[SR] พันท้ายนรสิงห์ - อารมณ์หนังพีคมาก ท่านมุ้ยฉีกแนวตัวเองหลายๆ อย่างจนน่าทึ่ง


ตั้งแต่มีข่าวว่าท่านมุ้ยกำลังสร้างละครเรื่องนี้อยู่ เน้นนะครับว่าเป็นละคร ตัวผมเองคิดว่า เฮ้ย ถ้าท่านมุ้ยสร้างละคร มันต้องเวอร์วังอลังการโคตรๆ แน่นอน เพราะท่านมุ้ยท่าชอบเน้นรายละเอียดแบบยิบย่อยเยอะอยู่แล้ว คงสมใจท่านแล้วล่ะ แต่พอมีข่าวว่าจากละครจะกลายเป็นหนังสามชั่วโมงแทน ผมกลับรู้สึกเปลี่ยนเป็นเฉยๆ และก็เห็นว่าหลายๆ คนปรามาสท่านไว้ว่า ท่านไม่คิดจะทำหนังแนวอื่นบ้างเหรองัย เพราะที่ผ่านมาหลังจาก "สุริโยทัย" ก็เป็น "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ซะ 10 ปี แล้วก็ต่อด้วยเรื่องนี้ จนกลายเป็นว่าหนังแนว period ย้อนยุคกลายเป็นจุดขายของท่านไปซะแล้ว ซึ่งต้องบอกตรงๆ ว่า "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ภาคหลังๆ ลดความขลังลงไปเยอะ เหมือนจะเอาให้แค่จบปิดตำนาน พอมีข่าวเรื่อง "พันท้ายนรสิงห์" ออกมา บวกกับชื่อนักแสดงอย่าง "ผู้พันเบิร์ด" และ "เต้ย พงศกร" (ซึ่งตอนนั้นยังไม่ดังจาก บางระจัน) ก็ทำให้หลายคนคิดว่า น่าจะเดิมๆ อีกนั่นแหละ


หนังเล่าเรื่องราวหลัง "สมเด็จพระนารายณ์มหาราช" เสด็จสวรรคต "พระเพทราชา" ได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา และทรงแต่งตั้ง "พระเจ้าเสือ" (ผู้พันเบิร์ด) ผู้เป็นพระราชโอรสบุญธรรมขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล  มีอำนาจหน้าที่ในการเก็บภาษีอากร แต่เพราะผู้ดำเนินการเก็บภาษีอย่าง "พระยาราชสงคราม" (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ชอบแอบอ้างชื่อพระเจ้าเสือในการรีดนาทาเร้นราษฎรจนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า เมื่อความทราบถึง พระเจ้าเสือ พระองค์จึงทรงปลอมเป็น "ทิดเดื่อ" ชาวบ้านต่างเมืองออกสืบความจริง ณ แขวงวิเศษชัยชาญ จนได้พบกับ ไอ้สิน (เต้ย พงศกร) และมีเหตุการณ์ให้ทั้งคู่นับถือน้ำใจและมองเห็นนิสัยใจคอที่แท้จริงของกันมากขึ้น จนถือสัตย์สาบานว่าจะเป็นมิตรแท้ที่ตายแทนกันได้ ด้วยคุณงามความดีที่ สิน ทำให้กับ ทิดเดื่อ อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ไม่รู้เลยว่าเพื่อนคนนี้แท้จริงคือกษัตริย์ เมื่อความจริงเปิดเผย พระเจ้าเสือ พระราชทานยศให้ สิน ขึ้นเป็น "พันท้ายนรสิงห์" มีหน้าที่ถือท้ายเรือพระที่นั่ง


เนื้อเรื่องไม่ได้ถูกบิดเบือนจากเค้าโครงเรื่องมากนัก แต่สิ่งที่น่าชื่นชมคือการที่ ท่านมุ้ย เรียงร้อยเรื่องราวออกมาได้อย่างสนุก หนังเล่าเรื่องราวความเป็นวัฒนธรรมของชาวบ้านในสมัยก่อนได้อย่างดี ทั้งๆ ที่หนังยาวเฉียดสามชั่วโมงไปนิดเดียว ซึ่งตอนแรกผมคิดว่าต้องมีช่วงที่ผมหลับ แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น หนังมีเรื่องราวเล่าให้ผมสามารถติดตามได้ตลอดเวลาโดยไม่เบื่อ ซึ่งตรงจุดนี้เป็นจุดที่แตกต่างจากสองเรื่องที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง หนังพาเราไปอินกับความสัมพันธ์ของตัวละครที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอย่างลึกซึ้ง เราจะได้รู้จักที่มาที่ไปของ สิน และ นวล ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรเค้าถึงรักกันขนาดนั้น หรือความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนตายของ สิน และ ทิดเดื่อ ซึ่งใน สุริโยทัย และ นเรศวร แทบจะไม่มีให้เห็น และผมได้ฟังสัมภาษณ์ของนักแสดง เล่าว่าท่านมุ้ยท่านถ่ายหนังเรื่องนี้แบบเรียงตามเนื้อเรื่องโดยไม่มีการข้ามไปถ่ายฉากอื่นก่อนเลย การเรียงร้อยหนังแบบนี้แหละที่ทำให้อารมณ์หนังมันค่อยๆ อินและพีคขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุด ซึ่งเราก็จะเห็นตรงนี้ได้ชัดเจนมากๆ จนถึงตอนท้ายที่จะมีการประหารพันท้าย เรียกได้ว่าน้ำตาแตกกันทั้งโรง (เคยเจอมั๊ยล่ะ หนังท่านมุ้ยทำคคนน้ำตาแตก)


เรื่องของโปรดักชั่นก็ยังคงเป็นจุดแข็งของหนังท่านมุ้ยอยู่ทุกเรื่อง เรียกได้ว่าหนังออกมายิ่งใหญ่สมกับเป็นหนังท่านมุ้ย โลเคชั่นต่างๆ สวยงามดูเพลินตา แต่ข้อเสียก็มีบ้างเล็กน้อย ตรงช่วงท้ายเรื่องที่ CG ดูไม่เนียน เห็นชัดเลยว่าถ่ายกับ Blue Screen ชัดเจนเกินไป แต่ถ้ามองข้ามจุดเล็กๆ นี้ไป ถือว่าหนังก็เยี่ยมเลยทีเดียว


มาถึงเรื่องนักแสดงละครับ เริ่มที่ "ผู้พันเบิร์ด" ก่อนเลย เป็นครั้งแรกที่ผมไม่รู้สึกซ้ำซากกับบทของผู้พัน หลังจากที่แกรับบทเป็น สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จนเป็นจุดขายไปแล้ว ตอนแรกที่เปิดตัวว่ารับบทเป็น พระเจ้าเสือ ผมคิดเลยว่าก็คงมาแนวเดิมๆ ดุๆ เข้มๆ แต่พอดูจริงๆ ผิดคาดครับ ผู้พันเบิร์ด เปลี่ยนลุคไปเลย กลายเป็น พระเจ้าแผ่นดินเจ้าสำราญไปซะอย่างนั้น แถมทำได้ดีซะด้วย บทเศร้าตอนท้ายเรื่องก็ทำได้ยอดเยี่ยม ซึ่งถ้าผู้พันไม่สามารถแสดงอารมณ์ออกมาต่อบทร่วมกับ เต้ย พงศกร ได้ หนังก็คงไปไม่สุดขนาดนี้ คนที่สองคือพระเอกของเรื่อง "เต้ย พงศกร" ตอนแรกผมไม่ได้ชอบอะไร เต้ย มากนัก เพราะใน บางระจัน ผมก็เฉยๆ นะ ไม่ได้ชอบอะไร แต่เรื่องนี้ทำให้ต้องมองใหม่ เพราะเต้ยเล่นเข้าถึงบทได้อย่างยอดเยี่ยม บทรัก บทบู๊ บทเศร้าดราม่า พลังมันออกมาจากเต้ย และต่อยอดไปถึงตัวละครอื่นได้อย่างยอดเยี่ยม คนที่สามคือ "มัดหมี่ พิมดาว" ช่วงฉากแรกๆ เฉยๆ นะ ดูไม่ได้มีออร่าอะไรมากมาย แต่ยิ่งหนังพาคนดูลึกลงไปเรื่อยๆ พลังของ มัดหมี่ ยิ่งเปล่งออกมามากขึ้นๆ ถึงแม้ว่าดูเผินๆ อาจจะไม่ได้มีเสน่ห์อะไร แต่ดูให้ลึกจะเห็นการแสดงที่เยี่ยมยอดเลยล่ะ อีกสองคนที่ผมชอบ "อาหนิง นิรุตติ์" และ "อาเอก สรพงษ์" สองคนนี้คือนักแสดงที่ผมชื่นชอบส่วนตัวอยู่แล้ว และเรื่องนี้ก็มีส่วนช่วยให้ความเข้มข้นของหนังมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ ซึ่งถ้าไม่ได้การแสดงของทั้งสองคนนี้ หนังอาจจะดร็อปลงก็เป็นได้

รวมๆ แล้วหนังเรื่องนี้ให้อะไรหลายๆ อย่างกับคนดูเยอะมากครับ ประวัติศาสตร์ ความรัก ดราม่า และมุมมองใหม่ๆ ที่จะทำให้เรามองหนังท่านมุ้ย มองผู้พันเบิร์ด มองเต้ย พงศกร เปลี่ยนไป หนังพาเราค่อยๆ ซึมซับอารมณ์จนถึงจุดพีคสูงสุด ใครใจไม่แข็ง น้ำตาแตกแน่นอน เรื่องนี้ขอแนะนำเลยครับว่า ต้องดู 177 นาทีไม่เสียเปล่าแน่นอนครับ

ขอบคุณรอบสื่อจาก Sahamongkolfilm International​ ครับ

พูดคุยเพิ่มเติมได้ครับ >>> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อสินค้า:   พันท้ายนรสิงห์
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่