ครีมเคยสมัครสายนี้มาแล้วทั้งหมด5 ครั้ง ได้ครั้งที่ 5 สิ่งที่จะแชร์ต่อไปนี้มาจากประสบการณ์ตรงแบบไม่ได้เรียนกับสถาบันไหน
และจากประสบการณ์ของเพื่อนร่วมฝันเดียวัน ปกติก็อ่านรีวิวคนอื่นมาเยอะแล้วและก็เคยบนไว้ว่าถ้าตัวเองติดจะมาเขียนแชร์ทริคทั้งหมด
เริ่มค่ะ
ทุกคนนิยามคำว่าสวยไม่เหมือนกันค่ะ แค่คุณยิ้มแบบจริงใจพอ เพราะสายนี้มีทุกแบบค่ะ
เตรียมความมั่นใจและรอยยิ้มมาเยอะๆเลยค่ะ
ถ้าใครที่กลัวเรื่องส่วนสูง แนะนำ walk in ต่างประเทศค่ะ
ส่วนใครที่สมัครแล้วยังไม่ได้อย่างเพิ่งท้อนะค่ะ
เพราะค่าเฉลี่ยในการสมัครสายนี้บางคนก็สมัครมาไม่ต่ำกว่า 15 ครั้ง
สิ่งที่ต้องเตรียม เตรียมรูปถ่ายขนาดพลาสปอดกับเต็มตัว เอาไปไว้อย่างละ 4 หรือ 6 ใบก็ได้ค่ะ
รูป casual เต็มตัว อันนี้ถ่ายจากกล้องดิจิตอลหรือกล้องมือถือก็ได้ค่ะ เขาชอบธรรมชาติค่ะ
สายนี้มีทั้งหมด 7 stages
1.) pre-screen/ drop resume
resume: ทำ resume ให้อ่านง่าย , เป็นระเบียบ และเนื้อหาคลอบคลุมใน 1 หน้า มากสุด 2 หน้า
งาน part time / freelance ใส่มาให้หมดเลยค่ะ แล้วโยงให้เกี่ยวกับงานบริการ
make up: natural look ; brown , earth tone , แต่งหน้าให้ดูสดใส
Don’t : smokey eyes , colorful
how to introduce: ทักทายด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจมีชีวิตชีวา เหมือนเจอเพื่อนเก่า รอตอบคำถามที่เขาถาม
และก็อย่าลืมเล่นมุกกับกรรมการนะคะ
tips: ถ้าวันนั้นตรงกับเทศกาล เช่น Valentine ก็บอกเขาส่งท้ายไปก็ได้ค่ะว่า happy Valentine’s Day
พูดกับเขาให้เขารู้สึกกับเราเหมือนเราเป็นเพื่อนร่วมงานเขา
หรือถ้าคุณชอบ accesories ที่เขาใส่ก็ชมไปเลยค่ะว่าวันนี้สวยมาก
หรือบอกว่าเขาหน้าคล้ายดาราคนไหนก็ได้ค่ะที่คุณคิดว่าคล้าย
ที่สำคัญยิ้มเยอะๆๆนะค่ะ ยิ้มแบบเหมือนเราไม่ได้เจอเพื่อนที่เจอกันมากนาน ยิ้มแบบตายิ้มตาม
* เลือกเล่นมุกแค่มุกเดียวพอค่ะ , อย่ายิ้มแบบแข็งหรือ robot นะค่ะ , ทำให้เขายิ้มหรือหัวเราะพอค่ะ
Outfits: ใส่เดรสแบบยาวเลยเข่ามา 1-2 นิ้วค่ะ แล้วจะใส่สูธคลุมก็ได้ค่ะ
หรือใส่สูธไปเลยก็ได้คะ มาตราฐานสูธดำข้างในคอปกสีขาวค่ะ
ปล. รอบที่ครีมไปพอใครผ่านไปวันที่สองเขาจะขอให้ใส่สูธค่ะ
Should: business attire, professional look
Grooming: แนะนำว่าให้ทำผมเอง เพราะกรรมการเขาดูออกว่าเราทำจากร้าน ทรงผมที่ทำควรจะเป็น
low bun , กล้วย , ก้นหอย ถ้าใครทำผมไม่เก่งแนะนำใส่เจลข้างหน้าให้ผมข้างหน้าดูเรียบมากที่สุดเป็นพอ
ปล. ถ้าะไป walk-in ต่างประเทศ รวบหางมาธรรมดาได้ แต่อย่าลืมใส่เจลข้างหน้านะคะสาวๆ
Accessories: นาฬิกาอย่างเดียวพอค่ะ หรือใครอยากใส่แวนใส่ได้แต่ใส่ได้แค่นิ้วเดียว
Don’t : *ห้ามใส่กำไลนะค่ะ เราลองมาแล้ว ,
ถ้าใครจะติดขนตาปลอมแนะนำให้ต่อไปเลยค่ะ เพราะครีมก็ต่อเหมือนกัน แต่แบบธรรมชาตินะค่ะ ถ้าใครจะติดก็ติดแบบธรรมชาติให้เขาดูไม่ออก
คอนแทนเลน ใส่ได้ค่ะแต่เลือกแบบธรรมชาติ ไม่น้ำาลเข้ม,ดำ ก็แบบใสไปเลยค่ะ
รูปครีมกับเพื่อนสิงคโปร์และมาเซียที่ได้ golden call เหมือนกันค่ะ
2.) วัดส่วนสูง : แบ่งเป็น สองตอนคือ เอื้อมแตะ 212 กับ วัดส่วนสูง 160 cm. ต้องผ่านทั้งสองอันนะค่ะ
tips : ยิ้มเยอะๆค่ะ อันนี้ช่วยได้
3.) group discussion 1 : Think out of box.
what? เขาจะแบ่งกลุ่มออกมาให้แต่ลุกลุ่มมีสามคน แล้วแจกแผ่นป้ายอาชีพค่ะ โดยให้เราคิดคุณสมบัติของอาชีพที่เราได้มาคนละ1 คุณสมบัติ หลังจากนั้นเขาจะให้ออกมาพูด ซึ่งบางรอบเขาก็ให้เราทั้งกลุ่มออกมาพูดของตัวเองแล้วให้คนอื่นเดาอาชีพ หรือ ไม่ก็ให้เราพูดคุณสมบัติไปเลย
step ต่อมาเขาก็จะให้แผ่นป้ายมาเพิ่มอีก1อัน นั่นก็คือแผ่นอุปกรณ์ที่ให้เราคิดนอกกรอบ
ยกตัวอย่างรอบครีม : ครีมได้ programmer แล้วครีมกับเพื่อนอีกสองคนก็บอกคุณสมบัติของอาชีพนี้
“ We think that programmer should be creative “ อันนี้คือครีมตอบ แล้วเพื่อนอีกสองคนก็ตอบต่อ
พอได้แผ่นป้ายที่ 2 นั้นก็คือ “ toothbrush” เขาให้เราเอามาประยุกใช้กับอาชีพเราว่าอันนี้ใช้ทำอะไรได้บ้างที่นอกจากใช้แปรง ครีมตอบว่า “We will use toothbrush as the magic stick to create and paint instead of using mouse. “ แล้วเพื่อนในกลุ่มก็ตอบต่อ ทุกคนก็ขำ เป็นอันจบพิธีแล้วรอผล
Tips : 1. ไม่ควรพูดเยอะจนเกินไป หรือพูดน้อยจนเกินไป เช่น
เสนอไอเดีย หนึ่งประโยคเสร็จแล้วก็ปล่อยให้เพื่อนอีกสองคนพูดแล้วเราก็ยิ้มพูดagree
หรือไม่ก็คำพูดอะไรก็ได้ที่แสดงออกว่าเราเห็นด้วย เช่น great , perfect ก็ได้ค่ะ
Don’t : อย่าแสดงท่าทีว่าไม่เห็นด้วยออกมาหรือพูดคำว่า disagree
2. พอได้แผ่นที่สองมา ให้เสนอไอดีที่คิดนอกกรอบจริงๆไม่ใช่ตอบประโยชน์ตรงตัวของสิ่งของที่ได้
idea + support . แล้วต่อว่ามันใช้กับอาชีพเราให้เกิดประโยชยังไง แล้วก็จบปล่อยให้เพื่อนพูด
3. ใช้คำว่า we แทนคำว่า I เวลาออกไป present เพราะมันแสดงออกว่าเราได้ร่มกันคิดกับเพื่อน
ยิ้มเยอะๆ สบตาเพื่อนๆ ฟังเพื่อนพูด เพราะเราคือทีมเวิค
4.) Group Discussion 2 : เขาจะแบ่งกลุ่มออกมากกลุ่มละ 10 คน
what? เขาจะให้โจทย์มาค่ะเช่น โรงแรมมีมีห้องว่างแค่ 3 ห้องในฐานะที่คุณเป็นผู้จัดการโรงแรมคุณจะทำยังไง จะให้ใครเข้าพัก โดยมีตัวเลือกให้ 5-8 ข้อ เช่น
valued customer b. celebrity c. family with infants d. จองโรงแรมเพื่อมาเฝ้าคนป่วย
ปล. จำได้เท่านี้จริงๆ ขออภัยค่ะ คำตอบข้อนี้ม่มีถูกไม่มีผิด แต่มันมีหลัก ในทุกโจทย์จะดป็นประมาณนี้จำให้เราเลือก แต่ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ valued customerเพราะเขาเป็นลูกค้าประจำของเรา แต่ตอนที่ครีมตอบครีมตอบ “ I choose celebrity because celebrity can advertise our hotel in the good way and and increase the new customer but if we don’t choose celebrity , celebrity can discredit our hotel.”
role play: กรรมการเขาจะเลือกคนที่ตอบน้อย กับคนที่ตอบ disagree มา role play ค่ะ โดยกรรมการจะแสดงเป็นลูกค้าที่เหวี่ยงแล้วให้เรารับมือกับเขา ทุกครั้งที่เขาเหวี่ยงให้คิดว่าเขาเป็นลูกค้าจริงๆ ถามว่า เขาอยากได้อะไร what do you prefer? ถ้าเปลี่ยนให้เขาแล้วเขาไม่พอใจอีกก็ให้ทางเลือกเขาค่ะ I can offer you the promotion , discount. อะไรก็ได้ค่ะ แต่หน้าคุณห้ามเหวอนะค่ะ ให้นิ่งแล้วยังยิ้มอยู่ค่ะ
pattern การตอบคำถามแบบนี้คือ answer + reason และควรจะเป็นสิ่งที่ทางเราได้ประโยชน์
tips: ด่านนี้ไม่ต้องพูดเยอะค่ะ เวลาเพื่อนพูดอะไรก็ให้ยิ้มแบบเห็นด้วย พูดแบบ great , perfect ,well done
Don’t : อย่าพูดว่า disagree หรือพูดอะไรที่เป็นลบค่ะ ท่องไว้ค่ะ teamwork
5.) English Test : ข้อสอบเหมือน toeic ค่ะ ให้เวลาทำ 2 ชม ตัด 80 percent ค่ะ
หลังจากนั้นรอประกาศผลค่ะ
ก่อนที่เขาจะให้ไป สัมภาษณ์ เขาจะให้เรา declare แผลเป็นค่ะ คนไหนสายตาสั้นก็ต้องบอกค่ะ
แต่ถ้าทำเรสิกไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ ทำเนียนเอา ตัวครีมเองมีแผลเป็นที่เขายาว 2 cm
declare ไปเขา็แค่จดเฉยๆค่ะ แต่ชุดยูนิฟอมเลยเข่าสองนิ้วค่ะ
ps: คนไหนที่สักตำแหน่งที่ชุดuniform ไม่สามารถปิดได้เช่น ต้นคอ ขา แขน เขาให้กลับเลยค่ะ
แล้วเขาก็จะอธิบายรายละเอียดเงินเดือน แล้วก็ให้เรานัดวันเวลาสัมภาษณ์ในวันถัดไปค่ะ
6.) Final Interview : รอบนี้เหลือ 20 คนจาก 400 คนโดยประมาณค่ะ
ครีมเลือกสัมภาษณ์คนแรกวันแรกค่ะ
คำถามที่ได้ 1. How do you wow customer?
2. Have you ever experienced the culture shock? How?
3. Have you ever disputed with your colleague? Why ?
How do you solve that problem?
4. What’s your action that means you care your colleagues?
Tips: คำถามทุกข้อที่เขาถามให้เราตอบว่าเคยให้หมดค่ะ ห้ามบอกว่าไม่เคยทั้งๆที่คุณไม่เคยจริง พูดยังไงก็ได้ให้เนียนแล้วตรงกับ resume ของคุณ คำถามที่เขาถามมาจาก resume ที่คุณให้เขา เขาไม่ถามนอกจากนี้ค่ะ
`* ถ้าข้อไหนคิดว่าตอบไม่ทันให้บอกกับกรรมการให้ทวนคำถามให้เราฟังใหม่อีกรอบเพื่อที่ว่าเราจะได้มีเวลาคิดค่ะ ยิ้มเยอะๆๆ ยิ้มแบบมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จริง ห้ามทำสีหน้าแย่ๆออกมาเด็ดขาด
หากตอบไม่ได้จริงๆให้ยิ้มค่ะแล้วพูดเรื่องงานของคุณที่อิงกับคำถามข้อที่แล้ว เพราะคำถามเขาจะเรียงตามลำดับดหตุการณ์มนกรณีที่คุณคิดว่าคุณฟังไม่ทันหรือไม่รู้ศัพท์ค่ะ
เวลาที่เขาถามเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงานให้ตอบในเชิงบวก ห้ามตอบแบบไม่ชอบเขา
ตอบคำถามในเชิงบวกทุกข้อค่ะ ที่นี่เขาชอบ positive thinking , visionary , cosmopolitan , opportunities
7. Golden call รอประมาณสองอาทิตย์ถึงหนึ่งเดือนค่ะ ใครที่เข้าไปดู status
แล้วเปลี่ยนเป็น JFIP ย่อมาจาก Join Formalities/formality in Progress ค่ะ
หลังจากนั้นก็เตรียมไปฉัดวัคซีนได้เลยค่ะ ครีมฉีดที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหิดลตรงอนุสาวรีย์ค่ะ ที่นั้นเขาก็มีตรวนสุขภาพด้วย สามารถเข้าไปจองคิวในเว็บล่วงหน้าหนึ่งวัน ได้เลยค่ะ
ค่าวัคซีนกับตรวจร่างกายถูกมากค่ะ ไม่ต้องไปหาหมอโรงพยาบาลเอกชนให้เปลืองตังเลยค่ะ เพราะไปถึงเขาจับตรวจทุกอย่างตั้งแต่เอ็กซเรย์ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะหมดค่ะ
เรื่องแปลเอกสารไม่ต้องขอรับรองกระทรวงนะคะ แค่ให้ร้านที่เขามีรับแปลเอกสารแปลให้จบค่ะ
โชคดีค่ะ แล้วมาเจอกันที่ดูไบค่ะ
ปิดท้ายด้วยรูป casual final
Emirates walk-in , Singapore แชร์จากประสบการณ์ตัวเองทั้ง5รอบ ทั้งในไทยและเทศ แบบไม่ได้เรียน รอบวันที่ 14 feb,2016
และจากประสบการณ์ของเพื่อนร่วมฝันเดียวัน ปกติก็อ่านรีวิวคนอื่นมาเยอะแล้วและก็เคยบนไว้ว่าถ้าตัวเองติดจะมาเขียนแชร์ทริคทั้งหมด
เริ่มค่ะ
ทุกคนนิยามคำว่าสวยไม่เหมือนกันค่ะ แค่คุณยิ้มแบบจริงใจพอ เพราะสายนี้มีทุกแบบค่ะ
เตรียมความมั่นใจและรอยยิ้มมาเยอะๆเลยค่ะ
ถ้าใครที่กลัวเรื่องส่วนสูง แนะนำ walk in ต่างประเทศค่ะ
ส่วนใครที่สมัครแล้วยังไม่ได้อย่างเพิ่งท้อนะค่ะ
เพราะค่าเฉลี่ยในการสมัครสายนี้บางคนก็สมัครมาไม่ต่ำกว่า 15 ครั้ง
สิ่งที่ต้องเตรียม เตรียมรูปถ่ายขนาดพลาสปอดกับเต็มตัว เอาไปไว้อย่างละ 4 หรือ 6 ใบก็ได้ค่ะ
รูป casual เต็มตัว อันนี้ถ่ายจากกล้องดิจิตอลหรือกล้องมือถือก็ได้ค่ะ เขาชอบธรรมชาติค่ะ
สายนี้มีทั้งหมด 7 stages
1.) pre-screen/ drop resume
resume: ทำ resume ให้อ่านง่าย , เป็นระเบียบ และเนื้อหาคลอบคลุมใน 1 หน้า มากสุด 2 หน้า
งาน part time / freelance ใส่มาให้หมดเลยค่ะ แล้วโยงให้เกี่ยวกับงานบริการ
make up: natural look ; brown , earth tone , แต่งหน้าให้ดูสดใส
Don’t : smokey eyes , colorful
how to introduce: ทักทายด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจมีชีวิตชีวา เหมือนเจอเพื่อนเก่า รอตอบคำถามที่เขาถาม
และก็อย่าลืมเล่นมุกกับกรรมการนะคะ
tips: ถ้าวันนั้นตรงกับเทศกาล เช่น Valentine ก็บอกเขาส่งท้ายไปก็ได้ค่ะว่า happy Valentine’s Day
พูดกับเขาให้เขารู้สึกกับเราเหมือนเราเป็นเพื่อนร่วมงานเขา
หรือถ้าคุณชอบ accesories ที่เขาใส่ก็ชมไปเลยค่ะว่าวันนี้สวยมาก
หรือบอกว่าเขาหน้าคล้ายดาราคนไหนก็ได้ค่ะที่คุณคิดว่าคล้าย
ที่สำคัญยิ้มเยอะๆๆนะค่ะ ยิ้มแบบเหมือนเราไม่ได้เจอเพื่อนที่เจอกันมากนาน ยิ้มแบบตายิ้มตาม
* เลือกเล่นมุกแค่มุกเดียวพอค่ะ , อย่ายิ้มแบบแข็งหรือ robot นะค่ะ , ทำให้เขายิ้มหรือหัวเราะพอค่ะ
Outfits: ใส่เดรสแบบยาวเลยเข่ามา 1-2 นิ้วค่ะ แล้วจะใส่สูธคลุมก็ได้ค่ะ
หรือใส่สูธไปเลยก็ได้คะ มาตราฐานสูธดำข้างในคอปกสีขาวค่ะ
ปล. รอบที่ครีมไปพอใครผ่านไปวันที่สองเขาจะขอให้ใส่สูธค่ะ
Should: business attire, professional look
Grooming: แนะนำว่าให้ทำผมเอง เพราะกรรมการเขาดูออกว่าเราทำจากร้าน ทรงผมที่ทำควรจะเป็น
low bun , กล้วย , ก้นหอย ถ้าใครทำผมไม่เก่งแนะนำใส่เจลข้างหน้าให้ผมข้างหน้าดูเรียบมากที่สุดเป็นพอ
ปล. ถ้าะไป walk-in ต่างประเทศ รวบหางมาธรรมดาได้ แต่อย่าลืมใส่เจลข้างหน้านะคะสาวๆ
Accessories: นาฬิกาอย่างเดียวพอค่ะ หรือใครอยากใส่แวนใส่ได้แต่ใส่ได้แค่นิ้วเดียว
Don’t : *ห้ามใส่กำไลนะค่ะ เราลองมาแล้ว ,
ถ้าใครจะติดขนตาปลอมแนะนำให้ต่อไปเลยค่ะ เพราะครีมก็ต่อเหมือนกัน แต่แบบธรรมชาตินะค่ะ ถ้าใครจะติดก็ติดแบบธรรมชาติให้เขาดูไม่ออก
คอนแทนเลน ใส่ได้ค่ะแต่เลือกแบบธรรมชาติ ไม่น้ำาลเข้ม,ดำ ก็แบบใสไปเลยค่ะ
รูปครีมกับเพื่อนสิงคโปร์และมาเซียที่ได้ golden call เหมือนกันค่ะ
2.) วัดส่วนสูง : แบ่งเป็น สองตอนคือ เอื้อมแตะ 212 กับ วัดส่วนสูง 160 cm. ต้องผ่านทั้งสองอันนะค่ะ
tips : ยิ้มเยอะๆค่ะ อันนี้ช่วยได้
3.) group discussion 1 : Think out of box.
what? เขาจะแบ่งกลุ่มออกมาให้แต่ลุกลุ่มมีสามคน แล้วแจกแผ่นป้ายอาชีพค่ะ โดยให้เราคิดคุณสมบัติของอาชีพที่เราได้มาคนละ1 คุณสมบัติ หลังจากนั้นเขาจะให้ออกมาพูด ซึ่งบางรอบเขาก็ให้เราทั้งกลุ่มออกมาพูดของตัวเองแล้วให้คนอื่นเดาอาชีพ หรือ ไม่ก็ให้เราพูดคุณสมบัติไปเลย
step ต่อมาเขาก็จะให้แผ่นป้ายมาเพิ่มอีก1อัน นั่นก็คือแผ่นอุปกรณ์ที่ให้เราคิดนอกกรอบ
ยกตัวอย่างรอบครีม : ครีมได้ programmer แล้วครีมกับเพื่อนอีกสองคนก็บอกคุณสมบัติของอาชีพนี้
“ We think that programmer should be creative “ อันนี้คือครีมตอบ แล้วเพื่อนอีกสองคนก็ตอบต่อ
พอได้แผ่นป้ายที่ 2 นั้นก็คือ “ toothbrush” เขาให้เราเอามาประยุกใช้กับอาชีพเราว่าอันนี้ใช้ทำอะไรได้บ้างที่นอกจากใช้แปรง ครีมตอบว่า “We will use toothbrush as the magic stick to create and paint instead of using mouse. “ แล้วเพื่อนในกลุ่มก็ตอบต่อ ทุกคนก็ขำ เป็นอันจบพิธีแล้วรอผล
Tips : 1. ไม่ควรพูดเยอะจนเกินไป หรือพูดน้อยจนเกินไป เช่น
เสนอไอเดีย หนึ่งประโยคเสร็จแล้วก็ปล่อยให้เพื่อนอีกสองคนพูดแล้วเราก็ยิ้มพูดagree
หรือไม่ก็คำพูดอะไรก็ได้ที่แสดงออกว่าเราเห็นด้วย เช่น great , perfect ก็ได้ค่ะ
Don’t : อย่าแสดงท่าทีว่าไม่เห็นด้วยออกมาหรือพูดคำว่า disagree
2. พอได้แผ่นที่สองมา ให้เสนอไอดีที่คิดนอกกรอบจริงๆไม่ใช่ตอบประโยชน์ตรงตัวของสิ่งของที่ได้
idea + support . แล้วต่อว่ามันใช้กับอาชีพเราให้เกิดประโยชยังไง แล้วก็จบปล่อยให้เพื่อนพูด
3. ใช้คำว่า we แทนคำว่า I เวลาออกไป present เพราะมันแสดงออกว่าเราได้ร่มกันคิดกับเพื่อน
ยิ้มเยอะๆ สบตาเพื่อนๆ ฟังเพื่อนพูด เพราะเราคือทีมเวิค
4.) Group Discussion 2 : เขาจะแบ่งกลุ่มออกมากกลุ่มละ 10 คน
what? เขาจะให้โจทย์มาค่ะเช่น โรงแรมมีมีห้องว่างแค่ 3 ห้องในฐานะที่คุณเป็นผู้จัดการโรงแรมคุณจะทำยังไง จะให้ใครเข้าพัก โดยมีตัวเลือกให้ 5-8 ข้อ เช่น
valued customer b. celebrity c. family with infants d. จองโรงแรมเพื่อมาเฝ้าคนป่วย
ปล. จำได้เท่านี้จริงๆ ขออภัยค่ะ คำตอบข้อนี้ม่มีถูกไม่มีผิด แต่มันมีหลัก ในทุกโจทย์จะดป็นประมาณนี้จำให้เราเลือก แต่ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ valued customerเพราะเขาเป็นลูกค้าประจำของเรา แต่ตอนที่ครีมตอบครีมตอบ “ I choose celebrity because celebrity can advertise our hotel in the good way and and increase the new customer but if we don’t choose celebrity , celebrity can discredit our hotel.”
role play: กรรมการเขาจะเลือกคนที่ตอบน้อย กับคนที่ตอบ disagree มา role play ค่ะ โดยกรรมการจะแสดงเป็นลูกค้าที่เหวี่ยงแล้วให้เรารับมือกับเขา ทุกครั้งที่เขาเหวี่ยงให้คิดว่าเขาเป็นลูกค้าจริงๆ ถามว่า เขาอยากได้อะไร what do you prefer? ถ้าเปลี่ยนให้เขาแล้วเขาไม่พอใจอีกก็ให้ทางเลือกเขาค่ะ I can offer you the promotion , discount. อะไรก็ได้ค่ะ แต่หน้าคุณห้ามเหวอนะค่ะ ให้นิ่งแล้วยังยิ้มอยู่ค่ะ
pattern การตอบคำถามแบบนี้คือ answer + reason และควรจะเป็นสิ่งที่ทางเราได้ประโยชน์
tips: ด่านนี้ไม่ต้องพูดเยอะค่ะ เวลาเพื่อนพูดอะไรก็ให้ยิ้มแบบเห็นด้วย พูดแบบ great , perfect ,well done
Don’t : อย่าพูดว่า disagree หรือพูดอะไรที่เป็นลบค่ะ ท่องไว้ค่ะ teamwork
5.) English Test : ข้อสอบเหมือน toeic ค่ะ ให้เวลาทำ 2 ชม ตัด 80 percent ค่ะ
หลังจากนั้นรอประกาศผลค่ะ
ก่อนที่เขาจะให้ไป สัมภาษณ์ เขาจะให้เรา declare แผลเป็นค่ะ คนไหนสายตาสั้นก็ต้องบอกค่ะ
แต่ถ้าทำเรสิกไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ ทำเนียนเอา ตัวครีมเองมีแผลเป็นที่เขายาว 2 cm
declare ไปเขา็แค่จดเฉยๆค่ะ แต่ชุดยูนิฟอมเลยเข่าสองนิ้วค่ะ
ps: คนไหนที่สักตำแหน่งที่ชุดuniform ไม่สามารถปิดได้เช่น ต้นคอ ขา แขน เขาให้กลับเลยค่ะ
แล้วเขาก็จะอธิบายรายละเอียดเงินเดือน แล้วก็ให้เรานัดวันเวลาสัมภาษณ์ในวันถัดไปค่ะ
6.) Final Interview : รอบนี้เหลือ 20 คนจาก 400 คนโดยประมาณค่ะ
ครีมเลือกสัมภาษณ์คนแรกวันแรกค่ะ
คำถามที่ได้ 1. How do you wow customer?
2. Have you ever experienced the culture shock? How?
3. Have you ever disputed with your colleague? Why ?
How do you solve that problem?
4. What’s your action that means you care your colleagues?
Tips: คำถามทุกข้อที่เขาถามให้เราตอบว่าเคยให้หมดค่ะ ห้ามบอกว่าไม่เคยทั้งๆที่คุณไม่เคยจริง พูดยังไงก็ได้ให้เนียนแล้วตรงกับ resume ของคุณ คำถามที่เขาถามมาจาก resume ที่คุณให้เขา เขาไม่ถามนอกจากนี้ค่ะ
`* ถ้าข้อไหนคิดว่าตอบไม่ทันให้บอกกับกรรมการให้ทวนคำถามให้เราฟังใหม่อีกรอบเพื่อที่ว่าเราจะได้มีเวลาคิดค่ะ ยิ้มเยอะๆๆ ยิ้มแบบมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จริง ห้ามทำสีหน้าแย่ๆออกมาเด็ดขาด
หากตอบไม่ได้จริงๆให้ยิ้มค่ะแล้วพูดเรื่องงานของคุณที่อิงกับคำถามข้อที่แล้ว เพราะคำถามเขาจะเรียงตามลำดับดหตุการณ์มนกรณีที่คุณคิดว่าคุณฟังไม่ทันหรือไม่รู้ศัพท์ค่ะ
เวลาที่เขาถามเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงานให้ตอบในเชิงบวก ห้ามตอบแบบไม่ชอบเขา
ตอบคำถามในเชิงบวกทุกข้อค่ะ ที่นี่เขาชอบ positive thinking , visionary , cosmopolitan , opportunities
7. Golden call รอประมาณสองอาทิตย์ถึงหนึ่งเดือนค่ะ ใครที่เข้าไปดู status
แล้วเปลี่ยนเป็น JFIP ย่อมาจาก Join Formalities/formality in Progress ค่ะ
หลังจากนั้นก็เตรียมไปฉัดวัคซีนได้เลยค่ะ ครีมฉีดที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหิดลตรงอนุสาวรีย์ค่ะ ที่นั้นเขาก็มีตรวนสุขภาพด้วย สามารถเข้าไปจองคิวในเว็บล่วงหน้าหนึ่งวัน ได้เลยค่ะ
ค่าวัคซีนกับตรวจร่างกายถูกมากค่ะ ไม่ต้องไปหาหมอโรงพยาบาลเอกชนให้เปลืองตังเลยค่ะ เพราะไปถึงเขาจับตรวจทุกอย่างตั้งแต่เอ็กซเรย์ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะหมดค่ะ
เรื่องแปลเอกสารไม่ต้องขอรับรองกระทรวงนะคะ แค่ให้ร้านที่เขามีรับแปลเอกสารแปลให้จบค่ะ
โชคดีค่ะ แล้วมาเจอกันที่ดูไบค่ะ
ปิดท้ายด้วยรูป casual final