หลังจากไปลองร้านที่ได้มิชลิน หลายๆร้าน ทั้งในยุโรปและอเมริกามาแล้ว เลยอยากลองในเอเชียดูบ้าง ปลายปีที่แล้ว ได้ไปฮ่องกงพอดี เลยตัดสินใจไปลองสองร้านนี้ Caprice และ 8 1/2 Otto e Mezzo Bombana
Caprice
Caprice restaurant ร้านอาหารฝรั่งเศสมิชลิน 2 ดาว บนชั้น 6 ของโรงแรม Four Seasons ที่ตั้งอยู่ริม Victoria Harbour ซึ่งเป็นทำเลที่ให้คุณสามารถดื่มด่ำกับวิวสวยๆของฝั่งเกาลูนและอ่าวได้เป็นอย่างดี การตกแต่งภายในเน้นความหรูหราด้วยสีขาว น้ำตาล ทอง ประดับด้วยแชนเดอเลียร์คริสตัลทั้งห้อง
เมนูที่ไปลอง เป็น lunch set ซึ่งคุ้มค่ามากกับอาหาร 3 คอร์สแถมไวน์หนึ่งแก้วพร้อมวิวสวยๆ บริการดีๆ ในราคา 590+ HKD ต่อคน อาหารที่นี่อร่อยทุกจาน แถมการจัดวางอาหารมีความประณีตมาก สำหรับขนมของที่นี่รสชาติใช้ได้แต่กลับไม่ได้โดดเด่นมากเท่ากับเมนูอาหารคาว
ส่วนตัวแล้ว ถ้าเทียบกับร้าน Pierre ที่เป็นร้านฝรั่งเศสในฮ่องกงและได้มิชลิน 2 ดาวเหมือนกันแล้ว ร้าน Caprice เมนูอาหารคาวโดนเด่นกว่า ในขณะที่ร้าน Pierre ทำเมนูของหวานได้ดีกว่า
บรรยากาศร้าน - 4.5/5
บริการ - 4.5/5
หน้าตาอาหาร - 4.5/5
รสชาติอาหาร - 4.5/5
ที่ตั้ง : โรงแรม Four Seasons, ฮ่องกง
website :
http://www.fourseasons.com/hong…/dining/restaurants/caprice/
สถานีรถไฟ: Hong Kong
ราคาโดยประมาณ : 590+ HKD หรือราวๆ 3,000 บาท ต่อคน
Amuse Bouche หรืออาหารจานเรียกน้ำย่อย ที่ทางร้านระดับนี้จะให้เป็น complimentary กับลูกค้า ระหว่างรออาหารที่สั่ง ร้านนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทำออกมาได้รสชาติกลมกล่อมมาก
ไวน์ที่มาพร้อมกับ Set lunch สามารถเลือกได้ระหว่างไวน์ขาวหรือไวน์แดง
ขนมปังผสมเกาลัด อบมาอุ่นๆ กรอบนอกนุ่มใน กินกับเนยรสจืดหรือเนยเค็ม แค่ขนมปังก็อร่อยละ ตอนนี้เลยคาดหวังกับอาหารจานหลักไว้สูงเหมือนกัน
Appetizer เป็น Milk-fed veal with tuna cream and capers at Caprice restaurant. จานแรกก็ไม่ทำให้ผิดหวังละ เนื้อลูกวัวทำออกมาได้นุ่มมาก ครีมทูน่าที่ใส่มาก็เข้ากันได้ดี ไม่ได้รู้สึกเลี่ยนเลย
Appetizer อีกจานเป็น Mediterranean Sea Beam Tartare, cucumber, lemon confit จานนี้ก็อร่อยไม่แพ้ลูกวัว เนื้อปลาดิบสดหวาน เสริมด้วยรสเปรี้ยวของมะนาว
จานหลัก Drome guinea fowl fricassee , wild mushroom, pancetta, cocotte potatoes เป็นสัตว์ปีกตระกูลไก่ เชฟทำจานนี้ได้ดี หนังกรอบ เนื้อนุ่มชุ่ม อร่อย กินกับเบคอน ถั่วและเห็ด ให้รสชาติเค็มๆมันๆ เครื่องเคียงที่เป็นมันฝรั่ง ก็อร่อยมาก หนึบๆนิดๆ
จานหลักอีกจาน Sweet and spicy loin of australian lamb, boulgour semolina couscous เนื้อแกทำออกมาได้นุ่มมากเช่นกัน แต่ไม่ได้ sweet spicy เหมือนแบบอาหารเอเชีย รสจะออกแนวนวลๆ มากกว่า ส่วนตัวชอบ Guinea Fowl มากกว่า
ขนมหวานจานแรกเป็น Crispy coffee pastry, tiramisu mousse, coffee cream, and mascarpone เป็นส่วนผสมที่ลงตัวดี แต่อย่างที่บอกไว้ของหวานไม่ได้โดดเด่น คืออร่อยแต่มันไม่ว้าว เหมือนอาหารคาว
ของหวานจานที่สองเป็น Exotic fruit pavlova, pineapple compote, coconut, banana and passion fruit sorbet อร่อย สดชื่นมาก เปรี้ยวหวานลงตัว เย็นชื่นใจ จานนี้ทำได้ดีกว่าจานแรก
Petit four มี blackcurrant macaron, chocolate และ caramel choux cream ทำออกมาได้หน้าตาดี แต่ยังเฉยๆกับรสชาติ
การตกแต่งภายในร้าน ถ้าจะมา ควรโทรจองล่วงหน้านานหน่อย และให้ขอโต๊ะริมหน้าต่างจะได้วิวดีๆ
วิวสวยๆจากร้านอาหาร มองออกไปเป็นฝั่งเกาลูน
ครัวแบบเปิดให้เราชมการทำอาหารของเชฟได้
[CR] [กินแหลก -หรู] ร้านอาหารฝรั่งเศสมิชลิน 2 ดาว และ ร้านอาหารอิตาเลียนมิชลิน 3 ดาว ในฮ่องกง
Caprice
Caprice restaurant ร้านอาหารฝรั่งเศสมิชลิน 2 ดาว บนชั้น 6 ของโรงแรม Four Seasons ที่ตั้งอยู่ริม Victoria Harbour ซึ่งเป็นทำเลที่ให้คุณสามารถดื่มด่ำกับวิวสวยๆของฝั่งเกาลูนและอ่าวได้เป็นอย่างดี การตกแต่งภายในเน้นความหรูหราด้วยสีขาว น้ำตาล ทอง ประดับด้วยแชนเดอเลียร์คริสตัลทั้งห้อง
เมนูที่ไปลอง เป็น lunch set ซึ่งคุ้มค่ามากกับอาหาร 3 คอร์สแถมไวน์หนึ่งแก้วพร้อมวิวสวยๆ บริการดีๆ ในราคา 590+ HKD ต่อคน อาหารที่นี่อร่อยทุกจาน แถมการจัดวางอาหารมีความประณีตมาก สำหรับขนมของที่นี่รสชาติใช้ได้แต่กลับไม่ได้โดดเด่นมากเท่ากับเมนูอาหารคาว
ส่วนตัวแล้ว ถ้าเทียบกับร้าน Pierre ที่เป็นร้านฝรั่งเศสในฮ่องกงและได้มิชลิน 2 ดาวเหมือนกันแล้ว ร้าน Caprice เมนูอาหารคาวโดนเด่นกว่า ในขณะที่ร้าน Pierre ทำเมนูของหวานได้ดีกว่า
บรรยากาศร้าน - 4.5/5
บริการ - 4.5/5
หน้าตาอาหาร - 4.5/5
รสชาติอาหาร - 4.5/5
ที่ตั้ง : โรงแรม Four Seasons, ฮ่องกง
website : http://www.fourseasons.com/hong…/dining/restaurants/caprice/
สถานีรถไฟ: Hong Kong
ราคาโดยประมาณ : 590+ HKD หรือราวๆ 3,000 บาท ต่อคน
Amuse Bouche หรืออาหารจานเรียกน้ำย่อย ที่ทางร้านระดับนี้จะให้เป็น complimentary กับลูกค้า ระหว่างรออาหารที่สั่ง ร้านนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทำออกมาได้รสชาติกลมกล่อมมาก
ไวน์ที่มาพร้อมกับ Set lunch สามารถเลือกได้ระหว่างไวน์ขาวหรือไวน์แดง
ขนมปังผสมเกาลัด อบมาอุ่นๆ กรอบนอกนุ่มใน กินกับเนยรสจืดหรือเนยเค็ม แค่ขนมปังก็อร่อยละ ตอนนี้เลยคาดหวังกับอาหารจานหลักไว้สูงเหมือนกัน
Appetizer เป็น Milk-fed veal with tuna cream and capers at Caprice restaurant. จานแรกก็ไม่ทำให้ผิดหวังละ เนื้อลูกวัวทำออกมาได้นุ่มมาก ครีมทูน่าที่ใส่มาก็เข้ากันได้ดี ไม่ได้รู้สึกเลี่ยนเลย
Appetizer อีกจานเป็น Mediterranean Sea Beam Tartare, cucumber, lemon confit จานนี้ก็อร่อยไม่แพ้ลูกวัว เนื้อปลาดิบสดหวาน เสริมด้วยรสเปรี้ยวของมะนาว
จานหลัก Drome guinea fowl fricassee , wild mushroom, pancetta, cocotte potatoes เป็นสัตว์ปีกตระกูลไก่ เชฟทำจานนี้ได้ดี หนังกรอบ เนื้อนุ่มชุ่ม อร่อย กินกับเบคอน ถั่วและเห็ด ให้รสชาติเค็มๆมันๆ เครื่องเคียงที่เป็นมันฝรั่ง ก็อร่อยมาก หนึบๆนิดๆ
จานหลักอีกจาน Sweet and spicy loin of australian lamb, boulgour semolina couscous เนื้อแกทำออกมาได้นุ่มมากเช่นกัน แต่ไม่ได้ sweet spicy เหมือนแบบอาหารเอเชีย รสจะออกแนวนวลๆ มากกว่า ส่วนตัวชอบ Guinea Fowl มากกว่า
ขนมหวานจานแรกเป็น Crispy coffee pastry, tiramisu mousse, coffee cream, and mascarpone เป็นส่วนผสมที่ลงตัวดี แต่อย่างที่บอกไว้ของหวานไม่ได้โดดเด่น คืออร่อยแต่มันไม่ว้าว เหมือนอาหารคาว
ของหวานจานที่สองเป็น Exotic fruit pavlova, pineapple compote, coconut, banana and passion fruit sorbet อร่อย สดชื่นมาก เปรี้ยวหวานลงตัว เย็นชื่นใจ จานนี้ทำได้ดีกว่าจานแรก
Petit four มี blackcurrant macaron, chocolate และ caramel choux cream ทำออกมาได้หน้าตาดี แต่ยังเฉยๆกับรสชาติ
การตกแต่งภายในร้าน ถ้าจะมา ควรโทรจองล่วงหน้านานหน่อย และให้ขอโต๊ะริมหน้าต่างจะได้วิวดีๆ
วิวสวยๆจากร้านอาหาร มองออกไปเป็นฝั่งเกาลูน
ครัวแบบเปิดให้เราชมการทำอาหารของเชฟได้