เฮ้อออ !!! นอนไม่หลับ รึว่าใครนอนหลับ ?

@ นอนไม่หลับ  15 ม.ค. ดีเดย์ยิ่งลักษณ์เริ่มขึ้นเขียงจำนำข้าว !!!

ตามกำหนดการนัดหมายกันมาล่วงหน้านานหลายเดือนว่า เวลา 9.30 น.วันที่ 15 มกราคม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนพยานนัดแรกในคดีที่อัยการสูงสุดฟ้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในความผิดจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งในที่ทางคดีแล้ว ยิ่งลักษณ์ ต้องเดินทางมาศาลเพื่อรับฟังการไต่สวนพยานด้วย
       
       แม้ว่าหากพิจารณากันตามขั้นตอนแล้ว การไต่สวนพยานนัดแรกในศาลถือว่าเป็นเพียงการเริ่มต้นของคดีเท่านั้น แต่ในภาพรวมๆแล้วถือว่านี่คือการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ หากจะทำให้ใจระทึกแล้วก็สามารถพูดแบบนั้นได้จริงๆ
       
       ที่ผ่านมามีการคาดเดากันไปต่างๆนานาว่าในวันที่ 15 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่นัดไต่สวนพยานนัดแรก เธอจะเดินทางศาลฎีกาฯหรือเปล่า จะหาทางหลบหนีหรือไม่ เพราะมีความพยายามขออนุญาตจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเดินทางไปต่างประเทศอย่างน้อยเท่าที่จำได้ก็มีอยู่ถึงสองครั้ง แต่ไม่ได้รับอนุญาต แต่ขณะเดียวกันในความเป็นจริงเวลานี้นอกเหนือจากด้วยเหตุผลทางการในเรื่องการเคลื่อนไหวด้านมวลชนแล้ว เธอ ยังถูกจับตาถูกประกบทุกฝีเก้า โดยเฉพาะเวลาเดินทางไปตามชายแดน ซึ่งหากพูดกันแบบตรงไปตรงมากันก็คือเกรงว่าจะหนีออกไปตามช่องทางดังกล่าว
       
       แน่นอนว่าการระแวงแบบนั้นมันก็ย่อมเกิดขึ้นได้ เพราะหากย้อนกลับไปดูพี่ชายของเธอ คือ ทักษิณ ชินวัตร ก็หลบหนีคดีมาจนถึงทุกวันนี้ ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากความผิด ความเสียหายรวมทั้งหลักฐานพยานแวดล้อมต่างๆมันก็มีความเป็นไปได้ไม่น้อยเสียด้วย
       
       ขณะเดียวกันเมื่อพูดถึงรูปคดีแล้วก็มีความคืบหน้าเชื่อมโยงกันไปอีกขั้น นั่นคือเมื่อวันที่ 13 มกราคม ทางอัยการสูงสุดได้มีการแถลงสั่งฟ้องในคดีทุจริตการทำสัญญาขายข้าวแบบจีทูจีปลอมเพิ่มเติมอีก 7 ราย ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยทั้งหมดเป็นภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่นเป็นเจ้าของโรงสี บริษัทค้าข้าวส่งออก โดยการสั่งฟ้องครั้งนี้ได้มีการขออนุญาตต่อศาลให้รวมกับคดีของ บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ภูมิ สาระพล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กับพวกที่ถูกสั่งฟ้องและศาลฎีกาฯได้รับฟ้องไปแล้วก่อนหน้านี้ในคดีเดียวกัน
       
       ทั้งนี้ นายชุติชัย สาขากร รองอัยการสูงสุด (อสส.) พร้อมนายกิตินันท์ ธัชประมุข รองอธิบดีสำนักงานการสอบสวน และคณะคดีจำนำข้าวและระบายข้าว ร่วมแถลงข่าว หลังได้ยื่นฟ้องเอกชน 7 ราย เป็นจำเลยที่ 1-7 ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีหมายเลขดำ อม.1/2559 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำการสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 83, 86 และ 91 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4 และมาตรา 123/1 ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งศาลฎีกานัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 น.
       
       โดยการฟ้องครั้งนี้ ผู้แทน อสส.ได้นำคำฟ้อง และสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) รวมถึงหลักฐานต่างๆ 300 กล่อง เอกสาร 2,280 แฟ้ม ความหนา 85,990 แผ่น ยื่นฟ้องเอกชน 7 ราย ได้แก่ 1.ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีกิจทวียโสธร โดยนายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการ 2.นายทวี อาจสมรรถ 3.บริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด โดยนายทวี อาจสมรรถ กรรมการ 4.บริษัท เค.เอ็ม.ซี. อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด โดยนายปกรณ์ ลีศิริกุล กรรมการ 5.นายปกรณ์ ลีศิริกุล 6.บริษัท เจียเม้ง จำกัด โดยนางประพิศ มานะธัญญา กรรมการ และ 7.นางประพิศ มานะธัญญา
       
        "คดีที่ฟ้องเอกชน 7 รายวันนี้ มีข้อเท็จจริงเกี่ยวพันกัน และมีพยานหลักฐานชุดเดียวกันกับคดีอาญาหมายเลขดำ อม.25/2558 ที่ยื่นฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับพวก ดังนั้นอัยการจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอร่วมพิจารณาด้วยแล้ว แต่ต้องรอฟังคำสั่งว่าจะอนุญาตหรือไม่"
       
       สำหรับการยื่นฟ้องเอกชนเพิ่ม 7 ราย เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำผิดต่อเนื่องจากนโยบายการจำนำข้าวที่ อสส.ได้ยื่นฟ้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และยื่นฟ้องนายบุญทรงกับพวกทุจริตการระบายข้าว โดยเอกชนทั้ง 7 รายรับข้าวมาตามสัญญา และจ่ายแคชเชียร์เช็ค แต่กลับไม่มีการส่งข้าวไปยังต่างประเทศ โดยข้าวกลับหมุนเวียนอยู่ในประเทศ ซึ่งอัยการพร้อมแสดงหลักฐานให้ผู้พิพากษาและสังคมทราบว่า มีความเสียหายเกิดขึ้นอย่างไร ที่มีการทุจริตในสัญญา 4 ฉบับ ซึ่งพยานในคดีนี้บางส่วนเป็นพยานชุดเดียวกันกับคดีที่ฟ้อง ยิ่งลักษณ์
       
       อย่างไรก็ดีในคดีเดียวกันนี้ยังมีนิติบุคคลของจีนและชาวจีนอีก 7 รายที่ร่วมกันกระทำความผิด เนื่องจากอยู่ต่างประเทศ ยังไม่อาจติดตามตัวมาได้ แต่ในทางคดีถือว่ายังมีอายุความนานถึง 20 ปี แต่ก็ไม่กระทบต่อการดำเนินคดีที่ได้ยื่นฟ้องนายบุญทรง กับพวกแต่อย่างใด
       
       ดังนั้นเมื่อพิจารณาอีกมุมหนึ่ง เมื่อเริ่มกระบวนการไต่สวนพยานนัดแรกในคดีรับจำนำข้าว ที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลยก็ต้องบอกว่าเริ่มมีความเครียดหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะทั้งความเสียหายและพยานหลักฐานต่างๆมันค่อนข้างเห็นชัดเจน อีกทั้งขั้นตอนการพิจารณาคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมันกระชั้นรวดเร็วคดีอาญาทั่วไป งานนี้ถึงได้บอกว่ามาถึงขั้นนี้ไม่ว่าใครก็ต้องเครียดและนอนไม่หลับผวากว่าเดิม !! 
_____________

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000004867
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 22
ถ้ามองด้วยใจเป็นธรรม จะรู้ว่าคดีนี้มีการจงใจเล่นงานกันโดยตรง

เพราะนายกฯปูทำตามที่ประกาศไว้ในสภา และจนบัดนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานว่ายิ่งลักษณ์มีการกินค่าหัวคิวเหมือนที่หัวหิน

การจะอ้างเรื่องขาดทุนมาเป็นประเด็น ก็จะขัดกับความเป็นจริง. เพราะจนบัดนี้ก็ยังไม่มีนโยบาย"อุดหนุน"ของรัฐบาลใดในโลกนี้ที่ทำแล้วมีกำไร มีแต่ขาดทุนมากกับขาดทุนน้อยเท่านั้น แต่ผลประโยชน์ทางอ้อมในการกระตุ้นเศรษฐกิจมันเกิดขึ้นตามเป้าหมายได้คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไปหรือไม่เท่านั้น

ถ้าจะเล่นเรื่อง G2G. ก็เป็นเรื่องของรัฐมนตรีพาณิชย์ ที่ยังสรุปไม่ได้ว่าผิดจริงหรือไม่อยู่ดี

ดังนั้น คดีของนายกฯปูในวันนี้ จึงเกิดขึ้นเพราะมีเบื้องหลังทางการเมืองที่บ้านเรามีความคลุมเครืออยู่เสมอ

บางพรรคการเมือง ทั้งให้เงินพรรคเล็ก ทั้งหนีทหาร ทั้งล้มการเลือกตั้ง ทั้งสั่งฆ่าประชาชน. มีหลักฐานว่าทำเลวสารพัด แต่ก็ได้รับการผ่อนผัน ดึงเวลา หลักฐานหาย. หมดอายุคงามตลอด

แต่บางพรรค แม้จะทำดีแค่ไหน ถูกใจประชาชนเพียงไร ก็จะหาเรื่องล้มให้ได้ จึงทำให้ประชาชนเริ่มเบื่อหน่ายกับการเมือง เพราะความยุติธรรมมันเอนเอียงนี่แหละ

ถึงวันนี้ แม้สุดท้ายนายกฯปูจะถูกเชือด แต่ก็ไม่มีทางที่จะทำให้สายตาประชาชนมองว่าท่านเป็นคนเลวได้ ยังมีคนอีกมากมายยังพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ดูได้จากการเดินทางไปทั่วทุกสารทิศ

ผิดกับพวกที่จ้องเล่นงานนี่สิ ไปไหนแต่ละทีต้องระวังว่าจะมีคนปองร้าย จึงไม่กล้าเข้าหาประชาชนต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆซ่อนๆ

ชีวิตคนต้องดูกันยาวๆ คนที่ทำชั่วแม้จะรอดเพราะผู้มีอำนาจช่วยเหลือ แต่ชีวิตไม่มีวันอยู่เป็นสุขได้หรอก

การเมืองคือหนังชีวิตที่ต้องดูกันยาวๆนะฮ้า
ความคิดเห็นที่ 3
ราตรียังอีกยาวไกล กว่าจะตัดสินได้ก็เดือนธันวาโน่น

อย่าปริ่มเปรมกับขบวนการป้ายสีของฝั่งตนเองนัก
ที่คิดว่าสามารถสร้างความโสโครกให้คนอื่นได้ ตามความคิดอันต่ำต้อยน้อยค่า

ปัจจุบันโลกนี้มันเชื่อมต่อกันได้แทบทุกหนแห่ง
ทุกอย่างสามารถรู้เห็นได้พร้อมๆกันทุกมุมโลก

ไม่เห็นหรือ
Anonymous เจาะเวปใคร  ด้วยเหตุผลอะไร รู้สึกบ้างไหม ??
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่