*** ศึกป่วนเทพคัมภีร์สังหาร : ตอนที่ 11.2 กองทัพตอริกถล่มหมู่บ้านแอนนา ***

กระทู้สนทนา
อมยิ้ม01อมยิ้ม02อมยิ้ม07
เฮ้อ! ข้าพเจ้าขอถอนหายใจอย่างโล่งอกขอรับ ปิดตอนที่สิบเอ็ดได้เสียที ตอนนี้หนักหนายิ่งนักขอรับ
กว่าจะเก็บตัวละครแต่ละตัวครบ ข้าพเจ้าแทบจะปาดเหงื่อ เกือบจะไม่รอดนะขอรับ จะเป็นลมตายคาแป้นพิมพ์ แฮะๆ
ข้าพเจ้าต้องเพิ่มพละกำลังด้วยการกิน ปลาร้าสามต่อน อ่อมเขียด ย่างตุ๊กแก และตบท้ายด้วยสาโทอีกสองจอกจอดสนิทเลยขอรับ

สำนวนภาษาที่ใช้อาจจะไม่ดีนักหรือไม่หวือหวาเท่าไรค่ะ ข้าพเจ้าคงต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ
ณ เวลานี้ขอเขียนไปแบบเรียบๆแต่ไปเรื่อยๆก่อนแล้วกันนะคะ อ่านให้สนุกครื้นเครงบันเทิงใจค่ะ
สวัสดีค่ะ  ด้วยรักและห่วงใยผู้อ่านเป็นยิ่งนัก

ตอนที่ 11.1  http://ppantip.com/topic/34303445
ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้

ตอนที่ 11.2 กองทัพตอริกถล่มหมู่บ้านแอนนา


ไฟย่า


สิ้นเสียงอันดา เสียงเคาะไม้ส่งสัญญาณเตือนภัยอันตรายก็ดังกระหึ่มไปทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านหลายคนวิ่งแตกตื่นร้องลั่น

“ไอ้พวกผีร้าย มันมาเป็นกองทัพเลยขอรับ”  จามัสวิ่งหน้าตาตื่นมายังพวกเขาที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่ ปากยังตะโกนร้องลั่น

“ไอ้ผีร้ายมารีบหนีเร็ว”  จามัสตะโกนบอกผู้หญิง เด็กเล็ก ความโกลาหลวุ่นวายปกคลุมไปทั่วหมู่บ้าน

“แอนนาเจ้าดูแลแม่กับน้อง พ่อจะไปต้านพวกมันด้านหน้า”  บาคอสหันมาสั่งบุตรสาวคนโต แอนนาพยักหน้าเป็นการตอบรับ

“เจ้าดูแลตัวเองด้วย”  เฟรสหันมาพูดกับแอนนาก่อนจะรีบวิ่งตามบาคอสไป

               ไคลน์ เรน และเคียลูส ยืนประจำการอยู่ด้านหน้าประตูไม้เรียบร้อยแล้ว  ไฟย่าปีนบันไดขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์พร้อมคันธนูที่สะพายไว้ข้างหลัง เจ้าหญิงทอรีเนียและเหล่าเทพจิ๋วต่างทำหน้าที่คอยคุ้มกันชาวบ้าน  พระองค์นำทหารเทพจิ๋วมาต้านรับที่ท้ายหมู่บ้าน

“มันล้อมไว้หมดแล้ว ทุกด้านเลย บอกชาวบ้านห้ามออกจากหมู่บ้านเด็ดขาด”  ไฟย่าตะโกนบอกคนที่อยู่ข้างล่าง เมื่อเธอมองไปโดยรอบแล้วเห็นกองทัพของไพรทั่มกระจายอยู่เกลื่อนป่า ไฟย่ากระชับคันธนูในมือไว้มั่น

“ไฟย่าพอประมาณได้ไหม มันมีมากเท่าไร”  ไคลน์ตะโกนขึ้นไปถามคนข้างบน

“ข้าไม่แน่ใจ ในป่ามืดมาก แต่ข้าจับได้ถึงการเคลื่อนไหว และมองเห็นเป็นกลุ่มก้อนสีดำมีมากโขทีเดียว เกรงว่าน่าจะมากกว่าพวกเราเป็นสองเท่า”  ไฟย่าตะโกนตอบกลับมา

"งานนี้ สงสัยจะหนักหน่อยนะ”  เรนหันมากระซิบกับไคลน์

“ท่านนาร์ดเบิร์ก กองกำลังได้กระจายไปยังจุดต่างๆรึยัง”  บาคอสหันไปถามคนที่ยืนอยู่ข้างเขา

“ท่านนาซูดนำคนจำนวนหนึ่งไปดักทางด้านซ้ายของกำแพงแล้วขอรับ ส่วนท่านบิลกระจายไปทางด้านขวาจามัสก็ไปด้วย”  นาร์ดเบิร์กรายงานตามแผน

“แล้วด้านหลังล่ะ ใครไปรอต้าน มันเป็นจุดที่ท่านต้องไปมิใช่รึ”  บาคอสเอ่ยถาม  คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากัน

“เจ้าหญิงทอรีเนียและเหล่าทหารของพระองค์อาสาไปขอรับ พระองค์ให้ข้ามาคอยช่วยเหลือท่านด้านหน้า”

เพียงไม่นานเกินรอกองกำลังของไพรทั่มก็เคลื่อนทัพเข้ามาประชิดรอบหมู่บ้านไว้หมดทุกด้าน

“โจมตีพวกมัน”  ตอริกตะโกนสั่งการลูกน้อง กองทัพของไพรทั่มบุกทำลายกำแพงไม้อย่างบ้าคลั่ง มันใช้ท่อนไม้อันใหญ่ที่มีล้อเลื่อนอยู่ข้างล่างกระแทกประตูไม้ หมายจะพังทลายรั้วกั้นให้ล้มลง เสียงโห่ร้องของพวกมันดังกึกก้องกระหึ่มไปทั่ว

ไฟย่าขึ้นคันธนูแล้วยิงลูกธนูรัวใส่พวกมันที่อยู่ข้างล่างราวกับห่าฝนเม็ดใหญ่กระทบตกใส่ไพรทั่ม หญิงสาวหันมาเล็งเป้าใส่ทหารที่กำลังจะพังประตูเข้ามา ลูกธนูดอกหนึ่งของไฟย่าปักเข้าที่กลางหลังไพรทั่มตนหนึ่ง แล้วเกิดประกายไฟเผาไหม้ร่างของมันทันที ธนูไฟอีกหลายลูกของไฟย่าก็กระหน่ำใส่พวกมันอย่างต่อเนื่อง

“ด้านขวา”  ไฟย่าตะโกนบอกชาวบ้านอีกคนซึ่งอยู่บนหอสังเกตการณ์กับตน เขาเมื่อได้ยินที่ไฟย่าบอกก็หันคันธนูไปทางนั้นทันทีพร้อมกับกระหน่ำยิงลูกธนูใส่ไพรทั่มสองตนที่กำลังปีนกำแพงขึ้นมา

“พวกมันกำลังจะเผากำแพงแล้ว”   เขาบอกไฟย่า

“ข้างบน สอยมันลงมา”  ตอริกตะโกนสั่งทหาร  พร้อมกับชี้นิ้วมาทางไฟย่ากับชาวบ้านที่อยู่บนที่สูง ไม่นานลูกธนูห่าใหญ่พุ่งผ่านอากาศ ก็กระหน่ำใส่พวกเขาทั้งสองอย่างไม่หยุดหย่อน เขาทั้งสองต้องหมอบตัวลงต่ำเพื่อหลบหลีกลูกธนู  

“ท่านรีบลงไปข้างล่างเร็ว”  ไฟย่าบอกชาวบ้านคนนั้น เมื่อเห็นว่าธนูหยุดยิงไปแล้ว

ชายหนุ่มรูปร่างเล็กแต่ดูแข็งแรงรีบปีนบันไดไม้ลงมาที่พื้นเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว แต่ปีนลงมาได้เพียงเล็กน้อยร่างของเขาก็ถูกลูกธนูปักเข้าที่กลางลำตัวส่งร่างไร้วิญญาณร่วงลงสู่พื้นดินทันที

ไฟย่าพยายามจะยื่นมือไปคว้าร่างนั้นไว้แต่ช้าเกิน หญิงสาวทำได้เพียงแนบนิ่งมองร่างที่ร่วงหล่นด้วยความเศร้าใจเสียใจ ความโกรธแค้นเกาะกุมหัวใจของเธอ  

เสียงโรมรันฟาดฟันดาบใส่กันดังกระหึ่มทั่วหมู่บ้านเมื่อไพรทั่มบางส่วนทยอยบุกเข้ามาในหมู่บ้านได้แล้ว กำแพงไม้หลายจุดเกิดไฟไหม้ลุกโชติช่วง เปลวเพลิงพัดโหมทำลายรั้วกั้นพังลงไปทีละจุด ลามมาจนถึงจุดที่ไฟย่าอยู่

“ไฟย่ารีบลงมาเร็ว”  ไคลน์ตะโกนบอกสหายที่ยังอยู่ข้างบน แต่ในมือเขายังฟาดฟันดาบใส่ไพรทั่ม

ไฟย่าสะพายคันธนูไว้ข้างหลังก่อนจะรีบปีนลงบันได แต่เปลวไฟก็ลุกเผาไหม้ลามมาจนถึงจุดที่หญิงสาวอยู่เร็วเกินคาด ท่อนไม้ติดไฟหักทับบันไดหายไปเกือบทั้งหมด ไฟย่าต้องห้อยร่างตัวเองอยู่บันไดไม้ที่เหลืออยู่แค่สามขั้น

“ไฟย่าปล่อยมือเลย”  เฟรสตะโกนขึ้นไป เขาวางกระบี่คู่ไว้ที่พื้นมือทั้งสองชูรอรับร่างของหญิงสาว โดยมีเรนกับไคลน์คอยคุ้มกันไม่ให้ไพรทั่มเข้ามาทำร้ายพวกเขาได้

ไม่ต้องให้บอกเป็นครั้งที่สองไฟย่าปล่อยมือทันที ร่างของหญิงสาวร่วงหล่นลงสู่พื้นเบื้องล่าง ลงมาทับบนร่างของเฟรสเต็มแรงทำเอาคนที่เป็นเบาะรองรับถึงกับจุกกระอักออกมาไม่เป็นคำพูด

“ท่านไม่เป็นไรนะ” ไฟย่าเอ่ยถามเฟรส

“จุก”  เฟรสสำลักคำออกมาได้เพียงเท่านี้

“อืม..ก็น่าจะจุกละนะ ขอบใจท่านมาก”  ไฟย่าเอ่ยขึ้นอย่างรีบร้อน พลางกับใช้มือตบอกเฟรสเบาๆ ก่อนจะดึงดาบที่อยู่ข้างเอวออกจากฝัก แล้ววิ่งไปประชันหน้าฟาดฟันดาบใส่พวกไพรทั่มทันที

“โอ๊ย”  เฟรสส่งเสียงร้องโอดโอยเบาๆก่อนจะลุกขึ้นเขายังไม่ลืมตรวจดูความปลอดภัยของกล่องดวงใจ แต่มือทั้งสองก็ต้องรีบคว้ากระบี่คู่ขึ้นมาเมื่อไพรทั่มสองตนวิ่งตรงมายังเขา

“บุกทำลายพวกมัน ฆ่าให้หมดอย่าให้เหลือ”  ตอริกตะโกนสั่งลูกน้องเมื่อกำแพงไม้พังทลายลง  มันชูดาบขึ้นฟ้าแล้วชี้ดาบตรงไปที่หมู่บ้านเพื่อส่งสัญญาณบุกโจมตี

               เมื่อไม่มีกำแพงกั้นทหารของไพรทั่มสองร้อยกว่าตน ต่างวิ่งโหมเข้าสู่หมู่บ้านทั่วทุกสารทิศ เสียงกรีดร้องของชาวบ้านดังสะท้อนก้อง หลายคนถูกฆ่าตายศพกองเกลื่อนพื้น หลายคนวิ่งหอบลูกหอบเต้าหนีตาย หน้าตาหวาดกลัวแตกตื่นตกใจ

“มันมามากเกินกำลังของเรานะท่านบาคอส”  นาร์ดเบิร์กเอ่ยขึ้น เมื่อหลังของเขากับบาคอสหันมาชนกัน แต่ในมือของทั้งสองยังแกว่งตวัดดาบฟันใส่ศัตรูไม่หยุดหย่อน

“มากเท่าไรก็อย่าไปกลัว สู้จนตัวตาย”  บาคอสตะโกนบอกเหล่านักรบชาวบ้านที่ต่อสู้อยู่ใกล้ๆกับเขา

“อืม”  นาร์ดเบิร์กตอบรับ ร่างกายรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขาพุ่งตัวกระหน่ำดาบฟันไพรทั่มอย่างบ้าคลั่ง



               เคียลูสสังหารไพรทั่มสามตัวไปอย่างรวดเร็ว แม้ร่างกายของเขายังบาดเจ็บจากการสู้รบในครั้งก่อน จึงไม่สามารถออกแรงได้มากนัก แต่ด้วยความเป็นคนใจนักสู้แลเป็นทหารขององค์ราชา เจ็บเพียงแค่นี้ไม่สามารถจะหยุดยั้งพละกำลังที่อยู่ในกายชายหนุ่มได้ เขากระโดดหลบหลีกอาวุธของคู่ต่อสู้ได้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะหาจังหวะสวนกลับด้วยการตลบหมุนกายมาข้างหลังพร้อมมอบดาบสีนิลจ้วงทะลุร่างไพรทั่มทันที

ดาบสีนิลถูกกระชากดึงกลับมาอย่างรวดเร็ว เพื่อตั้งรับดาบของคู่ต่อสู้อีกสองตนที่วิ่งเข้ามาจู่โจมใส่เขา เคียลูสใช้เท้าถีบไพรทั่มตนหนึ่งกระเด็นออกไป ทั้งที่มือยังกุมดาบต้านรับจากไพรทั่มอีกตน  ไพรทั่มที่โดนถีบกระเสื-อ-กกระสนลุกขึ้นอย่างรวดเร็วหมายจะฆ่าอีกฝ่าย   มันชี้ปลายหอมแหลมคมพุ่งตรงใส่เคียลูส แต่ยังไม่ทันจะออกตัววิ่ง ก็โดนมีดสั้นของเรน เสียบทะลุคอหอยส่งมันกลับขุมนรกได้อย่างง่ายดาย

ฟากเรนกับเฟรส วิ่งเข้าไปปกป้องชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ถูกไพรทั่มกลุ่มใหญ่วิ่งไล่ฆ่าฟัน ทั้งสองกระโดดเข้ามาขว้างทางเจ้าผีร้ายเอาไว้ก่อนจะโรมรันกระหน่ำฟาดฟันอาวุธเข้าใส่กัน  เรนมิเพียงแต่มีความว่องไวในการเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถหลบหลีกคู่ต่อสู้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ และความว่องไวในการปามีดสั้นของเขาก็เกินใครจะเทียบเท่า  แม้มือจะกุมดาบต่อสู้ แต่ยังสามารถปามีดสั้นสังหารไพรทั่มที่อยู่ยังอีกทิศทางหนึ่งโดยไม่ต้องหันไปดู เขาใช้เพียงประสาทสัมผัสหู กำหนดทิศทางสังหารก่อนจะเล็งอาวุธพิฆาตได้ทันที

กระบี่คู่ของเฟรสกวาดตวัดฟาดใส่ศัตรูอย่างดุเดือด และรวดเร็ว กระบวกท่ากระบี่คู่ของเขาคล้ายกับกลายเป็นส่วนหนึ่งของธาตุอากาศ ศัตรูไม่สามรถจับทิศทางการเคลื่อนไหวของกระบี่คู่ได้ รู้ตัวอีกทีก็เมื่อสังเวยเลือดแก่กระบี่คู่นี้เสียแล้ว

ด้านหลังของหมู่บ้านถูกไพรทั่มยึดครองพื้นที่เกือบทั้งหมด กองกำลังของเจ้าหญิงทอรีเนียจึงค่อยๆถอยร่นเข้ามา เจ้าหญิงทอรีเนียไม่เพียงแต่ใช้พลังเวทของตนสกัดกั้นพวกไพรทั่มเอาไว้ พระองค์ยังต้องคอยคุมกันภัยให้กับพวกชาวบ้านที่ต่างวิ่งแตกตื่นหนีเอาชีวิตรอด แตกกระจายไปทั่วทุกสารทิศ พระองค์ใช้พลังเวทมากเกินไปตัวพระองค์เองก็เกือบจะหมดแรงไปเช่นกัน

“ท่านคูไซคุ้มครองเจ้าหญิง”  นอสตะโกนบอกเพื่อนที่อยู่ใกล้เจ้าหญิงทอรีเนียที่สุด เมื่อเขามองเห็นการเคลื่อนตัวของไพรทั่มสามตนซึ่งวิ่งถือหอกยาวพุ่งใส่เจ้าหญิงทอรีเนีย

คูไซกระโดดลอยตัวขึ้นสูงหมายจะใช้ดาบสั้นอันเล็กปลิดชีพคู่ต่อสู้  แต่ไพรทั่มตนนี้มันรู้ทิศทางของอาวุธมันกระโดดหลบหนีได้ทัน ก่อนจะหันหอกยาวปลายหอกแหลมคมเสียบแทงขึ้นบนอากาศ ณ จุดที่เทพจิ๋วทิ้งตัวลงมา หอกแหลมคมเจาะทะลุร่างเล็กกระจิริดของเทพจิ๋ว เลือดสีแดงไหลรินอาบด้ามหอบ ไพรทั่มตนนั้นโห่ร้องลั่นด้วยความพอใจในผลงานของตน
  
เหล่าเทพจิ๋วเมื่อเห็นเพื่อนถูกสังหารต่างพากันส่งเสียงแผดร้องเรียกชื่อผู้ตาย ร่างกายของเหล่าเทพจิ๋วสะทกสะท้านราวกับมีมีดมากรีดที่กลางดวงใจ พวกเขาพยายามจะเข้ามาให้ถึงตัวเพื่อน แต่ก็ถูกไพรทั่วอีกหลายตนเข้ามาขวางทางไว้

“หึ หึ”      ไพรทั่มที่สังหารคูไซ ส่งเสียงหัวเราะเยาะพวกเขา ในมือยังถือหอกที่เสียบร่างเทพจิ๋วเอาไว้ มันจับด้ามหอกหมุนไปมาอย่างสนุกสนาน

               เจ้าหญิงทอรีเนียเมื่อเห็นทหารของพระองค์ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม พระองค์ทรงกรีดร้องลั่น น้ำตาไหลรินอาบแก้มทั้งสอง ร่างกายสั่นสะท้านอย่างเจ็บปวดทรมานราวกับเป็นคนที่ถูกคมหอกนั้นทิ่มแทงเสียเอง มือที่ทรงกุมคฑาอยู่นั้นสั่นระริกด้วยความโกรธแค้น แววตาพลันฉายแววเหี้ยมโหดขึ้นมา

แสงสีเขียวมรกตเปล่งประกายเข้มอยู่ปลายคฑา พระองค์ชูคฑาขึ้นฟ้าเกิดเป็นสายฟ้าสีเขียวส่องสะท้อนกลับลงมาจากเบื้องบนเข้าบรรจบกับปลายคฑา  พระองค์กวาดคฑาฟาดใส่ร่างไพรทั่มที่ฆ่าคูไซเต็มกำลัง ร่างของไพรทั่มตนนั้นพลันระเบิดแตกละเอียดกลายเป็นเศษผงธุลี

จากการทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อฆ่าไพรทั่มตนนั้น ก็ทำให้เจ้าหญิงทอรีเนียถึงกับต้องนั่งคุกเข่าลงที่พื้นมือทั้งสอง จับคฑาเอาไว้เพื่อพยุงกายไม่ให้ล้มลง น้ำตาของพระองค์ยังคงหลั่งริน ความเจ็บปวดแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของพระองค์อย่างสุดจะห้ามได้

ไพรทั่มตนหนึ่งย่องมาข้างหลังหมายจะสังหารเจ้าหญิงทอรีเนีย แต่โดนอาวุธพระจันทร์เสี้ยวบั่นหัวขาดเสียก่อน แอนนา อันดา และมารดา ต่างวิ่งมาดูเจ้าหญิงที่ยังคงนั่งก้มหน้ามองพื้น

“เจ้าหญิงทอรีเนียเพคะ”  แอนนาแตะที่ไหล่เจ้าหญิงทอรีเนียเบาๆ

“ข้าไม่เป็นไร”   เจ้าหญิงทอรีเนียตอบกลับน้ำเสียงราบเรียบ

“อันดา เจ้าอยู่กับท่านแม่ ดูแลเจ้าหญิงด้วย”   แอนนาหันไปบอกน้องสาว ก่อนที่ตนจะวิ่งไปช่วยยาเอิ้ง กับ มักเวย์ ที่โดนไพรทั่มสี่ตนกระหน่ำโจมตี

เสียงการต่อสู้ดังสะท้อนก้องไปทั่วผืนป่า แสงไฟจากเปลวเพลิงยังลุกโชติช่วงเผาหมู่บ้านเล็กๆให้ลุกไหม้ไปพร้อมกับไฟสงครามซึ่งเผาทำลายทุกสรรพสิ่งให้ดับสิ้นลงอย่างไร้ความปรานี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่