ด้วยความที่ว่าตัว จขกท ชอบทานบลูเบอร์รี่ชีสพายมากๆ ซื้อเค้าอร่อยๆก็แพง ถ้าราคาไม่แพงก็หาครีมชีสไม่เจอมีแต่เครกเกอร์กับแยม เลยตัดสินใจลองทำเองดีกว่า จะได้กินแบบจุใจ สูตรหาเอาจากในเน็ตก็ได้ พอมาดูราคาวัตถุดิบแล้วก็แอบถอนหายใจเบาๆ ซื้อเค้ากินไปก่อนละกันทำทีนึงเกือบ500ได้
จนมาวันนึง เห็นกระทู้ทำครีมชีสทานเองเป็นแรงบันดาลใจให้เราทำบลูเบอร์รี่ชีสพายจนสำเร็จ กระทู้นี้จึงเกิดขึ้น



เราเริ่มจากทำโยเกิร์ตสดก่อนค่ะ เรารอจนปิดเทอม ที่ร.ร.เด็กๆจะแจกนมมา ปกติเราจะทำโยเกิร์ตแค่ครั้งละลิตร คราวนี้2ลิตร
ลิตรนึงใส่น้ำตาลอีกลิตรไม่ใส่เพื่อเอาไว้กรองทำครีมชีสค่ะ




อันนี้ใส่น้ำตาลเป็นโยเกิรตสดค่ะ รอบนี้สีเข้มไปหน่อยนะคะ เราทำตอนดึกแล้วเพราะกะตื่นมาใช้ได้เลย เราง่วงเลยเร่งไฟ
ใช้คนให้น้ำตาลละลายเร็วๆเอาขี้เกียจรอ


อันนี้โถที่จะทำครีมชีสค่ะ อันนี้เราทิ้งไว้ตั้งแต่4ทุ่มจน9โมงเช้า ถึงค่อยเอาเข้าตู้เย็น เพราะกลัวมันเปรี้ยวเกิน
แต่พี่ๆเค้าบอกว่าทิ้งไว้น้อยไปต้องให้มันเป็นลิ่มๆมากกว่านี้ค่อยกรอง


ใส่ตระแกรงพีกไว้ในตู้เย็นให้ครีมชีสมันกรองเอาน้ำออก คนอื่นเค้าบอก1วัน ของเรา3วันยังไม่ค่อยแห้งดีเลย ตอนนั้นเสียเซลฟ์มากๆกลัวทำไมสำเร็จ
เสียดายนมตั้งลิตรนึง


และแล้วกาารอคอยก็มาถึง เราได้ครีมชีส โฮมเมด วัตถุดิบสำคัญของบลูเบอร์รี่ชีสพายแล้ว


มาถึงซอสบลูเบอร์รี่ เราเคยเห็นวิธีทำซอสคร่าวๆจากใน bloggang.com ไม่ยากเราเลยอยากลองทำเองดู ปรากฎว่ามันดีงามมากๆ
ถึงจะไม่ค่อยเปรี้ยวเท่าที่เราเคยทานบนพายมาก็เถอะแต่ลูกบลูเบอร์รี่แน่นกว่าแน่นอน ที่สำคัญบลูเบอร์รี่ *แช่แข็ง 1กิโล กวนซอสออกมาได้ตั้ง3โลแน่ะ
ซอสเหลือเราเอาไว้ทาขนมปัง กินกับเครกเกอร์ ใส่ในโยเกิร์ต ฯลฯ ได้อีกเยอะแยะ คิดถูกจริงๆที่กวน *บลูเบอร์รี่แช่แข็งหาซื้อได้ที่แมคโครค่ะ เราฝากเพื่อนซื้อมาพร้อมเครกเกอร์1กล่อง เพื่อนบอกว่าบลูเบอร์รี่แช่แข็งแพ็ค250บาทขึ้นไปจำราคาได้คร่าวๆประมาณนี้ค่ะ

แช่บลูเบอร์รี่ในน้ำเชื่อม2ชม.ขึ้นไปค่ะ


แยกตัวลูกบลูเบอร์รี่ออกมาพักไว้ก่อน


เอาแป้งกวนไส้ผสมกับน้ำบลูเบอร์รี่


ยกหม้อน้ำขึ้นตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน ใช้ตระกร้อมือคนอย่าหยุดจนกว่าซอสจะข้น ยกตระกร้อมือขึ้นซอสวาดเป็นลายเส้นได้ค่ะ



ยกลงเทเนื้อบลูเบอร์รี่ลงไป ยกขึ้นตั้งไฟอีกแปบนึงใช้ทัพพีควักซอสจากล่างขึ้นบน เพื่อให้บลูเบอร์รี่เข้ากับซอสโดยที่ลูกมันก็จะไม่เละ
พอเราได้ซอสที่พอใจแล้ว ยกหม้อลงวางในกะละมังที่มีน้ำหล่อไว้เพื่อให้ซอสเซ็ทตัวแป้งไม่สุกเพิ่ม ซอสเราจะได้ไม่เป็นก้อน


ทิ้งไว้จนเย็นแล้วเราค่อยตักใส่ภาชนะที่มีฝาปิด (เราเอาไปลวกน้ำร้อนก่อนค่ะ) เข้าตู้เย็นเวลาจะใช้ก็ใช้ช้อนสะอาดตักเอาเหมือนโยเกิร์ตค่ะ





เราทำเสร็จลองตักใส่ภาชนะแล้วชั่งดู น้ำหนักรวมกันคร่าวๆได้ซอสมาประมาณ3กิโลค่ะ ตามสูตรพี่เค้านับเป็นกระป๋องได้ประมาณ8กระป๋อง ถือว่าคุ้มจริงๆค่ะ



พอทำซอสกับครีมชีสเสร็จก็ถึงเวลาที่จะทำพายแล้ว เราไม่ได้ถ่ายวิธีทำไว้ะคะ เพราะคิดว่าใครๆก็คงหาได้จากในเน็ตแล้ว
ส่วนตัวเราไม่เคยทานพายแบบที่มีแค่ครีมชีสไม่มีบลูเบอร์รี่ เคยทานแต่แบบสำเร็จแล้ว ตอนทำเลยค่อนข้างกังวลนิดนึง
ไหนครีมชีสก็ทำเองรสชาติครีมชีสจริงๆเป็นไงก็ไม่รู้ เรากลัวจะเสร็จออกมาแล้วทานไม่ได้



ส่วนผสมของครีมพายไม่มีสูตรนะคะ เราใช้วิธีกะและค่อยๆชิมรสเอา
1 นม1ลิตรเราทำครีมชีสได้มา225กรัม
2 นมข้นหวาน
3 โยเกิร์ตที่เราทำไว้คู่กันกับตอนทำครีมชีสค่ะ
นำ3อย่างมาตีรวมกัน เราใช้ตระกร้อมือคนๆแปบเดียว รสชาติเราไม่เคยทานครีมพายเดี่ยวๆ
เราเลยใช้วิธีเอาครีมชีสกับซอสราดบนแครกเกอร์ชิมดูเอาว่าพอได้ไหม ตอนทานกับแครกเกอร์เราทำใจแล้วนะว่าคงไม่อร่อยแน่เลย





พอราดบนฐานพายที่คลุกกับเนยเค็มแล้ว บลูเบอร์รี่ชีสพายของเรามันอร่อยอ่ะ
เราเองก็ลองทำนู่นนี่นั่นมาหลายอย่างแล้วนะ แต่รู้สึกภูมิใจครั้งนี้มากที่สุดเพราะทำทุกอย่างด้วยตัวเองหมดเลย
แล้วมันอร่อยด้วย ทำกินเองมันได้ความภูมิใจเพิ่มด้วยมีความสุขกว่าซื้อจริงๆ



ขอบคุณที่เข้ามารับชมจนจบกระทู้นะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยค่ะ
และขอขอบคุณเจ้าของสูตรทุกสูตรที่ใจดีแบ่งปันความรู้ให้จขกท.ด้วยค่ะ
*เพิ่มเติมคำอธิบายเล็กน้อยค่ะ