
[เรื่องที่ 107] The Little Prince/เจ้าชายน้อย ; ( Mark Osborne, 2015)
คะแนน : 8/10
หนังประยุกต์จากวรรณกรรมฝรั่งเศสชื่อก้องโลกที่มีอายุกว่า 47 ปีอย่าง 'Le Petit Prince'หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ'เจ้าชายน้อย'นั่นเอง โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเขานิดเดียวและรักที่จะชื่นชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตกที่วันหนึ่งมีเกือบ 40 ครั้ง ... ซึ่งวรรณกรรมเรื่องนี้ก็ถูกรู้จักกันดีในแง่ของเนื้อหาเชิงปรัชญาชีวิตที่ชวนให้ฉุกคิดมากมาย และข้อคิดที่จะเปลี่ยนไปตามวัยวุฒิของผู้อ่าน
โดยตัวหนังเองนั้นเลือกที่จะเล่าเรื่องผ่านตัวละคร 'เด็กหญิง' ซึ่งถูกกำหนดกรอบชีวิตโดย 'คุณแม่' ด้วยตารางชีวิตที่ละเอียดยิบและแน่นเอี๊ยดชนิดนาทีต่อนาที โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ 'เด็กหญิง' กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในอนาคตนั่นเอง แต่แล้วเด็กหญิงก็ได้มีโอกาสได้พบกับ 'ชายชรานักบิน' ที่อาศัยอยู่ข้างบ้านที่กลายมาเป็นเพื่อนเล่นคนแรกของเธอพร้อมทั้งแบ่งปันเล่าเรื่องของ 'เจ้าชายน้อย' ที่เขาได้มีโอกาสพบมาในสมัยเขาบินรอบโลกด้วย
ซึ่งต้องบอกว่าโดยตัวพล็อตของหนังนั้นค่อนข้างแข็งแรงมากและวิธีการเล่าเรื่องที่น่ารักมีเสน่ห์ก็น่าสนใจไม่น้อย คือในขณะที่เนื้อเรื่องเป็นของเด็กหญิงและนักบินนั้น หนังก็จะเล่าเรื่องด้วยภาพ 3มิติทั่วไปเพื่อให้ความสมจริง และเลือกที่จะใช้เทคนิค stop-motion และภาพวาดสีสันสดใสน่ารักมาเล่าเรื่อง part ของเจ้าชายน้อยแทน ซึ่งเทคนิคการตัดภาพแบบนี้ก็ช่วยให้เรื่องราวมันดำเนินแยกกันได้อย่างน่าสนใจมากขึ้น
แต่สิ่งหนึ่งที่อาจเป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของหนังก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวหนังเองค่อนข้างพึ่งพาอาศัย 'เรื่องราว' ของเจ้าชายน้อยเป็นแกนเรื่องอย่างมาก และขับขานใน part ของเด็กหญิงกับนักบินออกมาไม่น่าสนใจเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะอารมณ์ของตัวละครเองก็ไม่เด่นชัดด้วย ทั้ง conflict ระหว่างตัวเด็กหญิงกับแม่เองก็ไม่ได้รุนแรงจนน่าสนใจขนาดนั้น ไปๆมาๆกลับดูเหมือนเนื้อเรื่องส่วนนี้เป็นแค่ sub plot ไปโดยปริยาย
แต่ก็ยังดีที่ส่วนของเจ้าชายน้อยยังน่าสนใจมากทั้งข้อความที่แฝงแนวคิดมากมาย, การจำลองรูปแบบความสัมพันธ์กับจิ้งจอกที่ค่อนข้างกินใจและสะท้อนต่อแนวคิดในชีวิตจริงของเรา, การรับมือกับความรักกับดอกกุหลาบ หรือแม้แต่การยอมรับเงื่อนไขจากงู ที่ล้วนแต่เป็นหัวข้อที่น่าสนใจที่เราคาดหวังว่าหนังจะขยี้ได้มากกว่านี้ แต่ก็น่าเสียดายเองที่เหมือนผู้กำกับเองเหมือนจะอยากเล่าทุกประเด็น แล้วก็ยังอยากดำเนินเรื่องกับ sub-plot ไปพร้อมๆกันด้วย กลายเป็นหนังมันไม่ลงลึกเลยซักหัวข้อ เป็นอะไรที่จับฉ่าย จับเรื่องราวต่างๆมาแปะไว้เฉยๆ
โดยเฉพาะฉากไคลแม็กซ์ตอนท้ายที่ตามหาเจ้าชายน้อยตอนโตนั้นถือว่า 'พัง' มากๆ ธีมหนังที่พยายามปั้นมานานแสนนานพังทลายไปในพริบตา ดูเหมือนผู้กำกับพยายามตีความให้หลากหลายมากขึ้นแต่มันกลับไม่จับใจเลยแม้แต่นิดเดียว แม้ประเด็น 'ผู้ใหญ่ที่ลืมความเป็นเด็ก' มันจะดูน่าสนใจก็เถอะ แต่หนังเองก็ไม่ได้ขยายประเด็นได้สนุกขนาดนั้น จนถือว่าเป็นช่วงที่น่าเสียดายไป
ฉากที่ประทับใจและคิดว่าหนังสื่อได้ดีจริงๆ คงเป็นฉากวิ่งไล่รถพยาบาลในช่วงท้ายที่สื่ออารมณ์ได้ชัดเจนมาก และมันดูเรียลกว่าจนเราอดเอาใจช่วยเด็กหญิงอย่างเสียไม่ได้ หากลำดับเรื่องราวใหม่ซักนิดคาดว่าตัวหนังเองคงจะสมบูรณ์กว่านี้
'เจ้าชายน้อย' คงเป็นแค่อนิเมชั่นที่ห่างไกลจากความ 'ปลาบปลื้ม' อยู่พอสมควรจากเนื้องานที่ออกมา แต่สำหรับแฟนหนังสือหลายๆท่านการที่ได้เห็นเจ้าชายน้อยโลดแล่นบนจอแบบนี้ก็อาจจะฟินแล้วมั้ง
ขอเชิญติดตามรีวิว/ข่าวสารและร่วมกันพูดคุยเรื่องหนังได้ที่เพจครับ :
https://www.facebook.com/expensivemovie
[เรื่องที่ 107] The Little Prince/เจ้าชายน้อย
[เรื่องที่ 107] The Little Prince/เจ้าชายน้อย ; ( Mark Osborne, 2015)
คะแนน : 8/10
หนังประยุกต์จากวรรณกรรมฝรั่งเศสชื่อก้องโลกที่มีอายุกว่า 47 ปีอย่าง 'Le Petit Prince'หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ'เจ้าชายน้อย'นั่นเอง โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเขานิดเดียวและรักที่จะชื่นชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตกที่วันหนึ่งมีเกือบ 40 ครั้ง ... ซึ่งวรรณกรรมเรื่องนี้ก็ถูกรู้จักกันดีในแง่ของเนื้อหาเชิงปรัชญาชีวิตที่ชวนให้ฉุกคิดมากมาย และข้อคิดที่จะเปลี่ยนไปตามวัยวุฒิของผู้อ่าน
โดยตัวหนังเองนั้นเลือกที่จะเล่าเรื่องผ่านตัวละคร 'เด็กหญิง' ซึ่งถูกกำหนดกรอบชีวิตโดย 'คุณแม่' ด้วยตารางชีวิตที่ละเอียดยิบและแน่นเอี๊ยดชนิดนาทีต่อนาที โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ 'เด็กหญิง' กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในอนาคตนั่นเอง แต่แล้วเด็กหญิงก็ได้มีโอกาสได้พบกับ 'ชายชรานักบิน' ที่อาศัยอยู่ข้างบ้านที่กลายมาเป็นเพื่อนเล่นคนแรกของเธอพร้อมทั้งแบ่งปันเล่าเรื่องของ 'เจ้าชายน้อย' ที่เขาได้มีโอกาสพบมาในสมัยเขาบินรอบโลกด้วย
ซึ่งต้องบอกว่าโดยตัวพล็อตของหนังนั้นค่อนข้างแข็งแรงมากและวิธีการเล่าเรื่องที่น่ารักมีเสน่ห์ก็น่าสนใจไม่น้อย คือในขณะที่เนื้อเรื่องเป็นของเด็กหญิงและนักบินนั้น หนังก็จะเล่าเรื่องด้วยภาพ 3มิติทั่วไปเพื่อให้ความสมจริง และเลือกที่จะใช้เทคนิค stop-motion และภาพวาดสีสันสดใสน่ารักมาเล่าเรื่อง part ของเจ้าชายน้อยแทน ซึ่งเทคนิคการตัดภาพแบบนี้ก็ช่วยให้เรื่องราวมันดำเนินแยกกันได้อย่างน่าสนใจมากขึ้น
แต่สิ่งหนึ่งที่อาจเป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของหนังก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวหนังเองค่อนข้างพึ่งพาอาศัย 'เรื่องราว' ของเจ้าชายน้อยเป็นแกนเรื่องอย่างมาก และขับขานใน part ของเด็กหญิงกับนักบินออกมาไม่น่าสนใจเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะอารมณ์ของตัวละครเองก็ไม่เด่นชัดด้วย ทั้ง conflict ระหว่างตัวเด็กหญิงกับแม่เองก็ไม่ได้รุนแรงจนน่าสนใจขนาดนั้น ไปๆมาๆกลับดูเหมือนเนื้อเรื่องส่วนนี้เป็นแค่ sub plot ไปโดยปริยาย
แต่ก็ยังดีที่ส่วนของเจ้าชายน้อยยังน่าสนใจมากทั้งข้อความที่แฝงแนวคิดมากมาย, การจำลองรูปแบบความสัมพันธ์กับจิ้งจอกที่ค่อนข้างกินใจและสะท้อนต่อแนวคิดในชีวิตจริงของเรา, การรับมือกับความรักกับดอกกุหลาบ หรือแม้แต่การยอมรับเงื่อนไขจากงู ที่ล้วนแต่เป็นหัวข้อที่น่าสนใจที่เราคาดหวังว่าหนังจะขยี้ได้มากกว่านี้ แต่ก็น่าเสียดายเองที่เหมือนผู้กำกับเองเหมือนจะอยากเล่าทุกประเด็น แล้วก็ยังอยากดำเนินเรื่องกับ sub-plot ไปพร้อมๆกันด้วย กลายเป็นหนังมันไม่ลงลึกเลยซักหัวข้อ เป็นอะไรที่จับฉ่าย จับเรื่องราวต่างๆมาแปะไว้เฉยๆ
โดยเฉพาะฉากไคลแม็กซ์ตอนท้ายที่ตามหาเจ้าชายน้อยตอนโตนั้นถือว่า 'พัง' มากๆ ธีมหนังที่พยายามปั้นมานานแสนนานพังทลายไปในพริบตา ดูเหมือนผู้กำกับพยายามตีความให้หลากหลายมากขึ้นแต่มันกลับไม่จับใจเลยแม้แต่นิดเดียว แม้ประเด็น 'ผู้ใหญ่ที่ลืมความเป็นเด็ก' มันจะดูน่าสนใจก็เถอะ แต่หนังเองก็ไม่ได้ขยายประเด็นได้สนุกขนาดนั้น จนถือว่าเป็นช่วงที่น่าเสียดายไป
ฉากที่ประทับใจและคิดว่าหนังสื่อได้ดีจริงๆ คงเป็นฉากวิ่งไล่รถพยาบาลในช่วงท้ายที่สื่ออารมณ์ได้ชัดเจนมาก และมันดูเรียลกว่าจนเราอดเอาใจช่วยเด็กหญิงอย่างเสียไม่ได้ หากลำดับเรื่องราวใหม่ซักนิดคาดว่าตัวหนังเองคงจะสมบูรณ์กว่านี้
'เจ้าชายน้อย' คงเป็นแค่อนิเมชั่นที่ห่างไกลจากความ 'ปลาบปลื้ม' อยู่พอสมควรจากเนื้องานที่ออกมา แต่สำหรับแฟนหนังสือหลายๆท่านการที่ได้เห็นเจ้าชายน้อยโลดแล่นบนจอแบบนี้ก็อาจจะฟินแล้วมั้ง
ขอเชิญติดตามรีวิว/ข่าวสารและร่วมกันพูดคุยเรื่องหนังได้ที่เพจครับ : https://www.facebook.com/expensivemovie