ถึงแม้จะมีคนรีวิวที่นี่ไว้เยอะแล้ว แต่ยังไงผมขอรีวิวซ้ำอีกซักทีนะครับ............ เป็นการรีวิวตามความรู้สึกจากประสบการณ์ที่ได้รับนะครับ อาจจะไม่ตรงกับความคิดเห็นท่านอื่นๆแต่ขอยืนยันว่าที่พบมาเป็นแบบนี้จริงๆ

เนื่องด้วยวันก่อนได้เห็นรีวิวหนีรักไปมัลดีฟส์คนเดียวของเพื่อนท่านนึงในนี้ ทำให้เกิดอาการอยากพาแฟนหนีงานไปเที่ยวบ้าง... ครั้นจะไปมัลดีฟส์ก็โดดงานไปหลายๆวันไม่ได้ (จริงๆตังค์ไม่พอ )  ก็เลยมาจบที่มุติมายาเขาใหญ่แทน ครั้งนี้เป็นการมาเยือนเป็นครั้งที่สองแล้ว จริงๆก่อนนี้ก็มาส่วนที่เป็นครีรีมายาบ่อยๆ สมัยวัยรุ่น เอาเป็นว่ามาดูรูปกันเลยดีกว่าเดี๋ยวจะยาว



การเดินทางง่ายมากครับ ขับตรงยาวๆจากวิภาวดี-รังสิตมาเลย แต่ผมเลือกที่จะกลับรถไปเข้าตรง เดลี่โฮม เพื่อแวะทานอาหารที่ร้านเป็นลาว ร้านดังของเขาใหญ่ (แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาก แหะๆ) พอทานเสร็จก็เข้ามายังรั้วของ มุติมายา เลี้ยวๆเข้ามาเรื่อยๆ



เข้าไปลึกประมาณนึงจนคิดว่าคงหลงแน่ๆแต่ก็ขอให้ทุกท่านยังตรงต่อไปจนเห็นป้ายนี้



จึงโล่งใจว่าไม่หลง... มันลึกมากจริงๆนะผมว่า



จอดรถตรงหน้า front ได้เลย จะมีพนักงานมานำรถไปจอดให้ ส่วนเราก็เดินเข้าไปบอกชื่อที่จองไว้กับพนักงานด้านใน


(Lobby ดูโอ่งโถงโล่งๆดี)

ทริปนี้ผมทำการจองผ่าน owner หรือเจ้าของ villa โดยตรง ซึ่งหามาจากในเน็ต ราคาก็อยู่ประมาณคืนละ 8,000 บาท ซึ่งถือว่าโอเคกว่าซื้อจากที่อื่นๆ



พอ check in เสร็จก็ไม่รอช้า เข้าไปที่พักกันเลย... ทุกหลังหน้าตาเหมือนกันหมด ถ้าเดินหาเองคงหลงแน่นอนครับ แต่ไม่ต้องห่วงเค้ามีรถกอลฟ์มาส่งให้ถึงห้อง น้องพนักงานบริการดีมากๆ



เปิดประตูเข้ามาแว่บแรก ไอเย็นกระทบกับตัวแล้วรู้สึกดีมากๆหลังจากเจออากาศที่ร้อนจัดข้างนอก จุดเล็กๆแค่นี้ก็ทำให้ประทับใจได้แล้วนะผมว่า มันหมายถึงความใส่ใจ บางที่ไปถึงเข้าห้องไปต้องรอให้เย็นอีก



จัดการวางของเรียบร้อยแล้วเดินสำรวจห้องซักหน่อย ข้างนอกเป็นโซนทีวีกับโซฟา(?) ที่ตัวใหญ่กว่าเตียงในห้องนอนอีก ชิวๆดูทีวีสบายๆ



เข้ามาดูในห้องนอนกันบ้าง สวยงามเรียบง่าย... ชอบเจ้าเก้าอี้โยกตัวข้างนอกมากๆ โยกไปดูวิวไป




สระว่ายน้ำ ไม่ใหญ่เท่าไหร่ ถีบขาทีเดียวก็ถึงอีกฝั่งละ แต่นั่นแหละ เป้าหมายเราไม่ได้ว่าซ้อมว่ายน้ำแข่งโอลิมปิค เน้นไปที่นอนแช่ลอยอืดและเล่นสาดน้ำกันสวีทๆมุ้งมิ้งๆมากกว่า เพราะฉนั้นสระแค่นี้ก็เหลือเฟือ เพราะสำคัญที่บรรยากาศมากกว่า



เขียวฉอุ่มดีมากๆ ถ้าไม่ร้อนนี่จะดีสุดๆ



(สวยยันเสา)

การออกแบบที่นี่ถือว่าลงตัวมากๆ ดูไม่ขัดกับธรรมชาติเท่าไหร่นัก แต่ขอตินิดนึง โซน ATTA (อัตตา) ที่สร้างใหม่ ไม่ชอบเลย รู้สึกไม่กลมกลืนกับธรรมชาติ



หลังจากลงเล่นน้ำกันเรียบร้อย ก็หิวเป็นธรรมดา แต่ขี้เกียจออกไปทานข้างนอกเลยลองร้านอาหารอิตาเลี่ยนของทางรีสอร์ทซักหน่อย




แอบสะอึกกับราคานิดนึงเหมือนกัน แต่เอาน่ามาเที่ยวทั้งที กินของอร่อยซักหน่อย เลยลองสั่งมา 3 อย่าง





ระหว่างรอก็นั่งชมวิวและทานขนมปังเล่นๆรอ (ขออภัยรูปไม่ชัด เนื่องจากหิวจนมือสั่น )



จานนี้เป็น Alaskan Salmon (790฿) แพงจุง รสชาติกลางๆ ไม่มีไรน่าจดจำ



ตามมาด้วย Penne Pomodoro (300฿)... เปรี้ยวโดดมากๆขาดความกลมกล่อมจนต้องใส่เกลือเพิ่มไปพอสมควรเลย



ปิดท้ายด้วย Pizza Paradise (400฿) อันนี้เค็มมาเลย -  -" สรุป 3 จานไม่ผ่านซักจาน



กลับมาดูวิวสวยๆที่ห้องแล้วเข้านอนแต่หัวค่ำ

เช้าขึ้นมาก็ขี้เกียจออกจากห้องเลยขอเรียกใช้บริการ in room breakfast ซะหน่อย (คิดเพิ่มหัวละ 200฿)



ได้ผลไม้กับขนมปังรวมๆจานใหญ่มาอย่างละจาน กับ American breakfast ตามมาตรฐาน




จานนึงเป็น sunny side up กับอีกจานเป็น omlet และเครื่องเคียงจะมีไส้กรอกหมูกับไก่อย่างละชิ้น เบคอน มันฝรั่งอบ และมะเขือเทศย่าง
โดยรวมๆอร่อยนะครับ แต่รู้สึกว่าให้น้อยไปนิดนึงแหะๆ
หลังจากนั้นก็ออกไปทานอาหารร้านครัวเขาใหญ่ ร้านดังอีกร้านของเขาใหญ่ อาหารอร่อยดี แต่รู้สึกน้ำมันเยอะไปนิดนึง... และหิวมากจนลืมถ่ายรูปมา

กลับมาชิวๆต่อที่ห้อง นอนกลิ้งเล่นสบายๆ



พอตอนเย็นโทรไปสั่ง room service แต่อยากทานข้าวผัดหมูง่ายๆกับข้าวต้มปลา... พนักงานตอบมาว่า ที่มุติมายาของเรามีแต่อาหาร "อิท๊าเลี่ยน" ค่ะ (ลองทำเสียงตามนะครับ 55) ซึ่งผมก็ตอบกลับไปว่าเพราะ อิท๊าเลี่ยน ของคุณทำผมเลี่ยนมาถึงวันนี้ ยังไงให้สั่งจากทางคีรีมายาให้หน่อย ซึ่งน้องพนักงานก็น่ารักนะครับ ตอบว่าใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง... ซึ่งยอมที่จะรอครับ




ชมวิวสวยๆไปได้ไม่ถึงชั่วโมงก็มีเสียงกริ่งดังที่หน้าประตู อาหารได้เร็วกว่าที่คิดไว้เยอะเลยดีจัง... มาลองชิมกันดีกว่า



จานแรก ข้าวผัดหมูไข่ดาว ผมให้ใส่ผักคะน้าลงไปด้วยเพราะอยากทานข้าวผัดบ้านๆ... อร่อยดีทีเดียว ไม่ผิดหวังๆ



ส่วนชามนี้เป็นข้าวต้มปลากระพงของกระต่ายน้อย... อร่อยมากๆครับ ใครไปอย่าลืมสั่ง อร่อยจนอยากแย่งเลยแหละ 555 รู้งี้สั่งครัวไทยที่คีรีมายาตั้งแต่คืนแรกก็ดี



ส่วนอันนี้เป็นไฮไลท์ของคืน ชอบมากๆฟองเยอะๆนอนแช่กัน ฟินเฟ่อร์

เช้าวันอาทิตย์ ต้องกลับแล้ว ยังไม่อยากกลับเลย วันนี้ขอลองไปดูไลน์บุฟเฟ่ต์หน่อยซิว่าเป็นไงบ้าง (แต่ไม่ได้ถ่ายไลน์มา)



จัดเต็มครับ ไม่อยากบอกเลยว่ามีอะไรบ้าง เพราะมันเยอะมากกกกก คร่าวๆละกัน ซ้ายบนก้อนสี่เหลี่ยมๆจะเป็น French Toast ราดน้ำผึ้ง ใช้ได้นะ ตัวขนมปังเป็น wholewheat เลยรู้สึกอ้วนน้อยลงนิดนึง (หราาาาา) แล้วก็มี baked beans ไส้กรอกหมูและไก่ ส่วนขาวๆกลมๆตรงกลางเป็นชีสสด จืดๆแต่อร่อยดี
แต่ที่อยากนำเสนอคือนี่เลยยยยยย!!!




Muesli ใส่ผลไม้สดแบบบลูเบอรรี่ ราสเบอร์รี่ สตอเบอร์รี่ ทุกอย่างใช้ของสด และอร่อยมากๆ Healthy สุดๆ คลีนมากๆ​ (กินเกลี้ยงไม่เหลือ)

ทานเสร็จก็เตรียมตัวกลับเข้าไปเจอรถติดๆที่กรุงเทพฯอีกรอบ ขอรูปสุดท้ายของมุติไว้หน่อย เป็นวิลล่าหลังที่พัก



ดูนิ่งๆสงบๆกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมมากๆ

ส่วนขากลับก็แน่นอนว่าจะไม่พลาดหาของอร่อยกิน... ตามสโลแกน เรื่องกินเราจริงจัง!!! ของคุณชายถนัดหมี
ร้านที่แวะก็คือ ข้าวหมกไฮโซ ซึ่งจะอยู่ในรีสอร์ทของนาคนาวาฟาร์ม ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องข้าวหมกไก่มากๆอยากให้ทุกคนได้ลองกันนะครับ ผมว่าอร่อยมากๆ




เมนูอาหารครับ ชอบตรงที่แถมชามิ้นท์ฟรีนี่แหละ เพราะเป็นคนชอบมิ้นท์อยู่แล้วด้วย



เห็นอย่างนี้จริงๆแล้วร้อนมากนะครับ ตอนจับถ้าไม่ใช้ผ้าที่เค้ามีมาให้แล้วล่ะก็ มีมือพองแน่นอน



ส่วนอาหารผมกับแฟนสั่งเป็นข้าวหมกไก่มาเหมือนกัน ชอบมากๆตรงที่ให้มาเป็นสะโพกเลย เพราะส่วนใหญ่จะเจอแต่ให้เป็นน่อง
แล้วก็สั่งซุปไก่แบบไม่ใส่พริกมา เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดแต่กลมกล่อมอร่อยมากๆครับ แล้วข้าวหมกก็เสริฟมาพร้อมกับผักดอง อร่อยดีทีเดียวครับ



หมกไก่ 120฿ ราคาไฮโซสมชื่อครับ แต่ผมว่าคุ้มนะ มาเป็นสะโพกชิ้นใหญ่ๆ แถมผักดองอีกจาน

หมดแล้วครับสำหรับทริปหนีงานคราวนี้ เป็นไงบ้างครับ มีคำติชมแนะนำได้นะครับ ผมอยากเอาประสบการณ์ที่ได้รับมาแชร์ให้ทุกท่านได้ทราบกันเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเดินทางครั้งต่อๆไป... ขอย้ำอีกครั้งว่าการรีวิวครั้งนี้ ใช้อารมณ์ล้วนๆ ถ้าตรงไหนผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่องไป ขออภัยด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ