เจ้าชายน้อย (ไม่ใช่รีวิว แค่ดูแล้วรู้สึก)


หลายคนอาจเคยอ่านเจ้าชายน้อยมาบ้างแล้ว

นิทานที่ว่าด้วยเรื่องของเจ้าชายผู้อาศัยอยู่ ณ ดวงดาว B612
ผู้หลงรักกุหลาบ สร้างความสัมพันธ์กับหมาจิ้งจอกและนักบิน
นิทานอันเป็นเจ้าของประโยคที่ทรงพลังที่สุดประโยคหนึ่งของมนุษย์
"สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่ทว่าต้องรับรู้ด้วยใจ"

หนังเจ้าชายน้อยว่าด้วยเรื่องของเด็กน้อยที่ถูกคุณแม่วางแผนชีวิต
ไม่ใช่แค่แผนคร่าวๆ แต่เป็นแบบละเอียดยิบในระดับนาที
เพื่อให้สามารถสอบเข้า "โรงเรียนคนมีค่า” ได้
จนเธอได้พบกับคุณปู่นักบินสุดแสบข้างบ้าน
ที่พาให้เธอได้รู้จักกับเจ้าชายน้อย
เป็นเรื่องเล่าคู่ขนานทีจินตนาการต่อยอดไปจากนิทาน
ที่สำคัญมีการผสมผสานระหว่างเทคนิค 3D Animaition กับ Stop Motion
ได้อย่างสวยงามและลงตัวเอามากๆ

หากใครเคยอ่านเจ้าชายน้อยมา
ก็คงรู้ซึ่งถึงปรัชญาการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายแต่ทว่าสวยงามดีอยู่แล้ว
เหมือนที่เจ้าชายน้อยชอบตั้งคำถามอยู่เสมอ
"ทำไมผู้ใหญ่ชอบทำอะไรแปลกๆ”
หรือกระทั่งเรื่องความสัมพันธ์ที่เจ้าชายน้อย
ก็สอนไว้อย่างสวยงามลงตัว
เอาตรงๆ คือเราไม่แน่ใจว่าหนังให้อะไรเราบ้าง
มันลึกซึ้ง ยุบยับ และมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ
แต่เราขอพูดถึงแง่มุมที่เรา ‘รู้สึก’ มากที่สุดแล้วกัน

ย้อนกลับไปที่แกนหลักของหนังเรื่องนี้
คือการวางแผนให้หนูน้อยเข้าโรงเรียนคนมีค่าให้ได้
หนังไม่ได้มีบทสนทนาที่ตั้งคำถามกับสิ่งนี้โดยตรง
แต่ก็กระทบถูกซึ่งที่ทำให้เราคำนึงถึงโดยอ้อม
ว่าเหตุใดเราถึงยอมปล่อยให้ค่าของความเป็นมนุษย์
ถูกตัดสินด้วยการเข้าโรงเรียนได้หรือไม่ได้
ซึ่งแน่นอนว่ามันหมายรวมถึง
การได้ทำงานที่ดีๆ
การมีสถานะทางสังคมดีๆ
ฯลฯ

ซึ่งสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องผิดหรือน่ารังเกียจแต่อย่างใด
แต่มันก็ไม่ใช่ไม้บรรทัดที่ใช้วัดคุณค่าของมนุษย์ด้วยเช่นกัน
ใครที่ประสบความสำเร็จสมดั่งที่สังคมตั้งไว้ นั่นก็ควรยกย่อง
ใครที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่ทว่ายังประสบความสำเร็จด้วยมาตรวัดของหัวใจตัวเอง
นั่นก็เป็นคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ที่ควรเทิดทูนเช่นกัน
เจ้าชายน้อยเตือนให้ผู้ใหญ่อย่างเราๆ กลับไปมองชีวิตแบบเด็กๆ บ้าง
เด็กที่ไม่สนใจว่าสังคมตั้งความหวังอะไร
แค่พับจรวดเสร็จหนึ่งใบนั่นก็ทำให้หัวเราะได้แล้ว
เด็กที่ลืมคิดไปว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร
แต่ปล่อยให้หัวใจและจินตนาการพาไปสุดขอบจักรวาล
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้บอกให้ใช้ชีวิตแบบเด็กๆ
แต่คงเหลือเรื่องบ้าบอแบบนี้ไว้เติมเต็มหัวใจบ้างก็คงดี


คงเหมือนทีนักบินว่าไว้
“การเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่การเป็นผู้ใหญ่ที่ลืมความเป็นเด็กต่างหากที่น่ากลัว"

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่