เศรษฐกิจดีไม่ดีต้องดูที่
1.GDP ว่ามันมากขึ้นหรือลดลงเทียบกับปีที่แล้วกี่% (หรืออาจจะเทียบหลายปี หลายแบบ )
ส่วนประกอบของ GDP มี4ส่วน คือ
- การลงทุนภาครัฐ ดูได้ที่
http://www2.bot.or.th/statistics/ReportPage.aspx?reportID=701&language=th
-การลงทุนภาคเอกชน
-การใช้จ่ายภาคเอกชน (การใช้จ่ายบริโภคนั่นแหละ) <<<<< มากที่สุด
+ คนใช้จ่ายกันรึเปล่า ดูจาก VAT และภาษีการบริโภคต่างๆ ได้ที่
http://www.rd.go.th/publish/22590.0.html
+ การจะกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเน้นไปที่การบริโภคนี้เป็นหลัก เพราะมีสัดส่วนถึง 53%
-มูลค่าส่งออก-นำเข้า
• ทั้งหมดดูได้ที่
http://www.nesdb.go.th/ <<<<< เป็นตาราง ดูง่าย
• ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.bot.or.th/Thai/Statistics/Indicators/Pages/default.aspx
2.อัตตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราแลกเปลี่ยน
-ดอกเบี้ยลด กระตุ้นการลงทุน คนไม่อยากฝากออมทรัพย์ เพราะดอกเบี้ยต่ำ และอีกด้านคือกู้เงินได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
-ดอกเบี้ยเพิ่ม การฝากเงินในธนาคารน่าสนใจมากขึ้น คนเริ่มทยอยนำเงินจากตราสารทางการเงินออกมา แต่กู้เงินแล้วดอกเบี้ยแพง การลงทุนชลอตัว
• อัตตราดอกเบี้ยดูได้ที่เว็บของธนาคารแห่งประเทศไทย www.bot.or.th
-อัตตราแลกเปลี่ยน เงินบาท กับเงิน US จะเกี่ยวกับการส่งออก-นำเข้า ถ้าเอาหลักการง่ายๆ สมมติเงินเราแข็งค่า ต่างประเทศก็จะ
ไม่ค่อยอยากซื้อของเรา เพราะเขาต้องใช้เงินเยอะขึ้น ในการซื้อของชนิดเดิม เช่น
เมื่อก่อน 1US = 25บาท แต่ตอนนี้ 1US = 20 บาท กำหนดให้สินค้าชิ้นหนึ่ง ราคา 100 บาท
+ ตอนที่ 1 US = 25 บาท ใช้เงินแค่ 4 US ในการซื้อสินค้าราคา 100 บาท
+ แต่พอเงินบาทแข็งขึ้นเป็น 1 US = 20บาท แปลว่าเขาต้องใช้เงินถึง 5 US ในการซื้อสินค้าราคา 100บาท
+ถ้าคิดเป็น% มันแพงขึ้น 20% เลยทีเดียว
3.SET หรือดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- SET สามารถบ่งบอกอารมณ์ของคนส่วนใหญ่ได้
-สามารถเข้าใจอารมณ์ของผู้คนได้บ้าง โดยสะท้อนออกมา ข่าว,เศรษฐกิจ,ความกังวลของนักลงทุน ''แต่ก็ไม่ได้ทั้งหมด''
-ข่าวออกแบบนั้น SET สะท้อนแบบนี้ สามารถบอกได้ส่วนหนึ่งว่า นักลงทุนกังวลแค่ไหน หรือข่าวมีผลมากขนาดไหน
สรุปโดยรวม มันคือความเชื่อมั่น, ความมั่นใจ , อารมณ์ ของคนในประเทศ ณ ตอนนั้น
** เพิ่มเติมนะครับ SET จะบอกกลุ่มนักลงทุนเฉพาะที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญสำหรับเศรษฐกิจของประเทศ เพราะเม็ดเงินค่อนข้างมากนะครับ แต่ไม่ได้หมายถึง ''คนไทยทั้งประเทศ'' ครับ เพราะคนทุกคนไม่ได้ลงทุนในหุ้นครับ
4.ผลผลิตอุตสาหกรรม
-เป็นการแสดงมูลค่า GDP แยกเป็นรายอุตสาหกรรม ว่าอันไหนมีสัดส่วนสูงใน GDP
-เป็นตัวบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจไทยจะถูกขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมใดเป็นหลัก
• ตัวอย่างง่ายๆเช่น ช่วงที่มีนโยบายรถคันแรกออกมา สัดส่วนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์มีสัดส่วน GDP สูงที่สุด
5.ดัชนีราคาผู้ผลิต PPI
- เป็นดัชนีชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาต้นทุนสินค้าของผู้ผลิต
-ถ้า PPI ปรับตัวสูงขึ้น แปลว่าผู้ผลิต ซื้อวัตถุดิบแพงขึ้น ถ้ายังขายของราคาเท่าเดิม แปลว่ากำไรจะน้อยลง
6.อัตตราการว่างงาน(ซึ่งไม่รู้ว่าเท่าไหร่ ถึงจะบอกได้ว่าเศรษฐกิจเริ่มแย่)
-ดูได้จากเว็บสถิติแห่งชาติครับ >>>>
http://www.nso.go.th/
-โดยทั่วไป ประเทศไทย การว่างงานอยู่ที่ 1% โดยประมาณครับ << เขาคำนวนจากสูตรนะ ไม่ได้สำรวจจากคนทั้งประเทศ
ปล.ข้อมูลพวกนี้ผมหามาจากหลายแหล่ง สอบถามมาจากหลายท่าน ท่องมาหลายเว็บ คือตัวผมไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจเลย เรียนมาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายนี้ด้วย แต่อยากมีความรู้เพื่อนำไปต่อยอดการลงทุนต่างๆ ถ้าผิดพลาด ขอให้ทุกท่านช่วยกันแก้ไขให้กระทู้นี้เป็นแหล่งความรู้นะครับ อะไรหายไป ต้องใส่อะไรเพิ่ม อะไรไม่จำเป็น รบกวนผู้รู้มาตอบเพื่อที่จะได้องค์ความรู้ในการดูเศรษฐกิจให้ครบถ้วนครับ
ปล2.แท็กหลายๆที่เพื่อให้ท่านที่มีความรู้หลายๆสายมาช่วยตอบครับ
ขอบคุณครับ
เศรษฐกิจดีไม่ดีต้องดูที่
1.GDP ว่ามันมากขึ้นหรือลดลงเทียบกับปีที่แล้วกี่% (หรืออาจจะเทียบหลายปี หลายแบบ )
ส่วนประกอบของ GDP มี4ส่วน คือ
- การลงทุนภาครัฐ ดูได้ที่ http://www2.bot.or.th/statistics/ReportPage.aspx?reportID=701&language=th
-การลงทุนภาคเอกชน
-การใช้จ่ายภาคเอกชน (การใช้จ่ายบริโภคนั่นแหละ) <<<<< มากที่สุด
+ คนใช้จ่ายกันรึเปล่า ดูจาก VAT และภาษีการบริโภคต่างๆ ได้ที่ http://www.rd.go.th/publish/22590.0.html
+ การจะกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเน้นไปที่การบริโภคนี้เป็นหลัก เพราะมีสัดส่วนถึง 53%
-มูลค่าส่งออก-นำเข้า
• ทั้งหมดดูได้ที่ http://www.nesdb.go.th/ <<<<< เป็นตาราง ดูง่าย
• ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.bot.or.th/Thai/Statistics/Indicators/Pages/default.aspx
2.อัตตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราแลกเปลี่ยน
-ดอกเบี้ยลด กระตุ้นการลงทุน คนไม่อยากฝากออมทรัพย์ เพราะดอกเบี้ยต่ำ และอีกด้านคือกู้เงินได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
-ดอกเบี้ยเพิ่ม การฝากเงินในธนาคารน่าสนใจมากขึ้น คนเริ่มทยอยนำเงินจากตราสารทางการเงินออกมา แต่กู้เงินแล้วดอกเบี้ยแพง การลงทุนชลอตัว
• อัตตราดอกเบี้ยดูได้ที่เว็บของธนาคารแห่งประเทศไทย www.bot.or.th
-อัตตราแลกเปลี่ยน เงินบาท กับเงิน US จะเกี่ยวกับการส่งออก-นำเข้า ถ้าเอาหลักการง่ายๆ สมมติเงินเราแข็งค่า ต่างประเทศก็จะ
ไม่ค่อยอยากซื้อของเรา เพราะเขาต้องใช้เงินเยอะขึ้น ในการซื้อของชนิดเดิม เช่น
เมื่อก่อน 1US = 25บาท แต่ตอนนี้ 1US = 20 บาท กำหนดให้สินค้าชิ้นหนึ่ง ราคา 100 บาท
+ ตอนที่ 1 US = 25 บาท ใช้เงินแค่ 4 US ในการซื้อสินค้าราคา 100 บาท
+ แต่พอเงินบาทแข็งขึ้นเป็น 1 US = 20บาท แปลว่าเขาต้องใช้เงินถึง 5 US ในการซื้อสินค้าราคา 100บาท
+ถ้าคิดเป็น% มันแพงขึ้น 20% เลยทีเดียว
3.SET หรือดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- SET สามารถบ่งบอกอารมณ์ของคนส่วนใหญ่ได้
-สามารถเข้าใจอารมณ์ของผู้คนได้บ้าง โดยสะท้อนออกมา ข่าว,เศรษฐกิจ,ความกังวลของนักลงทุน ''แต่ก็ไม่ได้ทั้งหมด''
-ข่าวออกแบบนั้น SET สะท้อนแบบนี้ สามารถบอกได้ส่วนหนึ่งว่า นักลงทุนกังวลแค่ไหน หรือข่าวมีผลมากขนาดไหน
สรุปโดยรวม มันคือความเชื่อมั่น, ความมั่นใจ , อารมณ์ ของคนในประเทศ ณ ตอนนั้น
** เพิ่มเติมนะครับ SET จะบอกกลุ่มนักลงทุนเฉพาะที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญสำหรับเศรษฐกิจของประเทศ เพราะเม็ดเงินค่อนข้างมากนะครับ แต่ไม่ได้หมายถึง ''คนไทยทั้งประเทศ'' ครับ เพราะคนทุกคนไม่ได้ลงทุนในหุ้นครับ
4.ผลผลิตอุตสาหกรรม
-เป็นการแสดงมูลค่า GDP แยกเป็นรายอุตสาหกรรม ว่าอันไหนมีสัดส่วนสูงใน GDP
-เป็นตัวบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจไทยจะถูกขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมใดเป็นหลัก
• ตัวอย่างง่ายๆเช่น ช่วงที่มีนโยบายรถคันแรกออกมา สัดส่วนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์มีสัดส่วน GDP สูงที่สุด
5.ดัชนีราคาผู้ผลิต PPI
- เป็นดัชนีชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาต้นทุนสินค้าของผู้ผลิต
-ถ้า PPI ปรับตัวสูงขึ้น แปลว่าผู้ผลิต ซื้อวัตถุดิบแพงขึ้น ถ้ายังขายของราคาเท่าเดิม แปลว่ากำไรจะน้อยลง
6.อัตตราการว่างงาน(ซึ่งไม่รู้ว่าเท่าไหร่ ถึงจะบอกได้ว่าเศรษฐกิจเริ่มแย่)
-ดูได้จากเว็บสถิติแห่งชาติครับ >>>>http://www.nso.go.th/
-โดยทั่วไป ประเทศไทย การว่างงานอยู่ที่ 1% โดยประมาณครับ << เขาคำนวนจากสูตรนะ ไม่ได้สำรวจจากคนทั้งประเทศ
ปล.ข้อมูลพวกนี้ผมหามาจากหลายแหล่ง สอบถามมาจากหลายท่าน ท่องมาหลายเว็บ คือตัวผมไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจเลย เรียนมาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายนี้ด้วย แต่อยากมีความรู้เพื่อนำไปต่อยอดการลงทุนต่างๆ ถ้าผิดพลาด ขอให้ทุกท่านช่วยกันแก้ไขให้กระทู้นี้เป็นแหล่งความรู้นะครับ อะไรหายไป ต้องใส่อะไรเพิ่ม อะไรไม่จำเป็น รบกวนผู้รู้มาตอบเพื่อที่จะได้องค์ความรู้ในการดูเศรษฐกิจให้ครบถ้วนครับ
ปล2.แท็กหลายๆที่เพื่อให้ท่านที่มีความรู้หลายๆสายมาช่วยตอบครับ
ขอบคุณครับ