สวัสดีครับ
ขออนุญาต นำคอลัมน์ "ม็อกค่าปาท่องโก๋" ที่ผมเขียนประจำในเนชั่นสุดสัปดาห์นั้น มาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน เพื่อขอคำแนะนำ คำติชม เพื่อปรับปรุงงานเขียนต่อไปในอนาคตเรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ
เนชั่นสุดสัปดาห์ เล่มที่ 1220 ประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2558
“ม็อคค่าปาท่องโก๋” ในสัปดาห์นี้ ได้จะพาท่านไปรู้จักกับ “พลอยไหน ไฟแรงเฟร่อ” นางเอกแกะกล่องน้องใหม่ป้ายแดง ที่อยู่ในวัยใสอายุเพียง 14 ปี เท่านั้นเอง น้องพลอย ศรรินทร์ จากหนังไทยระทึกขวัญเรื่อง “อาบัติ” ผลงานของผู้กำกับหญิง “ฝน” ขนิษฐา ขวัญอยู่ สังกัดค่ายสหมงคลฟิล์มฯ
Mr. Coffee: การได้เข้ามาเล่นหนังเรื่องนี้
พลอย : สวัสดีค่ะ หนูชื่อพลอย ศรรินทร์ นะคะ ที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ ก็มาจากการแคสค่ะ เผอิญพี่ฝน ผู้กำกับ เรียกมา หนูก็เลยอยากให้มาลองแคสดู และได้ปรึกษาคุณแม่ ส่วนใหญ่ให้คุณแม่เป็นคนจัดการมากกว่าค่ะสำหรับการได้เข้ามาเล่นหนังเรื่องนี้
Mr. Coffee: ก่อนหน้านั้นเคยมีผลงานอะไรมาก่อนหรือเปล่า
พลอย : ก่อนหน้านี้ก็มีละคร “เจ้าสาวของอานนท์” ทางช่อง PPTV หนังเรื่อง “กระดึ๊บ” ก็เคยเล่นค่ะ แต่เล่นนิดเดียว คนที่นอนป่วยแล้วมีเจลลดไข้แปะหัวอยู่ แล้วก็มีหนังไทยเรื่อง “Single Lady เพราะเคยมีแฟน” เล่นเป็นเด็กผมสั้นๆ ที่ทะเลาะกับพ่อ แล้วก็ละคร “บุญผ่อง” ทางช่อง Thai PBS แต่นานมาแล้วค่ะ ตอนนั้นหนูอยู่ ป.6 เอง
Mr. Coffee: สาเหตุที่ผู้กำกับเลือกเรามาแสดงในบทนี้
พลอย : อาจจะเป็นเพราะบุคลิกและคาแรกเตอร์ ตรงกับตัวจริงค่ะ ไม่ต้องปรับอะไรมาก ผู้กำกับบอกมาว่าอยากได้เป็นเด็กต่างจังหวัด ใสๆ น่ารักๆ และเวลาใส่ผ้าถุงแล้วต้องน่ารัก อันนี้พี่ฝนเค้ากำชับไว้เลย
Mr. Coffee: บทบาทที่ได้รับเป็นอย่างไร
พลอย : ถ้าดูจากตัวอย่างอาจจะดูว่าบทค่อนข้างแรง แต่จริงๆ ก็เป็นวัยรุ่นธรรมดานะคะ เหมือนกับตัวพลอย ค่อนข้างที่จะเรียบร้อย แต่ลึกๆ ก็มีความอยากรู้อยากลองด้วยค่ะ เป็นคนที่กล้าหาญ อาศัยอยู่กับยายที่ต่างจังหวัด
Mr. Coffee: ในเรื่องจริงๆ อายุของนางเอกตรงกับอายุของพลอยหรือไม่
พลอย : ในเรื่องโตกว่าค่ะ เพราะ “ฝ้าย” นางเอกจะอายุประมาณ 16- 17 ปี แต่ตอนที่เล่นหนูอายุ 13 ปีเองค่ะ ปัจจุบันอายุ 14 ปีค่ะ
Mr. Coffee : ตอนที่ได้อ่านบท มีความกังวลอะไรหรือไม่
พลอย : ตอนแรกๆ หนูก็กังวลเหมือนกันค่ะ แต่พอได้ไปคุยกับพี่ฝน คือเขาก็จะอธิบายว่าจริงๆ แล้วเนื้อเรื่องมันเป็นอย่างไร ที่ตัว “ฝ้าย” ต้องทำอะไรแบบนี้ คือต้องการอะไรกันแน่ พอหนูเข้าใจแล้วหนูก็รู้สึกว่า จริงๆ มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรอย่างที่หนูคิด มันจะสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องบาปบุญมากกว่า
Mr. Coffee: รู้สึกอย่างไรกับการรับบทนางเอกจอเงิน
พลอย : เวลากลับบ้านไป พลอยก็พยายามท่องบททุกวันค่ะ ให้มันซึมซับ ให้เราเข้าใจเหมือนเป็นตัวละครนั้นๆ เลย แต่เรียนการแสดงหนูไม่ได้เรียน หนูก็จะมาเรียนกับพี่ฝน วันที่ทำ Workshop กัน ต่อบทกัน พี่ฝนก็จะคอยสอนหนูมากกว่าค่ะ
Mr. Coffee : ได้นำประสบการณ์ที่ใช้ในตอนที่แสดงละครมาปรับใช้หรือไม่
พลอย : พอเป็นหนังแล้วมันต้องปรับนะคะ หนูรู้สึกเหมือนกันว่า มันไม่ค่อยเหมือนละครนะคะ คือละครมันต้องแสดงออกด้านกิริยาท่าทาง ซึ่งไม่ค่อยเป็นธรรมชาติมากสักเท่าไหร่ แต่หนังต้องแสดงออกให้เป็นธรรมชาติมากๆ เลยต้องปรับความเป็นธรรมชาติในการแสดง รวมทั้งคำพูดด้วยค่ะ หนังต้องทำอารมณ์ให้ได้ต่อเนื่อง เพราะต้องถ่ายฉายเดียวกันหลายครั้งหลายมุมกล้อง
Mr. Coffee : การที่ได้มาเล่นคู่กับพระเอกชื่อดัง คือ “แน็ค” ชาลี ไตรรัตน์ รู้สึกอย่างไรบ้าง
พลอย : ก็ดีใจค่ะ (หัวเราะ) คือตอนเด็กๆ หนูดู “แฟนฉัน” เห็นพี่แน็ค เฮ้ยน่ารักอ่ะ น่าเอ็นดู เรียบร้อย ก็คิดว่าตัวจริงจะไม่ต่างจากตอนเด็กๆ มากนัก แต่พอหนูได้มาเจอตัวจริงก็ผิดคาดค่ะ (หัวเราะ) ผิดจากทุกอย่างที่หนูตั้งไว้ แต่พี่เขาก็เป็นคนน่ารักค่ะ แต่เขาเหมือนออกแนวซนๆ หน่อย ขี้เล่น แต่พอเวลาเขาไปแสดง เขาจะจริงจังมากค่ะ พอคัท ก็กลายเป็นอีกคนนึงเลย
Mr. Coffee : การต้องแสดงหนังประกบกับนักแสดงชั้นครูอย่าง สรพงษ์ ชาตรี
พลอย : ตอนแรกๆ หนูก็กังวลค่ะ กลัวว่าเวลาไปเข้าฉาก หนูจะเกร็งๆ ไปมั้ย แต่พอเข้าฉากกันจริงๆ พี่ๆ ทุกคนใจดีมากค่ะ พอได้แสดงด้วยหนูก็ได้ซึมซับอะไรหลายๆ อย่างที่เป็นประโยชน์จากนักแสดงรุ่นพี่ๆ ด้วยค่ะ
Mr. Coffee : มีนักแสดงคนไหนที่เป็น Idol เป็นแบบอย่างของเรา
พลอย : คนแรก หนูชอบพี่แพนเค้กค่ะ หนูว่าเขาแสดงดีและสื่อได้อารมณ์ และน่าตาน่ารัก สวย เป็นนางแบบ ตอนเด็กๆ หนูก็เคยใฝ่ฝันจะเป็นนางแบบเหมือนกันค่ะ ส่วนคนที่สองก็คือพี่อั้ม พัชราภา สวย Perfect แสดงดีมากๆ อยากแสดงได้เหมือนพี่เค้า หนูก็พยายามจำ แต่พอไปแสดงจริง หนูก็คงต้องรู้สึกเอง คงไป Copy อะไรมาไม่ค่อยได้ค่ะ
Mr. Coffee : จากหนังตัวอย่าง หลายคนมองว่าหน้าตาของน้องพลอยดูเหมือน “พี่แหม่ม” จินตหรา สุขพัฒน์ ในวัยเด็กมากๆ รู้สึกอย่างไร
พลอย : รู้สึกดีใจค่ะ แต่ความรู้สึกจริงของหนูคือ ไม่คล้ายนะคะ (หัวเราะ) หนูว่าพี่แหม่มเขาสวย เขาน่ารัก มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เวลาหนูเอามาเทียบกับตัวหนูเอง หนูงงว่ามันเหมือนตรงไหน (หัวเราะ) อาจจะเพราะทรงผมหรือเปล่า ทำให้ดูคล้าย แต่หนูก็ไว้ผมทรงนี้มาได้สักพักแล้วนะค่ะ
Mr. Coffee : ระหว่างละครกับหนัง พลอยชอบอะไรมากกว่า
พลอย : จริงๆ พลอยว่าพลอยชอบหนังมากกว่าค่ะ หนูรู้สึกว่ามันเห็นการแสดงได้ชัดเจนกว่า เวลาเราสื่อทางสายตา หนูชอบดูการแสดงอารมณ์ เวลาหนูดูพี่อั้ม หนูก็พยายามดูว่า ทำอย่างไรให้คนดูรู้สึกเหมือนที่แสดง ให้เข้าใจความรู้สึกตัวละคร หนูก็พยายามฝึกฝนอยู่เรื่อยๆ ค่ะ
Mr. Coffee : ถ้ามีโอกาส อยากเล่นหนังแนวไหนบ้าง
พลอย :ถ้าเป็นบทบู๊คงเล่นไม่ได้ค่ะ (หัวเราะ) หนูกลัวการเจ็บตัวมาก หนูบอบบางมากเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นแนวอื่น หนูก็ว่าหนูแสดงได้ทุกบทนะค่ะ แล้วแต่ที่ผู้กำกับเขาอยากให้แสดงมากกว่า แต่ถ้าเลือกได้ หนูอยากเล่นบทนางร้ายค่ะ เพราะปกติหนูจะได้เล่นแต่บทคนดี (หัวเราะ) นางร้ายแบบลึกๆ มีอะไรน่าค้นหาดุ มันดูไม่ปกติ
Mr. Coffee : ปัจจุบันน้องพลอยเรียนอยู่ ม.3 แล้วตอนนี้มีแผนในอนาคตหรือยังว่าจะเลือกเรียนในสาขาไหน
พลอย : หนูอยากเรียนนิเทศค่ะ เพราะหนูชอบการแสดงมาตั้งแต่เด็กๆ หนูว่านิเทศน่าจะสอนอะไรเกี่ยวกับการแสดงให้หนูได้มีความรู้มากขึ้นเพิ่มขึ้น เวลาหนูไปคุยกับใคร แทบทุกคนก็แนะนำให้หนูเลือกเรียนนิเทศค่ะ และหนูก็ชอบด้วยค่ะ ส่วนงานเบื้องหนัง หนูว่าน่าสนุกนะคะ แต่ถ้าเป็นผู้กำกับหนูว่าหนังเละแน่เลย (หัวเราะ) ตอนเด็กๆ ก็เคยคิดค่ะว่าเป็นผู้กำกับก็น่าจะสนุก แต่ตอนนี้หนูว่าน่าจะไม่รอด (หัวเราะ)
Mr. Coffee : กระแสต่อต้านหนังที่เข้ามา พลอยกังวลหรือไม่ และอยากบอกอะไรกับคนที่ต่อต้านหนัง
พลอย : จริงๆ แล้วหนูมองว่ามันเป็นการแสดงมากกว่าค่ะ ทุกคนพอได้รับบทบาทมา ทุกคนก็เต็มที่กับบท ไม่อยากจะกังวลอะไรมาก เพราะถ้ากังวล เราก็จะแสดงได้ไม่เต็มที่ แต่หนังเรื่องนี้มีเจตนาที่ดีค่ะ เรารู้อยู่แล้วว่าเราไม่ได้ให้มุมมองที่มันไม่ดี จริงๆ หนูก็อยากให้คนที่ต่อต้านลองเปิดใจดูหนังกันค่ะ หนังมันมีอะไรมากกว่าที่เห็นแค่ในตัวอย่าง ตัวอย่างอาจจะดูแรง แต่โดยรวมๆ ถ้าได้ดูทั้งเรื่อง จะรู้ได้เลยว่าหนังเรื่องนี้ให้ข้อคิดอะไรกับเราบ้าง ตัวเรื่องทุกอย่างจะตอบโจทย์ ตอบคำถามที่เรามีในตัวอย่างได้ทั้งหมดค่ะ
Mr. Coffee : ฝากผลงาน
พลอย : จากนี้จะมีเล่นหนังไทยเรื่อง “ลูกทุ่ง Actually” ค่ะ ของพี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว เล่นคู่กับพี่นนท์ The Voice คาแรกเตอร์ก็เป็นวัยรุ่นธรรมดานี่แหล่ะค่ะ หนังน่าจะฉายประมาณปีหน้าค่ะ
ม็อกค่าปาท่องโก๋ : {สัมภาษณ์ น้องพลอย - พลอย ศรรินทร์ นางเอก "อาปัติ"}
ขออนุญาต นำคอลัมน์ "ม็อกค่าปาท่องโก๋" ที่ผมเขียนประจำในเนชั่นสุดสัปดาห์นั้น มาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน เพื่อขอคำแนะนำ คำติชม เพื่อปรับปรุงงานเขียนต่อไปในอนาคตเรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ
เนชั่นสุดสัปดาห์ เล่มที่ 1220 ประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2558
“ม็อคค่าปาท่องโก๋” ในสัปดาห์นี้ ได้จะพาท่านไปรู้จักกับ “พลอยไหน ไฟแรงเฟร่อ” นางเอกแกะกล่องน้องใหม่ป้ายแดง ที่อยู่ในวัยใสอายุเพียง 14 ปี เท่านั้นเอง น้องพลอย ศรรินทร์ จากหนังไทยระทึกขวัญเรื่อง “อาบัติ” ผลงานของผู้กำกับหญิง “ฝน” ขนิษฐา ขวัญอยู่ สังกัดค่ายสหมงคลฟิล์มฯ
Mr. Coffee: การได้เข้ามาเล่นหนังเรื่องนี้
พลอย : สวัสดีค่ะ หนูชื่อพลอย ศรรินทร์ นะคะ ที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ ก็มาจากการแคสค่ะ เผอิญพี่ฝน ผู้กำกับ เรียกมา หนูก็เลยอยากให้มาลองแคสดู และได้ปรึกษาคุณแม่ ส่วนใหญ่ให้คุณแม่เป็นคนจัดการมากกว่าค่ะสำหรับการได้เข้ามาเล่นหนังเรื่องนี้
Mr. Coffee: ก่อนหน้านั้นเคยมีผลงานอะไรมาก่อนหรือเปล่า
พลอย : ก่อนหน้านี้ก็มีละคร “เจ้าสาวของอานนท์” ทางช่อง PPTV หนังเรื่อง “กระดึ๊บ” ก็เคยเล่นค่ะ แต่เล่นนิดเดียว คนที่นอนป่วยแล้วมีเจลลดไข้แปะหัวอยู่ แล้วก็มีหนังไทยเรื่อง “Single Lady เพราะเคยมีแฟน” เล่นเป็นเด็กผมสั้นๆ ที่ทะเลาะกับพ่อ แล้วก็ละคร “บุญผ่อง” ทางช่อง Thai PBS แต่นานมาแล้วค่ะ ตอนนั้นหนูอยู่ ป.6 เอง
Mr. Coffee: สาเหตุที่ผู้กำกับเลือกเรามาแสดงในบทนี้
พลอย : อาจจะเป็นเพราะบุคลิกและคาแรกเตอร์ ตรงกับตัวจริงค่ะ ไม่ต้องปรับอะไรมาก ผู้กำกับบอกมาว่าอยากได้เป็นเด็กต่างจังหวัด ใสๆ น่ารักๆ และเวลาใส่ผ้าถุงแล้วต้องน่ารัก อันนี้พี่ฝนเค้ากำชับไว้เลย
Mr. Coffee: บทบาทที่ได้รับเป็นอย่างไร
พลอย : ถ้าดูจากตัวอย่างอาจจะดูว่าบทค่อนข้างแรง แต่จริงๆ ก็เป็นวัยรุ่นธรรมดานะคะ เหมือนกับตัวพลอย ค่อนข้างที่จะเรียบร้อย แต่ลึกๆ ก็มีความอยากรู้อยากลองด้วยค่ะ เป็นคนที่กล้าหาญ อาศัยอยู่กับยายที่ต่างจังหวัด
Mr. Coffee: ในเรื่องจริงๆ อายุของนางเอกตรงกับอายุของพลอยหรือไม่
พลอย : ในเรื่องโตกว่าค่ะ เพราะ “ฝ้าย” นางเอกจะอายุประมาณ 16- 17 ปี แต่ตอนที่เล่นหนูอายุ 13 ปีเองค่ะ ปัจจุบันอายุ 14 ปีค่ะ
Mr. Coffee : ตอนที่ได้อ่านบท มีความกังวลอะไรหรือไม่
พลอย : ตอนแรกๆ หนูก็กังวลเหมือนกันค่ะ แต่พอได้ไปคุยกับพี่ฝน คือเขาก็จะอธิบายว่าจริงๆ แล้วเนื้อเรื่องมันเป็นอย่างไร ที่ตัว “ฝ้าย” ต้องทำอะไรแบบนี้ คือต้องการอะไรกันแน่ พอหนูเข้าใจแล้วหนูก็รู้สึกว่า จริงๆ มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรอย่างที่หนูคิด มันจะสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องบาปบุญมากกว่า
Mr. Coffee: รู้สึกอย่างไรกับการรับบทนางเอกจอเงิน
พลอย : เวลากลับบ้านไป พลอยก็พยายามท่องบททุกวันค่ะ ให้มันซึมซับ ให้เราเข้าใจเหมือนเป็นตัวละครนั้นๆ เลย แต่เรียนการแสดงหนูไม่ได้เรียน หนูก็จะมาเรียนกับพี่ฝน วันที่ทำ Workshop กัน ต่อบทกัน พี่ฝนก็จะคอยสอนหนูมากกว่าค่ะ
Mr. Coffee : ได้นำประสบการณ์ที่ใช้ในตอนที่แสดงละครมาปรับใช้หรือไม่
พลอย : พอเป็นหนังแล้วมันต้องปรับนะคะ หนูรู้สึกเหมือนกันว่า มันไม่ค่อยเหมือนละครนะคะ คือละครมันต้องแสดงออกด้านกิริยาท่าทาง ซึ่งไม่ค่อยเป็นธรรมชาติมากสักเท่าไหร่ แต่หนังต้องแสดงออกให้เป็นธรรมชาติมากๆ เลยต้องปรับความเป็นธรรมชาติในการแสดง รวมทั้งคำพูดด้วยค่ะ หนังต้องทำอารมณ์ให้ได้ต่อเนื่อง เพราะต้องถ่ายฉายเดียวกันหลายครั้งหลายมุมกล้อง
Mr. Coffee : การที่ได้มาเล่นคู่กับพระเอกชื่อดัง คือ “แน็ค” ชาลี ไตรรัตน์ รู้สึกอย่างไรบ้าง
พลอย : ก็ดีใจค่ะ (หัวเราะ) คือตอนเด็กๆ หนูดู “แฟนฉัน” เห็นพี่แน็ค เฮ้ยน่ารักอ่ะ น่าเอ็นดู เรียบร้อย ก็คิดว่าตัวจริงจะไม่ต่างจากตอนเด็กๆ มากนัก แต่พอหนูได้มาเจอตัวจริงก็ผิดคาดค่ะ (หัวเราะ) ผิดจากทุกอย่างที่หนูตั้งไว้ แต่พี่เขาก็เป็นคนน่ารักค่ะ แต่เขาเหมือนออกแนวซนๆ หน่อย ขี้เล่น แต่พอเวลาเขาไปแสดง เขาจะจริงจังมากค่ะ พอคัท ก็กลายเป็นอีกคนนึงเลย
Mr. Coffee : การต้องแสดงหนังประกบกับนักแสดงชั้นครูอย่าง สรพงษ์ ชาตรี
พลอย : ตอนแรกๆ หนูก็กังวลค่ะ กลัวว่าเวลาไปเข้าฉาก หนูจะเกร็งๆ ไปมั้ย แต่พอเข้าฉากกันจริงๆ พี่ๆ ทุกคนใจดีมากค่ะ พอได้แสดงด้วยหนูก็ได้ซึมซับอะไรหลายๆ อย่างที่เป็นประโยชน์จากนักแสดงรุ่นพี่ๆ ด้วยค่ะ
Mr. Coffee : มีนักแสดงคนไหนที่เป็น Idol เป็นแบบอย่างของเรา
พลอย : คนแรก หนูชอบพี่แพนเค้กค่ะ หนูว่าเขาแสดงดีและสื่อได้อารมณ์ และน่าตาน่ารัก สวย เป็นนางแบบ ตอนเด็กๆ หนูก็เคยใฝ่ฝันจะเป็นนางแบบเหมือนกันค่ะ ส่วนคนที่สองก็คือพี่อั้ม พัชราภา สวย Perfect แสดงดีมากๆ อยากแสดงได้เหมือนพี่เค้า หนูก็พยายามจำ แต่พอไปแสดงจริง หนูก็คงต้องรู้สึกเอง คงไป Copy อะไรมาไม่ค่อยได้ค่ะ
Mr. Coffee : จากหนังตัวอย่าง หลายคนมองว่าหน้าตาของน้องพลอยดูเหมือน “พี่แหม่ม” จินตหรา สุขพัฒน์ ในวัยเด็กมากๆ รู้สึกอย่างไร
พลอย : รู้สึกดีใจค่ะ แต่ความรู้สึกจริงของหนูคือ ไม่คล้ายนะคะ (หัวเราะ) หนูว่าพี่แหม่มเขาสวย เขาน่ารัก มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เวลาหนูเอามาเทียบกับตัวหนูเอง หนูงงว่ามันเหมือนตรงไหน (หัวเราะ) อาจจะเพราะทรงผมหรือเปล่า ทำให้ดูคล้าย แต่หนูก็ไว้ผมทรงนี้มาได้สักพักแล้วนะค่ะ
Mr. Coffee : ระหว่างละครกับหนัง พลอยชอบอะไรมากกว่า
พลอย : จริงๆ พลอยว่าพลอยชอบหนังมากกว่าค่ะ หนูรู้สึกว่ามันเห็นการแสดงได้ชัดเจนกว่า เวลาเราสื่อทางสายตา หนูชอบดูการแสดงอารมณ์ เวลาหนูดูพี่อั้ม หนูก็พยายามดูว่า ทำอย่างไรให้คนดูรู้สึกเหมือนที่แสดง ให้เข้าใจความรู้สึกตัวละคร หนูก็พยายามฝึกฝนอยู่เรื่อยๆ ค่ะ
Mr. Coffee : ถ้ามีโอกาส อยากเล่นหนังแนวไหนบ้าง
พลอย :ถ้าเป็นบทบู๊คงเล่นไม่ได้ค่ะ (หัวเราะ) หนูกลัวการเจ็บตัวมาก หนูบอบบางมากเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นแนวอื่น หนูก็ว่าหนูแสดงได้ทุกบทนะค่ะ แล้วแต่ที่ผู้กำกับเขาอยากให้แสดงมากกว่า แต่ถ้าเลือกได้ หนูอยากเล่นบทนางร้ายค่ะ เพราะปกติหนูจะได้เล่นแต่บทคนดี (หัวเราะ) นางร้ายแบบลึกๆ มีอะไรน่าค้นหาดุ มันดูไม่ปกติ
Mr. Coffee : ปัจจุบันน้องพลอยเรียนอยู่ ม.3 แล้วตอนนี้มีแผนในอนาคตหรือยังว่าจะเลือกเรียนในสาขาไหน
พลอย : หนูอยากเรียนนิเทศค่ะ เพราะหนูชอบการแสดงมาตั้งแต่เด็กๆ หนูว่านิเทศน่าจะสอนอะไรเกี่ยวกับการแสดงให้หนูได้มีความรู้มากขึ้นเพิ่มขึ้น เวลาหนูไปคุยกับใคร แทบทุกคนก็แนะนำให้หนูเลือกเรียนนิเทศค่ะ และหนูก็ชอบด้วยค่ะ ส่วนงานเบื้องหนัง หนูว่าน่าสนุกนะคะ แต่ถ้าเป็นผู้กำกับหนูว่าหนังเละแน่เลย (หัวเราะ) ตอนเด็กๆ ก็เคยคิดค่ะว่าเป็นผู้กำกับก็น่าจะสนุก แต่ตอนนี้หนูว่าน่าจะไม่รอด (หัวเราะ)
Mr. Coffee : กระแสต่อต้านหนังที่เข้ามา พลอยกังวลหรือไม่ และอยากบอกอะไรกับคนที่ต่อต้านหนัง
พลอย : จริงๆ แล้วหนูมองว่ามันเป็นการแสดงมากกว่าค่ะ ทุกคนพอได้รับบทบาทมา ทุกคนก็เต็มที่กับบท ไม่อยากจะกังวลอะไรมาก เพราะถ้ากังวล เราก็จะแสดงได้ไม่เต็มที่ แต่หนังเรื่องนี้มีเจตนาที่ดีค่ะ เรารู้อยู่แล้วว่าเราไม่ได้ให้มุมมองที่มันไม่ดี จริงๆ หนูก็อยากให้คนที่ต่อต้านลองเปิดใจดูหนังกันค่ะ หนังมันมีอะไรมากกว่าที่เห็นแค่ในตัวอย่าง ตัวอย่างอาจจะดูแรง แต่โดยรวมๆ ถ้าได้ดูทั้งเรื่อง จะรู้ได้เลยว่าหนังเรื่องนี้ให้ข้อคิดอะไรกับเราบ้าง ตัวเรื่องทุกอย่างจะตอบโจทย์ ตอบคำถามที่เรามีในตัวอย่างได้ทั้งหมดค่ะ
Mr. Coffee : ฝากผลงาน
พลอย : จากนี้จะมีเล่นหนังไทยเรื่อง “ลูกทุ่ง Actually” ค่ะ ของพี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว เล่นคู่กับพี่นนท์ The Voice คาแรกเตอร์ก็เป็นวัยรุ่นธรรมดานี่แหล่ะค่ะ หนังน่าจะฉายประมาณปีหน้าค่ะ