 ของอิตาลีที่มีความกระหายอยากจะเลื่อนชั้น ตอนนั้นฉันได้รับการสอนแบบแทบจะเริ่มต้นใหม่จากพื้นฐานเลย" เธอกล่าวต่อว่า สาเหตุที่เธอเลือกทีมลีคล่าง เพราะเธอชอบการเป็นหัวหน้าทีมที่ได้ลงเล่นในสนาม มากกว่าเป็นตัวสำรองอยู่ในทีมชั้นนำ การอยู่ทีมเล็กๆแบบนี้ ทำให้เธอสามารถแสดงศักยภาพและความสามารถได้เต็มที่กว่า "เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันยังสงสัยว่าฉันสามารถผ่านทุกสิ่งทุกอย่างมาได้ยังไง มันยากมากกับการเล่นในทีมชั้นนำ และต้องเจอกับความลำบากในการเล่น เพราะทีมคู่แข่งก็เก่งมากเช่นกัน ฉันต้องเสียสละหลายสิ่งหลายอย่าง ต้องกระตุ้นตัวเองอยู่เสมอ มันคือการลงทุนลงแรงอย่างแท้จริง" กับทีมอย่าง Villa Cortese และ Rabita Baku เธอมองว่าเธอได้รับประสบการณ์มหาศาล และนั่นคงเป็นเหตุผลให้สโมสร Igor Volley Novara ตัดสินใจรับเธอเข้ามาในทีม เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ในสนามให้แก่คนอื่นๆ
การได้เล่นให้กับสโมสรของอาเซอร์ไบจัน เธอมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้ว "ฉันยังจำได้ไม่ลืมเลย ปี 2013 โค้ช Marcello Abbondanza พาเราเข้ามารอบสุดท้ายเจอกับทีม VakifBank ของตุรกี มันเป็นฤดูกาลแรกของฉันกับทีม Rabita คู่แข่งโจมตีใส่เราในรูปแบบต่างๆซึ่งฉันไม่เคยเจอมาก่อนตอนสมัยอยู่กับทีม Villa Cortese มันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ฉันมองว่าในตอนนั้นบางทีมันอาจจะยังไม่ถึงเวลาของชัยชนะละมั้ง แมตช์นั้นทำให้ฉันเห็นว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า และวอลเลย์บอลยังมีอะไรอีกมากมายให้เรียนรู้" ดังนั้นเธอจึงตั้งเป้าหมายไว้กับตัวเองที่จะเรียนรู้อยู่เสมอ "หลังจากนั้นมันก็ไม่ง่ายนักหรอกนะ ฉันพยายามเอาตัวเข้าไปอยู่ในวงการวอลเลย์บอลชั้นนำ ฉันต้องมีความคิดและสร้างสภาพแวดล้อมให้เป็นนักวอลเลย์บอลอาชีพ ตัวลีคภายในของอาเซอร์ไบจันเอง การแข่งขันไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก แน่นอนว่านักกีฬาแต่ละคนจะเลือกไปอยู่ทีมไหนก็ได้ ส่วนมากพวกเธอก็จะไปในลีคที่ตัวเองชอบและถนัด พวกเธอคงไม่ได้คิดว่ามันคุ้มค่ากว่าที่จะเอาตัวเองไปอยู่ในทีมที่แข่งขันกันสูงหรือทีมที่มีการเล่นแตกต่างไปจากที่ตัวเองเล่น แต่สำหรับฉันมองว่าเราควรเลือกอยู่สภาพแวดล้อมที่เราจะได้เจอกับเทคนิคการเล่นใหม่ๆตลอดเวลา สำหรับฉันวอลเลย์บอลคืออาชีพ ฉันอุทิศชีวิตให้กับมันแล้ว"
ปีนี้นอกจากเธอแล้ว ทีมยังมีนักวอลเลย์ซุปเปอร์สตาร์อีกคน แคทเธอรีน บอสเซททิ ซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกันสมัยอยู่สโมสร Villa Cortese "เราต่างก็แยกย้ายกันไปคนละสโมสร เธอเองก็ไปกับสโมสรชั้นนำและมีประสบการณ์มากมาย เรารู้จักกันดีและรู้จุดที่เราจะสามารถช่วยกันเพื่อทำให้ทีมประสบความสำเร็จ ทุกๆการซ้อมบอกได้เลยว่า เรามุ่งมั่นที่จะเอาชนะ ไม่กลัวว่าจะเหนื่อยหรือลำบาก เราสองคนจะต้องช่วยคุมอารมณ์ของทีมให้คงที่อยู่ตลอดเวลา นั่นเป็นเรื่องสำคัญ สุดท้ายแล้วฉันคิดว่า เราจะช่วยกันวิ่งสู่เส้นชัยได้"
หลายๆคนคงอยากทราบว่าทำไมทีมได้แต้ม เสียแต้ม เธอก็ยังมีสีหน้าอารมณ์เรียบเฉย จนบางทีเหมือนกับเธอไม่มีอารมณ์จะเล่น "ฉันเก็บอารมณ์เอาไว้ เพราะฉันกลัวว่าถ้าแสดงออกไป ฉันจะเสียสมาธิและทำให้เกมเปลี่ยน เกมจะยังไม่จบจนกว่าลูกของคะแนนสุดท้ายจะกระทบกับพื้น และเราไม่ควรคิดว่าเราจะชนะเซ็ตนั้นๆเพราะเรานำไปมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาดิวส์ ฉันเคยอ่านงานวิจัยว่า ถ้าเราตื่นเต้นดีใจมากเกินไป ทำให้อาดรีนาลีนหลั่งมาก มือจะเริ่มสั่น ปฏิกิริยาจะช้าลง การตีลูกความแม่นยำก็จะต่ำลงด้วย ดังนั้นการควบคุมอารมณ์ก็ถือเป็นเรื่องที่จำเป็น"
นอกจากนี้เธอยังได้เรียนการจัดการบริหารกีฬาสำหรับเยาวชน ซึ่งเธอมีแผนที่จะพัฒนาวงการกีฬาวอลเลย์บอล "มีสองสามโครงการที่ฉันอยากทำในปี 2016 แต่โชคร้ายที่ปีนี้การซ้อมเก็บตัวทีมชาติใช้เวลาค่อนข้างนาน เรื่องแรกคือฉันอยากจัดตั้งองค์กรที่ช่วยในเรื่องกีฬาและการศึกษาควบคู่กันผ่านทางการให้ทุนการศึกษา เรื่องต่อมา ฉันอยากให้สมาคมวอลเลย์บอลของอเมริกาเหนือเปิดแคมป์ฝึกที่เปอร์โตริโกบ้าง ถึงแม้ว่าเราจะมีประชากรไม่มาก แต่วงการกีฬาของเราไม่ได้ด้อยกว่าประเทศอื่นเลย ถ้ามีแคมป์นี้ฉันอยากไปช่วยแบ่งปันประสบการณ์ให้กับเด็กรุ่นใหม่ สุดท้ายก็คือมีทีมมหาวิทยาลัยของสหรัฐหลายทีมติดต่อให้ฉันไปเป็นโค้ช ตอนนี้ฉันยังอยากเป็นนักกีฬาในสนามมากกว่า แต่ฉันก็กำลังพิจารณาเหมือนกัน"
ทีมเปอร์โตริโก้ แม้จะพลาดโอกาสจากโควต้าของทวีปอเมริกาเหนือ แต่ยังมีโอกาสไปคว้าโควต้ารายการคัดโอลิมปิกรายการรอง ซึ่งสำหรับตัวเธอคิดว่านี่คงเป็นโอลิมปิกสุดท้ายของเธอแล้วที่จะยุติเก็บไว้เพียงแค่ความสำเร็จและล้มเหลวในอดีต ความภูมิใจที่สุดของเธอในฐานะทีมชาติก็คือ "เมื่อปี 2009 ทีมของเราเอาชนะทีมสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ ในการชิงอันดับที่ 3 รายการ Pan American Cup รวมถึงเรายังเคยแพ้บราซิลแบบฉิวเฉียด 3-2 สำหรับฉันคิดว่านั่นเป็นจุดสูงสุดของการเดินทางในฐานะทีมชาติแล้ว ตอนที่ฉันเล่นให้กับทีมชาติ ความรู้สึกของฉันมันพุ่งพล่าน เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักในกีฬานี้ มันทำให้ฉันอยากจะก้าวเข้ามาสู่วงการวอลเลย์บอลอย่างแท้จริง
ฉันคิดว่านักกีฬาแต่ละคนคงรู้สึกไม่เหมือนกันหรอกเวลามาเล่นทีมชาติ วอลเลย์บอลไม่ใช่กีฬาแรกที่ฉันเลือกเล่น ถ้าให้เลือกตอนสมัยเด็กๆ ฉันคงเลือกบาสเกตบอล แต่ในตอนนั้นฉันเลือกที่เล่นตามพี่สาว ฉันได้มีโอกาสเข้าทีมชาติและมันเริ่มต้นที่ตรงนั้น ฉันค้นพบความสามารถของตัวเอง และในตอนนี้ฉันก็พยายามเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆให้มากที่สุด ฉันคงบอกไม่ได้ว่ารู้สึกขอบคุณมากแค่ไหน สำหรับโอกาสที่ได้เล่นทีมชาติ แน่นอนว่าฉันยังมีความฝันที่จะได้ไปโอลิมปิก ตอนนี้ทุกคนมองฉันเป็นเสาหลักของทีม เพื่อนในทีมบางคนเรียกฉันว่า เอวิต้า เพราะฉันเหมือนกับเอวาพี่สาวของฉัน เธอเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันมาสู่เส้นทางนี้
ทีมชาติของเรามีนักกีฬามีความสามารถมากมาย แต่เราเปลี่ยนโค้ชค่อนข้างบ่อย และในแต่ละช่วงของปี เรามีเวลารวมตัวกันค่อนข้างน้อย ทำให้ผลงานไม่ดี แต่คราวนี้เราจะต้องรวมตัวกัน ฝึกให้หนักเพราะนี่จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย อย่างน้อยก็สำหรับฉัน" เมื่อฟังดังนั้น เราเลยถามว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายของเธอจริงๆน่ะหรอ "พอเวลาบอกว่าจะเลิกเล่น มันก็ใจหายนะ มันไม่ง่ายเลยสำหรับนักกีฬา เรามีความปรารถนาและความฝันที่จะชนะ มันเป็นความรู้สึกที่เรายอมสละทุกอย่างเพื่อทีม การที่ฉันจะเลิกเล่นทีมชาติแต่ยังเล่นอาชีพอยู่อันนั้นพูดง่ายกว่า เพราะตอนนี้มีนักกีฬาเข้ามาแทนในทีมชาติมากมาย แต่การได้เห็นรุ่นน้องมาเล่น แล้วเราได้พักเฉยๆน่ะหรอ ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะทนได้รึเปล่า ที่แน่ๆคือฉันอยากอำลาอาชีพนักวอลเลย์บอล ใส่เสื้อเจอร์ซีย์ครั้งสุดท้ายในฐานะทีมชาติ"
แม้ความตั้งใจในวัยเด็กของเธอคงไม่มีโอกาสได้สุกงอมเต็มที่ก็ตาม แต่อย่างน้อยในเวลานี้ เราก็ยังจะได้เห็นผลงานเธอจนจบการแข่งขันฤดูกาล เป็นกำลังใจให้เธอและทีมชาติของเธอด้วย
จากผู้แปล : ส่วนตัวเสียดายแทนเธอ เธอเกือบจะได้แชมป์ซักแชมป์หลายครั้ง แต่ก็ได้แต่เหรียญเงินมาตลอด ยังไงปีนี้ขอให้ได้ไปนะ
ชมภาพแฟชั่นของเธอเพิ่มเติมที่นี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้