พันท้ายนรสิงห์ ฉบับท่านมุ้ย สนุกเกินคาดแบบมีนัยยะสำคัญ
โดย วาทิน ศานติ์ สันติ 30/12/2558
* บทความนี้เป็นความเห็นตัว หากไม่ตรงใจใครหรือผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
เดิมทีไม่คิดว่าจะดูเพราะเบื่อหน่ายจากตำนานสมเด็จพระนเรศวร แต่พอดูแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดเลย
เส้นเรื่องโดยรวมยังยึดของบทพระนิพนธ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ภานุพันธุ์ยุคลที่ใช้ในละครเวทีคณะศิวารมณ์ ปี พ.ศ. 2488 แต่สำหรับผม ดูไปก็คิดถึงละครเวทีสมัยปิดโรงละครเฉลิมไทยในปี พ.ศ. 2532 ขึ้นมาทันทีจำได้ว่าฉากก่อนประหารชีวิตทำเอาน้ำตาไหลเลยทีเดียว
พันท้ายนรสิงห์ ฉบับท่านมุ้ย กับอาจารย์สุเนตร สนุกเกินคาดคิด มีมุกให้อมยิ้มไปจนขำมากมาย ทำให้ 3 ชั่วโมงไม่น่าเบื่อ? นี่คือจุดเด่นหรือเอกลักษณ์ของหนังเรื่องนี้
ทานมุ้ยชาญฉลาดมากที่เล่นกับภาพจำของพันโทวันชนะที่ดูเคร่งขรึมจากบทพระนเรศวร มาเล่นบทตลกพระเจ้าเสือ มันไม่คาดคิด มันผิดคาด เลยทำให้เราลืมภาพจำจากพระนเรศวรไปเลย
ดูเหมือนว่าท่านมุ้ยและอาจารย์สุเนตรต้องการจะสร้างภาพจำเกี่ยวกับพระเจ้าเสือใหม่ไม่ให้โหดร้ายตามที่ประวัติศาสตร์ไทยเคยเรียนหรือรับรู้มา รวมถึงการที่พันท้ายนรสิงห์คัดท้ายจนโขนเรือหักนั้นมีความหมายด้วย
ในความคิดผม ที่ทำให้พระเจ้าเสือเป็นคนไม่จริงจังดั่งนเรศวรเพราะบ้านเมืองในยุคนั้นไม่มีศึกสงครามกับต่างชาติมานานนับตั้งแต่พระนเรศวรเป็นต้นมา พระองค์ จึงสามารถออกเที่ยวแตร่ยิงนกตกปลา ต่อยมวยได้สบายพระทัย แม้บ้านเมืองจะมีปัญหาเรื่องชิงราชบ่อยครั้ง แต่ด้วยที่พระองค์ยังทรงตำแหน่งกรมพระราชวังบวร จึงยังไม่เคร่งเครียดมากนักก็เป็นได้ แต่ในหนังก็ให้นัยยะการออกเที่ยวเล่นของพระองค์อย่างมีความหมายที่เกี่ยวกับบ้านเมือง รวมถึงประเด็นเรื่องการที่พระองค์ทรงโปรดเสวยปลาอันเลื่องชื่อทางประวัติศาสตร์ด้วย
และ การที่ทหารหลวงอ่อนฝีมือมากจนทำให้ชาวบ้านแอบโจมตีได้บ่อยๆ เพราะอาจจะเกี่ยวพันกับการไม่มีสงครามด้วยกระมังจึงทำให้ทหารสู้ไม่เก่ง
เพลงน้ำตาแสงใต้ถูกใช้ถูกจังหวะ แค่ดนตรีคลอก็ทำให้เกิดอารมณ์เศร้าแบบเย็น ๆ ได้ตามที่ครูแจ๋ว สง่า อรัมภีร แต่งไว้ สุดท้ายไปจบฉบับร้องตอนหนังจบประทับใจ (ว่าง ๆ จะเขียนเรื่องเพลงน้ำตาแสงใต้ของครูแจ๋วให้อ่าน รับรองว่าขนลุก เพราะเกี่ยวพันกับผี!)
แม้จะเป็นหนังอิงประวัติศาสตร์แต่ไม่เครียดเลยแม้แต่น้อยเพราะมันเต็มไปด้วยความรักระหว่างสินกันนวล และมิตรภาพระหว่างพระเจ้าเสือกับสิน โดยเฉพาะช่วงที่พระเจ้าเสือปลอมพระองค์เป็นชาวบ้าน เที่ยวงานวัด ต่อยมวย กินเหล้า เป็นช่วงที่สนุกที่สุดของหนัง
เสียดายมากตรงที่บทหนังนั้นถูกเขียนขึ้นมาเพื่อทำละคร พอถูกปรับมาเป็นหนังที่มีความยาว 3 ชั่วโมงจึงดูขาด ๆ เกิน ไม่ค่อยลงตัว บางฉากตัดเร็วไป บางฉากยืดไป
บทสนทนาไม่เป็นทางการนัก ไม่เป็นแบบย้อนยุคนักทำให้ไม่น่ารำคาญเกินไปเหมือนหนังประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
บางฉากที่เป็นเทคนิคพิเศษทำได้ไม่ดีพอ ดูแล้วขัดตา
ฉากรัก ฉากซึ้ง โดยเฉพาะฉากเด่นตอนประหารชีวิต ผมว่ายังไม่ถึงอารมณ์ ทำได้แค่น้ำตาซึมเล็ก ๆ เท่านั้น
พันโทวันชนะเล่นเรื่องนี้ดีมาก ดูเป็นธรรมชาติ และพลิกบทบาทจริง ๆ พันดาวหรือมัดหมี่เล่นเป็นนวลได้ดี เล่นเก่งครับ ส่วนนักแสดงคนอื่นส่วนใหญ่เป็นทีมเดิมจากสุริโยทัยกับตำนานพระนเรศวร ซึ่งก็เล่นได้ตามมาตรฐาน ส่วนพระเอกที่เล่นเป็นพันท้ายนรสองห์ ผมว่ายังไม่ถึง
หนังพยายามแสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายโดยเฉพาะมณเฑียรบาลอันแสดงถึงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์อยุธยา สอนให้ผู้คนทุกระดับทุกชนชั้นเคารพกฎหมาย รวมถึงการป้องกันการคดโกงคอรัปชั่นของขุนนาง อันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้บ้านเมืองอ่อนแอ และเป็สาเหตุหลักเกี่ยวทัศนคติต่อองค์พระมหากษัตริย์อยุธยาตอนปลาย
สรุป พันท้ายนรสิงห์เป็นหนังที่ดูสนุก เหมาะสำหรับครอบครัวและไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
ภาพจาก movie.snook.com
SF แหลมทอง บางแสน 30-12-2558
พันท้ายนรสิงห์ ฉบับท่านมุ้ย สนุกเกินคาดแบบมีนัยยะสำคัญ (มีสอปยด์)
โดย วาทิน ศานติ์ สันติ 30/12/2558
* บทความนี้เป็นความเห็นตัว หากไม่ตรงใจใครหรือผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
เดิมทีไม่คิดว่าจะดูเพราะเบื่อหน่ายจากตำนานสมเด็จพระนเรศวร แต่พอดูแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดเลย
เส้นเรื่องโดยรวมยังยึดของบทพระนิพนธ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ภานุพันธุ์ยุคลที่ใช้ในละครเวทีคณะศิวารมณ์ ปี พ.ศ. 2488 แต่สำหรับผม ดูไปก็คิดถึงละครเวทีสมัยปิดโรงละครเฉลิมไทยในปี พ.ศ. 2532 ขึ้นมาทันทีจำได้ว่าฉากก่อนประหารชีวิตทำเอาน้ำตาไหลเลยทีเดียว
พันท้ายนรสิงห์ ฉบับท่านมุ้ย กับอาจารย์สุเนตร สนุกเกินคาดคิด มีมุกให้อมยิ้มไปจนขำมากมาย ทำให้ 3 ชั่วโมงไม่น่าเบื่อ? นี่คือจุดเด่นหรือเอกลักษณ์ของหนังเรื่องนี้
ทานมุ้ยชาญฉลาดมากที่เล่นกับภาพจำของพันโทวันชนะที่ดูเคร่งขรึมจากบทพระนเรศวร มาเล่นบทตลกพระเจ้าเสือ มันไม่คาดคิด มันผิดคาด เลยทำให้เราลืมภาพจำจากพระนเรศวรไปเลย
ดูเหมือนว่าท่านมุ้ยและอาจารย์สุเนตรต้องการจะสร้างภาพจำเกี่ยวกับพระเจ้าเสือใหม่ไม่ให้โหดร้ายตามที่ประวัติศาสตร์ไทยเคยเรียนหรือรับรู้มา รวมถึงการที่พันท้ายนรสิงห์คัดท้ายจนโขนเรือหักนั้นมีความหมายด้วย
ในความคิดผม ที่ทำให้พระเจ้าเสือเป็นคนไม่จริงจังดั่งนเรศวรเพราะบ้านเมืองในยุคนั้นไม่มีศึกสงครามกับต่างชาติมานานนับตั้งแต่พระนเรศวรเป็นต้นมา พระองค์ จึงสามารถออกเที่ยวแตร่ยิงนกตกปลา ต่อยมวยได้สบายพระทัย แม้บ้านเมืองจะมีปัญหาเรื่องชิงราชบ่อยครั้ง แต่ด้วยที่พระองค์ยังทรงตำแหน่งกรมพระราชวังบวร จึงยังไม่เคร่งเครียดมากนักก็เป็นได้ แต่ในหนังก็ให้นัยยะการออกเที่ยวเล่นของพระองค์อย่างมีความหมายที่เกี่ยวกับบ้านเมือง รวมถึงประเด็นเรื่องการที่พระองค์ทรงโปรดเสวยปลาอันเลื่องชื่อทางประวัติศาสตร์ด้วย
และ การที่ทหารหลวงอ่อนฝีมือมากจนทำให้ชาวบ้านแอบโจมตีได้บ่อยๆ เพราะอาจจะเกี่ยวพันกับการไม่มีสงครามด้วยกระมังจึงทำให้ทหารสู้ไม่เก่ง
เพลงน้ำตาแสงใต้ถูกใช้ถูกจังหวะ แค่ดนตรีคลอก็ทำให้เกิดอารมณ์เศร้าแบบเย็น ๆ ได้ตามที่ครูแจ๋ว สง่า อรัมภีร แต่งไว้ สุดท้ายไปจบฉบับร้องตอนหนังจบประทับใจ (ว่าง ๆ จะเขียนเรื่องเพลงน้ำตาแสงใต้ของครูแจ๋วให้อ่าน รับรองว่าขนลุก เพราะเกี่ยวพันกับผี!)
แม้จะเป็นหนังอิงประวัติศาสตร์แต่ไม่เครียดเลยแม้แต่น้อยเพราะมันเต็มไปด้วยความรักระหว่างสินกันนวล และมิตรภาพระหว่างพระเจ้าเสือกับสิน โดยเฉพาะช่วงที่พระเจ้าเสือปลอมพระองค์เป็นชาวบ้าน เที่ยวงานวัด ต่อยมวย กินเหล้า เป็นช่วงที่สนุกที่สุดของหนัง
เสียดายมากตรงที่บทหนังนั้นถูกเขียนขึ้นมาเพื่อทำละคร พอถูกปรับมาเป็นหนังที่มีความยาว 3 ชั่วโมงจึงดูขาด ๆ เกิน ไม่ค่อยลงตัว บางฉากตัดเร็วไป บางฉากยืดไป
บทสนทนาไม่เป็นทางการนัก ไม่เป็นแบบย้อนยุคนักทำให้ไม่น่ารำคาญเกินไปเหมือนหนังประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
บางฉากที่เป็นเทคนิคพิเศษทำได้ไม่ดีพอ ดูแล้วขัดตา
ฉากรัก ฉากซึ้ง โดยเฉพาะฉากเด่นตอนประหารชีวิต ผมว่ายังไม่ถึงอารมณ์ ทำได้แค่น้ำตาซึมเล็ก ๆ เท่านั้น
พันโทวันชนะเล่นเรื่องนี้ดีมาก ดูเป็นธรรมชาติ และพลิกบทบาทจริง ๆ พันดาวหรือมัดหมี่เล่นเป็นนวลได้ดี เล่นเก่งครับ ส่วนนักแสดงคนอื่นส่วนใหญ่เป็นทีมเดิมจากสุริโยทัยกับตำนานพระนเรศวร ซึ่งก็เล่นได้ตามมาตรฐาน ส่วนพระเอกที่เล่นเป็นพันท้ายนรสองห์ ผมว่ายังไม่ถึง
หนังพยายามแสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายโดยเฉพาะมณเฑียรบาลอันแสดงถึงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์อยุธยา สอนให้ผู้คนทุกระดับทุกชนชั้นเคารพกฎหมาย รวมถึงการป้องกันการคดโกงคอรัปชั่นของขุนนาง อันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้บ้านเมืองอ่อนแอ และเป็สาเหตุหลักเกี่ยวทัศนคติต่อองค์พระมหากษัตริย์อยุธยาตอนปลาย
สรุป พันท้ายนรสิงห์เป็นหนังที่ดูสนุก เหมาะสำหรับครอบครัวและไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
ภาพจาก movie.snook.com
SF แหลมทอง บางแสน 30-12-2558