ผมใช้งาน uber มากว่า 250+ เที่ยว แล้วครับ ใช้มาตั้งแต่เดือนกุมภาฯ ปีที่แล้ว เพราะเบื่อหน่ายกับการโดน taxi ปฏิเสธ แต่หลังจากนี้คงต้องขอลาขาดกับ uber แล้วหล่ะครับ เนื่องจากเหตุผลเรื่องความปลอดภัย และความใส่ใจในการดูแลลูกค้าของทาง uber

     เรื่องคือเมื่อวานที่ผ่านมาได้เรียก uber แล้วรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย เพราะรถติดแล้ว uber ไม่อยากขับเข้ามารับ (แต่โทรมาแจ้งหลังจากเรียกไป 5 นาทีแล้ว สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ uber ถ้าเรียกไปแล้วเกิน 5 นาทีแล้วลูกค้ากด cancel ลูกค้าจะเสีย cancellation fee) จึงขอให้ผมกด cancel ให้ (ถ้าคนขับ uber กด cancel เองทางบริษัทน่าจะมีการตัดแต้ม หรือหักเงิน อันนี้ไม่แน่ใจเพราะในทางทฤษฎีคนขับ uber ไม่สามารถปฏิเสธผู้โดยสารได้) แต่ผมไม่ยอม ผมจึงบอกให้เค้ากดเอง แต่เค้าก็ไม่ยอมกด cancel จะให้ผมกดให้ได้ ผมจึงตัดสายไป แล้วใช้อีกเครื่องนึงกดเรียก uber คันอื่นแทน (สุดท้ายเค้าก็ต้องกด cancel เอง)

        หลังจากนั้นผมจึงได้แจ้งไปทาง e-mail ของ uber support ใจความว่า "อยากขอให้ block ไม่ให้เรียกเจอ uber คันนี้อีกเพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง" (เนื้อความจริงๆยาวกว่านี้แต่ส่วนใหญ่เป็นการเล่าเรื่อง)

    ทาง uber ได้ตอบกลับมา ได้ใจความว่า "เพื่อเป็นการให้ความมั่นใจในการใช้บริการ Uber ครั้งต่อ ๆ ไป ทางเราได้ทำการยกเลิกการเชื่อมต่อระหว่างคุณ xxxx กับคนขับท่านนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ" เรื่องก็น่าจะจบที่ตรงนี้ใช่ไหมครับ

    แต่แล้ว วันนี้ก็ดันมาเจอ jackpot ... ผมกดเรียก uber ให้มารับแฟนกลับบ้านเหมือนเมื่อวาน แต่ดันมาเจอ uber คันเดิมกับที่เมื่อวานพึ่งจะขอร้องให้ uber block ไปเพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย



ทำไมฝ่าย support ของ uber ถึงได้ทำแบบนี้ครับ รับปากส่งๆ แต่ไม่แก้ปัญหาให้ หรือว่าไม่คิดว่าผมจะเรียกได้คันเดิม หรือหวังว่ารถ uber มันเยอะซะจนไม่สามารถกดหาแล้วเจอคันเดิมได้ เลยปล่อยๆไป

ย่อ : เรียก uber แต่รู้สึกไม่ปลอดภัย > แจ้งไปยังฝ่าย support ไม่ให้เรียกเจอคันนี้อีก > uber ตอบกลับมาว่า ok blockไปแล้ว > วันต่อมาเรียก ดันมาเจอคันเดิม

(ผมยืม id คนอื่นมาตั้งกระทู้นะครับ)