รีวิวท่องเที่ยวรัฐคุชราต อินเดีย
ได้ไปเที่ยวอินเดียฝั่งตะวันตกมาเมื่อปีใหม่นี้ครับ 9 คืน ได้ไปเที่ยวใน Gujarat มา 2 คืน เห็นว่ายังมีคนไทยไปไม่เยอะ (แต่ฝรั่งญี่ปุ่นเยอะนะ) เลยมาแบ่งปัน
เป็นคนชอบท่องเที่ยวทั่วโลกมานานแล้ว แต่เป็นการตั้งกระทู้ Pantip ครั้งแรกเลย Debut
ที่อยากมาที่นี่เพราะ เห็นรูปโบราณสถานใต้ดินแบบรูปด้านบนนี่ล่ะครับ น่าสนใจเลยแวะมา สองวันที่นี่เลยเน้นเที่ยวแถวเมือง Ahmedabad
เมืองนี้มาง่ายมากครับ จากมุมไบมี Flight มาลงวันละเป็นสิบ Flight ราคาก็ไม่แพง ไปกลับไม่เกินสามพัน ผมนั่ง Indigo เที่ยวเดียวไป พันกว่าบาท แต่ถ้าของ Spicejet ถูกกว่านี้อีก แค่ 900 ส่วนรถไฟรถบัสก็ผ่านเยอะมาก เพราะเป็นเมืองศูนย์กลางของ Gujarat ซึ่งรัฐนี้เป็นรัฐที่รวยที่สุดในอินเดียก็ว่าได้ครับ เป็นรัฐแห่งการค้าขายเลย ตลาดสิ่งทอและยาใหญ่ที่สุดอยู่ที่รัฐนี้
Ahmadabad
เมืองอาเมห์ดาบัดถึงแม้จะเป็นเมืองศูนย์กลางการค้า โดยเฉพาะสิ่งทอและยา
แต่ศิลปะวัฒนธรรมและโบราณสถานยังถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีและผสมผสานกับชีวิตประจำวันได้ลงตัว
แต่มาอินเดียต้องทำใจ ใครไม่เหยียบขี้ช้างวัวแพะ เป็นไปไม่ได้แน่นอน ทริปนี้ผมโดนไปสามรอบ
สัญลักษณ์ของเมือง Ahmadabad คือ ช่องหน้าต่าง "The Tree of Life" ตามรูปนี่เลยครับ
ช่องแสงที่ถูกแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงงดงามจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไปเลย
ช่องแสงแห่งนี้อยู่ที่ Sidi Sayed Masyid ใจกลางเมือง ตรงข้ามโรงแรมที่พักเลย
เดินเล่นในเมืองชมย่านการการค้าและสถาปัตยกรรม ที่โดดเด่นคือ Jama Masyid ซึ่งมีเสาถึงเกือบสามร้อยต้น
ด้านในมัสยิดสงบมากเหมือนอยู่อีกโลกนึง ต่างจากย่านการค้าที่วุ่นวายรอบๆ เข้ามานั่งพักสบายๆบนพื้นหินอ่อนของที่นี่
อย่างที่ว่าล่ะครับ ทริปนี้ต้องการมาลุยใต้ดิน ใน Gujarat นี้มีโบราณสถานใต้ดินอยู่มากมาย
เป็นอาคารที่ขุดลงไปจนเจอน้ำใต้ดิน ไม่ได้แค่เอาเท่ห์ๆนะครับ แต่มี Function ใช้งาน
แถว Gujarat นี้ ร้อนและแล้งมาก เมื่อขุดลงไปใต้ดินแล้วอากาศจะเย็นและมีน้ำใต้ดินให้ใช้อีกด้วย แก้ปัญหาได้หมดเลยทั้งสองอย่าง
ภูมิปัญญาชาวบ้านสมัยโบราณนี่เท่ห์จริงๆ
วันนี้นั่ง Taxi มาชม Vav อันเล็กก่อน ชื่อ Adalaj Ki Vav อยู่ที่เมือง Adalaj ชานเมือง Ahmadabad นี้เอง
ข้างล่างเย็นเหมือนติดแอร์ หน้าร้อนคนก็ลงมานั่งพักผ่อนกันสบายๆนี่หละ
สิ่งที่ Surprise เกินความคาดหมายในทริปนี้คือวัด Sun Temple ที่เมือง Modhera ครับ
พอวันที่สอง Day Trip จ้าง Taxi ไปชม Vav ที่ใหญ่ที่สุด ที่เมือง Patan และรวมทริปกับวัดนี้ที่ Modhera ด้วยเป็นทางผ่าน
พอไปชมจริงมันไม่ใช่แค่ทางผ่าน แต่มันงดงามมากครับ ทั้ง Proporton รูปทรง และ Detail รายละเอียด การแกะสลัก ถักทออย่างลงตัว
ยิ่งเมื่อรับกับแสงแดดตอนเช้า เหลืองทองอร่ามสวยงามจริงๆ
วัดนี้เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ มีอายุประมาณพันปี
ที่เที่ยวในรัฐคุชราตนี้มันจะกระจายๆ เหมา Taxi เที่ยวดีที่สุดครับ นั่งรถบัสที่นี่มันต้องไปต่อเข้าไม่ค่อยถึง
แต่ถ้านั่งระหว่างเมือง รถบัสรถหรือรถไฟโอเคเลยครับ
ลืมรีวิวโรงแรมไป เลยมาคั่นก่อน ผมนอนที่ House of MG ครับ เป็นโรงแรม Heritage ดัดแปลงจากอาคารเก่ากลางเมือง Ahmadabad
ซึ่งเป็นบ้านเจ้าเมืองเก่า ราคาก็แพงพอสมควร (แพงสุดในทริปนี้) แต่ที่เลือกเพราะว่าทำเลเลยครับ
ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมือง อยู่ในโรงแรมนี้เลย ผมเลยพักที่นี่ จะได้กินที่นี่สบายๆ
รูปพวกนี้เป็นรูปจากร้าน Green Olive ชั้นล่างของโรงแรมนี้เอง เป็นหาร Gujarati หรือ Local Food ของ Gujarat นี่เองครับ แต่มาในรูปแบบ Snacks ร้านนี้บรรยากาศดีด้วย นั่งสบายๆ
อร่อยและกินง่ายครับ กินสามมื้อที่ร้านนี้ สั่งไปหลายเมนูเลย แต่ลงรูปแค่นี้ก่อน
ผมเที่ยวมาทั่วโลกแต่ไม่ยักกะเคยมาอินเดียเพราะกลัวท้องเสียที่สุด แต่ทริปนี้กลับรอดไม่เสียแม้แต่ครั้งเดียว
สิ่งที่แย่ที่สุดที่เจอคือการขับรถและการจราจรต่างห่างหาก โดนรถเฉี่ยวไปหลายครั้งมาก
Highlight ของทริปนี้ "Rani Ki Vav" สถานที่ที่ทำให้หัวใจผมมันเรียกร้องให้ขาก้าวเดินมาอินเดีย
ด้วยขนาดของมัน ใหญ่โตจนเรียกได้ว่า นครใต้ดิน ไม่ใช่แค่ โบราณสถานใต้ดิน ทั้งงดงามและอลังการมาก
ที่นี่อยู่ที่เมือง Patan รถจาก Ahmedabad 2ชั่วโมงครึ่ง ทำเป็น One Day Trip ได้ บวกกับ Sun Temple Modhera ที่กล่าวไปแล้ว
Rani Ki Vav เป็นซากอารยธรรมอันรุ่งเรืองของราชวงศ์ Solanki แห่งอารยธรรม Indus Valley เมื่อพันปีที่แล้ว ที่ยังหลงเหลืออยู่ถึงปัจจุบัน
ที่นี่คุ้มค่ากับการมาจริงๆ ไม่เหมือนที่ใดในโลก ผมนั่งพักอยู่ข้างล่างในนครใต้ดินนี้นานมาก เพราะมันเย็นสบายเหมือนเดินตากแอร์ในห้างเลย
แต่สิ่งที่ผมชอบที่สุดใน Gujarat ไม่ใช่แค่ ที่แห่งนี้ครับ แต่มีอีกอย่างหนึ่ง มันคือ
สิ่งหนึ่งที่ชอบที่สุดในทริปอินเดียครั้งแรกนี้คืออาหาร "Gujarati Thali" รู้สึกโชคดีมากๆที่ได้รู้จักอาหารชนิดนี้
ปกติผมเป็นคนกินอาหารและรู้จักอาหารได้หลากหลายจากการท่องเที่ยวและกิน Local Food ไปทั่วโลก และจะมีเมนูโปรดเพิ่มมาทุกๆทริป
สำหรับทริปนี้ดีใจที่ค้นพบอีกหนึ่งเมนูโปรด เดี๋ยวกลับไทยจะไปหาชิม
อาหารท้องถิ่น Gujarat ชนิดนี้เป็นอาหารมังวิรัติที่อร่อยมาก ปกติผมชอบกินแต่เนื้อสัตว์ พอมาอินเดียได้กินมังสวิรัติหลายมื้อกลับสบายท้อง ขับถ่ายดีมาก
แต่สองรูปบนถ่ายมาร้าน Bhoj ที่กินใน Aurangabad รัฐมหาราชครับ รสชาติดีมาก แต่หน้าตาเฉยๆ
รูปล่างถ่ายมาจากร้าน "Agashiye" ร้านอาหารบนดาดฟ้าของโรงแรม House of MG ที่ผมพักครับ ร้านนี้อร่อยและ Present สวยด้วย
เป็นร้านที่ต้องจอง ถือว่าเป็นหนึ่งในร้านอาหาร Gujarat Thali ที่ดีที่สุดในประเทศครับ
อาหารจะเสริฟบนถาดทองเหลืองซึ่งดีต่อสุขภาพ อาหารทุกชนิดที่รวมอยู่จะมีสารอาหารครบทุกชนิดและเป็นยารวมทั้งช่วยปรับสมดุลย์ในร่างกายอีกด้วย
จากคุชราตก้นั่งรถบัสไปต่อที่ Udaipur ครับ
ตามกระทู้นี้เลย
http://ppantip.com/topic/34710131
จบแล้วครับสำหรับกระทู้แรก สั้นๆห้วนๆไปหน่อย ยังเขียนไม่เก่ง ไว้มาแบ่งปันอีก
Gujarat, Unseen of Western India
รีวิวท่องเที่ยวรัฐคุชราต อินเดีย
ได้ไปเที่ยวอินเดียฝั่งตะวันตกมาเมื่อปีใหม่นี้ครับ 9 คืน ได้ไปเที่ยวใน Gujarat มา 2 คืน เห็นว่ายังมีคนไทยไปไม่เยอะ (แต่ฝรั่งญี่ปุ่นเยอะนะ) เลยมาแบ่งปัน
เป็นคนชอบท่องเที่ยวทั่วโลกมานานแล้ว แต่เป็นการตั้งกระทู้ Pantip ครั้งแรกเลย Debut
ที่อยากมาที่นี่เพราะ เห็นรูปโบราณสถานใต้ดินแบบรูปด้านบนนี่ล่ะครับ น่าสนใจเลยแวะมา สองวันที่นี่เลยเน้นเที่ยวแถวเมือง Ahmedabad
เมืองนี้มาง่ายมากครับ จากมุมไบมี Flight มาลงวันละเป็นสิบ Flight ราคาก็ไม่แพง ไปกลับไม่เกินสามพัน ผมนั่ง Indigo เที่ยวเดียวไป พันกว่าบาท แต่ถ้าของ Spicejet ถูกกว่านี้อีก แค่ 900 ส่วนรถไฟรถบัสก็ผ่านเยอะมาก เพราะเป็นเมืองศูนย์กลางของ Gujarat ซึ่งรัฐนี้เป็นรัฐที่รวยที่สุดในอินเดียก็ว่าได้ครับ เป็นรัฐแห่งการค้าขายเลย ตลาดสิ่งทอและยาใหญ่ที่สุดอยู่ที่รัฐนี้
Ahmadabad
เมืองอาเมห์ดาบัดถึงแม้จะเป็นเมืองศูนย์กลางการค้า โดยเฉพาะสิ่งทอและยา
แต่ศิลปะวัฒนธรรมและโบราณสถานยังถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีและผสมผสานกับชีวิตประจำวันได้ลงตัว
แต่มาอินเดียต้องทำใจ ใครไม่เหยียบขี้ช้างวัวแพะ เป็นไปไม่ได้แน่นอน ทริปนี้ผมโดนไปสามรอบ
สัญลักษณ์ของเมือง Ahmadabad คือ ช่องหน้าต่าง "The Tree of Life" ตามรูปนี่เลยครับ
ช่องแสงที่ถูกแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงงดงามจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไปเลย
ช่องแสงแห่งนี้อยู่ที่ Sidi Sayed Masyid ใจกลางเมือง ตรงข้ามโรงแรมที่พักเลย
เดินเล่นในเมืองชมย่านการการค้าและสถาปัตยกรรม ที่โดดเด่นคือ Jama Masyid ซึ่งมีเสาถึงเกือบสามร้อยต้น
ด้านในมัสยิดสงบมากเหมือนอยู่อีกโลกนึง ต่างจากย่านการค้าที่วุ่นวายรอบๆ เข้ามานั่งพักสบายๆบนพื้นหินอ่อนของที่นี่
อย่างที่ว่าล่ะครับ ทริปนี้ต้องการมาลุยใต้ดิน ใน Gujarat นี้มีโบราณสถานใต้ดินอยู่มากมาย
เป็นอาคารที่ขุดลงไปจนเจอน้ำใต้ดิน ไม่ได้แค่เอาเท่ห์ๆนะครับ แต่มี Function ใช้งาน
แถว Gujarat นี้ ร้อนและแล้งมาก เมื่อขุดลงไปใต้ดินแล้วอากาศจะเย็นและมีน้ำใต้ดินให้ใช้อีกด้วย แก้ปัญหาได้หมดเลยทั้งสองอย่าง
ภูมิปัญญาชาวบ้านสมัยโบราณนี่เท่ห์จริงๆ
วันนี้นั่ง Taxi มาชม Vav อันเล็กก่อน ชื่อ Adalaj Ki Vav อยู่ที่เมือง Adalaj ชานเมือง Ahmadabad นี้เอง
ข้างล่างเย็นเหมือนติดแอร์ หน้าร้อนคนก็ลงมานั่งพักผ่อนกันสบายๆนี่หละ
สิ่งที่ Surprise เกินความคาดหมายในทริปนี้คือวัด Sun Temple ที่เมือง Modhera ครับ
พอวันที่สอง Day Trip จ้าง Taxi ไปชม Vav ที่ใหญ่ที่สุด ที่เมือง Patan และรวมทริปกับวัดนี้ที่ Modhera ด้วยเป็นทางผ่าน
พอไปชมจริงมันไม่ใช่แค่ทางผ่าน แต่มันงดงามมากครับ ทั้ง Proporton รูปทรง และ Detail รายละเอียด การแกะสลัก ถักทออย่างลงตัว
ยิ่งเมื่อรับกับแสงแดดตอนเช้า เหลืองทองอร่ามสวยงามจริงๆ
วัดนี้เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ มีอายุประมาณพันปี
ที่เที่ยวในรัฐคุชราตนี้มันจะกระจายๆ เหมา Taxi เที่ยวดีที่สุดครับ นั่งรถบัสที่นี่มันต้องไปต่อเข้าไม่ค่อยถึง
แต่ถ้านั่งระหว่างเมือง รถบัสรถหรือรถไฟโอเคเลยครับ
ลืมรีวิวโรงแรมไป เลยมาคั่นก่อน ผมนอนที่ House of MG ครับ เป็นโรงแรม Heritage ดัดแปลงจากอาคารเก่ากลางเมือง Ahmadabad
ซึ่งเป็นบ้านเจ้าเมืองเก่า ราคาก็แพงพอสมควร (แพงสุดในทริปนี้) แต่ที่เลือกเพราะว่าทำเลเลยครับ
ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมือง อยู่ในโรงแรมนี้เลย ผมเลยพักที่นี่ จะได้กินที่นี่สบายๆ
รูปพวกนี้เป็นรูปจากร้าน Green Olive ชั้นล่างของโรงแรมนี้เอง เป็นหาร Gujarati หรือ Local Food ของ Gujarat นี่เองครับ แต่มาในรูปแบบ Snacks ร้านนี้บรรยากาศดีด้วย นั่งสบายๆ
อร่อยและกินง่ายครับ กินสามมื้อที่ร้านนี้ สั่งไปหลายเมนูเลย แต่ลงรูปแค่นี้ก่อน
ผมเที่ยวมาทั่วโลกแต่ไม่ยักกะเคยมาอินเดียเพราะกลัวท้องเสียที่สุด แต่ทริปนี้กลับรอดไม่เสียแม้แต่ครั้งเดียว
สิ่งที่แย่ที่สุดที่เจอคือการขับรถและการจราจรต่างห่างหาก โดนรถเฉี่ยวไปหลายครั้งมาก
Highlight ของทริปนี้ "Rani Ki Vav" สถานที่ที่ทำให้หัวใจผมมันเรียกร้องให้ขาก้าวเดินมาอินเดีย
ด้วยขนาดของมัน ใหญ่โตจนเรียกได้ว่า นครใต้ดิน ไม่ใช่แค่ โบราณสถานใต้ดิน ทั้งงดงามและอลังการมาก
ที่นี่อยู่ที่เมือง Patan รถจาก Ahmedabad 2ชั่วโมงครึ่ง ทำเป็น One Day Trip ได้ บวกกับ Sun Temple Modhera ที่กล่าวไปแล้ว
Rani Ki Vav เป็นซากอารยธรรมอันรุ่งเรืองของราชวงศ์ Solanki แห่งอารยธรรม Indus Valley เมื่อพันปีที่แล้ว ที่ยังหลงเหลืออยู่ถึงปัจจุบัน
ที่นี่คุ้มค่ากับการมาจริงๆ ไม่เหมือนที่ใดในโลก ผมนั่งพักอยู่ข้างล่างในนครใต้ดินนี้นานมาก เพราะมันเย็นสบายเหมือนเดินตากแอร์ในห้างเลย
แต่สิ่งที่ผมชอบที่สุดใน Gujarat ไม่ใช่แค่ ที่แห่งนี้ครับ แต่มีอีกอย่างหนึ่ง มันคือ
สิ่งหนึ่งที่ชอบที่สุดในทริปอินเดียครั้งแรกนี้คืออาหาร "Gujarati Thali" รู้สึกโชคดีมากๆที่ได้รู้จักอาหารชนิดนี้
ปกติผมเป็นคนกินอาหารและรู้จักอาหารได้หลากหลายจากการท่องเที่ยวและกิน Local Food ไปทั่วโลก และจะมีเมนูโปรดเพิ่มมาทุกๆทริป
สำหรับทริปนี้ดีใจที่ค้นพบอีกหนึ่งเมนูโปรด เดี๋ยวกลับไทยจะไปหาชิม
อาหารท้องถิ่น Gujarat ชนิดนี้เป็นอาหารมังวิรัติที่อร่อยมาก ปกติผมชอบกินแต่เนื้อสัตว์ พอมาอินเดียได้กินมังสวิรัติหลายมื้อกลับสบายท้อง ขับถ่ายดีมาก
แต่สองรูปบนถ่ายมาร้าน Bhoj ที่กินใน Aurangabad รัฐมหาราชครับ รสชาติดีมาก แต่หน้าตาเฉยๆ
รูปล่างถ่ายมาจากร้าน "Agashiye" ร้านอาหารบนดาดฟ้าของโรงแรม House of MG ที่ผมพักครับ ร้านนี้อร่อยและ Present สวยด้วย
เป็นร้านที่ต้องจอง ถือว่าเป็นหนึ่งในร้านอาหาร Gujarat Thali ที่ดีที่สุดในประเทศครับ
อาหารจะเสริฟบนถาดทองเหลืองซึ่งดีต่อสุขภาพ อาหารทุกชนิดที่รวมอยู่จะมีสารอาหารครบทุกชนิดและเป็นยารวมทั้งช่วยปรับสมดุลย์ในร่างกายอีกด้วย
จากคุชราตก้นั่งรถบัสไปต่อที่ Udaipur ครับ
ตามกระทู้นี้เลย http://ppantip.com/topic/34710131
จบแล้วครับสำหรับกระทู้แรก สั้นๆห้วนๆไปหน่อย ยังเขียนไม่เก่ง ไว้มาแบ่งปันอีก