สวัสดีค่ะ! ห่างหายการรีวิวมานานเลย วันนี้มารีวิวร้านอาหารญี่ปุ่นที่เก่าแก่ของกรุงเทพค่ะ ได้มีโอกาสไปทานคอร์ส omakase ของที่นี่มาแล้วชอบมากเลย
ข้อมูลทางร้านก็ตามนี้เลยค่ะ

จันทร์-อาทิตย์
11:00-14:00
17:00-22:00

มีห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นแบบเสื่อทาทามิ 11 ห้อง
ซูชิเคานเตอร์ 8 ที่นั่ง
เทปปันเคานเตอร์ 12 ที่นั่ง

161 Nantawan Bldg., BF.,
Rajadamri Rd., Lumpinee,
Patumwan, Bangkok 10330
Tel: +66(2) 252 9438, +66(2) 252 9459,+66(2) 252 9504
Fax: +66(2) 252 9386

เข้าไปในตึกนันทวันแล้วร้านจะอยู่ใต้ดินค่ะ

แนะนำว่าถ้าจะไปทานคอร์ส omakase ต้องโทรไปจองล่วงหน้านะคะ

เอาหล่ะค่ะ .. เราไปดูกันเลยว่า omakase ของที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง!





อ่ะ มาถึงก็วางหัวหอมสไลซ์กับสาหร่ายวากาเมะให้ทานเล่นจิ้มกับซอสพอนซึ (อย่าเพิ่งขมวดคิ้ววววว ของดีกำลังมานะ!)


แล้วก็ตามมาด้วยจานนี้ หน้าตาดูดีเลย เป็นเนื้อปลาบุรี (buri) ราดซอสพอนซึกับหัวไชเท้าฝน รสเปรี้ยวๆหวานๆ เนื้อปลาเนียนนุ่ม เข้ากันดี .. อ่ะ น้ำย่อยมาละ


ปลากินดาระ (gindara) ย่างมิโซะ หอม หวาน อร่อยมาก คือย่างได้เนื้อนุ่มพอดีจริงๆ มาแบบอุ่นๆเปลี่ยนฟีลเลย


มาเป็นโรลเลย ไหนกัดดูไส้หน่อยซิ


ปลาโทโรส่วนคาง (kama toro) ซึ่งจะรู้สึกว่ามีความมันและมีความหนึบๆกว่าปลาโอโทโร่ที่คุ้นเคยกัน ลายไขมันปลาจะละเอียดกว่าส่วนท้องอีกค่ะ กัดทีปลาทะลักออกมาเลย เป็นปลาสับๆ ทานกับข้าวหนึบๆ สาหร่ายที่พันมาก็ยังอุ่นๆและกรอบมาก หอมด้วย
ชอบมากกกกกกอันนี้




จานต่อมาก็ไข่ตุ๋นธรรมดาๆราดมาด้วยไข่ปลาแซลมอนและไข่หอยเม่นแหละ

แต่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

พอตักเข้าไปเท่านั้นแหละ
.
.
.
.
.


มันมี shirako ด้วย (อ่ะ อย่าเพิ่งทำหน้าเบ้นะ เปิดใจยอมรับหน่อยยยย ... มันคือสเปริมของปลาค้อดนั่นเอง)
ตัว shirako นั้นมีความมันๆ เหมือนทานครีมของคาโบนาร่าอย่างงั้นอ่ะ แต่เป็นกลิ่นทะเลๆ เวลาทานกับไข่ตุ๋นก็ทำให้ทุกอย่างมีความนุ่มละมุนไปหมด ทั้งความมัน เข้มข้นของไข่หอยเม่นเองก็ทำให้มีหลายรสชาติในคำเดียวเลย
ไข่ปลาแซลมอนก็กรอบๆแบบเปลือกมันเต่งตึงอ่ะ อร่อยมาก



อันนี้เป็นปลาคาวาฮางิ (kawahagi) ด้านล่างของชิ้นปลาเป็นตับของปลาตัวนี้แหละค่ะ บดๆและปรุงรสโดยเชฟ เนื้อปลานี่จะนุ่มๆหนึบๆ ทานคู่กับตับที่เนียน มันๆ ครีมมี่ ราวกับเป็นฟัวกราส์ของทะเลเลยทีเดียว เข้ากันมากๆ



คำต่อไปเป็นปลาซาโยริ (sayori) มาคู่กับต้นหอมสับ เนื้อปลานุ่มเนียนมาก กลิ่นต้นหอมนี่ฟุ้งเลย สดชื่นดีนะ เป็นคำที่รู้สึกคลีนๆ อร่อยไปอีกแบบค่ะ



baraccuda kamasu aburi อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจว่าคือปลาอะไรค่ะ (wikipedia บอกว่าอยู่ในวงศ์ปลาสาก) กลิ่นของการใช้ไฟรนๆนี่หอมมาก หนังปลากรอบนิดๆ เนื้อปลาก็ดึ๋งๆเลย


akami เนื้อแดงสวย ส่วนที่ลีนของปลาทูน่า เนื้อละเอียด หวานๆ เนื้อตึง


อันนี้เป็นส่วน chu toro ของปลาทูน่าค่ะ เป็นตัวระหว่าง akami กับ otoro รสชาติส่วนตัวชอบส่วนนี้ที่สุดค่ะ มันมันแต่ก็ไม่มันเกิน ละลายกำลังดี อันนี้มีความหอมของปลา เนื้อเนียนหวาน อร่อยมาก


nodoguro อันนี้เป็นปลาเนื้อขาวที่มีเนื้อรสออกมันๆนิดนึง เชฟรนไฟมาหน่อย หอมมาก ซอสที่มาด้วยกันก็มีความหวานที่เข้ากันดีค่ะ


kohada ดองมีรสเปรี้ยวๆ โรยด้วยเปลือกมะนาวขูด เป็นรสที่สดชื่นดีค่ะ แต่บางคนก็อาจจะคิดว่ากลิ่นคาวไป แต่สำหรับเราโอเคนะ


akagai (red clam) คิดว่าน่าจะเป็นหอยแครงญี่ปุ่นค่ะ กรอบๆนุ่มๆ แต่เราไม่ค่อยชอบ มันมีกลิ่นของหอยที่เราคิดว่าแรงไปหน่อย แต่เพื่อนๆที่ไปทานด้วยกันก็ชมว่าอร่อยมากอยู่


เชฟกำลังทำคำต่อไป. .
.
.
.
.
.
น่าทานมากกกก



ซูมๆๆ ลาย สี สวยเนอะ



ปลายมีมันกุ้งติดอยู่ด้วยย อันนี้กุ้งพันธ์ุคุรุมะ (kuruma ebi) เนื้อนุ่ม แน่น หวานมากก อันนี้ปรุงมาแบบสุก medium rare ข้างในตอนกัดยังเป็นกุ้งใสๆอยู่เลย อันนี้ชอบมากกกอีกเช่นกัน


ถ้วยนี้เป็นของเพื่อนที่แพ้กุ้งค่ะ เชฟก็ถามว่าชอบทานอะไรแล้วก็ทำถ้วยจิ๋วนี้มาให้ เห็นแล้วก็ตะกละอยากได้บ้าง 55


ปลาไหลทะเล anago เนื้อย่างมาได้นุ่มมาก แทบจะละลาย ส่วนซอสก็หวานๆทานกับข้าวอร่อยดี


ใกล้จบคอร์สแล้ว ซุปมิโซะแดงมาละ มีเผือกและเต้าหู้ทอดอยู่ข้างใน อุ่นๆจบมื้อก็ดีค่ะ


อันนี้สุดท้าย จบกันด้วยไข่หวานแบบ creme brulee ที่นุ่มมากๆๆๆ

มื้อนี้ตกคนละ 3500 กว่าบาทค่ะ
ถือว่าดีเลยทีเดียว อร่อยมากๆ

ยังไงก็หวังว่าจะชอบรีวิวการทาน omakase ครั้งนี้กันนะคะ
ไปละค่ะ

บายๆๆๆ


ป.ล. ถ้าชอบอาหารแนวๆนี้ ไปติดตาม instagram ได้ที่ littlebigtummy นะคะ