และแล้วพรก.การประมง พศ. 2558 ก็ผ่านการอนุมัติของสนช. ให้มีผลบังคับใช้เป็นพรบ. จนได้ หวังว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องของประมงไทยที่เรื้อรังมาหลายสิบปีของรัฐบาลลุงตู่จะถูกใจทาง EU/USA ได้ซะที และจะได้เลิกกีดกันทางการค้าประเทศไทยได้ซะที
สนช.อนุมัติ พรก.ประมง
มติสนช.อนุมัติพรก.ประมง แก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเสียงข้างมาก 172 ต่อ 1 คะแนน อนุมัติให้พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 มีผลบังคับใช้เป็นพ.ร.บ. ทั้งนี้ พ.ร.ก.การประมงพ.ศ.2558 มีผลบังคับใช้เป็นพ.ร.บ
ทั้งนี้ พ.ร.ก.การประมงพ.ศ.2558 มีทั้งสิ้น 176 มาตรา โดยมีสาระสำคัญ คือ ให้มีคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีหน้าที่กำหนดนโยบายการพัฒนาประมงในน่านน้ำไทยให้สอดคล้องกับปริมาณของทรัพยากรสัตว์น้ำและขีดความสามารถในการทำประมง รวมไปถึงการส่งเสริมและแก้ไขปัญหาการประมงนอกน่านน้ำไทย
ขณะเดียวกัน ยังบัญญัติให้ก่อนนำเรือประมงออกจากท่าเทียบเรือประมง เจ้าของเรือ หรือผู้ควบคุมเรือต้องนำเอกสารเกี่ยวกับทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ ใบอนุญาตให้ทำการประมง จำนวนรายช่อและหนังสือคนประจำเรือ และหลักฐานเกี่ยวกับการจัดระบบความปลอดภัย สุขอนามัย และสวัสดิภาพในการทำงานของคนประจำเรือตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก นอกจากนี้ คนประจำเรือต้องมีหนังสือคนประจำเรือนตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย และในกรณีคนประจำเรือไม่มีสัญชาติไทย ต้องได้รับอนุญาตให้อยู่ราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองและต้องได้รับใบอนุญาตให้ทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสนช. อภิปรายว่า การควบคุมการทำประมงให้ถูกกฎหมายจะต้องได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน เช่น ตำรวจน้ำ กองทัพเรือ กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน เป็นต้น แต่ในพ.ร.ก.ได้กำหนดให้รมว.เกษตรและสหกรณ์เป็นรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่รักษาการตามพ.ร.ก.ฉบับนี้เพียงคนเดียว ซึ่งจะมีผลให้กรมประมงที่เป็นหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แบกรับภาระมากเกินไป
"ในยุคนี้การประสานงานและขอความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอาจมีประสิทธิภาพ แต่ในอนาคตอาจจะมั่นใจได้อย่างไรการประสานงานจะมีประสิทธิภาพเหมือนในปัจจุบัน" นพ.เจตน์ กล่าว
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า กฎหมายว่าด้วยการทำประมงของไทยในปัจจุบันยังไม่สามารถจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ไทยได้รับใบเหลืองจากหน่วยงานระหว่างประเทศ แม้ว่าก่อนหน้านี้สนช.จะเห็นชอบกับพ.ร.บ.การประมงพ.ศ.2558 ไปแล้ว แต่บทบัญญัติของพ.ร.บ.ยังไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ทำให้จำเป็นต้องออกพ.ร.ก.ฉบับนี้ออกมาเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้ทันกับสถานการณ์ ซึ่งหากประเทศไทยได้รับใบแดง จะทำให้การส่งออกสินค้าประมงไปยังสหภาพยุโรปของไทยได้รับผลกระทบและส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ในเรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก พร้อมกับได้ดำเนินการตั้งคณะทำงานพิเศษและนำข้อสังเกตุของสหภาพยุโรป (อียู) มาประมวลเพื่อนำไปสู่การแก้ไข ซึ่งเชื่อว่าจะเกิดการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ที่มา : โพสต์ทูเดย์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.posttoday.com/politic/405387
คลอดจนได้พรบ. การประมง 2558
มติสนช.อนุมัติพรก.ประมง แก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเสียงข้างมาก 172 ต่อ 1 คะแนน อนุมัติให้พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 มีผลบังคับใช้เป็นพ.ร.บ. ทั้งนี้ พ.ร.ก.การประมงพ.ศ.2558 มีผลบังคับใช้เป็นพ.ร.บ
ทั้งนี้ พ.ร.ก.การประมงพ.ศ.2558 มีทั้งสิ้น 176 มาตรา โดยมีสาระสำคัญ คือ ให้มีคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีหน้าที่กำหนดนโยบายการพัฒนาประมงในน่านน้ำไทยให้สอดคล้องกับปริมาณของทรัพยากรสัตว์น้ำและขีดความสามารถในการทำประมง รวมไปถึงการส่งเสริมและแก้ไขปัญหาการประมงนอกน่านน้ำไทย
ขณะเดียวกัน ยังบัญญัติให้ก่อนนำเรือประมงออกจากท่าเทียบเรือประมง เจ้าของเรือ หรือผู้ควบคุมเรือต้องนำเอกสารเกี่ยวกับทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ ใบอนุญาตให้ทำการประมง จำนวนรายช่อและหนังสือคนประจำเรือ และหลักฐานเกี่ยวกับการจัดระบบความปลอดภัย สุขอนามัย และสวัสดิภาพในการทำงานของคนประจำเรือตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก นอกจากนี้ คนประจำเรือต้องมีหนังสือคนประจำเรือนตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย และในกรณีคนประจำเรือไม่มีสัญชาติไทย ต้องได้รับอนุญาตให้อยู่ราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองและต้องได้รับใบอนุญาตให้ทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสนช. อภิปรายว่า การควบคุมการทำประมงให้ถูกกฎหมายจะต้องได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน เช่น ตำรวจน้ำ กองทัพเรือ กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน เป็นต้น แต่ในพ.ร.ก.ได้กำหนดให้รมว.เกษตรและสหกรณ์เป็นรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่รักษาการตามพ.ร.ก.ฉบับนี้เพียงคนเดียว ซึ่งจะมีผลให้กรมประมงที่เป็นหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แบกรับภาระมากเกินไป
"ในยุคนี้การประสานงานและขอความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอาจมีประสิทธิภาพ แต่ในอนาคตอาจจะมั่นใจได้อย่างไรการประสานงานจะมีประสิทธิภาพเหมือนในปัจจุบัน" นพ.เจตน์ กล่าว
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า กฎหมายว่าด้วยการทำประมงของไทยในปัจจุบันยังไม่สามารถจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ไทยได้รับใบเหลืองจากหน่วยงานระหว่างประเทศ แม้ว่าก่อนหน้านี้สนช.จะเห็นชอบกับพ.ร.บ.การประมงพ.ศ.2558 ไปแล้ว แต่บทบัญญัติของพ.ร.บ.ยังไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ทำให้จำเป็นต้องออกพ.ร.ก.ฉบับนี้ออกมาเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้ทันกับสถานการณ์ ซึ่งหากประเทศไทยได้รับใบแดง จะทำให้การส่งออกสินค้าประมงไปยังสหภาพยุโรปของไทยได้รับผลกระทบและส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ในเรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก พร้อมกับได้ดำเนินการตั้งคณะทำงานพิเศษและนำข้อสังเกตุของสหภาพยุโรป (อียู) มาประมวลเพื่อนำไปสู่การแก้ไข ซึ่งเชื่อว่าจะเกิดการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้