Benihana ห้องอาหารญี่ปุ่น รูปแบบเทปันยากิสเต็กเฮ้าส์ เป็นร้านอาหารจากประเทศญี่ปุ่นที่จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยรสชาติและความบันเทิง มีชื่อเสียงในด้านลีลาการปรุงอาหาร และรสชาติที่อร่อยตามสไตล์เทปันยากิญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้เปิดให้บริการในประเทศไทยเป็นสาขาที่ 3 แล้ว ที่ โรงแรมอวานี เอเทรียม กรุงเทพฯ
Benihana อยู่ที่ชั้น 2 ของโรงแรมอวานี เอเทรียม กรุงเทพฯ บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เปิดให้บริการทุกวันสำหรับมื้อเที่ยงตั้งแต่ 11.30 – 14.30 น. และมื้อเย็นตั้งแต่ 18.00 – 22.30 น.ภายในบรรยากาศตกแต่งแบบตะวันออกที่ทันสมัย หรือ Modern Japanese โต๊ะเก้าอี้เน้นสีดำ ตัดกับสีแดง และเชือกที่สะท้อนความเป็นธรรมชาติ
โต๊ะอาหารของ Benihana มีทั้งหมดประมาณ 10 โต๊ะที่มีเตาเทปันให้ มีห้องส่วนตัวด้วยสำหรับใครที่ยกแก๊งส์มาเป็นหมู่คณะทางร้านก็มีให้เลือกตั้งแต่ 8-12 คนต่อห้อง
แต่ถ้าใครที่จะมา 1 หรือ 2 คน ก็ไม่ต้องกังวลได้นั่งโต๊ะเทปันแน่นอนครับ นอกจากว่าคุณเลือกที่จะไม่นั่งหน้าเตาเอง เพราะบางท่านอยากกินแค่ซูชิ กับแกล้ม สาเก เบา ๆ ทางห้องอาหารเค้าก็มีโต๊ะที่ไม่มีเตาไว้บริการเหมือนกัน
เรื่องเมนูนี่หลากหลายมาก มีทั้งเทปันยากิ, ซูชิและซาชิมิ, โรลไส้ต่าง ๆ , ชุดเบนโตะ และของหวาน ซึ่งแน่นอนว่าที่โดดเด่นที่สุดของห้องอาหารนี้ก็คงหนีไม่พ้น เทปันยากิ แน่นอน
เมนูที่จะรีวิวในวันนี้ ขออนุญาตเริ่มจาก Appetizer ก่อนนะครับ ราคาเมนูของ Benihana เป็นราคาที่ยังไม่รวม Vat และ Service charge ฉะนั้นจึงเป็นราคา ++ อย่างไรไปดูเมนูต่าง ๆ กันเลย ผมขอเริ่มจาก
Grilled Scallops (หอยเชลล์ย่าง ซอสน้ำมันพริกเผ็ดแบบญี่ปุ่น) – 700++ บาท
เป็นเนื้อหอยเชลล์ญี่ปุ่น หั่นเต๋า นำมาย่างผ่านเปลือกหอยเชลล์ พร้อมด้วยซอสรสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ด ไม่เค็ม จนเกินไป มีกลิ่นหอม เนื้อหอยก็นุ่มเด้งมาก มาแบบพูน ๆ รวม ๆ แล้วรสชาติดี แต่ราคาก็แรงมากครับ
The King of Alaska (สลัดปูอลาสกา อะโวคาโด มายองเนสเผ็ด) - 750++ บาท
เมนูสำหรับคนรักสุขภาพต้องเมนูนี้เลยครับ ผักสด เนื้อปูมาเต็ม และมีอะโวคาโดด้วยครับ น้ำสลัดจะรสชาติจัดจ้านจนผมรู้สึกว่ามันจัดไปหน่อย แต่ถ้าคลุกเคล้ากับผักให้ทั่ว ๆ แล้วค่อยกินน่าจะกำลังดีครับ เพราะผมกินโดยตักน้ำสลัดมาราดผักที่จานตัวเองครับ อาจจะเยอะไปหน่อย
The Fat Duck (ข้าวห่อสาหร่ายไส้ครีมชีส ปลาแซลมอนและตับห่าน) - 400++ บาท
ถือเป็นเมนูที่อร่อยมากครับ เนื้อของฟัวกราส์และแซลมอนเข้ากันกับข้าวและครีมชีสได้เป็นอย่างดี มันลงตัวมาก ๆ และเป็นโรลที่พอดีคำครับ เวลากินแทบไม่ต้องจิ้มอะไรเลยครับ อร่อยด้วยตัวของวัตถุดิบและซอสจริง ๆ และที่สำคัญคือราคาไม่สูงเท่าไหร่ และที่สังเกตราคาของเมนูประเภทซูชิและโรลต่าง ๆ แล้วไม่แพงเลย
ซาชิมิ
ผมได้ลอง 4 ชนิด ซึ่งสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจที่สุดน่าจะเป็นเรื่องราคา ราคาในเมนูเป็นราคาต่อ 5 ชิ้นครับ ราคาเฉลี่ยต่อชิ้นแค่ 40-50 บาทเอง เนื้อปลาสดมาก เนื้อเนียนแน่น ชิ้นหนาแบบสะใจมากครับ ชอบทั้ง 4 ชนิดที่ได้ลองเลยครับ โดยเฉพาะฮามาจิ เนื้อแน่นเนียนมัน คุณภาพล้วน ๆ ครับ
SASHIMI (5 PIECES )
Salmon ปลาแซลมอน 200++ บาท
Hamachi ปลาหางเหลือง 200++ บาท
Sweet Shrimp กุ้งหวาน 250++ บาท
Tuna ปลาทูน่า 200++ บาท
ต่อไปเป็นไฮไลท์ครับ เป็นเมนูเทปันยากิต่าง ๆ ที่ทางเชฟจะมาปรุงให้ที่หน้าเตา ทำให้เราตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดง ลีลา ท่วงท่า ที่ทั้งมีสีสันและมุกต่าง ๆ ในการปรุงของเชฟ ชุดเทปันทุกชุดจะเสิร์ฟพร้อม ซุปหัวหอม, สลัดผัก, กุ้ง(เปิดมื้ออาหาร), ผัดผัก และ ข้าวสวย(ซึ่งเราสามารถให้เค้าผัดเป็นข้าวผัดกระเทียมได้)
น้ำจิ้มมี 3 แบบ ครับ รสชาติเลือกเอาตามชอบ
ซุปเป็นซุปหัวหอม รสชาติเข้มข้น
สลัด กินคู่กับเนื้อต่าง ๆ ระหว่างมื้อตัดเลี่ยนได้ดี
วันนี้ผมได้ลองเทปันยากิทั้งหมด 4 ชุด ได้แก่ Strip Loin(เนื้อสันนอก), US Prime Tenderloin(เนื้อสันใน), Foie Gras (ตับห่าน) และ Japanese Scallops (หอยเชลล์ญี่ปุ่น) ฟังแค่นี้แล้วใครอิจฉาผมบ้าง 555
Strip Loin 250g (Japanese Hida Wagyu Beef A4 Grade) - 3,500++ บาท
เนื้อสันนอก เขาใช้เนื้อญี่ปุ่นแบบ A4 มีมันแทรกอยู่ทั่วทั้งชิ้นแต่ลายอาจจะไม่ได้สวยและชัดเจนมากนัก แต่เมื่อปรุงสุกออกมา ผิวด้านนอกเกรียมนิด ๆ ด้านในยังชุ่มฉ่ำอยู่ รสชาติอร่อยมาก เนื้อนุ่มมาก ไม่ถึงกับละลายแต่นุ่มมากจริง ๆ และปรุงได้ถูกใจมาก เพราะไม่มีซอสอะไรให้มารบกวนรสชาติของเนื้อเลย มีแค่เกลือและพริกไทย ติดใจเลยครับ แต่ราคาสูงเกินไปครับ กับเนื้อขนาด 250 กรัม เมนูนี้เค้ามีกระเทียมทอดกรอบให้กินคู่เคียงกันด้วยครับ
Prime Tenderloin 200g US (St. Helen Beef) - 2,100++ บาท
หลังจากติดใจรสชาติเนื้อของจานแรก ก็เลยขอลองเนื้ออีกส่วน จานนี้จะเป็นเนื้อสันในก้อนเล็ก ๆ แต่ความรู้สึกที่ได้ลองไม่เล็กเลย รู้สึกดีไปอีกแบบ เหมาะกับคนที่รักสุขภาพดีครับ เพราะเนื้อจะนุ่มมาก แต่เป็นความนุ่มที่ได้จาเนื้อล้วน ๆ เพราะสันในนี้จะมันแทรกน้อยกว่าสันนอกที่ได้ลองครับ อร่อยเลิศคนละแบบกับจานแรกครับ
Foie Gras (Duck Liver) - 1,000++ บาท
เมนูสุดหรูอีกเมนูนึง นั่นคือตับห่านนั่นเอง ตอนดิบ ๆ ที่เชฟเอามาให้ดู ถือว่าชิ้นหนาดี แต่เมื่อปรุงสุกแล้วชิ้นจะบางลงนิดหน่อย และผมว่าเนื้อยังไม่แน่นเท่าไหร่ มีอาการยวบบ้างเล็กน้อย เชฟจะปรุงแล้วเสิร์ฟพร้อมแอบเปิ้ลย่าง พริกย่าง และซอสรสเข้มข้น ซึ่งรวม ๆ ผมว่ารสชาติอย่างอื่นกลบรสชาติของฟัวกราส์ไปหมด ผมว่าถ้าใครจะสั่งเมนูนี้อาจะต้องกำชับเชฟว่าขอฟัวกราส์ชิ้นแน่น ๆ และรับซอสน้อย ๆ ครับ น่าจะพอแก้ปัญหาเหล่านี้ลงได้ครับ
Japanese Scallops (หอยเชลล์ญี่ปุ่น) – 700++ บาท
หอยเชลล์ญี่ปุ่นตัวโต ไซต์ใหญ่ ถูกสไลด์มา ทั้งหมดน่าจะประมาณ 3 ตัวได้(อันนี้ไม่แน่ใจนะครับ) ถ้าได้ 3 ตัวก็ตกตัวละ 200 กว่าบาทต่อตัว ราคาก็ถือว่ากลาง ๆ ไปทางสูง แต่เนื้อสัมผัสแน่น และเด้งมาก ส่วนเรื่องกลิ่นรสผมถือว่ากลางมีกลิ่นหอมของเนยกระเทียมด้วย โดยรวมถือว่าใช้ได้ครับ
สุดท้ายของของคาวจะเป็นเมนูข้าว ใครอยากกินข้าวสวยก็กินได้ แต่ถ้าใครอยากให้เชฟปรุงเป็นข้าวผัดให้ก็บอกเชฟได้เลยครับ ก็จะได้ดูโชว์อีก 1 โชว์ ฉะนั้นจัดไปครับ ข้าวผัดกระเทียม
Banana Tempura with vanilla ice cream (กล้วยทอดพร้อมไอศกรีมวานิลลา) – 150++ บาท
เป็นเมนูที่น่ากินมาก ไม่ได้ดูหรูหราแต่น่ากินมาก และความรู้สึกที่ได้ลองก็ไม่ผิดหวัง กล้วยทอดมาดีมากใช้แป้งผสมอัลมอนต์สไลด์ กรอบและมันดี กินกับช็อคโกแล็ตที่ราดมาและไอศกรีมวานิลลาหอม ๆ อร่อยไร้ที่ติจริง ๆ
Signature Cocktails
Benihana Punch – 290++ บาท
ส่วนผสม rum, peach liquor, strawberry liquor, fresh pine apple, fresh orange ให้ความรู้สึกสดชื่น รสชาติเปรี้ยวหวานหอม เหมาะกับกินในมื้อฟิน ๆ แบบนี้มากครับ
Sake Cosmo – 290 บาท
ส่วนผสม sake, cranberry, juice, fresh lime จะคล้าย ๆ กินคอกเทลแรง ๆ แต่ไม่เข้ม ที่รสชาติหวานหอม อร่อยและแรงดีครับ
Sake Mojito – 290 บาท
ส่วนผสม sake, white rum, fresh lime, fresh mint leaf ชื่นใจเหมือน Mojito ทั่ว ๆ ไปแต่จะมีความรู้สึกลึก ๆ ถึงกลิ่นของสาเกจาง ๆ อาจเพราะกลิ่นของสาเกไม่แรงเท่ารัมเลยได้กลิ่นของสาเกมาทีหลังนิดหน่อย
สรุป Benihana เป็นร้านอาหารที่มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารญี่ปุ่นสไตล์เทปันยากิที่ดีและน่าประทับใจมาก ๆ เต็มไปด้วยรสชาติและความบันเทิง ไม่ได้เน้นขายแค่อาหารแต่ขายความสุขความบันเทิงในมื้ออาหารด้วยสมกับคอนเซ็ป Eatertainment เพราะนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังอิ่มตาอิ่มใจอีกด้วย เมนูเด่น ๆ ของ Benihana เป็นเมนูพวกเทปันยากิ และเมนูพวกซูชิและโรล ซึ่งราคาเทปันยากิถือว่าสูงมากถ้าเทียบกับตัวเมนูแต่เราก็จะได้ความบันเทิงของเชฟที่ปรุงอาหารให้เราแลกกลับมา กลับกันกับพวกซูชิที่ราคาไม่แพง ถูกกว่าร้านซูชิเฉพาะทางหลาย ๆ ร้านด้วยซ้ำ แล้วปลาก็เนื้อแน่น สด รสชาติอร่อย เรื่องการบริการนี่ประทับใจมาก เป็นการบริการที่น่ารัก เรื่องบริการให้เต็มสิบไปเลยครับ บรรยากาศร้านเสริมสร้างในเรื่องการมีกิจกรรมร่วมกันได้ดีสุด ๆ ได้คุยกันกับเพื่อนในโต๊ะ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเชฟ ได้ทานอาหารอร่อย ๆ ถ้าใครที่มีกำลังจ่ายและเน้นเรื่องความสุขในการรับประทานอาหารสักมื้อ ก็ถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ ดังนั้นใครที่มีแก๊งส์ มีก๊วน ผมขอแนะนำห้องอาหาร Benihana นี้เลยครับ ประทับใจแน่นอน
[SR] เทปันยากิสเต็กสไตล์ญี่ปุ่น ของ Benihana พร้อมให้บริการมื้ออาหารที่มีทั้งความสุขสนุกสนาน กับคอนเซ็ป Eatertainment
Benihana ห้องอาหารญี่ปุ่น รูปแบบเทปันยากิสเต็กเฮ้าส์ เป็นร้านอาหารจากประเทศญี่ปุ่นที่จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยรสชาติและความบันเทิง มีชื่อเสียงในด้านลีลาการปรุงอาหาร และรสชาติที่อร่อยตามสไตล์เทปันยากิญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้เปิดให้บริการในประเทศไทยเป็นสาขาที่ 3 แล้ว ที่ โรงแรมอวานี เอเทรียม กรุงเทพฯ
Benihana อยู่ที่ชั้น 2 ของโรงแรมอวานี เอเทรียม กรุงเทพฯ บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เปิดให้บริการทุกวันสำหรับมื้อเที่ยงตั้งแต่ 11.30 – 14.30 น. และมื้อเย็นตั้งแต่ 18.00 – 22.30 น.ภายในบรรยากาศตกแต่งแบบตะวันออกที่ทันสมัย หรือ Modern Japanese โต๊ะเก้าอี้เน้นสีดำ ตัดกับสีแดง และเชือกที่สะท้อนความเป็นธรรมชาติ
โต๊ะอาหารของ Benihana มีทั้งหมดประมาณ 10 โต๊ะที่มีเตาเทปันให้ มีห้องส่วนตัวด้วยสำหรับใครที่ยกแก๊งส์มาเป็นหมู่คณะทางร้านก็มีให้เลือกตั้งแต่ 8-12 คนต่อห้อง
แต่ถ้าใครที่จะมา 1 หรือ 2 คน ก็ไม่ต้องกังวลได้นั่งโต๊ะเทปันแน่นอนครับ นอกจากว่าคุณเลือกที่จะไม่นั่งหน้าเตาเอง เพราะบางท่านอยากกินแค่ซูชิ กับแกล้ม สาเก เบา ๆ ทางห้องอาหารเค้าก็มีโต๊ะที่ไม่มีเตาไว้บริการเหมือนกัน
เรื่องเมนูนี่หลากหลายมาก มีทั้งเทปันยากิ, ซูชิและซาชิมิ, โรลไส้ต่าง ๆ , ชุดเบนโตะ และของหวาน ซึ่งแน่นอนว่าที่โดดเด่นที่สุดของห้องอาหารนี้ก็คงหนีไม่พ้น เทปันยากิ แน่นอน
เมนูที่จะรีวิวในวันนี้ ขออนุญาตเริ่มจาก Appetizer ก่อนนะครับ ราคาเมนูของ Benihana เป็นราคาที่ยังไม่รวม Vat และ Service charge ฉะนั้นจึงเป็นราคา ++ อย่างไรไปดูเมนูต่าง ๆ กันเลย ผมขอเริ่มจาก
Grilled Scallops (หอยเชลล์ย่าง ซอสน้ำมันพริกเผ็ดแบบญี่ปุ่น) – 700++ บาท
เป็นเนื้อหอยเชลล์ญี่ปุ่น หั่นเต๋า นำมาย่างผ่านเปลือกหอยเชลล์ พร้อมด้วยซอสรสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ด ไม่เค็ม จนเกินไป มีกลิ่นหอม เนื้อหอยก็นุ่มเด้งมาก มาแบบพูน ๆ รวม ๆ แล้วรสชาติดี แต่ราคาก็แรงมากครับ
The King of Alaska (สลัดปูอลาสกา อะโวคาโด มายองเนสเผ็ด) - 750++ บาท
เมนูสำหรับคนรักสุขภาพต้องเมนูนี้เลยครับ ผักสด เนื้อปูมาเต็ม และมีอะโวคาโดด้วยครับ น้ำสลัดจะรสชาติจัดจ้านจนผมรู้สึกว่ามันจัดไปหน่อย แต่ถ้าคลุกเคล้ากับผักให้ทั่ว ๆ แล้วค่อยกินน่าจะกำลังดีครับ เพราะผมกินโดยตักน้ำสลัดมาราดผักที่จานตัวเองครับ อาจจะเยอะไปหน่อย
The Fat Duck (ข้าวห่อสาหร่ายไส้ครีมชีส ปลาแซลมอนและตับห่าน) - 400++ บาท
ถือเป็นเมนูที่อร่อยมากครับ เนื้อของฟัวกราส์และแซลมอนเข้ากันกับข้าวและครีมชีสได้เป็นอย่างดี มันลงตัวมาก ๆ และเป็นโรลที่พอดีคำครับ เวลากินแทบไม่ต้องจิ้มอะไรเลยครับ อร่อยด้วยตัวของวัตถุดิบและซอสจริง ๆ และที่สำคัญคือราคาไม่สูงเท่าไหร่ และที่สังเกตราคาของเมนูประเภทซูชิและโรลต่าง ๆ แล้วไม่แพงเลย
ซาชิมิ
ผมได้ลอง 4 ชนิด ซึ่งสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจที่สุดน่าจะเป็นเรื่องราคา ราคาในเมนูเป็นราคาต่อ 5 ชิ้นครับ ราคาเฉลี่ยต่อชิ้นแค่ 40-50 บาทเอง เนื้อปลาสดมาก เนื้อเนียนแน่น ชิ้นหนาแบบสะใจมากครับ ชอบทั้ง 4 ชนิดที่ได้ลองเลยครับ โดยเฉพาะฮามาจิ เนื้อแน่นเนียนมัน คุณภาพล้วน ๆ ครับ
SASHIMI (5 PIECES )
Salmon ปลาแซลมอน 200++ บาท
Hamachi ปลาหางเหลือง 200++ บาท
Sweet Shrimp กุ้งหวาน 250++ บาท
Tuna ปลาทูน่า 200++ บาท
ต่อไปเป็นไฮไลท์ครับ เป็นเมนูเทปันยากิต่าง ๆ ที่ทางเชฟจะมาปรุงให้ที่หน้าเตา ทำให้เราตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดง ลีลา ท่วงท่า ที่ทั้งมีสีสันและมุกต่าง ๆ ในการปรุงของเชฟ ชุดเทปันทุกชุดจะเสิร์ฟพร้อม ซุปหัวหอม, สลัดผัก, กุ้ง(เปิดมื้ออาหาร), ผัดผัก และ ข้าวสวย(ซึ่งเราสามารถให้เค้าผัดเป็นข้าวผัดกระเทียมได้)
น้ำจิ้มมี 3 แบบ ครับ รสชาติเลือกเอาตามชอบ
ซุปเป็นซุปหัวหอม รสชาติเข้มข้น
สลัด กินคู่กับเนื้อต่าง ๆ ระหว่างมื้อตัดเลี่ยนได้ดี
วันนี้ผมได้ลองเทปันยากิทั้งหมด 4 ชุด ได้แก่ Strip Loin(เนื้อสันนอก), US Prime Tenderloin(เนื้อสันใน), Foie Gras (ตับห่าน) และ Japanese Scallops (หอยเชลล์ญี่ปุ่น) ฟังแค่นี้แล้วใครอิจฉาผมบ้าง 555
Strip Loin 250g (Japanese Hida Wagyu Beef A4 Grade) - 3,500++ บาท
เนื้อสันนอก เขาใช้เนื้อญี่ปุ่นแบบ A4 มีมันแทรกอยู่ทั่วทั้งชิ้นแต่ลายอาจจะไม่ได้สวยและชัดเจนมากนัก แต่เมื่อปรุงสุกออกมา ผิวด้านนอกเกรียมนิด ๆ ด้านในยังชุ่มฉ่ำอยู่ รสชาติอร่อยมาก เนื้อนุ่มมาก ไม่ถึงกับละลายแต่นุ่มมากจริง ๆ และปรุงได้ถูกใจมาก เพราะไม่มีซอสอะไรให้มารบกวนรสชาติของเนื้อเลย มีแค่เกลือและพริกไทย ติดใจเลยครับ แต่ราคาสูงเกินไปครับ กับเนื้อขนาด 250 กรัม เมนูนี้เค้ามีกระเทียมทอดกรอบให้กินคู่เคียงกันด้วยครับ
Prime Tenderloin 200g US (St. Helen Beef) - 2,100++ บาท
หลังจากติดใจรสชาติเนื้อของจานแรก ก็เลยขอลองเนื้ออีกส่วน จานนี้จะเป็นเนื้อสันในก้อนเล็ก ๆ แต่ความรู้สึกที่ได้ลองไม่เล็กเลย รู้สึกดีไปอีกแบบ เหมาะกับคนที่รักสุขภาพดีครับ เพราะเนื้อจะนุ่มมาก แต่เป็นความนุ่มที่ได้จาเนื้อล้วน ๆ เพราะสันในนี้จะมันแทรกน้อยกว่าสันนอกที่ได้ลองครับ อร่อยเลิศคนละแบบกับจานแรกครับ
Foie Gras (Duck Liver) - 1,000++ บาท
เมนูสุดหรูอีกเมนูนึง นั่นคือตับห่านนั่นเอง ตอนดิบ ๆ ที่เชฟเอามาให้ดู ถือว่าชิ้นหนาดี แต่เมื่อปรุงสุกแล้วชิ้นจะบางลงนิดหน่อย และผมว่าเนื้อยังไม่แน่นเท่าไหร่ มีอาการยวบบ้างเล็กน้อย เชฟจะปรุงแล้วเสิร์ฟพร้อมแอบเปิ้ลย่าง พริกย่าง และซอสรสเข้มข้น ซึ่งรวม ๆ ผมว่ารสชาติอย่างอื่นกลบรสชาติของฟัวกราส์ไปหมด ผมว่าถ้าใครจะสั่งเมนูนี้อาจะต้องกำชับเชฟว่าขอฟัวกราส์ชิ้นแน่น ๆ และรับซอสน้อย ๆ ครับ น่าจะพอแก้ปัญหาเหล่านี้ลงได้ครับ
Japanese Scallops (หอยเชลล์ญี่ปุ่น) – 700++ บาท
หอยเชลล์ญี่ปุ่นตัวโต ไซต์ใหญ่ ถูกสไลด์มา ทั้งหมดน่าจะประมาณ 3 ตัวได้(อันนี้ไม่แน่ใจนะครับ) ถ้าได้ 3 ตัวก็ตกตัวละ 200 กว่าบาทต่อตัว ราคาก็ถือว่ากลาง ๆ ไปทางสูง แต่เนื้อสัมผัสแน่น และเด้งมาก ส่วนเรื่องกลิ่นรสผมถือว่ากลางมีกลิ่นหอมของเนยกระเทียมด้วย โดยรวมถือว่าใช้ได้ครับ
สุดท้ายของของคาวจะเป็นเมนูข้าว ใครอยากกินข้าวสวยก็กินได้ แต่ถ้าใครอยากให้เชฟปรุงเป็นข้าวผัดให้ก็บอกเชฟได้เลยครับ ก็จะได้ดูโชว์อีก 1 โชว์ ฉะนั้นจัดไปครับ ข้าวผัดกระเทียม
Banana Tempura with vanilla ice cream (กล้วยทอดพร้อมไอศกรีมวานิลลา) – 150++ บาท
เป็นเมนูที่น่ากินมาก ไม่ได้ดูหรูหราแต่น่ากินมาก และความรู้สึกที่ได้ลองก็ไม่ผิดหวัง กล้วยทอดมาดีมากใช้แป้งผสมอัลมอนต์สไลด์ กรอบและมันดี กินกับช็อคโกแล็ตที่ราดมาและไอศกรีมวานิลลาหอม ๆ อร่อยไร้ที่ติจริง ๆ
Signature Cocktails
Benihana Punch – 290++ บาท
ส่วนผสม rum, peach liquor, strawberry liquor, fresh pine apple, fresh orange ให้ความรู้สึกสดชื่น รสชาติเปรี้ยวหวานหอม เหมาะกับกินในมื้อฟิน ๆ แบบนี้มากครับ
Sake Cosmo – 290 บาท
ส่วนผสม sake, cranberry, juice, fresh lime จะคล้าย ๆ กินคอกเทลแรง ๆ แต่ไม่เข้ม ที่รสชาติหวานหอม อร่อยและแรงดีครับ
Sake Mojito – 290 บาท
ส่วนผสม sake, white rum, fresh lime, fresh mint leaf ชื่นใจเหมือน Mojito ทั่ว ๆ ไปแต่จะมีความรู้สึกลึก ๆ ถึงกลิ่นของสาเกจาง ๆ อาจเพราะกลิ่นของสาเกไม่แรงเท่ารัมเลยได้กลิ่นของสาเกมาทีหลังนิดหน่อย
สรุป Benihana เป็นร้านอาหารที่มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารญี่ปุ่นสไตล์เทปันยากิที่ดีและน่าประทับใจมาก ๆ เต็มไปด้วยรสชาติและความบันเทิง ไม่ได้เน้นขายแค่อาหารแต่ขายความสุขความบันเทิงในมื้ออาหารด้วยสมกับคอนเซ็ป Eatertainment เพราะนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังอิ่มตาอิ่มใจอีกด้วย เมนูเด่น ๆ ของ Benihana เป็นเมนูพวกเทปันยากิ และเมนูพวกซูชิและโรล ซึ่งราคาเทปันยากิถือว่าสูงมากถ้าเทียบกับตัวเมนูแต่เราก็จะได้ความบันเทิงของเชฟที่ปรุงอาหารให้เราแลกกลับมา กลับกันกับพวกซูชิที่ราคาไม่แพง ถูกกว่าร้านซูชิเฉพาะทางหลาย ๆ ร้านด้วยซ้ำ แล้วปลาก็เนื้อแน่น สด รสชาติอร่อย เรื่องการบริการนี่ประทับใจมาก เป็นการบริการที่น่ารัก เรื่องบริการให้เต็มสิบไปเลยครับ บรรยากาศร้านเสริมสร้างในเรื่องการมีกิจกรรมร่วมกันได้ดีสุด ๆ ได้คุยกันกับเพื่อนในโต๊ะ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเชฟ ได้ทานอาหารอร่อย ๆ ถ้าใครที่มีกำลังจ่ายและเน้นเรื่องความสุขในการรับประทานอาหารสักมื้อ ก็ถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ ดังนั้นใครที่มีแก๊งส์ มีก๊วน ผมขอแนะนำห้องอาหาร Benihana นี้เลยครับ ประทับใจแน่นอน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น