.
ประเทศไทย
ใช้คำภาษาบาลีที่มาจากศาสนาพุทธ
มาเปลี่ยนให้เป็นภาษาไทยอยู่มากมายหลายร้อยพันคำ
คำว่า รัตน ออกเสียงว่า รัดตะนะ ที่แปลว่า แก้ว
คำว่า ราช ออกเสียงว่า ราชะ ที่แปลว่า ราชา
...
ในปัจจุบันนี้ กี่ปีผ่านมาแล้วก็ไม่รู้
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิด
และทำให้ความงดงามทางภาษาของประเทศไทยหายไป
เช่นคำว่า รัตน
เคยอ่านว่า รัดตะนะ ก็เปลี่ยนไปอ่านว่า รัด
คำว่า ราช
ที่เคยอ่านว่า ราดชะ ก็เปลี่ยนไปอ่านว่า ราด
ทีคำว่า สกลมหาสังฆปรินายก
ยังอ่านไปตามเดิมว่า
สะกนมะหาสังคะปะรินายก ได้เลย
...
ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิด
และไปเปลี่ยนการออกเสียงของนักข่าวทางทีวี
จนทำให้ความงดงามทางภาษาไทยของเราหายไป
พอได้ฟังก็รู้สึกขัดหู
ไม่เหมือนของเก่าที่ฟังแล้วไพเราะมากน่าดู
อยากรู้จริง ๆ ว่าใครเป็นคนคิด
และไปเปลี่ยนการอ่านออกเสียงทำไม
มันสำคัญมากมายแค่ไหน
จึงได้ต้องไปเปลี่ยนภาษาไทยที่ไพเราะ
ให้กลายเป็นเหมือนเงาะที่มันไม่มีขน
เหมือนคนที่ถูกตัดแขนขา
เป็นภาษาที่ถูกตัดไปให้มันด้วน
เช่น จาก รัดตะนะ ไปอ่านว่า รัด
จาก ราดชะ ไปอ่านว่า ราด
เป็นต้น และอีกมากมาย ฯลฯ
# . ไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิดและเปลี่ยนไปทำให้ความงดงามทางภาษาของประเทศไทยในปัจจุบันได้หายไป ฟังแล้วไม่ค่อยลื่นหู
ประเทศไทย
ใช้คำภาษาบาลีที่มาจากศาสนาพุทธ
มาเปลี่ยนให้เป็นภาษาไทยอยู่มากมายหลายร้อยพันคำ
คำว่า รัตน ออกเสียงว่า รัดตะนะ ที่แปลว่า แก้ว
คำว่า ราช ออกเสียงว่า ราชะ ที่แปลว่า ราชา
...
ในปัจจุบันนี้ กี่ปีผ่านมาแล้วก็ไม่รู้
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิด
และทำให้ความงดงามทางภาษาของประเทศไทยหายไป
เช่นคำว่า รัตน
เคยอ่านว่า รัดตะนะ ก็เปลี่ยนไปอ่านว่า รัด
คำว่า ราช
ที่เคยอ่านว่า ราดชะ ก็เปลี่ยนไปอ่านว่า ราด
ทีคำว่า สกลมหาสังฆปรินายก
ยังอ่านไปตามเดิมว่า
สะกนมะหาสังคะปะรินายก ได้เลย
...
ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิด
และไปเปลี่ยนการออกเสียงของนักข่าวทางทีวี
จนทำให้ความงดงามทางภาษาไทยของเราหายไป
พอได้ฟังก็รู้สึกขัดหู
ไม่เหมือนของเก่าที่ฟังแล้วไพเราะมากน่าดู
อยากรู้จริง ๆ ว่าใครเป็นคนคิด
และไปเปลี่ยนการอ่านออกเสียงทำไม
มันสำคัญมากมายแค่ไหน
จึงได้ต้องไปเปลี่ยนภาษาไทยที่ไพเราะ
ให้กลายเป็นเหมือนเงาะที่มันไม่มีขน
เหมือนคนที่ถูกตัดแขนขา
เป็นภาษาที่ถูกตัดไปให้มันด้วน
เช่น จาก รัดตะนะ ไปอ่านว่า รัด
จาก ราดชะ ไปอ่านว่า ราด
เป็นต้น และอีกมากมาย ฯลฯ