Emirates Cabin Crew:: ประสบการณ์วอล์คอินกับEmirates

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ

กระทู้นี้ สำหรับเพื่อนๆทุกคนที่สนใจการสมัครแอร์กับ Emirates นะคะ
เห็นรีวิวหลายกระทู้แล้วดีๆทั้งนั้นเลย เราจึงอยากแบ่งปันประสบการณ์ของเรา
หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆที่กำลังจะไปสมัครทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศค่ะ
ปล.ขอโทษด้วยนะคะถ้าจะมีภาษาอังกฤษไปบ้างพยายามพูดภาษาไทยให้มากที่สุด

เห็นว่า Emirates มี Open Day ที่ไทย 9มค. ขอให้โชคดีนะคะทุกคน

เริ่มกันเลยค่ะ
เราไปวอล์คอินที่ Prague (ด้วยเหตุผลที่ว่าเราอาศัยอยู่ใกล้ปราก)
25 ตุลาคม 2015 วัดเกิด EK พอดีเลยค่ะ

การแต่งกาย
ชายและหญิง: สุภาพ หรือ Business Attire
เราใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม ไม่มีสูท กระโปรงคลุมเข่าสีดำ รองเท้าคัทชูสีดำ ถุงน่อง นาฬิกาข้อมือ ต่างหูมุก
แต่งหน้าโทนสีส้ม ปากส้มอ่อน (ปกติเราไม่ค่อยแต่งหน้าเข้ม เลยคิดว่าเอาที่ตัวเองมั่นใจและสบายใจไปก่อน)
ผม เราไม่ได้เกล้าผม ไม่ได้โดนัทอะไรทั้งนั้น มัดรวบตึง แล้วปล่อยหน้าม้าลงมา
(ด้วยเหตุผลเดิมค่ะ...เรามั่นใจแบบนี้เราคิดว่าเออ ชั้นสวยอ่ะแบบนี้ มันทำให้เรามั่นใจมากขึ้น)

ความเห็นเรา: การแต่ง Business Attire จะทำให้เราดู Professional มากกว่าคนอื่น ในขณะเดียวกันก็กลมกลืนไปกับผู้สมัครคนอื่น
ดังนั้นเลยเลือกแต่งแบบไม่เหมือนไปหมด ใส่ความเป็นตัวเองบ้าง เราบอกตัวเองว่า วันนี้เราอยากให้กรรมการเห็นความเป็นเรา
แล้วถ้าเค้าชอบเรา ให้โอกาสเรา วันสัมภาษณ์ค่อยปากแดงไปละกัน

บรรยากาศ และ ผู้สมัคร
ผู้สมัครประมาณ 200 คน ส่วนมากเป็น Eastern europeans หน้าจะสวยๆเชิ่ดๆ คนเอเชียประมาณ10-15คน
เอเชียส่วนมากเป็นผู้หญิงชาวเกาหลี เค้าบอกว่ามา Walk in ที่ยุโรปแบบเป็นคณะทัวร์เลยค่ะ ทัวร์เดินสายวอล์คอิน EK

ผู้หญิงส่วนมากแต่งตัวแนวเดียวกันคือ เชิ้ทขาว สูทดำ กระโปรงดำ คัทชู บัน ปากแดง มีบางคนปล่อยผมมา ใส่เดรสบ้าง บูทบ้าง..
ผู้ชายส่วนมากเป็นสูท ไทด์ มีผช.คนนึงหน้าตาดีมากกกกจาก south africa ใส่เชิ้ทตัดอ้อย/ กางเกงยีนส์โหลด รองเท้า nike ไม่ใส่ถุงเท้า (ฮีผ่านไป final interviewด้วยค่ะ)….

รอบ OD
ขั้นตอนการสมัครเหมือนเดิมทุกอย่าง: ดูวิดิโอ-ยื่นCV-ประกาศผล
ตอนดูวิดิโอ: เราไม่ได้ถามอะไรเลยค่ะ
ตอนยื่นCV: เราต่อแถวได้หมายเลข 21
                กรรมการถามว่าทำไมถึงมาสมัครที่นี่ จะมีopen day ที่มิวนิคเดือนหน้า
                เราก็ตอบไปตามตรงค่ะว่า ใกล้บ้าน ขับรถ3ชั่วโมง ห้องที่โรงแรมราคาถูกกว่าที่มิวนิค เลยเลือกมาที่ปราก
                กรรมการหัวเราะค่ะ แล้วก็บอกโอเค

ประกาศผล: เราผ่านค่ะ
รอบนี้เราคิดว่าสิ่งสำคัญคือ.... CV(ประสบการณ์ทำงานหรือติดต่อกับคนอินเตอร์เยอะๆ)eye contactสำคัญมาก, performance, , grooming, และการพูด
ไม่น่าจะท่องสคริปเยอะๆนะคะ ตอบแบบที่เราถามตอบกับคนปกติดีที่สุดนะในความเห็นเรา
(สำหรับเราการเข้าไปในห้องนั้นและคุยกับกรรมการ เราจินตนาการว่าตัวเราเองเป็นแอร์และกำลังwelcomeผู้โดยสารขึ้นเครื่องอยู่)


รอบAD มีคนผ่านประมาณ60คนค่ะ
Group Discussion 1
นั่งล้อมวงกลมกันกลุ่มใหญ่ แบ่งกลุ่มละ3คนกับเพื่อนที่นั่งข้างๆ มีการ์ดให้เป็น อาชีพ เช่น DJ, florist, farmer, programmer ฯลฯ
ให้คุยกันในกลุ่มเกี่ยวกับ 3 skills ที่อาชีพนี้ควรมี และพรีเซนท์กับทุกคน...หลังจากนั้นก็แจกการ์ด เป็นอุปกรณ์เสริมเช่น แก้วน้ำ, ปลาดาว, รองเท้าส้นสูง ฯลฯ กรรมบอกว่าให้ think out of the boxค่ะ ใส่ creative ideas ลงไป...ต้องการ 3 ไอเดียอีกครั้ง ซึ่งก็แบ่งๆกันค่ะ อะไรก็ได้ …

กลุ่มที่เราทำงานด้วย จะเลือกไอเดียของใครของมันแล้วพรีเซนท์ค่ะ ถ้าคิดไม่ออกก็ช่วยกันคิด
เช่น กลุ่มเราได้ DJ เราบอกว่าดีเจต้องมี communication skill เพราะ ต้องEntertainผู้ฟังได้และในขณะเดียวกันก็ต้องสอดแทรกInformationเข้าไปด้วย
หลังจากนั้นได้ รองเท้าส้นสูง เราบอกว่า ดีเจสามารถติดต่อRihannaให้เซ็นชื่อลงบนรองเท้าส้นสูงและให้ผู้ฟังเล่นเกมส์ทางวิทยุเพื่อชิงของรางวัลค่ะ

ระหว่างนี้:
กรรมการจะเรียกให้ไปเอื้อมแตะ 212cm กรรมการบอกเราว่าให้เอื้อมให้สุด ไม่ใช่แค่แตะเส้น212 สำหรับเราไม่มีปัญหาค่ะ เราสูง 168 (เพื่อนที่ผ่านรอบนี้สูง157ก็มีค่ะ) … อีกเรื่องนึงคือการ Declare แผลเป็น birthmarks รอยสัก ฯลฯ เรามีแผลเป็นที่คางค่ะ แผลคีลอยด์นูนๆ ประมาณ 0.5mm เราชีให้กรรมการดูว่าโอเคไหม กรรมการถามว่าได้แผลนี้มายังไง เราก็ตอบไปว่า เล่นไฟตอน8ขวบค่ะ พ่อบอกว่าห้ามเล่น แต่แอบเล่น ถ่านไฟตกลงครงคางพอดี กลัวพ่อดุเลยใช้นิ้วถูกๆแล้วบอกว่ายุงกัด และมันก็กลายเป็นแผลยุงกัดที่อยู่นานที่สุดในโลก (กรรมการหัวเราะ) เค้าบอกว่าไม่เป็นไร แค่ต้องเติมคอนซีลเลอร์ลงไปอีกนิด


Group discussion รอบ1 นี้เราคิดว่า...
-ทีมเวิร์คค่ะ ฟังและซัพพอร์ทเพื่อนในกลุ่ม
-Presentation skills
-eye contact ให้กับทุกคนไม่ใช่แค่กรรมการ
-ชัดเจนและตรงประเด็น (พูดไม่มากและไม่น้อยเกินไป)
-การฟังค่ะ ตั้งใจฟังทุกคนที่พรีเซนท์ถือเป็นการให้เกียรติ

ประกาศผล: เราผ่านค่ะ รอบนี้เหลือ ประมาณ 40 คน

Group Discussion 2
กลุ่มนึงมีประมาณ 12-13 คน มี 3 กลุ่มค่ะ
Task: ให้ข้อมูลลูกค้ามา 6-7คน และให้เราเป็น manager ของบริษัท จัดการปัญหาที่เกิด
เราได้ hotel room ค่ะ ห้อง overbooked จะให้ห้องใคร? เพราะอะไร? แก้ปัญหายังไง

เช่น เราเป็นmanagerของโรงแรม และโรงแรม overbooked ห้องเหลือ 2 ห้อง แต่ลูกค้าจะมาเช็คอินในวันเดียวกัน...(ประมาณ 7คน จำไม่ได้ค่ะโทษที)
จะให้ห้องหับใคร? ลูกค้ามีตังต่อไปนี้(อาจไม่ละเอียดจำไม่ได้ง่า)...
- นักการเมือง ที่มีประชุมสำคัญ
- Journalist ที่มาพักผ่อนวันหยุด
- ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก มีนัดตรวจที่โรงพยาบาล
- นักร้องชื่อดัง ที่จะมาเล่นคอนเสิร์ตแถวนี้
- ลูกค้าของโรงแรม ขอเปลี่ยนห้องเพราะห้องน้ำชำรุด
- Valued customer มาพักทุกเดือน
- คู่รักมา Honeymoon

หลังจากนั้นก็ discussกับเพื่อนในกลุ่ม ว่าจะให้ใคร เพราะอะไร... แล้วกรรมการก็จะเลือก 2-3คนให้บอกผลลัพธ์ว่ากลุ่มเราเลือกใคร เพราะอะไร แล้วกรรมการก็จะถามแย้งขึ้นมาว่าแล้วถ้าเค้าไม่ยอมล่ะทำไง ไรงี้ .. รอบนี้เราไม่รู้อ่ะว่ากรรมการต้องการอะไร มองหาอะไร....เราคิดว่า.... กรรมการต้องการเห็นบรรยากาศในการทำงานร่วมกัน ใครสร้างworking environmentแบบไหน ใครพูดกันอยู่2คน ไม่แย่งกันพูด ไม่เงียบหมด ไม่เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก กล้าตัดสินใจสรุป (คือบางทีมันยืดเยื้อ เกรงๆกันจนไม่ยอมสรุปซะที) ไรงี้ อันนี้เราไม่รู้จริงจัง

ประกาศผล: 25คนผ่าน ไปทำ English Test

English Test
รอบนี้ทำข้อสอบภาษาอังกฤษค่ะ
(เราเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ง่ายมากสำหรับคนไทยเรียนหนักอย่างพวกเรา5555 เพื่อนฝรั่งหวั่นรอบนี้กันค่ะ)
ข้อสอบก็จะเป็น แกรมม่า, คำศัพท์, จับใจความ, Errors, matching, อะไรประมาณนั้น ไปฝึกได้ในแบบทดสอบโทอิคออนไลน์
ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้นจริงๆ ทำเสร็จ มั่นใจ ถ้ามีเวลาเหลือ double check แล้วก็ส่งค่ะ

ประกาศผล: 21 คน ผ่านเข้า Final Interview
มีตารางเวลามาให้จองเวลาสัมภาษณ์
มีลิสท์เอกสารที่ต้องเตรียม และเอกสารและรูปต่างๆที่ต้อง upload
ซึ่ง ถ้าไม่มีทั้งหมดไม่เป็นไรไปอัพโหลดทีหลังได้ ภายใน 7 วัน แต่อย่างน้อยควรมี updated CV นะ
วันนี้เลิกเริ่ม 9 โมงเช้า เลิก 1 ทุ่มกว่าค่ะ

นอกจากนี้ยังมี psychometric test ให้ทำ ซึ่งต้องทำให้เสร็จก่อนมา final interview ด้วยค่ะ
psychometric test  เราใช้เวลาทำ 12 นาทีค่ะ เราเองก็ช็อคเหมือนกันแต่เราอ่านแล้วตอบเลย
กรรมการบอกอย่าคิดนาน เราก็ไม่ได้คิดนานค่ะ555555เชื่องดีเนอะ..
คำถามไม่ยาก ไม่มีผิดมีถูก แค่จะหาจุดอ่อนจุดแข็งในตัวเรา ไม่ต้องคิดมาก Nobody is perfect. ค่า
อ้อ ยังมี สมัคร online application ในเว็ปอีกค่ะ ซึ่งเราจะติดตาม status update ได้จากที่นี่ หลังจากเขาส่งไปดูไบแล้ว
(เราไม่ได้มี applicant number ค่ะ เราไม่ได้สมัครไปก่อน)


รอบ FI 26/10/15
(เราจองวันถัดไปตอน 13:00-13:45 ค่ะ เราอยากทำให้มันเสร็จๆซักที)
เอกสารที่เรามีอยู่กับตัววันนั้น (บางอย่างมีfileอยู่ในแลปท็อบ เราก็ขอปริ้นท์จากเคาน์เตอร์โรงแรมค่ะ)
มีแค่เอกสารปริ้นท์สี educational certificate, ปริ้นสีพาสฟอร์ท, และ formal photo (full length+passport)
วันนั้นนอนไม่หลับค่ะ เพราะสมองไม่ยอมพัก คิดไปหมด ต้องเตรียมเอกสารนะ กลัวลืมตั้งนาฬิกาปลุกไรงี้ ทำ psychometric testตอนเที่ยงคืนกว่า
ตื่น 8 โมงเช้า ไม่ยอมนอน 5555555 ตาแดงก่ำ..วันนี้เราใส่ชุดเดิมด้วยค่ะ 555 เอามาชุดเดียว แต่ปากสีแดงค่ะ ทรงผมเดิม รวบตึง ปล่อยหน้าม้า


ไปถึงก่อนเวลา 30 นาทีค่ะ กรรมการมาเข้าห้องน้ำ เจอกรรมการพอดี เขาบอกให้นั่งรถ เพราะยังไม่ถึงคิวเรา
มีคนเอเชีย2คนผ่านเข้ามี คือเราและผู้หญิงเกาหลีอีกคน(เราไม่รู้ว่านางได้ไหม)
ตอนเข้าไปในห้องก็จับมือกับกรรมการ และทักทายตามปกติค่ะ ไม่เกร็จ (ง่วงมาก)
กรรมการถามว่า Did you have a good sleep last night? Not at all หัวเราะ I was busy preparing the document and finishing the test.


กรรมการเชิญให้นั่ง+ขอดูเอกสารที่ให้ไปจัดมา
แล้วอธิบายว่าต่อไปนี้เค้าอาจจะต้องเทคโน๊ต และการตัดสินใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับเค้า เค้าต้องส่งไปดูไบ โน่นนี่นั่น dont take it personal
แล้วก็บอกว่า มีคำถามสำหรับเราอยู่หลายข้อ ซึ่งอย่างที่บอกว่าเกี่ยวกับ customer service ล้วนๆ เริ่มเลยมั๊ย...
(เชี้ยร์ร์ร์ร์ เราไม่มีประสบการณ์การทำงานมากมายค่ะ มีแต่ทำงานพาร์ทไทม์กิ๊กก๊อก และฝึกงานตอนปี4เท่านั้น...) งานเข้าเลยค่ะ
- เคยมีประสบการณ์การทำงานมาบ้างมั๊ย ทำอะไร ที่ไหน ลักษณะงานเป็นยังไง
- เคยทำอะไรพิเศษ หรือมากกว่าที่ลูกค้าขอบ้าง ยังไง
- เล่าเรื่อง the most stressful day ในการทำงานมา/แล้วคุณทำยังไง
- เคยทำงานนานที่สุดกี่ชั่วโมง /ทำอะไร ข้อนี้โดนจี้สุดๆเลยค่ะ พยายามดึงสติ คือเค้าถามว่าทำงานกี่โมงถึงกี่โมง แล้วในทีมมีกี่คนที่ทำวันปกติ แล้ววันนั้นที่ทำงานยาวๆทีมมีกี่คน แล้วshiftต่อไปล่ะใครทำ แล้วเขาอยู่ในทีมด้วยไหมตอนทำงานข้ามคืนไรงี้ คือกรรมการถามวนๆๆๆแล้วกลับมาถามคำถามเดิมซ้ำอีกค่ะ
เราเจอคำถามเดิมแต่เปลี่ยนประโยค ประมาณ 3 รอบ… เราจำได้ค่ะ
เราเริ่มตอบคำถามด้วยคำว่า "อย่างที่บอกไปว่า....." (แล้วอธิบายเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยค่ะ) กรรมการเขาก็จะอ๋ออจำได้แล้ว... ประมาณนี้ค่ะ


ขออภัยหากเราจำคำถามรอบนี้ไม่ได้มาก มันสับสนมึนงงไปหมด ในใจคิดว่าแย่มากอ่ะ งานเข้าแน่ๆ เห้อเสียดายโอกาส...
(ลิสท์คำถามFinal interview ของ EKหาได้ทั่วไปค่ะ)

แล้วมาถึงจุดที่เฮียยยยยมาก
กรรมการนั่งดูเล็บตัวเอง! นางเบื่อ! นางเอากระจกมาตั้งบนโต๊ะ! เช็คผม! และมองออกไปนอกหน้าต่าง! ไม่มีเทคโน๊ตเลย...
ในขณะที่เรากำลังเล่าเรื่องที่เราคิดว่าเจ๋งสุดในชีวิตชั้นแล้วนะ...
เค้าไม่ฟังเลยค่ะ ดูเหมือนรำคาญด้วย...
ตอบเสร็จนางก็ไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจาก อืมม whatelse แล้วกรอกตาเบาๆค่ะ..... เรารู้สึกแย่ อยากร้องไห้มาก ณ จุดนั้น......

แล้วอีก 2-3 คำถามเกี่ยวกับประสบการณ์เกี่ยวกับต่างวัฒนธรรม เคยมีปัญหาบ้างไหม, เคยเสนอcreativeไอเดียอะไรให้ที่ทำงานบ้างหรือเปล่า
มี2-3คำถามค่ะ ที่เราไม่มีประสบการณ์จริงๆ เราก็ตอบไปว่า Honestly, I don't have… ค่ะ  นางทำหน้าเบื่อตลอดเวล

เราก็ยิ้มสู้ค่ะ ช่างมันเถอะ ไม่ได้ก็ช่างมัน
ทุกรอบเราจินตนาการว่าเราเป็นแอร์ไปแล้วค่ะ และกรรมการเป็นผู้โดยสาร

การสัมภาษณ์ทั้งหมด มีเวลา45 นาที ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ รวมส่งเอกสาร 555555555 เร็วมากอ่ะ เร็วจนน้ำตาจิไหล เสียดายตังค์ค่าโรงแรม..ก่อนจากกันกรรมการให้โอกาสถามคำถาม และนางก็ถามกลับว่า ทำไมคิดจะสมัครงานนี้ ไม่อยากอยู่ยุโรปหรอ แพลนไว้ว่าไง เราก็ตอบไปตรงๆ กรรมการก็บอกว่า good luckน๊าา

รอบนี้น่าจะดูreaction ประสบการณ์ attitudes
ถึงจะรู้สึกแย่ Y_Y แต่ก็เช็ค status ทุกวัน

รอ13 วัน ค่ะ วันที่8/10/15 ก็ได้ JFIP วันถัดมาได้ Golden call..
ได้อยู่คนเดียว ส่วนเพื่อนคนอื่นๆที่ขอเฟสบุ๊คไว้ ได้ JFIP สองอาทิตย์ถัดจากเรา
ตอนนี้เรามาเทรนดูไบแล้วค่ะ

ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ ทุกคน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่