สวัสดีครับทุกท่าน บทเฉลยมาแล้วครับ
ตอนที่แล้วครับ
Knight of Clues คดีที่ 1 : แม้ตัวตาย มือก็ไม่คลายดาบ [บทปัญหา]
http://ppantip.com/topic/34126383
Knight of Clues คดีที่ 1 : แม้ตัวตาย มือก็ไม่คลายดาบ [บทเฉลย]
http://ppantip.com/topic/34174838
Knight of Clues คดีที่ 2 : คมหอกบนภูผา [บทปัญหา]
http://ppantip.com/topic/34194149
Knight of Clues คดีที่ 2 : คมหอกบนภูผา [บทเฉลย]
http://ppantip.com/topic/34227507
Knight of Clues คดีที่ 3 : ดาบที่ฟันได้ทุกสิ่งกับโล่ที่ป้องกันได้ทุกอย่าง [บทปัญหา]
http://ppantip.com/topic/34674198
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-3-
เวลาผ่านมาจนถึงวันที่ดาบดูแรนเดลกับโล่อิจิสต้องปะทะกัน งานนี้ถูกจัดขึ้นในสนามประลองส่วนกลางของนครลัวร์ โดยเปิดให้มีผู้เทียบเชิญทุกคนเข้ามาร่วมชมได้
เทียบเชิญถูกแจกจ่ายไปทั่วนครลัวร์ ผู้ได้รับมีตั้งแต่หัวหน้ากลุ่มนักดาบ เจ้าเมืองต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ของทางการ พ่อค้า รวมทั้งประชาชนบางส่วน เรียกได้ว่าพยานที่มาร่วมงานครั้งนี้มีทุกระดับ
และไม่ใช่แค่นั้น เพราะพระราชาแห่งนครลัวร์ทรงให้เกียรติมาเป็นประธานในงานอีกด้วย
“จัดงานได้อลังการดีนะท่านปิแอร์” พระราชาแห่งลัวร์บอก
“ตามบัญชาของพระองค์เลยพะย่ะค่ะ” ปิแอร์ก้มโค้งคำนับ
และไม่ใช่แค่พระราชาหรอก ราชนิกูลองค์อื่น ๆ ก็เสด็จมาร่วมงาน ถือว่าเป็นงานใหญ่ในปีนี้ของนครลัวร์เลย
การปะทะกับของดาบดูแรนเดลที่ได้ชื่อฟันได้ทุกสิ่งกับโล่อิจิสที่ป้องกันได้ทุกอย่างย่อมเป็นที่สนใจของทุกคนอยู่แล้ว
แต่อย่างที่ทราบ มันเป็นการเปรียบเทียบระหว่างสองสิ่งที่มาตรฐานการวัดแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นดาบหรือโล่ จุดประสงค์ในการใช้แตกต่างกัน หนึ่งโจมตี หนึ่งป้องกัน ยากที่จะชี้ชัดว่าสิ่งไหนสุดยอดมากกว่ากัน
ปิแอร์ผู้จัดย่อมรู้ถึงข้อนี้ เขาไม่อยากให้อาวุธทั้งสองเสียชื่อเสียง ไม่อยากให้อาวุธหนึ่งใดโดนทำลาย มันไม่มีคำตอบที่แสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งตามคำกล่าวทั้งคู่พร้อมกันเลย
เมื่อถึงเวลาตามกำหนดการ พระราชาแห่งนครลัวร์กล่าวเปิดงานให้แก่ผู้ที่มาเข้าชม จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ของทางการที่ดูแลเรื่องนี้ก็ประกาศเชิญตัวแทนของทั้งสองตระกูลออกมา
มิคาเอล กับ ลิลิน ของตระกูลลูซิเฟอร์เดินมาก่อน มิคาเอลเดินอย่างอาจหาญ แม้เขารูปร่างบาง ดูไม่กำยำ ไม่มีเค้าร่างของนักดาบในยุคนี้ แต่จากการออกไปผจญโลกภายนอก ปราบคู่ต่อสู้ต่อกรกับยอดฝีมือมานักต่อนัก ไม่ผู้ใดกล้าดูถูกนักดาบร่างบางผู้นี้
“คนเยอะขนาดนี้เลย” มิคาเอลพูดขึ้น เขาไม่คิดว่าจะมีผู้คนสนใจเข้ามาร่วมชมงานมากขนาดนี้
“คงถึงเวลาที่ตระกูลลูซิเฟอร์ของเราแสดงฝีมือให้ประจักษ์แล้ว” ลิลิน ลูซิเฟอร์พูดตอบ
แต่ว่าตอนนี้ทั้งคู่ไม่มีใครถือดาบดูแรนเดล
ทางด้านเฟอร์ดินัน เซเบอร์ก็เดินออกมาอย่างสง่าผ่าเผย เขาเป็นแม่ทัพใหญ่ของนครลัวร์ผู้กำศึกมามากมาย ประชาชนในนครลัวร์ต่างส่งเสียงตอบรับทันที
เขาเงยหน้าตอบรับเสียงของคนที่เข้ามาร่วมชม ยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างมั่นใจ เสียงเฮตอบรับดังมากขึ้นอีก โดยข้างกายของเฟอร์ดินันก็มีริชาร์ด เซเบอร์ แม่ทัพแห่งนครลัวร์อีกหนึ่งคนของตระกูลเซเบอร์เดินออกมาด้วยกัน
แต่ว่าทั้งสองก็ไม่มีใครถือโล่อิจิส
เพราะว่าทั้งดาบดูแรนเดลและโล่อิจิสทางปิแอร์ให้ทางการนำมาเก็บไว้ ซึ่งพอทางเจ้าหน้าที่ประกาศอีกครั้ง อาวุธทั้งสองก็ถูกนำออกมา
เจ้าหน้าที่อัญเชิญเทพศาสตราออกมาอย่างอลังการ รัศมีของดาบและโล่ส่องประกายแสดงความสุดยอดให้แก่ผู้รับชมได้เห็น
ดาบดูแรนเดลถูกส่งให้มิคาเอล เช่นกันโล่อิจิสก็ถูกส่งให้กับเฟอร์ดินัน
มิคาเอลมองดาบดูแรนเดลที่รับมา ดาบใหญ่เล่มนี้ยังคงอยู่ในฝักดาบ เขากระชับมือซ้ายจับด้ามดาบมั่น คล้ายพร้อมใจที่ใช้มันทุกเมื่อ
เฟอร์ดินันรับโล่อิจิสด้วยมือซ้าย ยกมันขึ้นมาจ้องมองด้วยสายตาอยู่ครู่หนึ่ง คล้ายคิดถึงมันที่หายไปช่วงหนึ่ง จากนั้นก็ถือแนบไว้ข้างตัว เตรียมพร้อมจะรับมือ
“ปิแอร์ ท่านคิดว่าใครจะชนะ” พระราชาแห่งนครลัวร์ที่ทอดพระเนตรตรัสขึ้นมา
“เรื่องนั้นหม่อมฉันคงบอกไม่ได้หรอกพระองค์” ปิแอร์ตอบ เขายังอยู่ข้างพระราชา แม้งานนี้เขาจะเป็นคนดูแล แต่การดำเนินงานได้มอบหมายให้กับเจ้าหน้าที่ทางการอื่นดูแลจัดการเรียบร้อยแล้ว
“ระดับท่านไม่สามารถประเมินผลของการทดสอบครั้งได้เลยหรือ”
“บางอย่างหม่อมฉันก็ไม่อาจวิเคราะห์ได้เลยจริงๆ ขอประทานอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไร ๆ ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผลของดาบที่ฟันได้ทุกสิ่งกับโล่ที่ป้องกันได้ทุกอย่างจะเป็นอย่างไร คงมีแต่ต้องดูต่อไป”
ก่อนจะเริ่มทดสอบ ยังมีการแสดงอานุภาพของอาวุธทั้งสองอีกครั้ง อันดับแรกเป็นดาบดูแรนเดลของตระกูลลูซิเฟอร์
ศิลาก้อนใหญ่ถูกเข็นออกมาตั้งตระหง่านให้ผู้เข้าชมเห็น มิคาเอลเดินเข้าใกล้อย่างรู้ตัวว่าเป็นหน้าที่ของตนที่จะจัดการศิลาก้อนนี้
ผู้เข้าชมทั้งหมดจ้องมิคาเอลเป็นตาเดียว เมื่อเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณ เพียงคำว่า “ได้” ของประโยคว่า “เริ่มได้” ก้อนศิลาก็แตกเป็นสองซีกแล้ว
มิคาเอลชักดาบด้วยความเร็วสูง ใช้วิชาดาบสมาธิจัดการศิลาตรงหน้าในพริบตา
เสียงเฮตอบรับผลการฟันดาบทันที แค่นี้ก็อธิบายความร้ายการของดาบดูแรนเดลให้ได้ประจักษ์แล้ว
คิวต่อเป็นการโชว์ความแข็งแกร่งของโล่อิจิสของตระกูลเซเบอร์ เฟอร์ดินันเดินมาตรงกลางลานประลองอย่างหาญกล้า พร้อมชูมือข้างที่ถือโล่ขึ้น
สักพักเจ้าหน้าที่ของทางการจูงอะไรบางอย่างที่อยู่ในกรงออกมา ผู้ชมทั้งหลายต่างตื่นตะลึงทันที
สิ่งที่อยู่ในกรงเป็นวัวกระทิงตัวขนาดใหญ่มาก ท่าทางมันดุดันพร้อมทำร้ายผู้อื่นทุกเมื่อ
กรงขังถูกเข็นพร้อมเสียงร้องของวัวกระทิงที่อยู่ข้างในมาที่ลานประลอง เฟอร์ดินันจ้องมองกระทิงอย่างไม่เกรงกลัว ดูท่าการแสดงความแข็งแกร่งของโล่อิจิสคงต้องเกี่ยวข้องกับกระทิงตัวนี้แน่
เป็นเช่นนั้นจริง เจ้าหน้าที่ทางการประกาศว่าจะใช้กระทิงยักษ์ตัวนี้ทดสอบเบื้องต้นกับโล่อิจิส
กระทิงยังร้องคำรามเสียงดัง ประตูกรงค่อย ๆ เปิดออก
ไม่ทันที่กรงเปิดออกจนสุด วัวกระทิงพุ่งชนประตูจนหลุดกระเด็นออก พร้อมทั้งควบขาพุ่งเข้าหาชายตรงหน้ามันทันที
ชายตรงหน้าวัวกระทิงย่อมเป็นเฟอร์ดินัน เซเบอร์
เขาไม่หวั่นเกรงกับสัตว์ร้ายที่เข้ามาหา หันโล่อิจิสพร้อมเกร็งพลังกายรับมือเขาอันแหลมคมของวัวกระทิง
เสียงปะทะกันดังสนั่น เฟอร์ดินันถอยไปด้านหลังครึ่งก้าว แต่ว่าก็ไม่ได้ล้มลงไป
เป็นวัวกระทิงที่ทรุดกายลงพื้นพร้อมเขาทั้งสองข้างที่หักลง นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังป้องกันของโล่อิจิสอย่างชัดเจน
สัญชาตญาณสัตว์ป่าของล่วงรู้ว่าชายตรงหน้าอันตรายสำหรับตน มันรีบลุกขึ้น แล้ววิ่งไปหาผู้ที่มันคิดว่าอ่อนแอกว่ามัน
มิคาเอล ลูซิเฟอร์ นักดาบร่างบางที่ยืนอยู่ไม่ห่างกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของวัวกระทิง
นี่ไม่ใช่การแสดงที่กำหนดมาก่อน มิคาเอลเองก็ไม่ล่วงรู้ว่าตนจะต้องรับมือกับกระทิงตัวยักษ์นี้
ทว่านักดาบแห่งตระกูลลูซิเฟอร์ยังคงเรียบเฉย ไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกใด ๆ กับวัวกระทิง ซึ่งทันทีวัวกระทิงวิ่งเข้าใส่ จู่ ๆ มันก็ล้มลงตรงหน้าเขา ก่อนที่จะเข้าถึงตัว
ดาบดูแรนเดลถูกชักออกอย่างรวดเร็วด้วยวิชาดาบสมาธิ มิคาเอลฟันเข้าที่ขาหน้าของวัวกระทิงจนเอ็นฉีกขาด ทำให้มันขาพับต้องล้มลงไป
“โปรดให้อภัยด้วย” มิคาเอลบอกพร้อมเก็บดาบเข้าฝัก
ผู้รับชมทั้งหลายต่างตื่นเต้นกับความร้ายกาจของมิคาเอลเช่นกัน ดูท่าการปะทะกันระหว่างดาบดูแรนเดลกับโล่อิจิสจะเป็นการปะทะกันครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์อาวุธแล้ว
(มีต่อ)
Knight of Clues คดีที่ 3 : ดาบที่ฟันได้ทุกสิ่งกับโล่ที่ป้องกันได้ทุกอย่าง [บทเฉลย]
ตอนที่แล้วครับ
Knight of Clues คดีที่ 1 : แม้ตัวตาย มือก็ไม่คลายดาบ [บทปัญหา]
http://ppantip.com/topic/34126383
Knight of Clues คดีที่ 1 : แม้ตัวตาย มือก็ไม่คลายดาบ [บทเฉลย]
http://ppantip.com/topic/34174838
Knight of Clues คดีที่ 2 : คมหอกบนภูผา [บทปัญหา]
http://ppantip.com/topic/34194149
Knight of Clues คดีที่ 2 : คมหอกบนภูผา [บทเฉลย]
http://ppantip.com/topic/34227507
Knight of Clues คดีที่ 3 : ดาบที่ฟันได้ทุกสิ่งกับโล่ที่ป้องกันได้ทุกอย่าง [บทปัญหา]
http://ppantip.com/topic/34674198
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-3-
เวลาผ่านมาจนถึงวันที่ดาบดูแรนเดลกับโล่อิจิสต้องปะทะกัน งานนี้ถูกจัดขึ้นในสนามประลองส่วนกลางของนครลัวร์ โดยเปิดให้มีผู้เทียบเชิญทุกคนเข้ามาร่วมชมได้
เทียบเชิญถูกแจกจ่ายไปทั่วนครลัวร์ ผู้ได้รับมีตั้งแต่หัวหน้ากลุ่มนักดาบ เจ้าเมืองต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ของทางการ พ่อค้า รวมทั้งประชาชนบางส่วน เรียกได้ว่าพยานที่มาร่วมงานครั้งนี้มีทุกระดับ
และไม่ใช่แค่นั้น เพราะพระราชาแห่งนครลัวร์ทรงให้เกียรติมาเป็นประธานในงานอีกด้วย
“จัดงานได้อลังการดีนะท่านปิแอร์” พระราชาแห่งลัวร์บอก
“ตามบัญชาของพระองค์เลยพะย่ะค่ะ” ปิแอร์ก้มโค้งคำนับ
และไม่ใช่แค่พระราชาหรอก ราชนิกูลองค์อื่น ๆ ก็เสด็จมาร่วมงาน ถือว่าเป็นงานใหญ่ในปีนี้ของนครลัวร์เลย
การปะทะกับของดาบดูแรนเดลที่ได้ชื่อฟันได้ทุกสิ่งกับโล่อิจิสที่ป้องกันได้ทุกอย่างย่อมเป็นที่สนใจของทุกคนอยู่แล้ว
แต่อย่างที่ทราบ มันเป็นการเปรียบเทียบระหว่างสองสิ่งที่มาตรฐานการวัดแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นดาบหรือโล่ จุดประสงค์ในการใช้แตกต่างกัน หนึ่งโจมตี หนึ่งป้องกัน ยากที่จะชี้ชัดว่าสิ่งไหนสุดยอดมากกว่ากัน
ปิแอร์ผู้จัดย่อมรู้ถึงข้อนี้ เขาไม่อยากให้อาวุธทั้งสองเสียชื่อเสียง ไม่อยากให้อาวุธหนึ่งใดโดนทำลาย มันไม่มีคำตอบที่แสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งตามคำกล่าวทั้งคู่พร้อมกันเลย
เมื่อถึงเวลาตามกำหนดการ พระราชาแห่งนครลัวร์กล่าวเปิดงานให้แก่ผู้ที่มาเข้าชม จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ของทางการที่ดูแลเรื่องนี้ก็ประกาศเชิญตัวแทนของทั้งสองตระกูลออกมา
มิคาเอล กับ ลิลิน ของตระกูลลูซิเฟอร์เดินมาก่อน มิคาเอลเดินอย่างอาจหาญ แม้เขารูปร่างบาง ดูไม่กำยำ ไม่มีเค้าร่างของนักดาบในยุคนี้ แต่จากการออกไปผจญโลกภายนอก ปราบคู่ต่อสู้ต่อกรกับยอดฝีมือมานักต่อนัก ไม่ผู้ใดกล้าดูถูกนักดาบร่างบางผู้นี้
“คนเยอะขนาดนี้เลย” มิคาเอลพูดขึ้น เขาไม่คิดว่าจะมีผู้คนสนใจเข้ามาร่วมชมงานมากขนาดนี้
“คงถึงเวลาที่ตระกูลลูซิเฟอร์ของเราแสดงฝีมือให้ประจักษ์แล้ว” ลิลิน ลูซิเฟอร์พูดตอบ
แต่ว่าตอนนี้ทั้งคู่ไม่มีใครถือดาบดูแรนเดล
ทางด้านเฟอร์ดินัน เซเบอร์ก็เดินออกมาอย่างสง่าผ่าเผย เขาเป็นแม่ทัพใหญ่ของนครลัวร์ผู้กำศึกมามากมาย ประชาชนในนครลัวร์ต่างส่งเสียงตอบรับทันที
เขาเงยหน้าตอบรับเสียงของคนที่เข้ามาร่วมชม ยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างมั่นใจ เสียงเฮตอบรับดังมากขึ้นอีก โดยข้างกายของเฟอร์ดินันก็มีริชาร์ด เซเบอร์ แม่ทัพแห่งนครลัวร์อีกหนึ่งคนของตระกูลเซเบอร์เดินออกมาด้วยกัน
แต่ว่าทั้งสองก็ไม่มีใครถือโล่อิจิส
เพราะว่าทั้งดาบดูแรนเดลและโล่อิจิสทางปิแอร์ให้ทางการนำมาเก็บไว้ ซึ่งพอทางเจ้าหน้าที่ประกาศอีกครั้ง อาวุธทั้งสองก็ถูกนำออกมา
เจ้าหน้าที่อัญเชิญเทพศาสตราออกมาอย่างอลังการ รัศมีของดาบและโล่ส่องประกายแสดงความสุดยอดให้แก่ผู้รับชมได้เห็น
ดาบดูแรนเดลถูกส่งให้มิคาเอล เช่นกันโล่อิจิสก็ถูกส่งให้กับเฟอร์ดินัน
มิคาเอลมองดาบดูแรนเดลที่รับมา ดาบใหญ่เล่มนี้ยังคงอยู่ในฝักดาบ เขากระชับมือซ้ายจับด้ามดาบมั่น คล้ายพร้อมใจที่ใช้มันทุกเมื่อ
เฟอร์ดินันรับโล่อิจิสด้วยมือซ้าย ยกมันขึ้นมาจ้องมองด้วยสายตาอยู่ครู่หนึ่ง คล้ายคิดถึงมันที่หายไปช่วงหนึ่ง จากนั้นก็ถือแนบไว้ข้างตัว เตรียมพร้อมจะรับมือ
“ปิแอร์ ท่านคิดว่าใครจะชนะ” พระราชาแห่งนครลัวร์ที่ทอดพระเนตรตรัสขึ้นมา
“เรื่องนั้นหม่อมฉันคงบอกไม่ได้หรอกพระองค์” ปิแอร์ตอบ เขายังอยู่ข้างพระราชา แม้งานนี้เขาจะเป็นคนดูแล แต่การดำเนินงานได้มอบหมายให้กับเจ้าหน้าที่ทางการอื่นดูแลจัดการเรียบร้อยแล้ว
“ระดับท่านไม่สามารถประเมินผลของการทดสอบครั้งได้เลยหรือ”
“บางอย่างหม่อมฉันก็ไม่อาจวิเคราะห์ได้เลยจริงๆ ขอประทานอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไร ๆ ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผลของดาบที่ฟันได้ทุกสิ่งกับโล่ที่ป้องกันได้ทุกอย่างจะเป็นอย่างไร คงมีแต่ต้องดูต่อไป”
ก่อนจะเริ่มทดสอบ ยังมีการแสดงอานุภาพของอาวุธทั้งสองอีกครั้ง อันดับแรกเป็นดาบดูแรนเดลของตระกูลลูซิเฟอร์
ศิลาก้อนใหญ่ถูกเข็นออกมาตั้งตระหง่านให้ผู้เข้าชมเห็น มิคาเอลเดินเข้าใกล้อย่างรู้ตัวว่าเป็นหน้าที่ของตนที่จะจัดการศิลาก้อนนี้
ผู้เข้าชมทั้งหมดจ้องมิคาเอลเป็นตาเดียว เมื่อเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณ เพียงคำว่า “ได้” ของประโยคว่า “เริ่มได้” ก้อนศิลาก็แตกเป็นสองซีกแล้ว
มิคาเอลชักดาบด้วยความเร็วสูง ใช้วิชาดาบสมาธิจัดการศิลาตรงหน้าในพริบตา
เสียงเฮตอบรับผลการฟันดาบทันที แค่นี้ก็อธิบายความร้ายการของดาบดูแรนเดลให้ได้ประจักษ์แล้ว
คิวต่อเป็นการโชว์ความแข็งแกร่งของโล่อิจิสของตระกูลเซเบอร์ เฟอร์ดินันเดินมาตรงกลางลานประลองอย่างหาญกล้า พร้อมชูมือข้างที่ถือโล่ขึ้น
สักพักเจ้าหน้าที่ของทางการจูงอะไรบางอย่างที่อยู่ในกรงออกมา ผู้ชมทั้งหลายต่างตื่นตะลึงทันที
สิ่งที่อยู่ในกรงเป็นวัวกระทิงตัวขนาดใหญ่มาก ท่าทางมันดุดันพร้อมทำร้ายผู้อื่นทุกเมื่อ
กรงขังถูกเข็นพร้อมเสียงร้องของวัวกระทิงที่อยู่ข้างในมาที่ลานประลอง เฟอร์ดินันจ้องมองกระทิงอย่างไม่เกรงกลัว ดูท่าการแสดงความแข็งแกร่งของโล่อิจิสคงต้องเกี่ยวข้องกับกระทิงตัวนี้แน่
เป็นเช่นนั้นจริง เจ้าหน้าที่ทางการประกาศว่าจะใช้กระทิงยักษ์ตัวนี้ทดสอบเบื้องต้นกับโล่อิจิส
กระทิงยังร้องคำรามเสียงดัง ประตูกรงค่อย ๆ เปิดออก
ไม่ทันที่กรงเปิดออกจนสุด วัวกระทิงพุ่งชนประตูจนหลุดกระเด็นออก พร้อมทั้งควบขาพุ่งเข้าหาชายตรงหน้ามันทันที
ชายตรงหน้าวัวกระทิงย่อมเป็นเฟอร์ดินัน เซเบอร์
เขาไม่หวั่นเกรงกับสัตว์ร้ายที่เข้ามาหา หันโล่อิจิสพร้อมเกร็งพลังกายรับมือเขาอันแหลมคมของวัวกระทิง
เสียงปะทะกันดังสนั่น เฟอร์ดินันถอยไปด้านหลังครึ่งก้าว แต่ว่าก็ไม่ได้ล้มลงไป
เป็นวัวกระทิงที่ทรุดกายลงพื้นพร้อมเขาทั้งสองข้างที่หักลง นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังป้องกันของโล่อิจิสอย่างชัดเจน
สัญชาตญาณสัตว์ป่าของล่วงรู้ว่าชายตรงหน้าอันตรายสำหรับตน มันรีบลุกขึ้น แล้ววิ่งไปหาผู้ที่มันคิดว่าอ่อนแอกว่ามัน
มิคาเอล ลูซิเฟอร์ นักดาบร่างบางที่ยืนอยู่ไม่ห่างกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของวัวกระทิง
นี่ไม่ใช่การแสดงที่กำหนดมาก่อน มิคาเอลเองก็ไม่ล่วงรู้ว่าตนจะต้องรับมือกับกระทิงตัวยักษ์นี้
ทว่านักดาบแห่งตระกูลลูซิเฟอร์ยังคงเรียบเฉย ไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกใด ๆ กับวัวกระทิง ซึ่งทันทีวัวกระทิงวิ่งเข้าใส่ จู่ ๆ มันก็ล้มลงตรงหน้าเขา ก่อนที่จะเข้าถึงตัว
ดาบดูแรนเดลถูกชักออกอย่างรวดเร็วด้วยวิชาดาบสมาธิ มิคาเอลฟันเข้าที่ขาหน้าของวัวกระทิงจนเอ็นฉีกขาด ทำให้มันขาพับต้องล้มลงไป
“โปรดให้อภัยด้วย” มิคาเอลบอกพร้อมเก็บดาบเข้าฝัก
ผู้รับชมทั้งหลายต่างตื่นเต้นกับความร้ายกาจของมิคาเอลเช่นกัน ดูท่าการปะทะกันระหว่างดาบดูแรนเดลกับโล่อิจิสจะเป็นการปะทะกันครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์อาวุธแล้ว
(มีต่อ)