เมื่อธุรกิจประสบปัญหา มีทางออกทางไหนบ้าง

สวัสดีคะ นี่เป็นกระทู้แรก ถ้าผิดพลาดตรงไหน ขออภัยตรงนี้ด้วยนะ ขอแนะนำตัวก่อนนะ เราทำธุรกิจ กระจก อลูมิเนียม จำหน่าย และติดตั้ง
ยกตัวอย่างเช่น ประตูบานเลื่อน หน้าต่างบานกระทุ้ง ชุดชาวเวอร์ห้องน้ำ เป็นต้น ทำธุรกิจนี้ร่วมกับคุณพ่อ มาเป็นเวลา 5 ปี แล้ว ก็ดำเนินมาเรื่อยๆ
กำไรบ้างนิดๆหน่อยๆ ไม่ถึงกับรวยมาก แต่เราก็พอมี จนมาวันนี้ . . . . ได้ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนัก มันแย่แบบนี้ มา 4 เดือนแล้ว สาเหตุเพราะ
โดนโกงไปเป็นเงินจำนวน 2 ล้านบาท โดยพนักงานของบริษัทเราเอง จะโทษพนักงานทั้งหมดก็คงไม่ได้ เราก็มีส่วนผิดด้วย ที่ปล่อยให้มีช่องว่างในการจ่าย
เงิน โกงแบบไหนเหรอ คือแบบนี้นะ . . .

เรารับงานมา 1 โครงการ เป็นคอนโด 8 ชั้น ย่านศรีนครินทร์ เราทำกระจก อลูมิเนียม ทั้งภายนอก และภายในห้องพัก งานทั้งหมดรวมแล้ว อยู่ประมาณ 7.5 ล้านบาท และงานเพิ่มเติมอีกจำนวนหลายแสนบาท งวดงานโครงการก็จ่ายช้า ไม่ตรงงวดสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังพอหมุนๆได้ จนมาถึงวันเซอร์ไพร์ ^^
วันที่ต้องส่งมอบห้องคืนให้แก่เจ้าของโครงการ หรือ owner นั้น การตรวจส่งห้องได้มาถึง จริงๆ เรามีพนักงานคอยดูแลหน้างาน และตรวจเช็คว่างานดำเนินไปถึงไหนแล้ว จะต้องมีเอกสาร ส่งเข้าบริษัทฯ ทุกวัน ว่าเสร็จส่วนไหนแล้วบ้าง แล้วปัญหาก็เกิด เนื่องจากทางโครงการ แจ้งมาว่า งานไม่เสร็จไม่กำหนด ทางโครงการจะขอปรับผู้รับเหมา ในจำนวนเงินอยู่ที่ล้านต้นๆ ( ในส่วนของหน้างาน และทีมช่าง พ่อเราเป็นคนคอยดูแล ส่วนเรา ดูแลที่เหลือทั้งหมด ตีเช็ค วางบิล ออกเงินเดือนพนักงาน ยื่นภาษี และอื่นๆ อีกมากมาย ) เราก็ตกใจ ว่าทำไมถึงจะปรับ เพราะเอกสาร ว่างานมันจะเสร็จแล้วนะ เราเลยตัดสินใจ เข้าไปดูหน้างานเอง ปรากฏว่า เอ้ย มันไม่เสร็จจริงๆ เหลืองานอีกตั้งเยอะ คือพนักงานที่พ่อเราไว้ใจ เค้าทำยังไงรู้มั๊ย เอาแค่กรอบอลูมิเนียมใส่ๆ ไว้ บานก็ไม่ได้ตั้งให้ได้ฉาก แล้วพอเหมือนเค้าจะรู้ตัว ว่าเรารู้นะ งานไม่เสร็จ แล้วเงินที่เราจ่ายออกไป กับเอกสารที่คุณส่งเข้ามาบริษัทล่ะ คือมันปลอมทั้งนั้น ใช่มั๊ย
พอเค้ารู้ตัว เท่านั้นแหละ ก็เก็บเอกสาร หนีหายไปเลย แม้แต่แบบของโครงการยังไม่เหลือไว้ พ่อเราไว้ใจผิดคน ( มีรูปจากหน้างานตลอดนะ ว่าทำ )
พ่อเราเลยอาจจะรักเหมือนลูก ไว้ใจมากๆ เลยไม่ได้สงสัยอะไร ที่โกงไปได้นั้น มันเป็นค่าของและค่าแรงรวมกัน . . . . เอาผิดได้มั๊ย หลักฐานพอเหรอ เพราะเราเป็นคนจ่ายเงินให้เค้าเอง การที่เงินจะออกไปนั้น จะต้องมีใบส่งงาน ยืนยันจากทางคนตรวจของโครงการด้วย เราเลยโอเค มันเสร็จจริง เราพลาดตรงนี้เอง เพราะคิดว่า ผ่านคนตรวจ ผ่านพ่อเราแล้ว มันไม่น่าจะมีปัญหา เพราะผ่านการตรวจสอบ ก็เลยโอนเงินตามจำนวนที่จะต้องจ่าย ให้ผู้รับเหมาที่มาติดตั้งให้เรา ( ตอนนั้นทีมช่างเราไม่พอ ติดงานอื่นอยู่ เลยต้องจ้างทีมช่างเหมาเพื่อมาช่วยแบ่งงานให้มันเสร็จทันตามกำหนด )

หลังจากเกิดเรื่องที่เราตรวจสอบแล้วเจอนั้น ก็คิดว่าต้องแย่แน่ๆ โครงการก็จะปรับ งานไปเสร็จ เงินก็ไปแล้ว เอายังไงดี เหลือเงินก้อนสุดท้าย ติดต่อช่างรับเหมา ให้มาช่วยดำเนินการติดตั้งให้เสร็จ ภายใน 2 เดือน ทีนี้เราลงไปตรวจดูงานเองทั้งหมด จนงานเสร็จ ผ่านไป ได้เงินมาก็ต้องเครียซัพพลายเออร์ ค่าแรงช่าง ้งินเดือนพนักงาน และค่าใช้จ่ายต่างในบริษัท ( ค่าใช้จ่ายของ บริษัทฯ ต่อเดือนอยู่ที่ 170,000 /เดือน ) หลังจบงานโครงการ ก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยเยอะมากนัก ตังที่สำรองไว้ ก็ถูกนำมาใช้ตอนทำงานโครงการ เอายังไงต่อดี ทำไมมันแย่ลงเรื่อยๆ เพราะเงินหมุนเราไม่มีเลยตอนนี้ ต้องลดพนักงานออกทะละคน สองคน จนตอนนี้ ทั้งออฟฟิศ เราทำเองอยู่คนเดียวทั้งหมด ไม่มีคนช่วย ส่วนพ่อก็เครียดหนัก หลังจากที่ถูกโกงไป เงินที่เก็บไว้ ก็ไม่เหลือแล้ว หางานๆ ก็พอเลี้ยงลูกน้องไปได้แต่ละเดือน เก็บเงินลูกค้าที่ไปทำงานให้ไว้ ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ลูกค้าไม่ยอมจ่าย ขนาดไปคุยดีๆ ยังเสียงดังใส่ ทุบโต๊ะ ปากระดาษใส่เรา คงเห็นเราเป็นผู้หญิง เลยไปแจ้ง ตำรวจไว้ ก็บอกตัวเองแค่ว่า ช่างแม้ง อดทนนะ มันจะผ่านไป เช็คบางเจ้าที่ตีไว้ ก็เด้ง บางเจ้าก็หาตังไปตัดทัน หมุนเงินจนหัวจะระเบิด คิดทุกวัน คิดหาวิธีจะตาย มันเป็นทางออกที่แย่มากๆ เพราะตอนนี้มันเริ่มแย่ลงทุกวัน เงินไม่พอ เช็คก็ต้องตัด
ขายรถกะบะ ไป 1 คัน และเอารถส่วนตัวเราไปจำนำเพิ่มอีก 1 คัน ภายใน 15 วัน ไม่ไปคืนเงิน เค้าก็ยึดรถเลย ( ครบกำหนด 25 ม.ค.59 นี้ )
ล่าสุดก็ไปกู้นอกระบบมา ก็ส่งๆไปทุกวัน ตอนนี้ยอดเหลือ 100,000 บาท ส่งดอกเบี้ยต่อวัน วันละ 2,000 ใกล้ตายล่ะ เหนื่อยจังเลยยย

ทุกคนอาจสงสัย ว่าทำไมไม่กู้แบงค์ เชื่อเถอะ เราทำทุกวิธีแล้ว ติดต่อทุกแบงค์ มันติดตรงเราไม่มีหลักทรัพย์ ไปค้ำวงเงินที่จะกู้ บ้านกับรถ เราก็ยังผ่อนอยู่
เลยไปขอสินเชื่อ บุลคล กับธนาคาร เค้าก็ปฏิเสธ สาเหตุเพราะ เราเคยจ่ายค่างวดรถ ช้า ไม่ตรง แต่เราจ่ายทุกเดือนนะ ตอนนี้ก็จ่ายตรงวัน มา 3 เดือนเอง
ที่ผ่านมา ตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง เงื่อนไขธนาคารคือ ห้ามชำระช้า เกิน 2 ครั้ง ต่อปี ซึ่งเราเกิน แล้วจะทำยังไงต่อดี ภาระอันหนักนี้ เราเหนื่อยมากๆ สงสารพ่อด้วย บางวันต้องต้มไข่กินกัน พ่อลูก ประหยัดได้ ก็ประหยัดสุดๆ  เราก็คิดว่าจะหยุด ปรึกษากัน ว่าพอดีมั๊ย แต่ก็เสียดายกิจการ ทำมาตั้ง 5 ปีแล้ว ธุรกิจ มันไปต่อได้ แต่ขาดเงินทุนมาหมุนเวียน มันเหนื่อยตรงนี้แหละ แต่เราก็พยายามจะสู้ให้ถึงที่สุดนะ

ขอบคุณที่รับฟัง มีตรงไหนสอบถามเพิ่มได้ เรายินดีบอกทุกข้อสงสัยเลยคะ ใครมีข้อแนะนำ หรือมีอะไรดีๆแบ่งปันชี้แนะ ด้วยนะคะ
คนหมดหนทางจริงๆ

ผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย เนื่องจากเป็นกระทู้แรกคะ

ขอบคุณคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
อ่านจบสรุปได้สั้นๆคือ

คุณไม่ยอมลดขนาดธุรกิจลง

เงินเก็บไม่มีหมุนแต่คุณยังทำธุรกิจสเกลเท่าเดิมมันก็หมุนไม่ทันเป็นธรรมดา

ถ้าให้แนะนำลดขนาดธุรกิจซิครับ

จากเดิมรับงานหลักล้านจากโครงการ

ลองมารับงานระดับหลักหมื่นดูซิครับ

รับตรงจากเจ้าของบ้านมีลูกน้องซักคนกะบะคันพ่อคุณทำเป็นรับวานเล็กเอา

จากรายจ่ายหลักแสนมันจะเหลือไม่เท่าไร

ไม่เคลียดด้วยเก็บสะสมเงินใหม่เมื่อพร้อมคอยกลับมารับงานโครงการใหม่ยังได้

ตอนนี้ต้องลดรายจ่ายครับกลับไปเก็บเงินก่อนแล้วคอยกลับมาสู้ใหม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่