ลูกจ้างเฮ ใช้สิทธิใหม่ “สปส.” ได้แล้ว เพิ่มสิทธิประโยชน์-ไม่เก็บเงินสมทบเพิ่ม

กระทู้ข่าว


      นายโกวิท สัจจวิเศษ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการยกร่างกฎหมายลำดับรองเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ตุลาคม 2558 ว่า กฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 17 ฉบับ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศใช้ทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ดีสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นตามพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 ที่มีผลใช้บังคับในวันที่ 20 ตุลาคม โดยไม่ต้องรอออกกฎหมายลำดับรอง ได้แก่
     1. ผู้ประกันมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตรไม่จำกัดจำนวนครั้ง (เหมาจ่ายครั้งละ 13,000 บาท + เงินสงเคราะห์การหยุดงาน 90 วัน)
     2. ผู้ประกันมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรคราวละไม่เกิน 3 คน (เหมาจ่ายรายเดือน เดือนละ 400 บาทต่อคน)
     3. ผู้ประกันตนสามารถทำหนังสือระบุบุคคลผู้มีสิทธิรับเงินบำเหน็จชราภาพไว้ล่วงหน้าได้โดยให้มีสิทธิรับร่วมกับทายาท
     4.เพิ่มเงินสงเคราะห์กรณีตาย
     5. ผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยเรื้อรังมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีตาย
     6. การคำนวณค่าจ้างรายวันในการจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้ให้แก่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ให้คำนวณโดยนำค่าจ้างที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบสูงสุด 3 เดือนภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนเดือนที่มีสิทธิมารวมกันเป็นฐานในการคำนวณแล้วหารด้วย 90 ในกรณีที่ผู้ประกันตนมีค่าจ้างไม่ครบ 3 เดือนในคำนวณจากค่าจ้างเฉลี่ยเป็นรายวัน
     7. กองทุนประกันสังคมขยายระยะเวลาการขอรับประโยชน์ทดแทนจาก 1 ปี เป็น 2 ปี และ
     8. ขยายความคุ้มครองไปถึงลูกจ้างชั่วคราวทุกประเภทของส่วนราชการและลูกจ้างของนายจ้างที่มีสำนักงานในประเทศและไปประจำทำงานต่างประเทศ

“ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า สำนักงานประกันสังคมเตรียมที่จะขยายฐานการเก็บเงินสมทบจากผู้ประกันตนและ
นายจ้าง หลังวันที่ 20 ตุลาคม 2558 นั้น ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด สำนักงานประกันสังคมเข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวม และห่วงใยผู้ประกันตน ลูกจ้าง รวมทั้งนายจ้าง จึงยังคงยืนยันที่จะเก็บเงินสมทบจากผู้ประกันตนและนายจ้างร้อยละ 5 ของฐานเงินเดือนที่กำหนดไว้คือ 1,650-15,000 บาทอยู่เหมือนเดิม” นายโกวิท ระบุ

        ขณะที่ พันตำรวจตรีหญิง รมยง สุรกิจบรรหาร รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสำนักงาน
ประกันสังคม กล่าวเสริมว่า นอกจากการเพิ่มสิทธิประโยชน์และขยายความคุ้มครองข้างต้นแล้ว กฎหมายประกันสังคมฉบับใหม่ยังได้เพิ่มเรื่องการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคซึ่งนับเป็นเรื่องใหม่ที่เป็นของขวัญแก่ผู้ประกันตนและลูกจ้างทั่วประเทศด้วย เบื้องต้นในปีงบประมาณ 2559 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เตรียมจะออกประกาศในเรื่องดังกล่าว โดย สปส. จะให้ประกันสังคมจังหวัดหรือเขตเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการของ สปสช. เพื่อประสานงานอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกันในแต่ละจังหวัดให้สามารถไปใช้สิทธิในโรงพยาบาลของรัฐตามหลักเกณฑ์ของ สปสช. เช่น การฝากครรภ์ การรับวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ รวมทั้งการตรวจคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง เป็นต้น  
    ทั้งนี้ พระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 ยังได้เปลี่ยนแปลงกำหนดระยะเวลาการนำส่งเงินสมทบของนายจ้างและโทษปรับกรณีนายจ้างชำระเงินสมทบล่าช้า ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคมนี้ด้วยเช่นกัน โดยเงินสมทบงวดเดือนกันยายน 2558 นายจ้างต้องชำระเงินสมทบอย่างช้าสุดไม่เกินวันที่ 19 ตุลาคม 2558 สำหรับเงินสมทบงวดเดือนตุลาคม นายจ้างต้องชำระเงินสมทบภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป เช่น เงินสมทบงวดเดือนตุลาคมต้องจ่ายเงินสมทบภายใน 15 พฤศจิกายน
    หากชำระเงินสมทบหลังจากวันที่ 15 พฤศจิกายน นายจ้างจะมีโทษปรับเพิ่มร้อยละ 2 ต่อเดือนของจำนวนเงินสมทบที่ค้างจ่าย โดยคำนวนค่าปรับป็นรายวัน แต่เงินที่ปรับต้องไม่เกินจำนวนเงินทั้งหมดที่นายจ้างค้างจ่าย จากเดิมที่คิดค่าปรับร้อยละ 2 ต่อเดือน คำนวณเป็นรายเดือน แม้จะชำระล่าช้าไปเพียงวันเดียวก็ถูกคิดค่าปรับเป็นเดือน และหากนายจ้างไม่นำส่งแบบแสดงรายการนำส่งเงินสมทบ (สปส. 1-10) ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบไว้ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังกำหนดโทษกรณีที่ “นายจ้าง” ไม่แจ้งขึ้นทะเบียนประกันสังคมให้ลูกจ้าง การแจ้งขึ้นทะเบียนเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    สำนักงานประกันสังคม ยังได้เพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวก นายจ้างสามารถยื่นแบบส่งเงินสมทบ (สปส. 1-10) ชำระเงินสมทบได้ที่เคาน์เตอร์ ธนาคารกรุงไทย / ธนาคารกรุงศรีอยุธยา / ธนาคารธนชาต โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
นายจ้างทุกท่านสามารถดูรายละเอียดแนวปฏิบัติการนำส่งเงินสมทบได้ที่ http://www.sso.go.th/wpr/uploads/uploadImages/file/notice020958.pdf หรือมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.สายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
       นายจ้าง/ผู้ประกันตน สามารถติดตามข่าวสารสาระดี ๆ จากสำนักงานประกันสังคม ได้ที่ www.sso.go.th หรือ http://www.facebook.com/ssofanpage



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่