"ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนครูมาสอน เราต้องเรียนรู้"
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน พรหมบุรี สิงห์บุรี

เราต้งใจไปปฏบัติ 3 วัน 27-29 พ.ย. ตรงกับวันศุกร์-อาทิตย์ ไปคนเดียว
เราเดินทางไปขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัย 2 ชม. ก็ถึงวัด
เดี๋ยวนี้รถตู้จะจอดหน้าซอยเข้าวัด
ต้องต่อวินไปอีก 15 บาท
ค่ารถตู้ 100 บาท บอกว่าลงวัดอัมพวัน
คิวรถจอดอยู่ตรงข้างห้างเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัย

ปกติเป็นคนที่ตัดสินใจแบบอยากทำทำเลย ไม่ได้คิดอะไรล่วงหน้า
ทุกเรื่องนะ ทั้งเรื่องที่เป็นสาระ และไม่เป็นสาระ
แต่เรื่องการเดินทางไปปฏิบัติที่วัดนี้ ตั้งใจไว้นานมาก
มีโอกาส มีเวลา มีกำลังกายและปัจจัย ก็ไปทันที
คราวนี้เราไปรอบที่ 3 แล้ว (ไปปฏิบัติ 3 วัน มา 3 รอบ)

ท้องฟ้าแจ่มใสมาก เหมาะแก่การเดินทางไปปฏิบัติธรรม (คิดไปเอง)
เราไปไม่ทันกราบหลวงพ่อนะ เพราะกว่าจะไปถึงหลวงพ่อก็กลับขึ้นกุฏิแล้ว
คิดเอาไว้ว่า วันที่ 3 ลาศีลแล้วค่อยมากราบก็ได้..
ที่สายเพราะกว่าจะตื่น กว่าจะทำงานบ้านเสร็จ กว่าจะได้ออกมา


วันแรก ศ. 27 พ.ย.
ถึงที่วัดประมาณบ่าย 2 โมงกว่า เดินเลยมากินข้าวที่โรงอาหาร
แล้วเข้าไปกราบพระพุทธรูปในกุฏิหลวงพ่อ
ไม่ได้กราบต่อหน้าท่าน ก็ตั้งจิตระลึกถึงท่าน
เอาปัจจัยใส่ตู้บริจาคเป็นค่าข้าวสาร
ไปลงทะเบียน รับชุดขาว 2 ชุด เข็มขัด และขันน้ำ
เข้าที่พักตามสถานที่ที่เขียนไว้ในบัตรประจำตัว

เจ้าหน้าที่แจ้งว่า 4 โมงเย็น ให้อาบน้ำเปลี่ยนชุดขาว
5 โมงเย็นไปรอรับศีล 8 และกรรมฐาน เค้ากำชับว่าเมื่อเปลี่ยนชุดขาวแล้ว
ต้องรักษาศีล 8 ทันที ถึงแม้จะยังไม่ได้รับศีลก็ตาม

เราดูเวลาแล้ว ยังมีเวลาอีกนิดหน่อย เก็บของแล้วเดินไปดูแม่น้ำ
กลับเข้ามาไหว้พระบรมรูป ร.๕ แล้วไปไหว้สมเด็จโต สวดชินบัญชร
บริจาคปัจจัยเข้ามูลนิธิสมเด็จโตสำหรับไว้เป็นค่าใช้จ่ายให้กับพระภิกษุในวัด
4 โมง ก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดขาว รอรับศีลและรับกรรมฐาน
เข้าปฏิบัติกรรมฐานรอบที่ 1 ตั้งแต่ 6 โมง เย็นถึง ประมาณ 3 ทุ่ม


วันที่ 2 ส. 28 พ.ย.
ตื่น ตี 3 อาบน้ำ
ไปศาลาเริ่มปฏิบัติกรรมฐานรอบที่ 2 ตั้งแต่ ตี 4 - 6 โมงเช้า
ก่อนปฏิบัติแต่ละรอบจะสวดมนต์กราบพระ และพระอาจารย์จะตอบคำถามเล็กน้อย
6 โมงครึ่ง กินมื้อเช้า
เข้าปฏิบัติกรรมฐานรอบที่ 3 เวลา 8 โมงเช้า - 11 โมง
11 โมงครึ่ง กินมื้อเที่ยง
ทุกครั้งก่อนกินข้าว ต้องสวดมนต์ตั้งจิตถวายข้าวพระพุทธ
ลาข้าวแล้ว ก็ให้พรผู้บริจาคและบริการ
หลังกินข้าวเสร็จก็ช่วยกันเก็บล้างภาชนะ
รอเข้าปฏิบัติกรรมฐานรอบที่ 4 เวลา บ่ายโมง - 4 โมงเย็น
รอบนี้ง่วงจนนั่งสัปหงก ซื้อกาแฟร้อนกิน นี่ขนาดยังไม่เข้ากรรมฐานนะ


ตามนั้นเลยเดินก็ไม่ง่วง นั่งไปแรก ๆ ก็ไม่ง่วง คิดไปว่ากาแฟช่วยได้
แล้วก็คิดไปว่ากินกาแฟแล้ว ไม่ง่วงแล้วก็ไม่ได้ฝึกตนตอนง่วงน่ะสิ
เสียโอกาสแล้ว (คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย)
แต่แล้วหัวมันก็หนัก โยกไปโยกมา ง่วงจ้า ง่วงจริงจัง
เอ้าได้เวลาฝึกกำหนดแล้ว ง่วงหนอ ง่วงหนอ ง่วงหนอ
หลับสัปหงกหน้าเกือบทิ่ม

แต่ง่วงหนอ นี่ยังไม่หนักหนาเท่าปวดหนอนะ
ปวดแขนมากตอนเดิน และปวดขามากตอนนั่ง แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนท่า
เพราะพระอาจารย์ให้กำหนดตามที่เป็นจริง กำหนดจนกว่าจะหาย
หายแล้วเลิกกำหนด ไม่ได้ให้เปลี่ยนท่า แต่ว่ามันไม่หายเลย


เวลาพักก็ออกมาเดินยืดเส้นยืดสาย และฝึกกำหนดอิริยาบถย่อยต่าง ๆ
กวาดพื้นตรงลานช้างนิดหน่อย ก็ไปอาบน้ำแล้วก็ดื่มน้ำปานะ
รอเข้าปฏิบัติกรรมฐานรอบที่ 5 เวลา  6 โมงเย็น - 3 ทุ่มครึ่ง

ที่วัดอัมพวัน จะให้มาเรียนวิปัสนากรรมฐานได้
3 วัน คือ เข้าวันศุกร์ ออกวันอาทิตย์
7 วัน คือ เข้าวันโกนนี้ แล้วออกวันโกนหรือวันพระหน้า
แต่ถาม ๆ ผู้ที่มาปฏิบัติ ที่มาบ่อยก็จะเลือกเอาวันที่สะดวก
ไม่ได้มาตรงตามกำหนด 3 วัน หรือ 7 วัน (จะอยู่ได้เต็มที่ไม่เกิน 15 วัน)
ส่วนผู้ชายสนใจจะมาอุปสมบทที่วัดนี้ จะต้องมาอยู่วัด เรียนวิปัสนากรรมฐานก่อน 7 วัน
และฝึกท่องคำขานนาค อุปสมบทหมู่ก็มีนะ จัดทุกปีช่วงก่อนวันพ่อนี่แหละ

วันที่ 3 อา. 29 พ.ย.
ตี 3 ครึ่ง ตื่นอาบน้ำ เกือบไม่ทันแน่ะ เพราะเมื่อคืนกินยาแก้แพ้+ยาแก้ปวด
หลับสบาย ไม่ได้กำหนดเลยตื่นสาย ตื่นมาในท่านอนหงายกางขา
เรานอนกรนแน่ ๆ ขออภัยเพื่อนผู้ปฏิบัติที่นอนข้าง ๆ ด้วยนะคะ
(เมื่อคืนก่อนกำหนดตอนนอน และนอนตะแคงเรียบร้อย)

ตี 4 ทำวัตรเช้า+รับศีล 5 แต่อย่างที่บอกไว้ว่าชุดขาวที่ใส่
หากยังไม่เปลี่ยนก็ต้องรักษา ศีล 8 อยู่ก่อน
ทำวัตร รับศีล 5 และขอขมาแล้ว
ก็ปฏิบัติกรรมฐานรอบที่ 6 เวลา  ตี 5 - 6 โมงเช้า
รอบสุดท้ายของการมาปฏิบัติ 3 วันนี้ ใช้เวลาเดินแค่ครึ่ง ชม. นั่งอีกครึ่ง ชม.
เวทนาก็เกิดอยู่เหมือนเดิม

6 โมงเช้า กินข้าวเช้าแล้ว ก็ไปอาบน้ำ
หลังอาบน้ำก็เอาชุดขาวและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปคืน
ทำบุญปัจจัยค่าน้ำยาซักผ้าไปด้วย

8 โมงเช้า เราจะกลับแล้ว เดินวนอยู่หน้ากุฏิหลวงพ่ออยู่ 2 รอบ
จะรอกราบท่านดีหรือจะกลับเลยนะ..ตัดสินใจกลับเลยดีกว่า
ก็เข้าไปกราบพระพุทธรูปในกุฏิหลวงพ่อ ตั้งใจว่ากลับไปปฏิบัติให้มาก
น่าจะดีกว่ามารอกราบท่าน (บอกกับตัวเอง)
แต่ก่อนกลับก็อยากได้รูปภาพหลวงพ่อสักใบ
เดินวนไปดูที่ร้านหนังสือข้างกุฏิหลวงพ่อรอบนึง
เห็นรูปหลวงพ่อเข้ากรอบแขวนอยู่หลายแบบแต่เราก็ไม่ได้ถามราคา
เดินออกมาหาซื้อของฝากเลย

เราได้เห็นถุงข้าวเกรียบปลาช่อนแบบมีหูหิ้วตั้งแต่เมื่อวาน
วันนี้ก็ตั้งใจเดินหาเลย จะซื้อถุงแบบเดียวกับที่เห็นเมื่อวานนี้
แปบเดียวก็เจอร้านหน้าโรงอาหาร ป้าแกขายถุงละ 30 บาท
ซื้อ 3 ถุง แกถามว่าเราเอารถมาไหม บอกว่าไม่ได้มารถส่วนตัว
ต้องขึ้นรถตู้กลับ แกก็ไปหาถุงใหญ่มาใส่ให้
เลยอุดหนุนลูกเดือยกรอบมาอีก 5 ซอง
และตัดสินใจถามป้าไปว่า
หนูจะซื้อภาพหลวงพ่อได้ที่ร้านไหนคะ?
ป้าคิดนิดนึง และบอกว่า
"เดี๋ยวป้าขอไปดูให้ก่อนว่ายังมีอยู่ไหม
ถ้าเป็นในร้านเขาก็จะมีให้เช่า ไม่มีแจก
รอก่อนนะป้าไปดูของป้าก่อน"
เราก็ อ่อ เอ่อ เอ่อ แล้วป้าก็ไป ..5 นาทีป้ากลับมา
ภาพเปื้อนฝุ่นเล็กน้อย แกบอกว่าเอาไปเข้ากรอบนะ
สวดมนต์ทุกวัน อิติปิโสเท่าอายุ+1 จะได้สร้างสมบารมี
ป้าบอกว่าภาพนี้หลวงพ่อท่านยิ้มมีเมตตามาก
คือเราดีใจมาก ขอบคุณป้าแล้วขอบคุณอีก
ดีใจเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลย ขอบคุณอีกครั้งนะคะป้า

.
ภาพถ่ายจากกล้องมือถือ Oppo Mirror 3 นะรอบนี้
ไม่มีแต่งเพิ่ม รีไซส์ใน Photoshop อย่างเดียว
ถ่ายตอนใส่ชุดปกติเป็นบรรยากาศรอบ ๆ วัด
(ตอนอยู่ชุดขาวไม่ได้ถ่ายภาพเลย ปฏิบัติอย่างเดียว)
.

.
นั่งวิน>แทกซี่>บีทีเอส>รถตู้>นั่งวิน



.
รถตู้จอดเติมแก๊ส เราก็จะรู้ว่าใกล้ถึงแล้ว ไม่เกินอึดใจ



.
ไม่ทันกราบหลวงพ่อแล้ว เลยไปกินข้าว>ลงทะเบียน>เข้าที่พัก>ถ่ายภาพ











.
กุฏิหลวงพ่อ ป้ายคำสอน ป้ายสูตรยา และบรรยากาศรอบ ๆ วัด















.
เข้ารับศีล 8 และกรรมฐาน เย็นวันศุกร์ ออกเช้าวันอาทิตย์
อาบน้ำ เปลี่ยนชุด คืนของแล้วแวะซื้อของฝาก
และถ่ายเก็บบรรยากาศตามเวลาที่เหลือ
.







.
ขอบพระคุณทุกท่านมากนะคะ