'กสท' ดันธุรกิจโมบายขยายลูกค้า 'มาย'
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559
"
กสท" โฟกัสธุรกิจโมบาย สร้างรายได้หลัก ต่อเนื่องตลอดปี 2559 เล็งเพิ่มเอ็มวีเอ็นโอ รายใหม่ เติมเต็มโครงข่าย ขยายฐานผู้ใช้บริการควบคู่ลูกค้า มายหวังเสริมรายได้บริการไอดีดี คาดสิ้นปีรายได้ทะลุ 24,800 ล้าน เผยสิ้นปีเตรียมแยกบริษัทลูก "ไอดีซี-คลาวด์" สร้างรายได้เพิ่ม ตั้งเป้าผลประกอบสิ้นปีทะลุ 5.2 หมื่นล้าน
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการบริษัท และรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า แนวทาง กสท ปี 2559 จะโฟกัสต่อเนื่องกับธุรกิจโมบายซึ่งปีที่ผ่านมาทำรายได้กว่า 50% โดยจะเร่งเจรจาพันธมิตรเพื่อเปิดให้บริการ 4จี พร้อมเพิ่มผู้ให้บริการโครงข่ายเสมือนรายย่อย ใหม่ (เอ็มวีเอ็นโอ) ช่วยการขายต่อ และสร้างผู้เล่นในอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมมากขึ้น ทำให้มายแข็งแกร่งมากขึ้น
โดยกสท จะมีเอ็มวีเอ็นโอเปิดบริการปีนี้ 4 ราย เริ่มจากบริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ จำกัด เปิดบริการม.ค.นี้ คือ บมจ.สามารถ ไอโมบาย เปิดบริการเดือนก.พ. และอีก 2 รายที่คาดว่า จะเริ่มให้บริการได้ราวเดือน มี.ค. และมิ.ย.ตามลำดับ ส่วน 2 รายเดิมที่ทำตลาดมาแล้วคือ บริษัท เรียลมูฟ จำกัด และ บริษัท 168 คอมมูนิเคชั่นแล้ว จำกัด
ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวยังช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้เต็มศักยภาพของระบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดหวังฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทั้งจากเอ็มวีเอ็นโอดังกล่าวบวกกับการเพิ่มลูกค้ามายจะช่วยเพิ่ม รายได้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ (ไอดีดี) ผ่านรหัส 001 และ 009 ได้อีกทางหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมการโทรต่างประเทศเปลี่ยนมาใช้โทรผ่านมือถือเป็นหลัก
ทั้งนี้ กสท คาดว่า ปี 2559 กลุ่มธุรกิจไร้สาย จะทำรายได้ 24,800 ล้านบาท ส่วนใหญ่ยังมาจาก รายได้การขายส่งเอ็มวีเอ็นโอซึ่งปรับลดลง เล็กน้อยในส่วนของขายส่งให้เรียลฟิวเจอร์ ขณะที่บริการมายมีแนวโน้มทำรายได้สูงขึ้น บวก กับบริการเกี่ยวเนื่องกับโครงข่ายที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง
ส่วนของมายเองประสบความสำเร็จที่เพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการสูงกว่าเป้าหมาย โดยปัจจุบันมี ผู้ใช้บริการ 1,130,000 เลขหมาย แบ่งเป็นเติมเงิน ประมาณ 1,000,000 เลขหมาย และรายเดือน 130,000 เลขหมาย
ลูกค้าที่เพิ่มส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน เป็นผลจากปีที่ผ่านมา สร้างการรับรู้เพิ่มขึ้นด้วยกลยุทธ์สร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านสื่อต่างๆ โดยเน้นแพ็คเกจที่คุ้มค่าตอบโจทย์การใช้งานและความต้องการ ควบคู่กับทำตลาดลงพื้นที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหัวเมืองทุกภูมิภาคทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งการบอกต่อในกลุ่มของผู้ใช้บริการที่สร้างความเชื่อมั่นและหันมาใช้บริการเพิ่มขึ้น ปีนี้คาดการณ์ลูกค้าเพิ่มเข้ามาในระบบได้ 2 ล้านราย
อีกทั้ง กสท ยังได้เพิ่มปริมาณการใช้งานไอดีดีผ่านบริการมายอย่างต่อเนื่องในกลุ่มแรงงานต่างชาติลาว พม่า กัมพูชา เพื่อรักษาฐานลูกค้าและรายได้กลุ่มดังกล่าวให้มากที่สุด ขณะที่เดินหน้าเชิงรุกกับธุรกิจที่มีอัตราเติบโตอย่างไอดีซี-คลาวด์ มีแผนแยกธุรกิจคลาวด์เป็นบริษัทเอกชนภายในปลายปีนี้ เพื่อความคล่องตัวและสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ประมาณการรายได้สิ้นปี 2558 กสท จะมีรายได้รวม 53,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าซึ่งตั้งไว้ที่ 52,700 ล้านบาทอยู่ราว 800 ล้านบาท ส่วนประมาณกำไรสิ้นปี 3,400 ล้านบาท ต่ำกว่าแผนประมาณ 1,000 ล้านบาท เหตุจากค่าเช่าโครงข่ายที่ กสท ต้องจ่ายให้บีเอฟเคที เพื่อให้บริการขายส่งเอชเอสพีเอ ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาซื้อคืนระบบสื่อสัญญาณ
กสท คาดว่า เมื่อซื้อคืนระบบได้จะช่วยลดต้นทุนส่วนนี้ และส่งผลให้ มีผลประกอบการดีขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้ เป้าหมายผลประกอบการปี 2559 รายได้หลักยังคงมาจากการขายส่งความจุโครงข่าย เอชเอสพีเอในธุรกิจโมบาย คาดว่าจะมีรายได้ 52,800 ล้านบาท
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559 (หน้า 8)
'กสท' ดันธุรกิจโมบายขยายลูกค้า 'มาย' มั่นใจได้เอ็มวีเอ็นโอใหม่หนุนรายได้ไอดีดี
'กสท' ดันธุรกิจโมบายขยายลูกค้า 'มาย'
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559
"กสท" โฟกัสธุรกิจโมบาย สร้างรายได้หลัก ต่อเนื่องตลอดปี 2559 เล็งเพิ่มเอ็มวีเอ็นโอ รายใหม่ เติมเต็มโครงข่าย ขยายฐานผู้ใช้บริการควบคู่ลูกค้า มายหวังเสริมรายได้บริการไอดีดี คาดสิ้นปีรายได้ทะลุ 24,800 ล้าน เผยสิ้นปีเตรียมแยกบริษัทลูก "ไอดีซี-คลาวด์" สร้างรายได้เพิ่ม ตั้งเป้าผลประกอบสิ้นปีทะลุ 5.2 หมื่นล้าน
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการบริษัท และรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า แนวทาง กสท ปี 2559 จะโฟกัสต่อเนื่องกับธุรกิจโมบายซึ่งปีที่ผ่านมาทำรายได้กว่า 50% โดยจะเร่งเจรจาพันธมิตรเพื่อเปิดให้บริการ 4จี พร้อมเพิ่มผู้ให้บริการโครงข่ายเสมือนรายย่อย ใหม่ (เอ็มวีเอ็นโอ) ช่วยการขายต่อ และสร้างผู้เล่นในอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมมากขึ้น ทำให้มายแข็งแกร่งมากขึ้น
โดยกสท จะมีเอ็มวีเอ็นโอเปิดบริการปีนี้ 4 ราย เริ่มจากบริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ จำกัด เปิดบริการม.ค.นี้ คือ บมจ.สามารถ ไอโมบาย เปิดบริการเดือนก.พ. และอีก 2 รายที่คาดว่า จะเริ่มให้บริการได้ราวเดือน มี.ค. และมิ.ย.ตามลำดับ ส่วน 2 รายเดิมที่ทำตลาดมาแล้วคือ บริษัท เรียลมูฟ จำกัด และ บริษัท 168 คอมมูนิเคชั่นแล้ว จำกัด
ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวยังช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้เต็มศักยภาพของระบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดหวังฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทั้งจากเอ็มวีเอ็นโอดังกล่าวบวกกับการเพิ่มลูกค้ามายจะช่วยเพิ่ม รายได้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ (ไอดีดี) ผ่านรหัส 001 และ 009 ได้อีกทางหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมการโทรต่างประเทศเปลี่ยนมาใช้โทรผ่านมือถือเป็นหลัก
ทั้งนี้ กสท คาดว่า ปี 2559 กลุ่มธุรกิจไร้สาย จะทำรายได้ 24,800 ล้านบาท ส่วนใหญ่ยังมาจาก รายได้การขายส่งเอ็มวีเอ็นโอซึ่งปรับลดลง เล็กน้อยในส่วนของขายส่งให้เรียลฟิวเจอร์ ขณะที่บริการมายมีแนวโน้มทำรายได้สูงขึ้น บวก กับบริการเกี่ยวเนื่องกับโครงข่ายที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง
ส่วนของมายเองประสบความสำเร็จที่เพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการสูงกว่าเป้าหมาย โดยปัจจุบันมี ผู้ใช้บริการ 1,130,000 เลขหมาย แบ่งเป็นเติมเงิน ประมาณ 1,000,000 เลขหมาย และรายเดือน 130,000 เลขหมาย
ลูกค้าที่เพิ่มส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน เป็นผลจากปีที่ผ่านมา สร้างการรับรู้เพิ่มขึ้นด้วยกลยุทธ์สร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านสื่อต่างๆ โดยเน้นแพ็คเกจที่คุ้มค่าตอบโจทย์การใช้งานและความต้องการ ควบคู่กับทำตลาดลงพื้นที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหัวเมืองทุกภูมิภาคทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งการบอกต่อในกลุ่มของผู้ใช้บริการที่สร้างความเชื่อมั่นและหันมาใช้บริการเพิ่มขึ้น ปีนี้คาดการณ์ลูกค้าเพิ่มเข้ามาในระบบได้ 2 ล้านราย
อีกทั้ง กสท ยังได้เพิ่มปริมาณการใช้งานไอดีดีผ่านบริการมายอย่างต่อเนื่องในกลุ่มแรงงานต่างชาติลาว พม่า กัมพูชา เพื่อรักษาฐานลูกค้าและรายได้กลุ่มดังกล่าวให้มากที่สุด ขณะที่เดินหน้าเชิงรุกกับธุรกิจที่มีอัตราเติบโตอย่างไอดีซี-คลาวด์ มีแผนแยกธุรกิจคลาวด์เป็นบริษัทเอกชนภายในปลายปีนี้ เพื่อความคล่องตัวและสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ประมาณการรายได้สิ้นปี 2558 กสท จะมีรายได้รวม 53,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าซึ่งตั้งไว้ที่ 52,700 ล้านบาทอยู่ราว 800 ล้านบาท ส่วนประมาณกำไรสิ้นปี 3,400 ล้านบาท ต่ำกว่าแผนประมาณ 1,000 ล้านบาท เหตุจากค่าเช่าโครงข่ายที่ กสท ต้องจ่ายให้บีเอฟเคที เพื่อให้บริการขายส่งเอชเอสพีเอ ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาซื้อคืนระบบสื่อสัญญาณ
กสท คาดว่า เมื่อซื้อคืนระบบได้จะช่วยลดต้นทุนส่วนนี้ และส่งผลให้ มีผลประกอบการดีขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้ เป้าหมายผลประกอบการปี 2559 รายได้หลักยังคงมาจากการขายส่งความจุโครงข่าย เอชเอสพีเอในธุรกิจโมบาย คาดว่าจะมีรายได้ 52,800 ล้านบาท
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559 (หน้า 8)