31/12/2558
สวัสดีครับ อยากรู้ว่ามีใครคิดเหมือนผมมั้ยครับ
คือวันที่ตื่นนอนมา ลองทำจิตใจสงบๆ และมีสมาธิ จากนั้นก็มองไปรอบๆห้องที่เราอาศัยอยู่ มองสิ่งต่างๆรอบๆ สังเกตุผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาทำให้คิดได้ว่า นี่คือภาพที่เราเห็นนั้นเกิดจากสายตาเรา ตามกายภาพเราจะมองไม่เห็นตัวเราเอง นอกจากภายนอก เหมือนดูภาพยนตร์เรื่องนึง มันยิ่งทำให้คิดว่า ทำไมเราถูกเลือกให้มาเกิดมาอยู่ในร่างนี้ หรือทำไมจิต ความรู้สึกของเรามาบังเกิดในร่างกายนี้ จิตเราถูกขังอยู่ในร่างนี้ ไม่สามารถไปเป็นคนอื่นๆได้ แล้วมีคนผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป เหมือนออกไปจากฉากภาพยนตร์ของเราเอง
จิตและความรู้สึกต่างๆของตัวเราที่ผูกติดอยู่กับร่างกายนี้ไปจนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของชีวิต ในขณะที่นั่งพิมพ์ข้อความนี้ก็ยังคิดอยู่เลยว่า นี่เรากำลังมองหน้าจอ มือกำลังพิมพ์ข้อความ ลูกมานั่งเล่นของเล่นอยู่ข้างๆ มีเสียงดนตรีจากรถเครื่องเสียงที่อยู่นอกบ้าน ทำให้รู้สึกแปลกดีว่าทำไมเราเกิดมาเป็นตัวเรา ถ้าไม่เกิดเป็นตัวเรา จิต แห่งความรับรู้แบบนี้จะไปอยู่ที่ไหน มันเหมือนสิ่งรอบข้างคือตัวประกอบ ส่วนภาพและความรู้สึกทุกขณะของเรานั้นคือจุดศูนย์กลางของจักรวาลและสิ่งรอบข้างทั้งหมดนี้คือตัวประกอบ ของหนังชีวิตที่ต้องอยู่กับมันจนวินาทีสุดท้าย
ภาพที่เราเห็นตั้งแต่เกิดมาที่เราเห็นผ่านประสบการชีวิตในอดีต ผ่านความสุข ความทุกข์ และยังต้องพบเหตุอะไรอีกมากมายในอนาคตที่ยังมาไม่ถึงในแต่ละวินาทีข้างหน้า
สรุปว่ามีใครเคยลองคิดแบบนี้เหมือนผมบ้างมั้ยครับ เหมือนกับว่าตื่นมาทุกทีมองๆไปรอบๆคิดว่านี่เราโชคดีที่เกิดมาเป็นคนๆนี้ไม่ว่าชีวิตนี้คืออะไร เราอยู่ในร่างๆนี้ มองเห็นภาพต่างๆจากตัวเรา รับรู้ที่ตัวเรา ทุกครั้งที่ตื่นนอน แต่จิตเราก็เหมือนถูกขังอยู่ในร่างนี้ หรือเคยคิดมั๊ยว่าโชคดีที่ไม่เกิดเป็นยุง หรือไปรับหน้าที่เกิดแพลงตอน เกิดเป็นแมลงตัวหน้าเกลียดๆ ในบริบทนั้นๆ เวลามีเซ็กส์กับแมลงด้วยกันเอง 555 ไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมคิดนั้นไร้สาระหรือเปล่า หากไปเล่าให้ใครฟังคงคิดว่าผมเพ้อเจ้อ
:::::: กลับมาอัพเดทอีกครั้งครับ ::::::
21/4/2562
ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่า ทุกสรรพสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้ทั้งหมดทั้งมวลคือสิ่งเดียวกัน และเวลานี้กำลังใช้ชีวิตมองผ่านร่างๆนี้อยู่ และคนรอบข้างที่เรามองเห็นก็คือตัวเรานั้นเอง เรามีแค่หนึ่งเดียวในจักรวาล วันนี้ต้องเป็นคนนี้ ต้องบังคับร่างนี้ไปตามความคิดความรับรู้จนว่าจะถึงปลายทางสุดท้ายที่หมดอายุขัย(จะเป็นอย่างไร) และโอกาสหน้าชาติหน้าอาจจะกลายเป็นอีกคนที่เคยเดินผ่านสวนกันในชาตินี้ หรืออาจจะเป็นคนที่ตื่นลืมตาขึ้นมาในประเทศอื่น
สังเกตุช่วงเวลาปัจจุบันให้ดีที่สุด ทำทุกสิ่งในเวลาปัจจุบันให้ดีที่สุด อย่างมีสติ จดจำสิ่งดีๆให้มากที่สุด แล้วจะไม่เสียดายอดีตเมื่อคิดย้อนกลับไปครับ
มีใครคิดเหมือนผมมั๊ยว่า ทำไมเราเกิดมาเป็นตัวเรา จิตเราเป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของเรื่องราวทั้งหมด
สวัสดีครับ อยากรู้ว่ามีใครคิดเหมือนผมมั้ยครับ
คือวันที่ตื่นนอนมา ลองทำจิตใจสงบๆ และมีสมาธิ จากนั้นก็มองไปรอบๆห้องที่เราอาศัยอยู่ มองสิ่งต่างๆรอบๆ สังเกตุผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาทำให้คิดได้ว่า นี่คือภาพที่เราเห็นนั้นเกิดจากสายตาเรา ตามกายภาพเราจะมองไม่เห็นตัวเราเอง นอกจากภายนอก เหมือนดูภาพยนตร์เรื่องนึง มันยิ่งทำให้คิดว่า ทำไมเราถูกเลือกให้มาเกิดมาอยู่ในร่างนี้ หรือทำไมจิต ความรู้สึกของเรามาบังเกิดในร่างกายนี้ จิตเราถูกขังอยู่ในร่างนี้ ไม่สามารถไปเป็นคนอื่นๆได้ แล้วมีคนผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป เหมือนออกไปจากฉากภาพยนตร์ของเราเอง
จิตและความรู้สึกต่างๆของตัวเราที่ผูกติดอยู่กับร่างกายนี้ไปจนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของชีวิต ในขณะที่นั่งพิมพ์ข้อความนี้ก็ยังคิดอยู่เลยว่า นี่เรากำลังมองหน้าจอ มือกำลังพิมพ์ข้อความ ลูกมานั่งเล่นของเล่นอยู่ข้างๆ มีเสียงดนตรีจากรถเครื่องเสียงที่อยู่นอกบ้าน ทำให้รู้สึกแปลกดีว่าทำไมเราเกิดมาเป็นตัวเรา ถ้าไม่เกิดเป็นตัวเรา จิต แห่งความรับรู้แบบนี้จะไปอยู่ที่ไหน มันเหมือนสิ่งรอบข้างคือตัวประกอบ ส่วนภาพและความรู้สึกทุกขณะของเรานั้นคือจุดศูนย์กลางของจักรวาลและสิ่งรอบข้างทั้งหมดนี้คือตัวประกอบ ของหนังชีวิตที่ต้องอยู่กับมันจนวินาทีสุดท้าย
ภาพที่เราเห็นตั้งแต่เกิดมาที่เราเห็นผ่านประสบการชีวิตในอดีต ผ่านความสุข ความทุกข์ และยังต้องพบเหตุอะไรอีกมากมายในอนาคตที่ยังมาไม่ถึงในแต่ละวินาทีข้างหน้า
สรุปว่ามีใครเคยลองคิดแบบนี้เหมือนผมบ้างมั้ยครับ เหมือนกับว่าตื่นมาทุกทีมองๆไปรอบๆคิดว่านี่เราโชคดีที่เกิดมาเป็นคนๆนี้ไม่ว่าชีวิตนี้คืออะไร เราอยู่ในร่างๆนี้ มองเห็นภาพต่างๆจากตัวเรา รับรู้ที่ตัวเรา ทุกครั้งที่ตื่นนอน แต่จิตเราก็เหมือนถูกขังอยู่ในร่างนี้ หรือเคยคิดมั๊ยว่าโชคดีที่ไม่เกิดเป็นยุง หรือไปรับหน้าที่เกิดแพลงตอน เกิดเป็นแมลงตัวหน้าเกลียดๆ ในบริบทนั้นๆ เวลามีเซ็กส์กับแมลงด้วยกันเอง 555 ไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมคิดนั้นไร้สาระหรือเปล่า หากไปเล่าให้ใครฟังคงคิดว่าผมเพ้อเจ้อ
:::::: กลับมาอัพเดทอีกครั้งครับ ::::::
21/4/2562
ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่า ทุกสรรพสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้ทั้งหมดทั้งมวลคือสิ่งเดียวกัน และเวลานี้กำลังใช้ชีวิตมองผ่านร่างๆนี้อยู่ และคนรอบข้างที่เรามองเห็นก็คือตัวเรานั้นเอง เรามีแค่หนึ่งเดียวในจักรวาล วันนี้ต้องเป็นคนนี้ ต้องบังคับร่างนี้ไปตามความคิดความรับรู้จนว่าจะถึงปลายทางสุดท้ายที่หมดอายุขัย(จะเป็นอย่างไร) และโอกาสหน้าชาติหน้าอาจจะกลายเป็นอีกคนที่เคยเดินผ่านสวนกันในชาตินี้ หรืออาจจะเป็นคนที่ตื่นลืมตาขึ้นมาในประเทศอื่น
สังเกตุช่วงเวลาปัจจุบันให้ดีที่สุด ทำทุกสิ่งในเวลาปัจจุบันให้ดีที่สุด อย่างมีสติ จดจำสิ่งดีๆให้มากที่สุด แล้วจะไม่เสียดายอดีตเมื่อคิดย้อนกลับไปครับ