สวัสดีปีใหม่ไทยครับทุกท่าน เอาตอนใหม่ของซีรี่ส์ปิแอร์มาให้อ่านแล้วนะครับ ตอนนี้ค่อนข้างยาว แถมผมเปลี่ยนเป็นแบ่งสามตอน โดยตอนแรกยังเป็นบทของปัญหาอยู่ หลังจากนั้นจะเป็นบทเบาะแส แล้วสุดท้ายจะเป็นบทเฉลยครับ ลองอ่านกันดู
ตอนที่แล้วครับ
Knight of Clues คดีที่ 1 : แม้ตัวตาย มือก็ไม่คลายดาบ [บทปัญหา]
http://ppantip.com/topic/34126383
Knight of Clues คดีที่ 1 : แม้ตัวตาย มือก็ไม่คลายดาบ [บทเฉลย]
http://ppantip.com/topic/34174838
Knight of Clues คดีที่ 2 : คมหอกบนภูผา [บทปัญหา]
http://ppantip.com/topic/34194149
Knight of Clues คดีที่ 2 : คมหอกบนภูผา [บทเฉลย]
http://ppantip.com/topic/34227507
Knight of Clues คดีที่ 3 : ดาบที่ฟันได้ทุกสิ่งกับโล่ที่ป้องกันได้ทุกอย่าง [บทปัญหา]
http://ppantip.com/topic/34674198
Knight of Clues คดีที่ 3 : ดาบที่ฟันได้ทุกสิ่งกับโล่ที่ป้องกันได้ทุกอย่าง [บทเฉลย]
https://ppantip.com/topic/34698948
Knight of Clues คดีที่ 4 : สามเส้าสังหาร [บทปัญหา]
https://ppantip.com/topic/36089173
Knight of Clues คดีที่ 4 : สามเส้าสังหาร [บทเฉลย]
https://ppantip.com/topic/36110602
Knight of Clues คดีที่ 5 : วจีชี้เป็นตาย
https://ppantip.com/topic/36161907
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คดีที่ 6 : ดาบมารวิปลาส
-1-
นักดาบร่างบางแหงนหน้ามองป้ายที่เขียนว่า “SEA DRAGON”
ภัตตาคารซีดราก้อนถือเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ของนครลัวร์ ผู้มารับประทานอาหารที่นี่ล้วนต้องจองล่วงหน้า อาหารของภัตตาคารจัดว่าชั้นหนึ่งเลิศรสทุกอย่าง มีเมนูหลายหลายให้เลือกรับประทาน เพียงแต่ว่ามีราคาสูงหลายบาที จนผู้คนทั่วไปมิอาจเข้าไปทานได้ ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นเศรษฐี ผู้ดีชั้นสูง คนใหญ่คนโตของนครลัวร์เท่านั้น โดยภายในภัตตาคารนั้นจัดวางด้วยโต๊ะบริการหลายสิบโต๊ะ กระจายทั่วบริเวณชั้นหนึ่ง ที่แต่งร้านไว้ในธีมเรียบง่ายแต่คงไว้ซึ่งความหรูหรามีราคา
มิคาเอลสูดหายใจเข้าเบา ๆ เขาเองไม่เคยมาที่แห่งนี้ แต่เขาล่วงรู้ว่าในเวลานี้ภัตตาคารซีดราก้อนไม่ใช่ร้านอาหารธรรมดา
นักดาบร่างบางกระชับดาบปีกแมลงในมือมั่น ผลักประตูเข้าไปข้างใน ได้ยินเสียงว่า “เชิญครับ” ของบริกรร้านเอ่ยต้อนรับทันที
ทันทีที่มิคาเอลก้าวเข้ามา ลูกค้าของทางภัตตาคารซีดราก้อนต่างหันมองมายังเขา ทุกคนหน้าตาดุดัน ดูไม่เหมือนผู้ดีชั้นสูงแบบต่างกันราวฟ้ากับเหว
เนื่องจากในวันนี้ผู้ที่มาใช้บริการภัตตาคารซีดราก้อนต่างเป็นนักสู้ทั้งหมด
ไม่ทราบว่าเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อใด แต่เป็นธรรมเนียมไปแล้วที่ทุกห้าปี ภัตตาคารซีดราก้อนจะเปิดบริการให้กับเหล่านักดาบและนักสู้ทุกคนในนครลัวร์เข้ามาใช้บริการได้โดยมิต้องจอง โดยมีข้อแม้เพียงอย่างเดียวคือ ต้องร่วมประลองในศึกต่อสู้อีกสองวันข้างหน้า
“รูปโฉมบาง หน้าตาขาวใส พกพาดาบปีกแมลง ท่านคือ มิคาเอล แห่งตระกูลลูซิเฟอร์สินะ” ชายหน้าตายิ้มแย้มเดินมาทักทายกับมิคาเอลเมื่อเห็นเขา
ผู้ที่ทักมิคาเอลนั้นเป็นชายวัยกลางคน ฉีกยิ้มแจ่มใส สวมใส่เสื้อผ้าสีสวยสด ข้างเอวเหน็บด้วยดาบสั้นที่มีรูปร่างโค้งสองเล่ม
“ใช่ ข้าคือ มิคาเอลลูซิเฟอร์ ส่วนท่านคือ?” มิคาเอลมองเขา
ชายเสื้อผ้าสีสดยิ้มรับอีก “ข้าคือ อเล็กซ์ คนในนครลัวร์ให้ฉายาข้าว่า ยิ้มเดียวพิฆาต”
“ยิ้มเดียวพิฆาต ท่านคือ นักดาบมีชื่อแห่งภาคเหนือคนนั้นสินะ” มิคาเอลบอก เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของยิ้มเดียวพิฆาต อเล็กซ์มาบ้าง
“มิกล้า มิกล้า ข้าเพียงมีชื่อเพราะข้าชอบยิ้มแย้มเท่านั้นแหละ โดยเฉพาะคู่ต่อสู้ข้าก็จะยิ้มให้”
มิคาเอลพยักหน้ารับ เขาพอมองออกว่า อเล็กซ์ผู้นี้ฝีมือไม่ใช่ธรรมดา ฉายายิ้มเดียวพิฆาตมาจากการที่เมื่อเขาคลี่ยิ้มให้คู่ต่อสู้เมื่อใด แสดงว่าเขาพร้อมที่จะพิฆาตคู่ต่อสู้แล้ว ด้วยดาบคู่รอยยิ้มที่พกพาอยู่ข้างตัว ดาบโค้งพิสดารคู่นี้จัดการมือดีทางภาคเหนือมานักต่อนัก
มิคาเอลพูดคุยกับอเล็กซ์อีกเล็กน้อย ก็ขอตัวไปนั่งลงที่โต๊ะที่ว่างอยู่
ทันทีที่เขานั่งโต๊ะนั้นก็มีชายร่างอ้วนใหญ่ หนวดเครารุงรังผู้พกพาดาบเป็นสิบเล่มอยู่กลางหลัง มาขอนั่งร่วมโต๊ะด้วย
“เจ้าคือ มิคาเอล ใช่ไหม”
คนผู้นี้เอ่ยถาม แล้วขอนั่งร่วมโต๊ะโดยไม่รอมิคาเอลเอ่ยคำใด
มิคาเอลพยักหน้ารับ เขาพอรู้ตัวเองว่าเวลานี้ตัวเองต่างเป็นที่สนใจของนักสู้ในที่นี่ เพราะชื่อเสียงที่สร้างสมขึ้นมาเมื่อสามปีก่อน รวมทั้งการประลองตัดสินดาบดูแรนเดลกับโล่อิจิสที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน ทำให้นักสู้ส่วนใหญ่ให้ความสนใจมิคาเอลอย่างมาก
จนหลายคนคิดว่าเขาคือ หนึ่งในตัวเต็งของการประลองซีดราก้อนในครั้งนี้
แต่ว่าชายอ้วนใหญ่หนวดเครารุงรังที่เข้ามาหามิคาเอล หาได้สนใจตัวมิคาเอลเป็นหลัก เขากลับสนใจดาบปีกแมลงที่มิคาเอลไว้ข้างกายมากกว่า
“ท่านคือ บาซี ผู้คลั่งไคล้ดาบสินะ” มิคาเอลบอกกับเขา ด้วยการที่ชายผู้นี้พกพาดาบเป็นสิบเล่มจนเป็นเอกลักษณ์ จึงไม่แปลกที่มิคาเอลจะมองทีเดียวจะรู้ว่าเป็นใคร
บาซี ถือว่าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง เพียงแต่เขาเป็นคนชอบสะสมดาบต่าง ๆ ไว้ หลายครั้งที่เขาประลองกับคู่ต่อสู้โดยเดิมพันชิงดาบ เอาชนะแย่งชิงดาบมามายหมาย กล่าวกันว่าเขามีดาบเป็นร้อยเล่ม เพียงแต่จะให้พกพามาตั้งร้อยเล่มมันก็กระไรอยู่ จึงเลือกเฟ้นติดตัวสะพายหลังมาด้วยเพียงสิบเล่มไว้เท่านั้น โดยบาซีนั้นเคยผ่านการประลองซีดราก้อนเมื่อห้าปีก่อนมาแล้วด้วย
“ถูกต้อง ข้าคือ บาซี ท่านมิคาเอล ดาบปีกแมลงของท่านนับเป็นดาบอันดับต้น ๆ ของนครลัวร์ ข้าขอชมดาบของท่านได้หรือไม่”
มิคาเอลนิ่งคิด ตามจริงก็ไม่แปลกที่บาซี ผู้คลั่งไคล้ดาบจะสนใจดาบปีกแมลง เพราะดาบปีกแมลงจัดว่าเป็นดาบที่มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนดาบอื่น ตัวดาบจะมีความบางอย่างมาก เกือบเรียกได้ว่าโปร่งแสงได้เลย นับเป็นดาบที่มีความเบาที่สุดในดาบทั้งมวล
คล้ายมิคาเอลจะยอมให้บาซีดูดาบปีกแมลงของตน เขาชักดาบออกจากฝัก เพียงแต่ไม่ส่งให้บาซี เขาถือดาบไว้ ให้ผู้คลั่งไคล้ดาบได้ชมเพียงสายตา
ผู้คลั่งไคล้ดาบร่างใหญ่ตาเป็นประกายลุกวาวทันทีที่เห็นคมดาบบางที่โปร่งแสงของดาบปีกแมลง เขาเอ่ยขึ้นทันทีว่า
“ท่านมิคาเอล หากข้าได้ประลองกับท่าน ข้าขอเดิมพันชิงดาบกับท่านได้ด้วยหรือไม่”
มิคาเอลนิ่งอีกครั้ง ดาบปีกแมลงคงเป็นเป้าหมายของบาซีด้วยแน่ ๆ แต่ว่าหากเขาปฏิเสธไปก็คงไม่ได้ ระดับฝีมือและชื่อเสียงของเขา ยากที่จะปฏิเสธการต่อรองแบบนี้ได้
“ย่อมได้ท่านบาซี เพียงแต่ท่านจะใช้ดาบอะไรมาเดิมพันกับดาบปีกแมลงของข้า ข้าขอดาบที่เท่าเทียมกัน”
บาซียิ้มขึ้นทันที เขารู้สึกดีใจว่ามิคาเอลยอมรับคำเดิมพัน เขาเอ่ยขึ้นมาว่า
“วันนี้ข้าพกพาดาบมาสิบเล่ม ท่านเลือกได้เลยว่าจะชิงดาบเล่มไหน ดาบของข้าดี ๆ ทั้งนั้น”
บาซีปลดกระเป๋าที่เสมือนฝักดาบทั้งสิบที่ด้านหลังจากตัวเอง วางไว้บนโต๊ะให้มิคาเอลเห็นดาบทั้งหมด
ดาบทั้งสิบเล่มของบาซีล้วนแตกต่างกัน มีทั้งดาบที่มีลักษณะเป็นคมเดียวแบบคาตานะ ดาบสองคมสไตล์ยุโรป ดาบเล็กบางราวกับกระบี่ บางดาบก็มองไม่คล้ายดาบด้วย
“เป็นดาบมุรามาสะ ดีหรือไม่”
มิคาเอลมอง ดาบมุรามาสะมีลักษณะเป็นดาบคาตานะ ชื่อเสียงของดาบนี้มิคาเอลก็พอรู้ถือเป็นดาบในตำนานที่ต้องคำสาปและมีความอาถรรพ์จนหลายคนพูดถึง กล่าวกันว่าเมื่อใดที่ดาบนี้ดื่มเลือด มันจะส่งเสียงร้องโหยหวน
“ดาบมุรามาสะคงไม่เหมาะกับข้า ข้าสนใจ ดาบที่มีขดลวดพันผูกเป็นดาบเล่มนั้นมากกว่า”
บาซีหยิบดาบที่ว่าขึ้นมา “ท่านมิคาเอลตาแหลมไม่เบา นี่คือ ดาบเคลื่อนดารา ของปรมารจารย์นักประดิษฐ์ โทมะ เอดิสัน”
ดาบเคลื่อนดาราของบาซี มีลักษณะผิดแปลกกับดาบเล่มอื่น ตัวดาบมีลักษณะเป็นแท่งกลม มีเพียงตรงปลายดาบที่แหลมคมเท่านั้น ด้ามดาบพันผูกไว้ด้วยขดลวดหลากหลายทบ ถูกสร้างโดยปรมาจารย์ประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อหลายสิบปีก่อนอย่างโทมะ เอดิสัน
“นี่คงไม่ใช่ดาบธรรมดาสินะ” มิคาเอลเอ่ยถาม
“แน่นอนท่านมิคาเอล ดาบนี้ย่อมไม่ใช่ดาบธรรมดาทั่วไป ข้าเพิ่งได้มันมาเพื่อใช้ในศึกซีดราก้อนครั้งนี้โดยเฉพาะ มันเหมาะที่ต่อกรกับดาบมารวิปลาสของฟากัตยิ่งนัก”บาซีหยิบดาบเคลื่อนดารามองจ้องมอง พลางพูดอย่างชื่นชม
มิคาเอลนิ่งคิดวูบหนึ่ง ค่อยตอบว่า “งั้นตกลง ข้ารับเดิมพันของท่าน”
“ขอบใจท่านมิคาเอลว่า หวังว่าถ้าเราได้ประลองกันคงจะสนุกมิใช่น้อย”
“ย่อมเป็นเช่นนั้น” มิคาเอลตอบอย่างไม่เกรงกลัว
บาซียิ้มร่าท่าทางคงพอใจที่มิคาเอลยอมเดิมพันดาบด้วยแล้ว เขานั่งร่วมโต๊ะกับมิคาเอล พลางกินดื่มต่อไป
นักดาบร่างบางสั่งเครื่องดื่มมานั่งกินพลางดูบรรยากาศรอบ ๆ ในภัตตาคารนี้ เขารับรู้ได้ถึงจิตสังหารอันร้ายกาจ ถ้าไม่นับบาซีที่นั่งอยู่ตรงหน้ากับอเล็กซ์ที่ไปนั่งด้านหน้า นับได้ก็ประมาณ 30 แห่งที่เล็งมายังตน แต่ว่ามีอยู่จิตสังหารหนึ่งที่รุนแรงและแฝงความอาฆาตมากพอสมควร
ด้วยความที่มิคาเอลผ่านโลกมาพอสมควร เขารับรู้ได้ว่าจิตสังหารอันอาฆาตนี้คือใคร เพราะว่ามันคล้ายคลึงกับจิตสังหารของคน ๆ หนึ่งที่เคยเจอมาก่อน
เทพลักซ่อน ดาเมี่ยน
ดาเมี่ยนคือเป็นสุดยอดมือสังหารคนหนึ่งในวงการ กล่าวกันว่าเป็นชายร่างเล็กปกปิดใบหน้าด้วยผ้าดำ มักหลบซ่อนสายผู้อื่น แต่ชอบส่งจิตสังหารอันรุนแรงเตือนเหยื่อที่ตัวเองจะจัดการ
เมื่อปลายปีก่อนดาเมี่ยนได้ปะทะกับมิคาเอล ซึ่งมิคาเอลใช้วิชาดาบสมาธิฟันจนเกิดบาดแผลที่ใบหน้าของดาเมี่ยน จากนั้นดาเมี่ยนก็ลี้กายหายไปในช่วงหนึ่ง มิคาเอลเองก็ไม่คาดคิดว่าเขาได้เจอดาเมี่ยนที่นี่
แม้จิตสังหารของดาเมี่ยนจะรุนแรงจนรับรู้ได้ง่าย แต่ว่าการระบุตัวว่าเขาอยู่ที่ใดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มิคาเอลเองก็ยังไม่สามารถรับรู้ได้ว่าดาเมี่ยนนั่งอยู่ที่ใดของภัตตาคารนี้
“ท่านรู้จักดาเมี่ยนหรือไม่ท่านบาซี” มิคาเอลถามบาซีที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน
“ท่านหมายถึงเทพลักซ่อน ดาเมี่ยนคนนั้นน่ะหรือ ท่านพูดถึงมันเช่นนี้คงโดนมันส่งจิตสังหารมาสินะ” บาซีตอบ
มิคาเอลพยักหน้ารับ “ในคราก่อนข้าไม่ทันได้จัดการมัน มันคงเห็นว่าศึกซีดราก้อนนี้ข้าจะมาร่วม มันคงแฝงตัวมาเข้าร่วมเพื่อสังหารข้าแน่ ๆ”
“ระดับท่านเกรงกลัวมันด้วยหรือ?”
“มิใช่เกรงกลัว แต่ท่านน่าจะรู้ว่าดาเมี่ยนหากเล็งผู้ใดเป็นเหยื่อแล้ว มันจะส่งจิตคุกคามอยู่เรื่อย ๆ ตลอดเวลา จนคนผู้นั้นขาดสมาธิ และพลาดพลั้งจนโดนมันสังหารได้ ซึ่งข้อนี่แหละ....ข้ารำคาญ!”
“อ้อ เป็นแบบนี้นี่เอง แบบนี้ท่านคงต้องจัดการมันเป็นอันดับแรก ๆ สินะ”
“หากตอนประกาศจับคู่ แล้วได้จัดการมันก่อนก็ดี ปล่อยไว้มีแต่ข้าจะรำคาญมากขึ้น” มิคาเอลบอก
“เอาน่าท่านมิคาเอล หากข้าได้ประลองกับมันก่อนท่าน ข้าจะจัดการมันเอง” บาซีตอบ เขาไม่สนใจดาเมี่ยนสักเท่าไร เพราะดาเมี่ยนผู้นี้ไม่ได้เป็นผู้ใช้ดาบ
(มีต่อครับ)
Knight of Clues คดีที่ 6 : ดาบมารวิปลาส [บทปัญหา]
ตอนที่แล้วครับ
Knight of Clues คดีที่ 1 : แม้ตัวตาย มือก็ไม่คลายดาบ [บทปัญหา]
http://ppantip.com/topic/34126383
Knight of Clues คดีที่ 1 : แม้ตัวตาย มือก็ไม่คลายดาบ [บทเฉลย]
http://ppantip.com/topic/34174838
Knight of Clues คดีที่ 2 : คมหอกบนภูผา [บทปัญหา]
http://ppantip.com/topic/34194149
Knight of Clues คดีที่ 2 : คมหอกบนภูผา [บทเฉลย]
http://ppantip.com/topic/34227507
Knight of Clues คดีที่ 3 : ดาบที่ฟันได้ทุกสิ่งกับโล่ที่ป้องกันได้ทุกอย่าง [บทปัญหา]
http://ppantip.com/topic/34674198
Knight of Clues คดีที่ 3 : ดาบที่ฟันได้ทุกสิ่งกับโล่ที่ป้องกันได้ทุกอย่าง [บทเฉลย]
https://ppantip.com/topic/34698948
Knight of Clues คดีที่ 4 : สามเส้าสังหาร [บทปัญหา]
https://ppantip.com/topic/36089173
Knight of Clues คดีที่ 4 : สามเส้าสังหาร [บทเฉลย]
https://ppantip.com/topic/36110602
Knight of Clues คดีที่ 5 : วจีชี้เป็นตาย
https://ppantip.com/topic/36161907
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คดีที่ 6 : ดาบมารวิปลาส
-1-
นักดาบร่างบางแหงนหน้ามองป้ายที่เขียนว่า “SEA DRAGON”
ภัตตาคารซีดราก้อนถือเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ของนครลัวร์ ผู้มารับประทานอาหารที่นี่ล้วนต้องจองล่วงหน้า อาหารของภัตตาคารจัดว่าชั้นหนึ่งเลิศรสทุกอย่าง มีเมนูหลายหลายให้เลือกรับประทาน เพียงแต่ว่ามีราคาสูงหลายบาที จนผู้คนทั่วไปมิอาจเข้าไปทานได้ ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นเศรษฐี ผู้ดีชั้นสูง คนใหญ่คนโตของนครลัวร์เท่านั้น โดยภายในภัตตาคารนั้นจัดวางด้วยโต๊ะบริการหลายสิบโต๊ะ กระจายทั่วบริเวณชั้นหนึ่ง ที่แต่งร้านไว้ในธีมเรียบง่ายแต่คงไว้ซึ่งความหรูหรามีราคา
มิคาเอลสูดหายใจเข้าเบา ๆ เขาเองไม่เคยมาที่แห่งนี้ แต่เขาล่วงรู้ว่าในเวลานี้ภัตตาคารซีดราก้อนไม่ใช่ร้านอาหารธรรมดา
นักดาบร่างบางกระชับดาบปีกแมลงในมือมั่น ผลักประตูเข้าไปข้างใน ได้ยินเสียงว่า “เชิญครับ” ของบริกรร้านเอ่ยต้อนรับทันที
ทันทีที่มิคาเอลก้าวเข้ามา ลูกค้าของทางภัตตาคารซีดราก้อนต่างหันมองมายังเขา ทุกคนหน้าตาดุดัน ดูไม่เหมือนผู้ดีชั้นสูงแบบต่างกันราวฟ้ากับเหว
เนื่องจากในวันนี้ผู้ที่มาใช้บริการภัตตาคารซีดราก้อนต่างเป็นนักสู้ทั้งหมด
ไม่ทราบว่าเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อใด แต่เป็นธรรมเนียมไปแล้วที่ทุกห้าปี ภัตตาคารซีดราก้อนจะเปิดบริการให้กับเหล่านักดาบและนักสู้ทุกคนในนครลัวร์เข้ามาใช้บริการได้โดยมิต้องจอง โดยมีข้อแม้เพียงอย่างเดียวคือ ต้องร่วมประลองในศึกต่อสู้อีกสองวันข้างหน้า
“รูปโฉมบาง หน้าตาขาวใส พกพาดาบปีกแมลง ท่านคือ มิคาเอล แห่งตระกูลลูซิเฟอร์สินะ” ชายหน้าตายิ้มแย้มเดินมาทักทายกับมิคาเอลเมื่อเห็นเขา
ผู้ที่ทักมิคาเอลนั้นเป็นชายวัยกลางคน ฉีกยิ้มแจ่มใส สวมใส่เสื้อผ้าสีสวยสด ข้างเอวเหน็บด้วยดาบสั้นที่มีรูปร่างโค้งสองเล่ม
“ใช่ ข้าคือ มิคาเอลลูซิเฟอร์ ส่วนท่านคือ?” มิคาเอลมองเขา
ชายเสื้อผ้าสีสดยิ้มรับอีก “ข้าคือ อเล็กซ์ คนในนครลัวร์ให้ฉายาข้าว่า ยิ้มเดียวพิฆาต”
“ยิ้มเดียวพิฆาต ท่านคือ นักดาบมีชื่อแห่งภาคเหนือคนนั้นสินะ” มิคาเอลบอก เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของยิ้มเดียวพิฆาต อเล็กซ์มาบ้าง
“มิกล้า มิกล้า ข้าเพียงมีชื่อเพราะข้าชอบยิ้มแย้มเท่านั้นแหละ โดยเฉพาะคู่ต่อสู้ข้าก็จะยิ้มให้”
มิคาเอลพยักหน้ารับ เขาพอมองออกว่า อเล็กซ์ผู้นี้ฝีมือไม่ใช่ธรรมดา ฉายายิ้มเดียวพิฆาตมาจากการที่เมื่อเขาคลี่ยิ้มให้คู่ต่อสู้เมื่อใด แสดงว่าเขาพร้อมที่จะพิฆาตคู่ต่อสู้แล้ว ด้วยดาบคู่รอยยิ้มที่พกพาอยู่ข้างตัว ดาบโค้งพิสดารคู่นี้จัดการมือดีทางภาคเหนือมานักต่อนัก
มิคาเอลพูดคุยกับอเล็กซ์อีกเล็กน้อย ก็ขอตัวไปนั่งลงที่โต๊ะที่ว่างอยู่
ทันทีที่เขานั่งโต๊ะนั้นก็มีชายร่างอ้วนใหญ่ หนวดเครารุงรังผู้พกพาดาบเป็นสิบเล่มอยู่กลางหลัง มาขอนั่งร่วมโต๊ะด้วย
“เจ้าคือ มิคาเอล ใช่ไหม”
คนผู้นี้เอ่ยถาม แล้วขอนั่งร่วมโต๊ะโดยไม่รอมิคาเอลเอ่ยคำใด
มิคาเอลพยักหน้ารับ เขาพอรู้ตัวเองว่าเวลานี้ตัวเองต่างเป็นที่สนใจของนักสู้ในที่นี่ เพราะชื่อเสียงที่สร้างสมขึ้นมาเมื่อสามปีก่อน รวมทั้งการประลองตัดสินดาบดูแรนเดลกับโล่อิจิสที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน ทำให้นักสู้ส่วนใหญ่ให้ความสนใจมิคาเอลอย่างมาก
จนหลายคนคิดว่าเขาคือ หนึ่งในตัวเต็งของการประลองซีดราก้อนในครั้งนี้
แต่ว่าชายอ้วนใหญ่หนวดเครารุงรังที่เข้ามาหามิคาเอล หาได้สนใจตัวมิคาเอลเป็นหลัก เขากลับสนใจดาบปีกแมลงที่มิคาเอลไว้ข้างกายมากกว่า
“ท่านคือ บาซี ผู้คลั่งไคล้ดาบสินะ” มิคาเอลบอกกับเขา ด้วยการที่ชายผู้นี้พกพาดาบเป็นสิบเล่มจนเป็นเอกลักษณ์ จึงไม่แปลกที่มิคาเอลจะมองทีเดียวจะรู้ว่าเป็นใคร
บาซี ถือว่าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง เพียงแต่เขาเป็นคนชอบสะสมดาบต่าง ๆ ไว้ หลายครั้งที่เขาประลองกับคู่ต่อสู้โดยเดิมพันชิงดาบ เอาชนะแย่งชิงดาบมามายหมาย กล่าวกันว่าเขามีดาบเป็นร้อยเล่ม เพียงแต่จะให้พกพามาตั้งร้อยเล่มมันก็กระไรอยู่ จึงเลือกเฟ้นติดตัวสะพายหลังมาด้วยเพียงสิบเล่มไว้เท่านั้น โดยบาซีนั้นเคยผ่านการประลองซีดราก้อนเมื่อห้าปีก่อนมาแล้วด้วย
“ถูกต้อง ข้าคือ บาซี ท่านมิคาเอล ดาบปีกแมลงของท่านนับเป็นดาบอันดับต้น ๆ ของนครลัวร์ ข้าขอชมดาบของท่านได้หรือไม่”
มิคาเอลนิ่งคิด ตามจริงก็ไม่แปลกที่บาซี ผู้คลั่งไคล้ดาบจะสนใจดาบปีกแมลง เพราะดาบปีกแมลงจัดว่าเป็นดาบที่มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนดาบอื่น ตัวดาบจะมีความบางอย่างมาก เกือบเรียกได้ว่าโปร่งแสงได้เลย นับเป็นดาบที่มีความเบาที่สุดในดาบทั้งมวล
คล้ายมิคาเอลจะยอมให้บาซีดูดาบปีกแมลงของตน เขาชักดาบออกจากฝัก เพียงแต่ไม่ส่งให้บาซี เขาถือดาบไว้ ให้ผู้คลั่งไคล้ดาบได้ชมเพียงสายตา
ผู้คลั่งไคล้ดาบร่างใหญ่ตาเป็นประกายลุกวาวทันทีที่เห็นคมดาบบางที่โปร่งแสงของดาบปีกแมลง เขาเอ่ยขึ้นทันทีว่า
“ท่านมิคาเอล หากข้าได้ประลองกับท่าน ข้าขอเดิมพันชิงดาบกับท่านได้ด้วยหรือไม่”
มิคาเอลนิ่งอีกครั้ง ดาบปีกแมลงคงเป็นเป้าหมายของบาซีด้วยแน่ ๆ แต่ว่าหากเขาปฏิเสธไปก็คงไม่ได้ ระดับฝีมือและชื่อเสียงของเขา ยากที่จะปฏิเสธการต่อรองแบบนี้ได้
“ย่อมได้ท่านบาซี เพียงแต่ท่านจะใช้ดาบอะไรมาเดิมพันกับดาบปีกแมลงของข้า ข้าขอดาบที่เท่าเทียมกัน”
บาซียิ้มขึ้นทันที เขารู้สึกดีใจว่ามิคาเอลยอมรับคำเดิมพัน เขาเอ่ยขึ้นมาว่า
“วันนี้ข้าพกพาดาบมาสิบเล่ม ท่านเลือกได้เลยว่าจะชิงดาบเล่มไหน ดาบของข้าดี ๆ ทั้งนั้น”
บาซีปลดกระเป๋าที่เสมือนฝักดาบทั้งสิบที่ด้านหลังจากตัวเอง วางไว้บนโต๊ะให้มิคาเอลเห็นดาบทั้งหมด
ดาบทั้งสิบเล่มของบาซีล้วนแตกต่างกัน มีทั้งดาบที่มีลักษณะเป็นคมเดียวแบบคาตานะ ดาบสองคมสไตล์ยุโรป ดาบเล็กบางราวกับกระบี่ บางดาบก็มองไม่คล้ายดาบด้วย
“เป็นดาบมุรามาสะ ดีหรือไม่”
มิคาเอลมอง ดาบมุรามาสะมีลักษณะเป็นดาบคาตานะ ชื่อเสียงของดาบนี้มิคาเอลก็พอรู้ถือเป็นดาบในตำนานที่ต้องคำสาปและมีความอาถรรพ์จนหลายคนพูดถึง กล่าวกันว่าเมื่อใดที่ดาบนี้ดื่มเลือด มันจะส่งเสียงร้องโหยหวน
“ดาบมุรามาสะคงไม่เหมาะกับข้า ข้าสนใจ ดาบที่มีขดลวดพันผูกเป็นดาบเล่มนั้นมากกว่า”
บาซีหยิบดาบที่ว่าขึ้นมา “ท่านมิคาเอลตาแหลมไม่เบา นี่คือ ดาบเคลื่อนดารา ของปรมารจารย์นักประดิษฐ์ โทมะ เอดิสัน”
ดาบเคลื่อนดาราของบาซี มีลักษณะผิดแปลกกับดาบเล่มอื่น ตัวดาบมีลักษณะเป็นแท่งกลม มีเพียงตรงปลายดาบที่แหลมคมเท่านั้น ด้ามดาบพันผูกไว้ด้วยขดลวดหลากหลายทบ ถูกสร้างโดยปรมาจารย์ประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อหลายสิบปีก่อนอย่างโทมะ เอดิสัน
“นี่คงไม่ใช่ดาบธรรมดาสินะ” มิคาเอลเอ่ยถาม
“แน่นอนท่านมิคาเอล ดาบนี้ย่อมไม่ใช่ดาบธรรมดาทั่วไป ข้าเพิ่งได้มันมาเพื่อใช้ในศึกซีดราก้อนครั้งนี้โดยเฉพาะ มันเหมาะที่ต่อกรกับดาบมารวิปลาสของฟากัตยิ่งนัก”บาซีหยิบดาบเคลื่อนดารามองจ้องมอง พลางพูดอย่างชื่นชม
มิคาเอลนิ่งคิดวูบหนึ่ง ค่อยตอบว่า “งั้นตกลง ข้ารับเดิมพันของท่าน”
“ขอบใจท่านมิคาเอลว่า หวังว่าถ้าเราได้ประลองกันคงจะสนุกมิใช่น้อย”
“ย่อมเป็นเช่นนั้น” มิคาเอลตอบอย่างไม่เกรงกลัว
บาซียิ้มร่าท่าทางคงพอใจที่มิคาเอลยอมเดิมพันดาบด้วยแล้ว เขานั่งร่วมโต๊ะกับมิคาเอล พลางกินดื่มต่อไป
นักดาบร่างบางสั่งเครื่องดื่มมานั่งกินพลางดูบรรยากาศรอบ ๆ ในภัตตาคารนี้ เขารับรู้ได้ถึงจิตสังหารอันร้ายกาจ ถ้าไม่นับบาซีที่นั่งอยู่ตรงหน้ากับอเล็กซ์ที่ไปนั่งด้านหน้า นับได้ก็ประมาณ 30 แห่งที่เล็งมายังตน แต่ว่ามีอยู่จิตสังหารหนึ่งที่รุนแรงและแฝงความอาฆาตมากพอสมควร
ด้วยความที่มิคาเอลผ่านโลกมาพอสมควร เขารับรู้ได้ว่าจิตสังหารอันอาฆาตนี้คือใคร เพราะว่ามันคล้ายคลึงกับจิตสังหารของคน ๆ หนึ่งที่เคยเจอมาก่อน
เทพลักซ่อน ดาเมี่ยน
ดาเมี่ยนคือเป็นสุดยอดมือสังหารคนหนึ่งในวงการ กล่าวกันว่าเป็นชายร่างเล็กปกปิดใบหน้าด้วยผ้าดำ มักหลบซ่อนสายผู้อื่น แต่ชอบส่งจิตสังหารอันรุนแรงเตือนเหยื่อที่ตัวเองจะจัดการ
เมื่อปลายปีก่อนดาเมี่ยนได้ปะทะกับมิคาเอล ซึ่งมิคาเอลใช้วิชาดาบสมาธิฟันจนเกิดบาดแผลที่ใบหน้าของดาเมี่ยน จากนั้นดาเมี่ยนก็ลี้กายหายไปในช่วงหนึ่ง มิคาเอลเองก็ไม่คาดคิดว่าเขาได้เจอดาเมี่ยนที่นี่
แม้จิตสังหารของดาเมี่ยนจะรุนแรงจนรับรู้ได้ง่าย แต่ว่าการระบุตัวว่าเขาอยู่ที่ใดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มิคาเอลเองก็ยังไม่สามารถรับรู้ได้ว่าดาเมี่ยนนั่งอยู่ที่ใดของภัตตาคารนี้
“ท่านรู้จักดาเมี่ยนหรือไม่ท่านบาซี” มิคาเอลถามบาซีที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน
“ท่านหมายถึงเทพลักซ่อน ดาเมี่ยนคนนั้นน่ะหรือ ท่านพูดถึงมันเช่นนี้คงโดนมันส่งจิตสังหารมาสินะ” บาซีตอบ
มิคาเอลพยักหน้ารับ “ในคราก่อนข้าไม่ทันได้จัดการมัน มันคงเห็นว่าศึกซีดราก้อนนี้ข้าจะมาร่วม มันคงแฝงตัวมาเข้าร่วมเพื่อสังหารข้าแน่ ๆ”
“ระดับท่านเกรงกลัวมันด้วยหรือ?”
“มิใช่เกรงกลัว แต่ท่านน่าจะรู้ว่าดาเมี่ยนหากเล็งผู้ใดเป็นเหยื่อแล้ว มันจะส่งจิตคุกคามอยู่เรื่อย ๆ ตลอดเวลา จนคนผู้นั้นขาดสมาธิ และพลาดพลั้งจนโดนมันสังหารได้ ซึ่งข้อนี่แหละ....ข้ารำคาญ!”
“อ้อ เป็นแบบนี้นี่เอง แบบนี้ท่านคงต้องจัดการมันเป็นอันดับแรก ๆ สินะ”
“หากตอนประกาศจับคู่ แล้วได้จัดการมันก่อนก็ดี ปล่อยไว้มีแต่ข้าจะรำคาญมากขึ้น” มิคาเอลบอก
“เอาน่าท่านมิคาเอล หากข้าได้ประลองกับมันก่อนท่าน ข้าจะจัดการมันเอง” บาซีตอบ เขาไม่สนใจดาเมี่ยนสักเท่าไร เพราะดาเมี่ยนผู้นี้ไม่ได้เป็นผู้ใช้ดาบ
(มีต่อครับ)